Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 235 พี่ตง พี่ไม่น่าจะพูดอะไรแบบนี้ได้?

กู้ชิงหยิ่งรู้ว่าเฉินตงเป็นคนรวย

ผู้ชายคนนี้ไม่เคยตระหนี่ขี้เหนียวกับเธอและคนรอบข้าง

แต่คนที่พร่ำบอกอยู่ตลอดว่าจะซื้อรถ แต่ก็อาศัยรถคนอื่น และยังไม่ยอมซื้อมันสักที

จู่ๆก็มาซื้อรถบูกัตติเวย์รอน ?

รถคันนี้ ราคาเริ่มต้นก็ไม่ต่ำกว่า 25 ล้าน!

จากที่รู้จักกับเฉินตงมา แม้ว่าเขาจะมีเงิน โดยหลักทั่วไปแล้ว คงไม่ซื้อรถที่มีราคาแพงแบบนี้แน่

เงินสำหรับเฉินตงแล้ว มันมีค่ามาก

ที่เขาทุ่มให้กับคนรอบข้าง เป็นเพราะคนรอบข้างของเขานั้นสำคัญกว่าเงิน

แต่กลับตัวเองแล้ว เฉินตงก็ยังคงขี้เหนียวอยู่

ความสงสัยเพิ่มมากขึ้น ในสมองมีแต่ความไม่เข้าใจและงุนงงมากขึ้นไปอีก

เมื่อกู้ชิงหยิ่งเดินมาถึงชั้นล่างของบริษัท

เสียงแสบแก้วหูที่คำรามดังกึกก้องไปทั่วทั้งถนน

รถบูกัตติเวย์รอนราวกับสายฟ้าฟาด ถูกมองไปทั่วทั้งถนน และสุดท้ายก็จอดลงตรงหน้าของกู้ชิงหยิ่ง

“ชิงหยิ่ง รถผมเป็นยังไง?”

เฉินตงลงจากรถ เพื่อเปิดประตูให้กับกู้ชิงหยิ่งอย่างที่สุภาพบุรุษควรทำ

“ก็ดีค่ะ”

ดวงตาของกู้ชิงหยิ่งเป็นประกาย แล้วก็ขึ้นไปนั่งในรถ

เมื่อเสียงเครื่องยนต์ของรถบูกัตติเวย์รอนดังขึ้น กู้ชิงหยิ่งก็เอ่ยถามว่า:“คนขี้เหนียวแบบคุณ คิดยังไงถึงได้ซื้อรถที่ราคาแพงแบบนี้ได้คะ?”

“เงิน หามาได้ก็ต้องใช้มันไป”

เฉินตงที่กำลังขับรถอยู่ ก็พลันหัวเราะออกมาด้วยเช่นกัน

แววตาของกู้ชิงหยิ่งก็เปลี่ยนไป จ้องมองไปที่เฉินตง

ในตอนนี้ เธอเองกลับรู้สึกแปลกประหลาดในใจ

ต่อให้เฉินตงที่อยู่ตรงหน้า กับเฉินตงที่เธอรู้จักจะเหมือนกันมาก

แต่ความผิดปรกติเล็กน้อยนี้ กลับเรียกความสนใจที่แปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย

“ทำไมครับ?”

เมื่อสังเกตเห็นสายตาของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงก็เอ่ยถามไปด้วยความสงสัย

“เปล่า ไม่มีอะไรค่ะ”

กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว หัวเราะแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย :“เออใช่ ไปเยี่ยมฉินเย่ คุณเตรียมของเยี่ยมไปด้วยหรือเปล่าคะ?”

หลังจากที่ห่างหายไปนาน การไปเยี่ยมฉินเย่อีกครั้ง ยังไงก็ต้องมีของเยี่ยมไปบ้าง มันคือมารยาทและน้ำใจ

“เตรียมแล้วครับ” เฉินตงตอบด้วยรอยยิ้ม

ณ โรงพยาบาลลี่จิง

ฉินเย่ยังคงนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย มีผ้าพันแผลที่ยังไม่ได้ถูกแกะออก

แต่สภาพในตอนนี้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อย่างน้อยก็ยังพอลุกลงจากเตียงแล้วยืดเส้นยืดสายเป็นเวลาสั้นๆได้

นอนอยู่บนเตียง กินแอปเปิลที่จางหยู่หลันปอกให้

ฉินเย่มองไปยังจางหยู่หลันที่อยู่ข้างเตียงอย่างเจ็บปวด ทำให้ไม่รับรู้รสชาติของอาหาร

ช่วงนี้จางหยู่หลันคอยมาอยู่ดูแลฉินเย่ที่โรงพยาบาล และในช่วงที่ดูแลนี้อยากจะพักผ่อนก็เป็นไปได้ยาก

ใบหน้าที่เคยสวยสดงดงาม ตอนนี้ก็อิดโรยและซีดเซียว ขอบตาก็คล้ำดำ

“หยู่หลัน พักสักหน่อยเถอะ” ฉินเย่เอ่ยพูดอย่างอ่อนโยน

“ฉันไม่เหนื่อยค่ะ” จางหยู่หลันส่ายหัว ยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ยากที่จะเก็บซ่อนความอิดโรยนั้นได้

เธอยื่นแอปเปิลที่ปอกเสร็จแล้วให้กับฉินเย่ :“เพิ่มวิตามินซีอีกหน่อยนะคะ มันดีต่อสุขภาพ”

ฉินเย่ไม่ได้รับมันไว้

แต่กลับส่ายหัว ยิ้มอย่างขมขื่น:“อันที่จริงแล้ว ผมไม่มีค่าพอที่คุณจะมาทำดีกับผมแบบนี้”

“เพราะอะไรคะ?”ท่าทีของจางหยู่หลันนิ่งไป

“ไม่มีเหตุผลอะไร ก็แค่ไม่มีค่าพอเท่านั้น”

ฉินเย่ส่ายหัวไปมา ท่าทางจริงจัง :“คุณกลับไปเถอะ ตอนนี้ผมไม่ต้องการให้คุณมาดูแลอีกแล้ว”

“แต่ว่า……”

จางหยู่หลันรู้สึกน้อยใจ ดวงตาเริ่มแดง

ท่าทีของฉินเย่เปลี่ยนไปในทันที มันทำให้เธอปรับตัวไม่ทัน

มองดูฉินเย่ที่มีท่าทีที่เย็นชา เธอรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งทรวงอก

แต่แล้ว

“ในตอนที่ผมยังอารมณ์ดีอยู่ คุณไปเสียเถอะ ไม่งั้นอย่าโทษผมว่าผมไล่คุณละกัน”

ฉินเย่นอนพิงไปข้างหลังมีมือสองข้างหนุนศีรษะ และยิ้มอย่างเย็นชา:“คุณมาดูแลปรนนิบัติเดรัจฉานที่ฆ่าพ่อตัวเอง แบบนี้ทำไม ?”

“ฉินเย่……” จางหยู่หลันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

หลายวันมานี้ เพื่อดูแลฉินเย่แล้ว เธอเองก็แทบจะไม่ได้นอน ต้องคอยเช็ดร่างกาย คอยให้น้ำเกลือ และแม้กระทั่งช่วยพยุงฉินเย่ตอนเข้าห้องน้ำ เป็นเธอที่คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด

ไม่ว่าจะเป็นเฉินเย่เองหรือฐานะทางครอบครัวของเธอเอง เป็นเรื่องง่ายที่จะจ้างใครสักคนมาคอยดูแล

แต่ที่จางหยู่หลันกังวลคือกลัวพยาบาลจะไม่สามารถดูแลฉินเย่ได้อย่างดี เพราะฉะนั้นเธอถึงต้องมาดูแลด้วยตัวเอง

ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องมาเหนื่อยแบบนี้

หญิงสาวตระกูลจางที่ถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็ก กลับต้องมารับหน้าที่ดูแลคนป่วย พูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อ

แต่นี่ จางหยู่หลันก็กำลังทำมันอยู่ !

เพราะคนที่เธอดูแล คือฉินเย่

“ไปให้พ้น!”

สีหน้าเย็นชาของฉินเย่ หยุดคำพูดทุกคำของจางหยู่หลัน

จางหยู่หลันตกใจร่างกายสั่นไหว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป

ในที่สุด เธอก็วางแอปเปิลและมีดหั่นผลไม้ในมือลง ฝืนยิ้มที่อ่อนโยนออกมา :“คุณพักผ่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันค่อยมาเยี่ยมคุณใหม่”

มองไปยังจางหยู่หลันที่ค่อยๆเดินออกไป ฉินเย่ที่มีท่าทีเคร่งขรึม แต่ดวงตาของเขากลับสั่นไหว

เมื่อประตูห้องถูกปิดลง

ปัง!

ฉินเย่ก็ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเอง

“เอาแล้วไง คราวนี้เล่นแรงไปจริงๆ !”

ทางเดินของโรงพยาบาล

หลังจากที่ออกจากห้องคนป่วย อารมณ์ของจางหยู่หลันก็ถูกปลดปล่อยออกมาราวกับเขื่อนแตก

ดวงตาที่แดงก่ำ คลอไปด้วยน้ำตา

เธอก้มหน้าลง ไม่กล้าให้ใครสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ และเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ท่าทีที่เปลี่ยนของฉินเย่ ทำให้เธอรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด

ราวกับมีดคมๆ แทงเข้าไปที่หัวใจของเธอ

พอดีกับจังหวะนี้

“หยู่หลัน เกิดอะไรขึ้น?”

กู้ชิงหยิ่งกับเฉินตงเดินมาทางห้องผู้ป่วย ก็ชนเข้ากับจางหยู่หลันที่กำลังเดินออกมาพอดี

แม้ว่าตระกูลจางกับเฉินตงจะมีความบาดหมางกันอยู่

แต่ในเมื่อฉินเย่ได้เลือกจางหยู่หลันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเฉินตงหรือกู้ชิงหยิ่ง ก็ไม่สนใจเรื่องที่ผ่านมา

จางหยู่หลันที่เสียใจจนร้องไห้ ตัวสั่นสะท้าน เงยหน้าขึ้นแล้วมองเห็นเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่ง ก็มีท่าทีลนลาน

เธอหันหลังกลับ รีบปาดน้ำตาออก แล้วเอ่ยพูดไปว่า :“ไม่มีค่ะ ไม่มีอะไร ฉันไม่ได้เป็นอะไร”

กู้ชิงหยิ่งกับเฉินตงได้แต่จ้องมองหน้ากันไปมา

จากนั้น จางหยู่หลันที่มีท่าทีที่อิดโรย ดวงตาแดงก่ำ หันกลับมาแล้วส่งยิ้มให้

“พวกคุณมาเยี่ยมฉินเย่ใช่ไหมคะ? เขาอยู่ในห้อง ฉันกลับก่อนนะ ขอโทษด้วยค่ะ”

พอพูดจบ ก็เดินผ่านเขาสองคน แล้ววิ่งออกไป

“สงสัยเจ้าฉินเย่ คงรังแกหยู่หลันแน่ๆ”

กู้ชิงหยิ่งย่นจมูกลง รู้สึกไม่พอใจ

“เดี๋ยวลองถามดูก็รู้” เฉินตงยักไหล่

ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย

ฉินเย่เหม่อลอยมองออกไปยังนอกหน้าต่าง โทรศัพท์ในมือกำลังเล่นเพลง 《รักนี้เป็นนิรันดร์》

“ฉินเย่ หยู่หลันถึงกับร้องไห้ นายยังมีอารมณ์มาฟังเพลงอีก ?”

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกโกรธเล็กน้อย วางของเยี่ยมลง เอ่ยพูดเสียงต่ำไปว่า :“เขาคอยดูแลนายมานานขนาดนี้ นายยังจะไปรังแกเธออีก?”

“ขนาดพ่อฉันเองฉันยังฆ่ามาแล้วเลย กับแค่คนคนเดียวฉันจะไม่กล้ารังแกเลยเชียวเหรอ?”

ฉินเย่หันมาแล้วชำเลืองมองไปยังกู้ชิงหยิ่ง

เพียงคำพูดเดียว ทำให้กู้ชิงหยิ่งหน้าดำหน้าแดง เงียบเหมือนคนใบ้

แต่เฉินตงกลับวางของเยี่ยมลง แล้วนั่งลง

“ยังไงนายก็เป็นผู้ชาย ยอมผู้หญิงเขานิดหน่อยจะเป็นไรไป? ในเมื่อตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว จะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร ?”

ตาของฉินเย่เป็นประกาย แล้วเหลือบมองไปที่เฉินตงอย่างประหลาดใจ :“พี่ตง พี่จริงจัง ?”

เฉินตงท่าทีนิ่งไป

จากนั้นก็พยักหน้ารับ :“ไม่อย่างนั้น ?”

ฉินเย่หลุดหัวเราะออกมา นอนหนุนหมอนแล้วพูดไปว่า :“ช่างมันเถอะ ฉันมันเดรัจฉานที่ฆ่าพ่อตัวเอง จะจริงจังได้ยังไง”

“การฆ่าพ่อแม้มันจะเป็นเรื่องที่ผิด แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องจะต้องเอามาโยงเข้ากับเรื่องนี้” เฉินตงกล่าวปลอบ

หางตาของฉินเย่ก็กระตุก

เขามองจ้องไปที่เฉินตงอย่างพินิจพิเคราะห์ เอ่ยถามอย่างสงสัยไปว่า :“พี่ตง พี่ไม่น่าจะพูดอะไรแบบนี้ได้ ?”

คำถามง่ายๆ

แต่ทำให้ท่าทีของเฉินตงเปลี่ยนไป

ภายในห้องผู้ป่วย ก็เงียบกริบขึ้นในทันที

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset