Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 239 เป็นเขา!

ทันใดนั้น

ท่าทีของเฉินตงก็เฉื่อยลง คำพูดเดียวของป๋า ทำให้เขาตกใจจนมึนเบลอไปหมด

เสียงอึกทึกครึกโครมของกิจกรรมภายในเรือนจำ

หายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา

ในเวลานี้ สายตาของเฉินตง มีเพียงใบหน้าที่ยิ้มอย่างผยองของป๋าเท่านั้น

เมื่อจ้องตาของกันและกัน เขารู้สึกตื่นกลัวกับการถูกป๋ามองอย่างทะลุปรุโปร่ง

“นาย ไม่มีสมาธิอีกแล้ว”

ทันใดนั้น ป๋าก็ยิ้มเยาะ ดวงตาเต็มไปด้วยรังสีแสง

ปัง~

ในลานกิจกรรม เสียงโห่ร้องของเหล่านักโทษ ดังกึกก้องอยู่ในหูของเฉินตง

ร่างกายของเฉินตงสั่นไหว ดวงตาดุดันราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ไม่รอให้เขาได้แสดงกระบวนท่าต่อไป

ลำแขนของป๋าที่แข็งเกร็ง เหมือนงูยักษ์สองตัว ที่พันกันแน่น

“โซ่เวหา!”

ปัง!

ด้วยแรงระเบิด แขนของป๋าก็เหวี่ยงออก

สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไป รู้สึกเหมือนขาถูกกระแทกอย่างแรง แรงจนขาของเขาก็ไม่อาจต้านการกระแทกนั้นได้

แทบจะในทันที

การพันธนาการของเฉินตง ถูกป๋าทำลายทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง

จากนั้น แขนของป๋า ราวกับถูกงูยักษ์ครอบงำ พันเกี่ยวไปที่รอบเอวของเฉินตง

ไม่ได้การละ!

หัวใจของเฉินตงกระตุกอย่างรุนแรง

เขารู้สึกเอวถูกรวบรัดตึงแน่นหนา เหมือนกับถูกงูยักษ์รัดพันกายเอาไว้

โลกหมุนไปรอบๆ การมองเห็นพร่ามัว

โพล่ง!

เฉินตงถูกป๋าจับเอาไว้ด้วยสองมือ แล้วทุ่มลงกับพื้นอย่างแรง

โครม!

ในลานกิจกรรม นักโทษต่างร้องออกมาด้วยความกลัว

ชั่วพริบตาก็หายวับไป

การจู่โจมของป๋าไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ ร่างกายที่สูงใหญ่กำยำของเขา ก็พุ่งกระโจนไปยังร่างของเฉินตง

ด้วยกระบวนท่าที่แปลกประหลาด ล็อกไปยังคอและแขนขาทั้งสี่ของเฉินตง

เหมือนงูยักษ์ที่พันรัดรอบตัวเหยื่อของมัน

ทำให้เฉินตงหายใจไม่ออกในทันที สีหน้าแดงและคล้ำม่วง รู้สึกเหมือนปอดถูกบีบไล่อากาศออก

เฉินตงดิ้นรนที่จะต่อสู้ แต่ร่างของเขาถูกรวบตึงไว้แน่นหนาจากป๋า จนแทบไม่มีกำลัง

เขาอ้าปากกว้าง แล้วสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ แต่ก็ไม่อาจต้านปอดที่ถูกบีบไล่อากาศออกได้

ข้างหู มีเสียงหัวเราะของป๋าดังขึ้น

“ท่านี้เป็นทักษะการต่อสู้ของบราซิลเลียนยิวยิตสู เขาไม่ได้สอนนายเหรอ?”

ข้างเวที นักโทษต่างพากันตื่นเต้น

เชียร์และโห่ร้อง

ป๋าจากที่แพ้ก็กลายเป็นผู้ชนะ จุดประกายเลือดร้อนในตัวของทุกคนทันที

เสียงโห่ร้องดังแสบแก้วหู

เฉินตงที่ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะของป๋า เหมือนฟ้าร้องก้องอยู่ในหู

ทักษะการต่อสู้ทั้งหมดของเขา ได้รับการฝึกสอนมาจากคุนหลุน

คำพูดแต่ละคำของป๋า เหมือนจะรู้กระบวนท่าต่างๆของเขา

หรือว่าป๋าจะรู้จักคุนหลุนงั้นเหรอ ?

ความรู้สึกที่หายใจไม่ออกก็ยิ่งทวีความรุนแรง

เฉินตงที่ใกล้หมดสติก็ได้ยินเสียง เอวของเขาที่ถูกขาของป๋ากดเอาไว้ ส่งเสียงร้อง “อ๊าก”ออกมา

“ทำลายกระบวนท่านี้ของฉัน!”

เสียงของป๋าก็เคร่งขรึมรุนแรงขึ้น

สีหน้าของเฉินตงคล้ำม่วงจนถึงขีดสุด

เขาพยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่ก็เหมือนถูกขึงตึงไว้ด้วยโซ่ ขยับตัวไม่ได้เลยสักนิด

แบบนี้ จะทำลายมันได้ยังไง ?

ราวกับนึกถึงคำสอนของคุนหลุนได้ ว่าต้องมีสติและมีสมาธิไว้อยู่ตลอดเวลาเสมอ

ในตอนนี้เหมือนภายในใจสับสนวุ่นวาย

“ฆ่ามัน ป๋าฆ่ามัน!”

“เด็ดหัวมัน!ป๋า เด็ดหัวมันเร็ว !”

“สมแล้วกับที่เป็นหัวหน้าหน่วยลาดตระเวน ความสามารถไม่แผ่วลงเลย สั่งสอนเจ้าเด็กคนนี้ให้ได้รู้เสียบ้าง!”

……

นักโทษต่างตื่นเต้น ยกกำปั้นขึ้นแล้วโห่ร้องตะโกนอย่างสะใจ

แต่แล้ว

ในตอนที่เฉินตงกำลังจะหมดลมหายใจนั้น

เขาก็รู้สึกถึงการพันธนาการบนร่างกายของเขาได้คลายลง

จังหวะนี้เอง!

ดวงตาของเฉินตงจ้องมองไปยังเป้าหมาย

ในความเป็นความตาย จังหวะชี้ชะตาชีวิต!

มือทั้งสองข้างของเขาบีบไปที่ข้อมือซ้ายของป๋า แล้วออกแรงดันมัน

ป๋าส่งเสียงร้องออกมาในทันที และขาที่เกี่ยวพันร่างกายของเฉินตงเอาไว้ก็คลายออกเช่นกัน

เฉินตงใช้จังหวะนี้หลุดพ้นออกมาได้ แล้วถอยกลับไปสองก้าว ทิ้งระยะให้ห่างออกจากป๋า

ทันทีทันใด

สถานที่ที่คึกคักก็เงียบกริบลงทันที

นักโทษทุกคนต่างตกตะลึง

นี่……มันเรื่องจริงเหรอ?

ป๋าถึงขั้นใช้โซ่เวหา ก็ยังตัดสินแพ้ชนะไม่ได้ ?

ต้องรู้ว่า นักโทษที่ถูกคุมขังในคุกมืดนี้ ไม่ใช่จะรับมือได้ง่ายๆ ราชาทหารเทพสงคราม มีนับไม่ถ้วนอยู่ทุกหนทุกแห่ง

แต่ในคุกนี้ ที่เทียบเท่าป๋าได้ มีอยู่น้อยมากแทบไม่ถึงสามคนเลยด้วยซ้ำ!

และต่อให้สามคนนั้น ถูก“โซ่เวหา”ของป๋าพันธนาการเอาไว้ ก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้อย่างง่ายดายอย่างที่เฉินตงทำ!

“ฟู่……”

ทันทีที่หลุดพ้น เฉินตงก็หายใจเต็มปอด ถูกกดเอาไว้จนไม่สามารถหายใจได้เต็มที่ ในที่สุดก็ได้ออกซิเจนคืนมา

เฉินตงก็ผ่อนคลายมากไปด้วยเช่นกัน

แต่สายตาที่เขามองไปยังป๋า มีความอ่อนโยนและซาบซึ้ง

เขารู้ดี เมื่อกี้ป๋าออมมือให้เขา !

ไม่อย่างนั้น เขาไม่มีทางที่จะหลุดพ้นมันมาได้แน่

หรือว่าป๋าหมดแรง หรือป๋าแรงตก ตัวเฉินตงเองไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องพวกนี้เลย

ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ อย่าว่าแต่ป๋าเลย ต่อให้เป็นเขาเอง ก็เป็นไปไม่ได้!

“ต่อจากนี้ ดูมันให้ชัดๆ!”

ป๋าโก้งโค้งตัว จัดเตรียมท่าทางการโจมตี

รูม่านตาของเฉินตงหดตัวลงทันที ในหัวก็มีเสียงดังขึ้น

กระบวนท่าการต่อสู้ของป๋า เหมือนกันกับของเขา!

“คุนหลุน……”

ตามสัญชาตญาณ เขาหลุดคำพูดออกมา

หวืด!

ลมแรงพัดมา ใบหน้าที่ฉีกขาดรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย

ป๋ามีความเร็วราวกับสายฟ้า ชั่วพริบตาก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าของเฉินตง ไม่เปิดโอกาสให้เฉินตงได้ซักถาม

เฉินตงกู่ร้อง เหวี่ยงหมัดออกไป ฝ่ามือหนึ่งอัดไปยังด้านหลังของป๋า แล้วประชิดตัวเพื่อโจมตี จากนั้นก็เกิดการต่อสู้ขึ้นอีกครั้ง

ในลานประลองที่เงียบสงบ กับเสียงหมัดที่อัดเข้าไปตามร่างกาย ทำให้เกิดบรรยากาศที่คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

เลือดร้อนของเหล่านักโทษก็ถูกจุดติดขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาฉายชัดความกระหายเลือด

และในบริเวณประตูเรือนจำ

สมาชิกในทีมต่างมองหน้ากัน

“วันนี้หัวหน้าเป็นอะไร? ทำไมถึงไปเล่นกับนักโทษใหม่คนนั้นได้ ?”

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่นายไม่เห็นเหรอ? ตั้งแต่นักโทษใหม่คนนี้ปรากฏตัว ป๋าก็มองเขาแตกต่างจากคนอื่น”

ปังๆๆ……

บนเวที หมัดลุ่นๆ

ไม่มีท่าที่พิสดารอะไร เป็นเพียงการโจมตีที่รวดเร็วและทรงพลังของหมัดและเท้า

เฉินตงมีเหงื่อผุดออกตามหน้าผาก ยิ่งสู้ก็ยิ่งน่ากลัว

จากการต่อสู้ครั้งนี้ ทั้งเขาและป๋าต่างก็ได้รับบาดเจ็บ

แต่การต่อสู้ที่ดูฝีมือจะไล่เลี่ยกันนี้ เฉินตงรู้ดีว่า การต่อสู้มาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ มีป๋าคอยคุมเกมอยู่

และเขา ก็แค่อยู่ภายใต้การวางแผนของป๋าเท่านั้น ป้องกันแบบที่ถูกควบคุมเอาไว้!

ไม่ว่าเขาจะออกกระบวนท่าอะไร ป๋าก็สามารถตั้งรับได้อย่างสบาย หนำซ้ำยังตอบกลับในแบบเดียวกับที่เขาจู่โจมไป

“นาย มีความสามารถแค่นี้เหรอ?”

เสียงหัวเราะของป๋า เต็มไปด้วยการล้อเลียน

อันที่จริงแล้ว ตลอดเกมการต่อสู้ พูดกันตามตรงก็เป็นเพียงการหยอกล้อเท่านั้น

หางตาของเฉินตงกระตุก หมัดและเท้าเร่งความเร็วขึ้นไปอีก ตามแรงปะทุ ราวกับฝนตกฟ้ารั่วพุ่งใส่ป๋าอย่างรวดเร็ว

“นายเป็นอะไรกับเขา?”

กับความสงสัยที่อยู่ในใจ เขาก็ถามมันออกมาอย่างโกรธเคือง

หวืด!

ร่างของป๋าหยุดลงอย่างกะทันหัน หันหน้าเข้าหาหมัดของเฉินตง โดยไม่หลบหลีก

และหมัดของเฉินตง ก็ชะงักหยุดลงตรงหน้าของป๋า จนเกิดเป็นลมขึ้นมา

“นายชนะ!”

ป๋ายิ้มอย่างผ่อนคลาย ยักไหล่ หันหลังแล้วเดินลงเวทีไป

ลานกิจกรรมที่ครึกครื้น ก็กลับมาเงียบลงอีกครั้ง

เฉินตงเอง ก็งุนงงไปด้วยเช่นกัน

จากนั้น

เสียงของป๋าก็ดังขึ้น

“นายสงสัยไม่ใช่เหรอว่าคนที่ออกไปจากที่นี่เมื่อสิบปีที่แล้วเป็นใคร? คือเขา !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset