Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 249 ไม่เลือกวิธีการ

“นายคิดว่า ฉันจะโง่ถึงขนาดเงยหน้าขึ้นไปมองแสงจ้านั้น ?”

งูเหลือมถึงกับหัวเราะเยาะอย่างดูถูก

เฉินตงยิ้มออกมาเล็กน้อย ในใจรู้ได้ทันที

กระจกที่ป๋าให้ ก็เพื่อการณ์นี้หรอกเหรอ ?

“ฟู่~”

พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงๆ

เฉินตงฝืนทนกับความเจ็บปวดที่รุนแรงของซี่โครงที่น่าจะหัก ค่อยๆหยัดตัวขึ้นช้าๆ แล้วตั้งท่าเตรียมรับกับการต่อสู้

“เปล่าประโยชน์ นายเอาชนะหมียักษ์ได้ ฉันก็คิดว่านายจะมีความสามารถมากกว่านี้ ไม่คิดว่าฉันจะประเมินความสามารถของนายกับหมียักษ์สูงเกินไป”

งูเหลือมมีท่าทีที่น่าเบื่อ ถอนหายใจ แล้วค่อยๆแลบลิ้นออก จากนั้นก็ส่งเสียงคำราม

และในเวลาเดียวกันนั้น

เฉินตงก็ระเบิดพลังออกมา พุ่งราวกับคันธนูไปหางูเหลือมอย่างรวดเร็ว

ท่าทีงูเหลือมนิ่งไป เขาไม่คิดว่าเฉินตงจะเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน

“ตายซะเถอะ!”

งูเหลือมกรีดร้อง การกระทำคล้ายงู พุ่งเข้าหาเฉินตง

ฝ่ามือที่ทรงพลัง กับเงาภาพที่ทับซ้อนกันไปมา มุ่งโจมตีไปที่เฉินตง

ปังปัง!

เฉินตงที่เตรียมตั้งรับอยู่แล้ว แต่เมื่อถูกฝ่ามืออันทรงพลังของงูเหลือมก็ถึงกับซวนเซถอยหลังไป

และในการถอยล่าในครั้งนี้ ความคิดที่จะลงมือก่อนนั้นก็พลันหายไปในทันที

แต่ที่ทดแทนเข้ามา คือพลังฝ่ามือที่รุนแรงของงูเหลือมกระหน่ำเข้าใส่ราวกับเม็ดฝน

สถานการณ์นี้ ก็แปรเปลี่ยนไปเหมือนในช่วงเริ่มต้น

เฉินตงถูกงูเหลือมบดขยี้ และทำได้เพียงต้านทานไว้ด้วยกำลังที่มี

เป็นเช่นนี้แล้ว

ฝ่ามืออันทรงพลังของงูเหลือม ทำให้แขนของเฉินตงเจ็บปวดรุนแรงมากขึ้น จนซวนเซถอยหลัง

การจู่โจมที่บดอัดไปยังส่วนหัวและหน้าอย่างเต็มที่นี้

ทำให้เฉินตงเหนื่อยและยากที่จะรับมือได้ จนไม่ได้คิดหาวิธีอื่น

ทักษะการต่อสู้ต่างๆ เมื่อถูกจู่โจมอย่างหนักหน่วงแบบนี้ ยากนักที่สามารถโต้กลับไปได้ !

“ความสามารถแค่นี้ นายยังคิดที่จะออกไปจากคุกมืด ?”

ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของงูเหลือม ท่าทีที่ผ่อนคลายแสดงให้เห็นถึงพละกำลังที่ถูกใช้ไปเพียงบางส่วนเท่านั้น เขายิ้มเยาะให้เฉินตง ด้วยท่าทีที่ดูหมิ่น :“นายเทียบกับคุนหลุนคนนั้น ฝีมือยังสู้หมียักษ์ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”

เมื่อสองปีก่อนหมียักษ์ได้เป็นจ่าฝูงในคุกNO.9 และงูเหลือมเองก็เป็นจ่าฝูงอยู่ก่อนมานานแล้ว !

สิบปีที่แล้ว ที่คุนหลุนชนะในสิบนัดรวดนั้น ก็เป็นตอนที่เขาเพิ่งเป็นจ่าฝูงพอดี!

“อ๊าก!”

ทันทีที่เสียงหายไป เฉินตงที่มีใบหน้าซีดเซียว ก็ร้องคำรามขึ้นมาทันที

ใบหน้าที่ซีดเซียวแสดงสีหน้าที่บ้าคลั่งและดุร้าย

อะไรกัน?!

ใบหน้าของงูเหลือมตกตะลึงในทันใด

เพราะฝ่ามือที่เขาปล่อยออกไป เฉินตงไม่ได้ยกมือขึ้นป้องกัน

แต่กลับตั้งท่ารับที่แข็งแกร่งขึ้นมา !

ไอ้เด็กคนนี้……ท่าจะบ้าไปแล้ว ?

ภาพนี้ ทำให้งูเหลือมเต็มไปด้วยความสงสัย

แต่ก็ไม่มีผลกับการออกกระบวนท่าการต่อสู้ของเขา

ปัง!

แรงอันมหาศาล

ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น

เฉินตงส่งเสียงร้อง และถูกฝ่ามือพิฆาตจนเซถอยไป เลือดในปากก็พุ่งกระเซ็นออกมา

และในตอนที่งูเหลือมคิดจะตอกย้ำความพ่ายแพ้นี้ให้กับคู่ต่อสู้ และปิดเกมนั้น

ทันใดนั้นแสงจ้า ก็ส่องไปที่ใบหน้าของเขา

ชั่วพริบตา

“อ๊าก!”

งูเหลือมหยุดลงอย่างกะทันหัน รู้สึกราวกับดวงตาถูกทิ่มแทงด้วยเข็มนับไม่ถ้วน ใบหน้าบิดเบี้ยวตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด

แม้ว่าแสงจ้าจะปรากฏขึ้นเพียงวูบเดียว ส่องแสงอยู่ตรงหน้าเขา แต่ก็ทำให้สูญเสียการมองเห็นในทันที

โครม!

ทันใดนั้น นักโทษในเรือนจำต่างก็โห่ร้องกันออกมา

ในตอนที่เฉินตงยิงแสงจ้าออกมาในตอนนั้น มันเร็วจนไม่มีใครได้สังเกตเห็น

ในสายตาของนักโทษทั้งหลาย งูเหลือมที่จู่ๆจะวิ่งเข้าใส่ก็หยุดลงกับที่ทันที แล้วกรีดร้องเสียงดังออกมา !

ภาพนี้ ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง

“ต้องตอนนี้!”

เฉินตงอดทนกับความเจ็บปวด มือขวาจับที่กระจกแน่น ราวกับเสือที่ล็อกเหยื่อเอาไว้ แล้วกระโจนเข้าใส่งูเหลือมทันที

ปัง!

หมัดที่หนักหน่วง ทำงูเหลือมเซจนถอยหลัง

“อ๊าก!ตายซะเถอะ นายมันสมควรตาย……”

ความเจ็บปวดของดวงตา บวกกับกลอุบายที่น่าอดสู ทำให้งูเหลือมราวกับคนบ้าขึ้นมาทันที

ในขณะที่ร้องคำรามงูเหลือมก็โบกสะบัดมือของเขาไปมา

แต่เมื่อเทียบกับงูเหลือมก่อนหน้านั้นแล้ว

กระบวนท่าของงูเหลือมในตอนนี้ ในสายตาของเฉินตง ไร้ระเบียบแบบแผน

อยากจะหลบหลีก ง่ายเพียงพลิกฝ่ามือ

ในจังหวะที่เขาหันหลังกลับ เฉินตงก็หยัดร่างกาย หมัดและเท้าราวกับฝนที่ตกกระหน่ำ พุ่งไปยังร่างของงูเหลือมอย่างบ้าคลั่ง

เพียงไม่กี่วินาที

งูเหลือมกระอักเลือดจนหงายหลัง

และเฉินตงก็ลอยตัวขึ้นเตะกลางอากาศ

เสียงปัง!ดังขึ้น งูเหลือมที่สูญเสียการมองเห็นไปชั่วขณะก็ราวกับถุงกระดาษที่ลอยล่อง กระเด็นออกไปยังนอกเวที แล้วร่างก็หล่นลงกับพื้นไปอย่างรุนแรง

“ยอมแพ้ซะ!ไม่งั้นแกตาย!”

เสียงอันเย็นเยือนออกมาจากปากของเฉินตง

งูเหลือมที่นอนอยู่กับพื้นขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ตาที่มองไม่เห็นไปชั่วขณะรู้ดีว่า หากเขาไม่ยอมแพ้ ความตายก็อาจจะมาเยือนเขาได้!

เก็บเอาความอัปยศและความโกรธไว้ในใจ

งูเหลือมเงยหน้าขึ้นแล้วส่งเสียงอย่างไม่เต็มใจ:“ฉัน ฉันยอมแพ้!”

มุมปากของเฉินตงมีรอยยิ้มปรากฏ

มือขวาออกแรงเพียงนิด เสียง“กึก”ดังขึ้น กระจกก็แตกออก จากนั้นเขาก็เก็บมันลงในกระเป๋าอย่างไร้ร่องรอย

หันหลัง แล้วเดินลงจากเวทีไป

ทั่วบริเวณนั้นเงียบกริบ นักโทษทุกคนต่างยังไม่ทันตั้งรับกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !

การพลิกผันของเกม เป็นไปในชั่วพริบตา

มันเกินไปกว่าความคาดหมายของทุกคนโดยสิ้นเชิง

และที่สำคัญกว่านั้นคือ มีคนสามารถจู่โจมจุดอ่อนของงูเหลือมได้!

นักโทษทุกคนต่างสงสัย ว่าเฉินตงทำได้ยังไง!

ภายในห้องควบคุม

ป๋ามองดูกล้องวงจรปิดด้วยท่าทีที่สงบ

เมื่อเฉินตงได้รับชนะ ดวงตาของเขาก็ฉายแววความยินดี

“กระจกนั้น นายเป็นคนให้เขาเหรอ?”

ชายในชุดคลุมมาที่ห้องควบคุมแต่เช้า ในคุกมืดนี้ นอกจากเขาจะไม่สามารถออกจากคุกมืดนี้ไปได้แล้ว หากจะเข้าออกห้องควบคุมก็ไม่มีใครขัดขว้าง

ท่าทีของป๋าจริงจัง ก้มหน้าแล้วพูดด้วยเคารพไปว่า :“นายท่านพูดเหลวไหลแล้ว ผมจะกล้าฝ่าฝืนกฎของคุกมืดนี้ได้ยังไงละครับ?”

“เหอะ!”

ชายในเสื้อคลุมยิ้มเยาะ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ป๋าพูด

เขามองดูไปที่กล้องวงจรปิด ซึ่งหนึ่งในนั้นกำลังฉายภาพแผ่นหลังของเฉินตงอยู่

ชายในชุดคลุมยิ้มแล้วพูดว่า :“ไม่สนวิธีการ แต่ก็มีท่าทีของราชา ทักษะการต่อสู้ของเขาก็ไม่เลว ภายใต้ความกดดัน ยังสามารถต้านทานเอาไว้ได้ พลิกเกมให้กลับมาชนะ เห็นได้ชัดว่าเขามีสติและควบคุมอารมณ์ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เลวจริงๆ”

ป๋าที่อยู่ด้านข้างก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

เมื่อมีสภาวะที่กดดันอยู่เบื้องหน้า และในช่วงของความเป็นความตาย

แต่เฉินตงก็ยังเลือกตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาด เป็นเรื่องยากจริงๆ

ต้องรู้ก่อนว่า สถานการณ์ในตอนนั้น การตัดสินใจลงมือชี้ชะตากับงูเหลือม มันเหมือนการเอาชีวิตตัวเองมาเป็นเดิมพัน !

การโจมตีของจ่าฝูง ทุกกระบวนท่าล้วนเป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งสิ้น !

“เหอะเหอะ!”

ชายในชุดคลุมฉีกยิ้มแปลกๆ แล้วหันหลังเดินออกไป:“ป๋า คราวหน้าจะเข้าข้างก็อย่างแสดงออกให้มันชัดเจนแบบนี้ มันไม่ดี”

“นายท่าน……” ท่าทีของป๋าชะงัก คำพูดต่างๆก็ถูกกลืนเข้าไปอีกครั้ง

ภายในคุกNO.9

เฉินตงที่กลับเข้ามา ก็ทรุดตัวลงกับพื้น

หมียักษ์กับแนชวิลล์และคนอื่นๆก็กรูกันเข้ามา

เฉินตงยกมือขึ้น และห้ามไม่ให้พวกเขาพูดอะไร

เขาเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าที่ซีดเซียวมีรอยยิ้มแห้งปรากฏ :“ซี่โครงถูกงูเหลือมหักไปซี่หนึ่ง กระดูกหัวไหล่ซ้ายน่าจะร้าว และมีอีกหลายที่ที่น่าจะร้าวด้วยเหมือนกัน”

โครม!

คำพูดนั้นทำให้หมียักษ์และคนอื่นๆตกใจจนหน้าถอดสี

นี่เป็นเพียงเวทีที่สี่ กระดูกซี่โครงก็หักแล้ว และอีกหลายจุดที่ร้าว

แล้วต่อไป จะสู้ศึกยังไง ?

“คุณเฉิน สังเวียนต่อไปสู้กับทูตสวรรค์ดำเถอะ ?”

หมียักษ์เสนอแนะ เขาได้พูดคุยกับทูตสวรรค์ดำแล้ว ขอแต่เฉินตงเลือกทูตสวรรค์ดำ เวทีต่อไปจะเป็นการต่อสู้ที่ไม่ต้องหวั่นวิตกกังวลอะไร และเฉินตงเองก็ยังสามารถพักฟื้นได้อีกวัน

“ไม่ ไม่ต้อง ฉัน……”

ดวงตาของเฉินตงฉายแววมุ่งมั่น เพียงพูดไปได้ครึ่งทาง ใบหน้าที่ซีดเผือดก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

“พรืด!”

เลือดแดงพุ่งออกมา แปดเปื้อนไปทั่วพื้น

ภายในห้องขัง เงียบสนิท

ในที่สุด เฉินตงก็ยิ้มแห้งออกมา :“หมียักษ์ เอาตามที่นายพูดแล้วกัน”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset