Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 232 คุกมืด

เฉินตงไม่ได้ขัดขืน

อันที่จริงแล้ว สถานะในตอนนี้ของเขา เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะขัดขืนอะไร

แน่นอนว่า ก็ไม่คิดที่จะขัดขืนเช่นกัน

เมื่อสุนัขจรจัดอาศัยอยู่ตามท้องถนน ที่กำลังจะตายแต่ก็ไม่ตายนั้น มันเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าคนที่เก็บมันไปจะเป็นคนหรือเป็นผี

คำขอเดียว……คือการมีชีวิตรอดอยู่ต่อไป !

เสียงกึกก้องของรถแรงม้ากำลังสูงที่กำลังเคลื่อนตัวดังอื้ออึงอยู่ในหู

นอกหน้าต่าง ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะที่ขาวโพลนไปทั่วบริเวณ

และภายในรถก็อบอุ่นเหมือนต้นฤดูใบไม้ผลิ

กองไฟในเตาผิงให้ความอบอุ่น

ค่อยๆ บรรเทาความหนาวเย็นบนร่างให้กับเฉินตงได้

เพลงที่ไพเราะ

หลากหลายเชื้อชาติ และหลายสิบคนที่ร่างแข็งแกร่งบึกบึน ยืนถือแก้วเหล้าในที่โล่งเตียน ยิ้มหัวเราะร้องรำทำเพลง

ในอากาศ มีกลิ่นฉุนๆของแอลกอฮอล์

ในสถานที่แบบนี้ เหล้าคลายความหนาวเย็นได้เป็นอย่างดี

แต่เฉินตง กลับตัวแข็งทื่ออยู่ที่มุมห้อง

เขาไม่ได้ขยับไปไหน และไม่ได้สำรวจมองโดยรอบ

เพราะเขาจำบทสนทนาเมื่อครู่ของคนเหล่านั้นได้

เขาเป็นนักโทษ!

นักโทษ……ก็ต้องอยู่อย่างนักโทษ

วิธีนี้ถึงจะทำให้ตัวเองมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้

“ไงเจ้าหนุ่ม นายนี่ก็แปลก”

ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราบุกประชิดตัวเขาเมื่อครู่เดินเข้ามาหาเฉินตง มองลงมาจากด้านบน ในตามีความสงสัย

“แปลก?”

เฉินตงเลิกคิ้ว

ชายที่มีหนวดเครายื่นแก้วเหล้ามาให้เฉินตง

เฉินตงไม่ได้ปฏิเสธ รับมาแล้วดื่มมันจนหมด ฤทธิ์เหล้าที่มีแอลกอฮอล์สูงกระตุ้น ทำให้เขาหน้าดำหน้าแดง และไอออกมาอย่างรุนแรง

ในขณะเดียวกัน ความหนาวเย็นในร่างกายก็ทุเลาเบาบางลงไปมาก

“เจ้าหนุ่มน้อย นี่มันน้ำแห่งชีวิตที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง96% เชียวนะ หมดแก้วทีเดียวแบบนี้ ไม่กลัวหลอดอาหารไหม้หรือไง?”

ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเครานั่งลงข้างเฉินตง แล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย:“เห็นแก่ที่นายเป็นคนประเภทเดียวกับฉัน เรามาทำความรู้จักกันหน่อย ฉันชื่อป๋า เป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนย่อยนี้ และพวกเขาเป็นหมาป่าในทะเลน้ำแข็งนี้ของฉัน”

“ผมชื่อเฉินตง”

เฉินตงวางแก้วในมือลง แล้วจับมือกับป๋า ถามเสียงเบาไปว่า :“ทำไมคุณถึงบอกว่าผมแปลก?”

ป๋าหัวเราะอย่างพอใจ :“เมื่อก่อน เวลามีนักโทษมา ทุกคนล้วนต่างจะหวีดร้องตะโกนเสียงดัง คิดว่าตัวเองนั้นแน่ ไม่หยุดที่จะก่อความวุ่นวาย หากไม่ถูกพวกเราสั่งสอนจนเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง เขาก็จะยังไม่เงียบ แต่นายเป็นคนแรกที่ไม่ก่อความวุ่นวายอะไร”

สุนัข ?

เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มเต็มไปด้วยความขมขื่น

นี่……บางที่นี่อาจจะเป็นการทำความเข้าใจ

“สวัสดี!หัวหน้า คุณกำลังคุยอะไรกับนักโทษ?”

ชายหนุ่มผิวขาวที่ร่างกายกำยำกำลังหัวเราะและเต้นรำอยู่ หันมาทางป๋าแล้วตะโกนถาม

ป๋ายกนิ้วกลางชูไปให้กับอีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดี และชายผิวขาวคนดังกล่าวก็เบะปาก และไม่ได้ถามอะไรอีก

ภาพที่เห็นทำให้เฉินตงเองก็พูดอะไรไม่ออก

“เฉินตง เห็นไหม? ตราบใดที่นายแข็งแกร่ง ก็สามารถทำให้คนที่พูดคนละภาษากับนาย มาพูดภาษาเดียวกันกับนายได้ ”

ป๋ามองเฉินตงอย่างประหลาด:“นิสัยของนาย ฉันชอบ แต่ฉันต้องเตือนนาย ที่นี่ ไม่มีกฎระเบียบ กฎข้อเดียวที่มี คือนายต้องแข็งแกร่งพอ!”

“ในรถถังนี้ ฉันเป็นหัวหน้า ฉันยังพอจะพูดคุยกับนายได้บ้าง หากถึงที่หมายแล้ว ก็จะไม่มีใครที่ช่วยนายได้ นายต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น”

“ที่นี่มันที่ไหนกัน?” เฉินตงถาม

“คุกมืด!”

ป๋าเทน้ำแห่งชีวิตโดยไม่สนใจอีกแก้วหนึ่ง:“สถานที่ที่ถูกคนบนโลกละทิ้ง และสถานที่ที่มีไว้กักขังคนที่ก่อความวุ่นวายหรือผู้กระทำความผิดที่ร้ายแรง”

สองสิ่งนี้ ผมจัดอยู่ในจำพวกไหน ?

ในใจของเฉินตงรู้สึกขมขื่น หน้าอกบีบรัดแน่นอย่างรุนแรง

สิ่งที่เรียกว่าก่อความวุ่นวายและกระทำความผิดร้ายแรง คงจะตัดสินด้วยกำลังละมั้ง ?

“นายอยู่ในคุกมืด หากอยากมีชีวิตที่ยืนยาว และสุขสบาย ก็ต้องแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมกว่าคนอื่นๆ ไม่อย่างนั้นก็ต้องรู้จักอดทน อดทนกับสิ่งที่ทุกคนก็ทนมันไม่ได้”

สายตาของป๋าแปลกไป:“คนที่ถูกคุมขังในคุกมืดนี้ เป็นคนที่ไม่ทางจะออกไปได้อีก นานวันไป ความสนใจในทุกอย่างก็จะค่อยๆเปลี่ยนไป ผู้ที่มาใหม่ เป็นที่สนใจมากสำหรับพวกเขา”

หางตาของเฉินตงกระตุกอย่างรุนแรง

คำบอกใบ้ของป๋า เขาเข้าใจมันเป็นอย่างดีแล้ว

ความอดทนแบบนี้ เขายังไม่สามารถที่จะทำมันได้ !

ป๋าตีไปที่ไหล่ของเฉินตงเบา ๆ ลุกขึ้นเพื่อจะไปเต้นรำกับเพื่อนร่วมทีมของเขา

ทันใดนั้นเฉินตงก็เอ่ยถามไปว่า :“ป๋า ถูกขังอยู่ที่นี่ จะไม่ได้ออกไปตลอดชีวิตเลยเหรอ ?”

“ใช่” ป๋าตอบกลับไปคำหนึ่ง

เฉินตงถามต่อเพราะยังไม่สิ้นสงสัย :“ไม่มีใครเคยหลบหนีไปได้เลยเหรอ ?”

ประโยคง่ายๆ

แต่กลับทำให้ ฝีเท้าของป๋าหยุดลง ร่างกายเขาสั่นไหว

หลังจากนั้นสักสองวินาที เสียงของเขาก็ทุ้มต่ำลง

“เมื่อสิบปีที่แล้ว มีชายคนหนึ่งที่หลบหนีออกไปได้ นั่นเป็นคือคนเดียวที่ฉันรู้ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งมา”

จากนั้น ป๋าก็หัวเราะออกมา

“แน่นอนว่า หากสามารถหนีออกจากคุกมืดนี้ไปได้ คุกมืดนี้ก็จะไม่ไล่ตามจับกลับมา ฉันขอแนะนำนาย อยู่ในคุกมืดนี้ดีๆ หากคิดจะหนี ก็เท่ากับรนหาที่ตาย !”

มองดูแผ่นหลังของป๋า

เฉินตงก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

ดวงตาที่หมองหม่น ก็ค่อยๆ เผยไฟแห่งสงคราม

เขายอมโอนอ่อนไปตามเรื่อง ใช้ชีวิตเหมือนสุนัข

เพียงเพื่อจะมีชีวิตให้อยู่รอดต่อไป

หากมีโอกาสรอดออกจากคุกมืดนี้ ถึงจะเป็นโอกาสเพียงแค่หนึ่งในล้าน เขาก็จะต้องลองดู

ดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอด ในความตาย

และการมีชีวิตที่ดี แต่กลับอยากตาย และต้องต่อสู้ดิ้นรนไปชั่วชีวิต

โครม……

เสียงดังของรถถัง พัดกระพือเกล็ดน้ำแข็งไปทั่วบริเวณ

มันแตกต่างจากความหนาวของโลกภายนอก

ภายในรถถัง มีเสียงเพลงโอบล้อม

ข้อมูลที่ป๋าบอก สำหรับเฉินตงแล้ว มันเป็นประโยชน์มาก แต่ก็ยังน้อยอยู่ดี

ตัวอย่างเช่น ใครเป็นคนสร้างคุกมืดนี้ ?

ที่ตรงนี้ มันอยู่ตรงส่วนไหน ?

และอื่นๆอีกมากมาย……

ไม่ว่ายังไง จากที่เฉินตงเห็นนอกหน้าต่างที่สว่างไสวแต่กลับเป็นเวลากลางคืน ก็พอจะคาดเดาได้บ้าง

ดินแดนที่เยือกแข็งนี้ น่าจะอยู่ใกล้กับบริเวณขั้วโลก

เฉพาะในสถานที่นี้เท่านั้น ที่สามารถเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้

โครม!

รถถังแล่นไปอีกครึ่งชั่วโมง ก็ค่อยๆชะลอความเร็ว เสียงดังกึกก้อง จากนั้นรถก็หยุดจอดลง

“เฉินตง ถึงแล้ว!”

ป๋าเดินนำไปข้างๆเฉินตง แล้วพยุงเฉินตงลุกขึ้น ยิ้มแล้วเอ่ยเตือนไปว่า :“เข้าไปแล้ว ต้องพึ่งตัวเอง สร้างบุญกุศลให้มาก และขอให้ปลอดภัย”

“ขอบคุณครับ”

เฉินตงเหลือบมองป๋าอย่างขอบคุณ

อย่างน้อย ป๋าก็ดีกับเขามาก และเวลาคุย ก็ทำให้เขาได้เตรียมความพร้อมไปกับคุกมืดนี้

เมื่อบานประตูเปิดออก

ความหนาวเหน็บก็เข้ามาเยือน

ลมเย็นทำให้เฉินตงสั่นสะท้าน และร่างกายของเขาหนาวสั่นจนขนลุกไปทั้งตัว

เมื่อลมหนาวหายไป เฉินตงก็ตกตะลึง

ชั่วขณะนั้น เขาเมินเฉยกับอากาศโดยรอบที่เย็นจัด

คูเมืองนี้ ตั้งตระหง่านอยู่บนทะเลสาบน้ำแข็ง

เมืองทั้งเมืองมืดดำ และกำแพงเมืองสูงหลายสิบเมตร ซึ่งงดงามยิ่งใหญ่ตระการตา ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกและกดดันกับความทรงพลังนี้

ดูราวกับสัตว์ยักษ์ในโบราณสมัยดึกดำบรรพ์ ที่จำศีลบนแผ่นน้ำแข็งนี้

เป็นอย่างที่ป๋าพูด คูเมืองนี้ เป็นเหมือนร่องรอยการมีอยู่ของมนุษย์ที่ถูกทอดทิ้งไว้บนแผ่นน้ำแข็งนี้

“ที่นี่……ก็คือคุกมืดเหรอ?”

เฉินตงตกตะลึงอ้าปากค้าง แล้วก็ค่อยๆพูดออกมาอย่างช้าๆ

ป้าบ!

ด้านหลัง มีมือใหญ่ผลักไปที่ตัวเขา

เฉินตงเดินซวนเซไปข้างหน้าสองก้าว เกือบจะตกจากที่เหยียบลงไปยังบนแผ่นน้ำแข็ง

“หลง ทำแบบนั้นทำไม?”

ในเวลาเดียวกัน เฉินตงก็ได้ยินเสียงตำหนิของป๋า เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับการผลักของเขาเมื่อกี้

“ใจเย็นครับหัวหน้า ก็แค่นักโทษคนหนึ่ง”

เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้น :“นี่ฉันก็สุภาพกับเขามากแล้วนะ เมื่อเขาเข้าไปที่คุกมืด คนที่นั่นคงไม่มีใครเป็นมิตรกับเขาหรอก ไม่แน่ว่าเขาอาจจะกลายเป็นศพในไม่ช้านี้ก็ได้”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset