Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 243 มีสิ่งที่สำคัญกว่าความตาย รอให้ฉันปกป้อง!

เขาบ้าไปแล้วเหรอ?

ขณะที่เต็มไปด้วยความโกลาหล นักโทษทุกคนก็ต่างเกิดความคิดแปลกๆขึ้นมาในหัว

ถูกชกด้วยกำลังทั้งหมดของหมียักษ์ แม้จะเป็นกะโหลกที่แข็งแกร่งที่สุด ก็คงต้องแตกยับเยิน

ในสถานการณ์ที่ไม่อาจถอยหนีได้ เขาไม่คิดที่จะป้องกันตัว แต่กลับพุ่งเข้าไปหา

จะสู้กับหมียักษ์แบบนี้เลยเหรอ?

ขณะนี้ นักโทษหลายคนทนดูไม่ลง จนต้องหลับตา

พวกเขาคาดการณ์ไว้แล้วว่าหัวของเฉินตงจะต้องระเบิดเหมือนแตงโม

เมื่อป๋าที่อยู่ทางหน้าประตูคุก มองเห็นฉากนี้ กลับหัวเราะขึ้นมา

“การดิ้นรนเอาชีวิตรอด มันสืบทอดมาจากคุนหลุนจริงๆ ”

ความจริงแล้ว

ตอนที่เฉินตงพุ่งเข้าไปทางหมียักษ์ ดวงตาของหมียักษ์ก็ฉายแววตกใจ

แรงชกของเขา แม้จะเป็นป๋า หรือจ่าฝูงอีกเก้าคุกของคุกที่เสียงดัง ก็ไม่กล้าเผชิญอย่างทรหดเหมือนเฉินตงแน่นอน

ไอ้เด็กใหม่นี่ มันช่างโอหังเหลือเกิน!

“ ฮื้อ!ตายซะ!”

หมียักษ์ส่งเสียงคำราม และความเร็วในการโจมตีของแขนทั้งข้างยังคงไม่ลดลง

ในชั่วขณะ

ดวงตาทั้งสองของเฉินตงฉายแววเจิดจ้าในทันที

เมื่อหมัดหนักพุ่งเข้ามาใกล้ เขากระทืบเท้าลงกับพื้น และกระโดดขึ้น

หลังจากนั้น

เท้าทั้งสองข้างราวกับงู เขาพันรอบมือของหมียักษ์ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งตัวของเขาบินขึ้นไปถึงระหว่างแขนสองข้างของป๋า และกดลงอย่างรุนแรง

บูม!

การกระทําอย่างฉับพลัน ทําให้ทุกคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ

นักโทษทุกคนต่างก็งงงวยไปหมดแล้ว

เล่นแบบนี้ได้ด้วยหรือ?

“ตายซะ!”

แม้แต่หมียักษ์เองก็นึกไม่ถึง ว่าแขนสองข้างของเขาจะถูกเฉินตงพันรอบ ทำให้หมียักษ์เสียการทรงตัวในทันที

ร่างที่สูงใหญ่ของหมียักษ์ พุ่งไปข้างหน้าทันที และพุ่งลงจากลานประลองพร้อมกับเสียงตะโกนด่า

“แกแพ้แล้ว!”

เสียงที่เย็นยะเยือกดังก้องอยู่ในหูของหมียักษ์ ราวกับลมหนาวที่พัดเย็นไปถึงกระดูก

ในเวลาเดียวกัน เฉินตงก็บิดร่างและบินขึ้นไปบนหลังของหมียักษ์อย่างรวดเร็ว แล้วถือโอกาสกระโดดขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นเสียงลมก็พัดกระหน่ำ

กระบวนเท้า

ปัง!เท้าเตะลงบนคอของหมียักษ์

หมียักษ์แข็งทื่อไปทั้งตัว ตาลอยขึ้น และไม่สามารถควบคุมการทรงตัวได้อีกต่อไป

เขากระแทกล้มลงที่ใต้ลานอย่างแรง

ร่างอันใหญ่โตที่ล้มลง ราวกับกำแพงถล่ม

และด้วยคอที่ถูกกระแทกอย่างหนัก เขาสลบไปในทันที

เงียบ

ทุกคนเงียบสงัด

กับสิ่งที่เกินขึ้นในเมื่อกี้นี้ มันไวจนทุกคนไม่ทันตั้งตัว ราวกับสมองหยุดทำงานไปครู่หนึ่ง ตกตะลึงจนตาค้าง

ไม่มีใครคาดคิด ว่าจู่ๆการสถานการณ์จะกลายเป็นแบบนี้ไปได้

กลับแพ้เป็นชนะ!

สี่คำง่ายๆ แต่เมื่อทำขึ้นมาจริงๆ ถึงจะรู้ว่ามันยากแค่ไหม

และยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เฉินตงเผชิญคือจ่าฝูงแห่งคุก

ตาของนักโทษแต่ละคนที่มองค้างก็ค่อยๆกลับคืนสู่ปกติ

สายตาแต่ละคู่ที่ตกตะลึง จับจ้องไปที่เฉินตงบนลานสูง

เฉินตงในเวลานี้

สีหน้าเย็นชา ยืดตัวตรงและยืนอย่างสง่า

บนมุมปากยังยังคงมีร่องรอยของเลือด

และยิ่งทำให้หน้าตาของเขาดูเย็นชามากขึ้น ราวกับเกล็ดน้ำแข็ง

นัยน์ตาที่เย็นชาและสงบนั้น ถูกฝังลึกลงไปในหัวใจของนักโทษทุกคน

แค่ผู้ที่มาใหม่ในเวลาเพียงไม่กี่วัน กลับทำให้พวกเขาพลิกความคิดทั้งหมดที่เคยมีต่อคุกมืด

จ่าฝูงใช่ว่าจะไม่มีทางเอาชนะได้ แต่การชนะที่ง่ายดายเช่นนี้ เพิ่งเคยเห็นในคุกมืดเป็นครั้งแรก!

“เฉินตง ชนะ!”

เสียงที่ดังก้องไปทั่วเขตคุก

บูม!

ในคุกดุเดือดขึ้นมาทันที ราวกับเทน้ำลงในกระทะน้ำมัน

“เฉินตง เฉินตง เฉินตง …….. ”

เสียงตะโกนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณคุก ราวกับฟ้าร้อง เสียงดังหูอื้อ

ในคุกมืดที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กแห่งนี้ ซึ่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นถึงจะอยู่รอด

หากมีความสามารถ ถึงจะเป็นแค่เด็กที่เพิ่งมาใหญ่ ก็มีสิทธิ์ได้รับความเชื่อมั่นจากนักโทษทุกคนเช่นกัน

และหลังจากที่เฉินตงชนะหมียักษ์ เขาก็จะได้กลายเป็นจ่าฝูงในคุกแห่งนี้อย่างไม่ต้องคาดเดา

แม้ว่ากระบวนการแห่งชัยชนะจะไม่ใช่การเผชิญหน้าโดยตรง

แต่ทักษะการรับมือในสถานการณ์วิกฤตนั้น ก็ดีพอที่จะทําให้คนทุกคนยอมรับได้

“เอาตัวหมียักษ์ไปรักษา ”

ป๋าตะโกน ตรงหน้าประตูใหญ่คุก

“หัวหน้าครับ ระบบการแพทย์ของคุกมืด มีไว้สำหรับผู้คุมอย่างพวกเราเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับนักโทษ!”

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดย้ำขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

สำหรับคุกมืด ทุกคนคุ้นเคยกับการขนศพออกไปทุกวัน โดยไม่เคยคำนึงถึงชีวิตหรือความตายมาเป็นเวลานาน

ในคุกมืดที่ถูกทอดทิ้ง นักโทษที่ถูกคุมขังในนั้นก็ไม่ต่างจากสัตว์ป่า ที่ไม่มีสิทธิ์จะได้รับการรักษา

ถึงจะเป็นอดีตจ่าฝูงแห่งคุก ก็ไม่มีสิทธิ์เช่นกัน

ต่อให้ตายไป อย่างมากก็แค่ยกออกไปจากคุกมืด แล้วโยนทิ้งไป

“กฏมันก็เป็นแค่สิ่งไม่มีชีวิตที่มนุษย์ตั้งขึ้น ทำตามที่ฉันสั่ง!”

ป๋าตะคอกเสียงดังและสีหน้าเคร่งขรึม

เจ้าหน้าที่ตกใจในทันที และไม่กล้าเถียงต่ออีก จึงรีบยกหมียัษณ์ที่นอนหมดสติอยู่ใต้ลานไปรับการรักษา

เสียงโห่ไชโย ดังจนหูอื้อ

สะท้อนไปทั่วคุก

ทุกเสียงแสดงถึงความยำเกรงของนักโทษทุกคนที่มีต่อเฉินตง และจะไม่มีการเหยียดหยามดูหมิ่นเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

เฉินตงมองดูหมียักษ์ที่ถูกยกออกไปอย่างเย็นชา และแววตาของเขาไม่เพียงแต่จะไม่ยุติการต่อสู้ลง แต่กลับยิ่งลุกเป็นไฟ

“นี่ แค่คนแรก!”

สิบวันสิบการประลอง เขาไม่มีทางเลือก!

ผูหญิงของเขา แม่ของเขา และพี่น้องของเขา

แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ก็ต้องปกป้องพวกเขา ห้ามใครมาเตะต้องได้

เขาต้องการออกจากคุกมืด

“นายเยี่ยมมาก !”

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะสรรเสริญก็ดังขึ้น

เฉินตงเหลือบไปทางด้านข้างของลานสูง ป๋ากำลังยิ้มมองเขาอยู่

นายรู้ไหมว่าสามปีตั้งแต่ที่หมียักษ์เข้ามาอยู่ในคุกมืดนี้ และครองตำแหน่งจ่าฝูงในคุกมืดมาสองปี ผ่านการต่อสู้ประลองมาแล้วทั้งหมด172ครั้ง แม้จะเป็นพวกทหารหรือเทพสงครามก็ยังไม่สามารถทำได้ดีเท่านายเลย

ป๋าได้กล่าวชื่นชมเฉินตงอย่างออกหน้าออกตา “ฉันรู้สึกตกใจกับปฏิกิริยาของนายตอนสถานการณ์ที่ไม่มีทางหวนกลับ ใครจะคิดว่านายจะกล้าโต้กลับไปแบบนี้”

เฉินตงยิ้มมุมปาก “คุนหลุนเคยกล่าวไว้ว่า ยิ่งสถานการณ์ที่ใกล้ความตายมากเท่าไหร่ จิตใจก็ต้องยิ่งสงบนิ่งมากขึ้นเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสรอดชีวิตไปได้ ”

“พูดถูก”

ป๋าพยักหน้ายิ้มพูด พร้อมแววตาที่เปล่งประกาย

และทันทีหลังจากนั้น เฉินตงกล่าวอย่างสงบ

ผมขอตัวไปพักก่อน และพรุ่งนี้จะเป็นการประลองเป็นตายยกที่สอง

ป๋าตกใจ และรอยยิ้มบนใบหน้าก็นิ่งไปในทันที

มองดูเฉินตงที่เดินลงไปจากลานสูง

เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นายไม่รู้หรือว่าทำเช่นนี้โอกาสสูงมากที่นายจะตาย?”

“รู้ครับ”

เฉินตงเดินไปและพลางตอบด้วยรอยยิ้มว่า “แต่เมื่อเทียบกับความตาย ยังมีสิ่งที่สําคัญกว่ารอฉันคอยปกป้องอยู่”

น้ำเสียงที่นิ่งและเสียงหัวเราะที่ดูเหมือนจะชิว

แต่มันเต็มไปด้วยความจริงจังและหนักแน่น จนป๋ารูม่านตาหดลงและไม่สามารถโต้แย้งอะไรอีก

และไม่นาน ข่าวที่เฉินตงจะประลองเป็นตายยกที่สองก็ถูกระจายไปทั่วคุก

นักโทษทุกคนก็ต่างตกตะลึง

นี่จะไม่ให้เวลาตัวเองได้พักฟื้นเลยเหรอ?

หรือเป็นเพราะ จงใจที่จะตาย?

และทั้งหมดนี้ เฉินตงก็ไม่อยากไปสนใจ

เดิมทีเขาเอาชนะหมียักษ์และกลายเป็นจ่าฝูงในคุก เขาสามารถมีห้องขังส่วนตัวสำหรับจ่าฝูง

แต่เขาได้ปฏิเสธ และกลับไปพักฟื้นในห้องขังห้องเดิม

แม้ว่าการประลองกับหมียักษ์จะเป็นการต่อสู้ที่รวดเร็ว แต่ในตอนแรกที่ถูกหมียักษ์โจมตี ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาอย่างไม่เบา

อาการบาดเจ็บไม่สามารถฟื้นตัวได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

สิ่งเดียวที่เฉินตงทำได้ก็คือ ปรับสภาพตัวเองให้ชินกับร่างกายที่มีบาดแผลให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้

และในคืนนี้

เฉินตงกำลังหลับตาพักผ่อน

เจี๊ยบ…..

ทันใดนั้นประตูห้องขังก็เปิดออก

เสียงดังขึ้นกะทันหัน ทำให้เฉินตง แนชวิลล์ และนักโทษคนอื่นๆก็ต่างสะดุ้งตื่นขึ้นมา

ภายใต้แสงสลัวในยามค่ำ ร่างสูงตระหง่านราวกับภูเขากําลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องขัง

ราวกับสัตว์ป่า ดวงตาที่แดงก่ำกำลังจ้องเขม็งไปที่เฉินตง…….

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset