Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 251 ปูทางที่มีขวากหนาม?

ภายในห้องขัง

เงียบสงบ

แนชวิลล์และคนอื่นๆต่างก็นั่งกันเงียบๆ ต่อให้มีการพูดคุยกัน ก็เป็นเพียงเสียงกระซิบกระซาบเท่านั้น

เพราะกลัวจะเสียงดังจนไปกวนการพักผ่อนของเฉินตง

ในเวลาสั้นๆเพียงสิบวันนี้ ในใจของแนชวิลล์และคนอื่นๆเฉินตงกลายเป็นผู้ที่อยู่สูงเกินเอื้อม ทำให้พวกเขาต่างหวั่นเกรง

ที่ที่ผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นที่ได้รับความเคารพ

ยิ่งไปกว่านั้น ชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ไม่คิดชีวิต เพื่อปกป้องสิ่งที่ตัวเองรัก

ถูกคุมขังในคุกมืดนี้นานวันเข้า ก็ทำให้คนเปลี่ยนไปได้

เฉกเช่นสุนัขเร่ร่อนบนท้องถนน เร่ร่อนนานวันเข้า ก็จะเคยชิน เคยชินกับการละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง สนใจแค่เพียงชีวิตเท่านั้น

แต่เฉินตง ไม่เหมือนคนอื่น

เพราะความไม่เหมือนนี้ ทำให้แนชวิลล์และคนอื่นๆ ต่างก็ทั้งยำเกรงและเกรงกลัว

การยอมแพ้มันเป็นเรื่องง่าย แต่การมุ่งมั่นตั้งใจนั้นเป็นเรื่องยาก

การต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ มันเกี่ยวพันกับความเป็นความตายของเฉินตง

หากเวลานี้พวกเขารบกวนการพักผ่อนของเฉินตง ก็อาจจะส่งผลกระทบกับการขึ้นเวทีสังเวียนในวันพรุ่งนี้ของเฉินตงได้

แต่ ความเงียบในตอนนี้

เมื่อหมียักษ์โผล่มา ก็ทำมันพังลงทันที!

“ไม่ได้การละ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ทั้งคุกมืดนี้สะเทือนหมดแล้ว !”

หมียักษ์พุ่งพรวดเข้ามาในห้องขัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ

ในคุกมืดนี้ นักโทษธรรมดาจะถูกคุมขังอย่างเข้มงวด แต่เมื่อแข็งแกร่ง ก็จะมีสิทธิพิเศษ

เฉินตงตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล

อันที่จริงแล้ว เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลตามร่างกาย เขาเองก็ไม่ได้หลับสนิทมันสักเท่าไร

เมื่อเห็นหมียักษ์มีอาการตื่นตระหนก ใจของเฉินตงก็วูบไหว

หมียักษ์เป็นอดีตจ่าฝูงของคุกNO.9 สถานะของเขาก็มีตำแหน่งที่สูง สภาวะอารมณ์ที่นิ่งยากที่จะตื่นตระหนกกับเรื่องใดๆได้

ยิ่งไปกว่านั้น ยังยั้งสติไม่อยู่แบบนี้

“เกิดอะไรขึ้น?”

เฉินตงหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง

หมียักษ์ปาดเหงื่อบนหน้าผาก พูดด้วยความหวาดกลัวไปว่า :“คุกNO.1เกิดเรื่องแล้ว!”

“คนคนนั้น?”เฉินตงเข้าใจได้ในทันที

คุกNO.1เกิดเรื่อง จนทำให้หมียักษ์เหมือนถูกไฟรนก้นได้แบบนี้ โอกาสที่จะเป็นเขาคนนั้นคนคนแรกในคุกมืด !

เมื่อได้ยินคำนั้น

แนชวิลล์และคนอื่นๆก็สงสัยเช่นกัน

“ใช่!”

หมียักษ์พยักหน้าอย่างจริงจัง:“เมื่อกี้นี้ ตอนที่เฉินตงกับทูตสวรรค์ดำอยู่บนเวที คนคนนั้น ก็ไปที่เรือนจำอื่นๆอย่างเงียบๆ และจากนั้น……”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ท่าทีของหมียักษ์ก็ทั้งตกใจและตื่นเต้น ทำให้ยากที่จะเข้าใจได้

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า :“คนคนนั้นกำจัดกับจ่าฝูง ในทุกเรือนหมดแล้ว !”

โครม!

คำพูดนั้นราวกับฟ้าผ่า

แม้ว่าหมียักษ์จะพยายามเก็บเสียงมากที่สุดแล้ว แต่ก็ยังทำให้เฉินตงและคนอื่นๆ รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าตอนกลางวัน

“มันจะเป็นไปได้ยังไง?”

แนชวิลล์โพล่งออกมา แต่หน้าผากก็เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

จ่าฝูงของสิบคุกที่เสียงดังต่างก็เป็นน้ำบ่อที่ไม่ยุ่งกับน้ำคลอง และยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน อาทิเช่นหมียักษ์กับหมาป่าละโมบ และทูตสวรรค์ดำ

แม้ว่าจ่าฝูงในคุกNO.1จะอยู่เหนือการคาดการณ์ และถูกขนานนามว่าเป็นคนแรกในคุกมืด น้อยครั้งที่จะผูกมิตรไมตรีกับจ่าฝูงในเรือนจำอื่น

แต่ก็ไม่เคยมีความแค้นอะไรกัน และก็ไม่น่าที่จะฆ่าจ่าฝูงอื่นๆในเรือนจำได้ ในเพียงวันเดียว !

ต้องรู้ว่า ต้นไม้ที่สูงย่อมต้องลมคนที่มีชื่อเสียงก็ย่อมดึงดูดความสนใจ การกระทำนี้ คงต้องการที่จะสร้างศัตรูในคุกมืดอย่างไม่ต้องสงสัย!

จ่าฝูงคนอื่นๆที่เหลือก็จะอาศัยความสัมพันธ์นี้เพื่อประโยชน์ แล้วมารวมตัวกัน

ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ คุกมืดยอมรับการมีตัวตนของคนคนแรก ก็จะไม่ปล่อยให้คนคนแรกนั้นก่อความรุนแรงอย่างไม่มีศีลธรรม!

แนชวิลล์ถอนหายใจ แล้วพูดต่อไปว่า :“สิบคุกที่เสียงดังต่างก็ร่วมมือกันเพื่อตอบโต้ ช่วยกันหยุดยั้ง การกระทำของคนคนแรกนั้นย่อมจะนำไปสู่การปราบปรามจากเบื้องบนอย่างแน่นอน เขาคนเดียวบังคับจ่าฝูงทั้งหมดให้ยืนอยู่ในฝั่งเดียวกัน นี่เป็นข้อห้ามใหญ่ในคุกมืด!”

แต่แล้ว

เสียงที่เพิ่งจะเงียบไป

นอกห้องขัง ทันใดนั้นก็มีเสียงโห่ร้องดังขึ้นมา

“เรื่องใหญ่แล้ว!เรื่องใหญ่แล้ว!เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!คนคนแรกจัดการกับจ่าฝูงทั้งสี่ คุกมืดสั่นสะเทือนแล้ว!”

โครม!

ภายในคุกNO.9 เกิดความแตกตื่น

นักโทษทุกคนต่างก็ตกใจ เกิดการพูดคุยถกเถียงกันเสียงดังอึกทึก จนหนวกหูไปหมด

แนชวิลล์ที่อยู่ในห้องขังเผยอปากออกเล็กน้อย ด้วยอาการสั่น ราวกับรู้สึกหายใจไม่ออก

ที่แท้……ก็เป็นเรื่องจริง!

หมียักษ์ชำเลืองไปที่แนชวิลล์ :“ยังไงฉันก็เคยเป็นจ่าฝูงในคุกNO.9 ข่าวใหญ่แบบนี้ จะพูดเรื่อยเปื่อยได้งั้นเหรอ?

“ใช่ เรื่องนี้มันน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับฉัน?”

เฉินตงขมวดคิ้วแน่น ก้มหน้าแล้วครุ่นคิด

แม้ว่าภายนอกจะนิ่งสงบ แต่ในใจลึกๆของเขา กลับเหมือนมีคลื่นลูกใหญ่ซัดสาด

“ใช่!”

หมียักษ์พยักหน้า และพูดด้วยท่าทีเคร่งขรึมไปว่า:“คนคนแรกนั้นลงมือ แล้วจัดการกับจ่าฝูงทั้งสี่ ทำให้เฉินตงไม่ต้องขึ้นสังเวียนต่อสู้ถึงสี่นัด เหลือเพียงการต่อสู้กับคนคนแรกสังเวียนเดียวเท่านั้น !”

คำพูดของเขาฟังดูเรียบง่าย แต่ทุกคนต่างก็เข้าใจความหมายนั้นดี

สังเวียนชีวิตที่จะได้ออกไปจากคุกมืดนี้ ต้องเอาชัยชนะให้ได้ในสิบยกสิบเวที !

ด้วยสภาพร่างกายในตอนนี้ของเฉินตง ไม่สามารถที่จะเอาชนะได้สิบเวทีติดต่อกัน

หรือแม้กระทั่ง เว้นการต่อสู้กับคนคนแรกไว้ สังเวียนสี่ยกที่กำลังจะเกิด ก็ทำให้เฉินตงจบชีวิตบนเวทีได้

แต่การลงมือของคนคนแรกนั้น ก็เพื่อปูทางที่มีหนามข้างให้กับเฉินตงอย่างไม่ต้องสงสัย

ขอแค่เฉินตงขึ้นสังเวียนเอาชนะคนคนแรกได้ก็สามารถออกไปจากคุกมืดได้

“คนคนแรกกำลังช่วยคุณเฉิน?”แนชวิลล์ตกใจอย่างอธิบายไม่ถูก

เฉินตงกับหมียักษ์มองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างก็เห็นความสับสนในแววตาของกันและกัน

ข้อสงสัยเดียวกันนี้ ไม่ใช่มีเพียงแค่แนชวิลล์และหมียักษ์เท่านั้นที่สงสัย

แม้แต่เฉินตงเอง หากไม่เพราะไม่รู้จักกับคนคนแรก เขาก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน

เพราะคนคนแรกต้องการจะช่วยเขา เป็นไปได้เหรอ ?

และในเวลาเดียวกันนั้น

สำนักงานที่กว้างขวางและโอ่อ่า

เวลานี้ก็เงียบกริบ

ชายในเสื้อคลุมนั่งเงียบอยู่บนโซฟาหนังสีดำ ใช้ผ้าพันบาดแผลตามร่างกายอย่างเงียบ ๆ

ทุกการเคลื่อนไหว เป็นไปอย่างเชื่องช้า และไม่มีทีท่าสะทกสะท้านอะไร

แผลที่มี เต็มไปทั่วร่างกายทั้งบนและล่าง บางที่ที่ยังไม่ทันได้ทำแผล ก็มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

เลือดสีแดงไหลหยดลงไปที่พื้น จนพื้นอาบไปด้วยเลือด

และภาพนี้ ก็ทำให้บรรยากาศภายในสำนักงานตึงเครียดขึ้นมาทันที

ในอีกด้านหนึ่ง ป๋าและคนอื่นๆอีกสิบชีวิตต่างก็จ้องมองดูภาพๆนี้ ใบหน้าของแต่ละคนเงียบสงบ และคิ้วขมวดกันแน่น

ยากที่จะจินตนาได้ว่า คนจำนวนมากมารวมตัวกันแบบนี้ แต่กลับไม่เสียงใดๆ

มีเพียงเสียงของชายในเสื้อคลุมที่นั่งพันแผลตัวเองอย่างเงียบๆ

คนคนเดียวที่จัดการกับจ่าฝูงทั้งสี่เรือนจำ และมีเพียงบาดแผล“เล็กน้อย”เท่านี้ คิดว่าก็คงจะมีเพียงแค่ชายตรงหน้าที่ทำได้ ?

“ทำไม?”

เสียงแหบแห้งที่มาจากชายชราผมหงอกในชุดสูทดังขึ้น

“อะไรทำไม?”

ชายในเสื้อคลุมที่กำลังตั้งใจพันแผล เอ่ยถามขึ้น

ชายชราผมหงอกที่ใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ :“นี่แก ฝ่าฝืนกฎของคุกมืด !”

เขาลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ ก่นด่าแล้วชี้ไปที่ชายในเสื้อคลุม :“เฉินตงในคุกNO.9กำลังจะขึ้นสังเวียนกับจ่าฝูงในสิบคุกที่เสียงดัง แล้วออกไปจากคุกมืดนี้ เหมือนคนเมื่อสิบปีที่แล้ว แต่เขาจะทำมันไม่สำเร็จแน่ !”

“บางทีอาจจะเป็นพรุ่งนี้ หรือไม่ก็เป็นสังเวียนถัดไป เขาก็ต้องตายบนเวที แต่นายทำแบบนี้ ……”

ปัง!

ชายในเสื้อคลุมโยนผ้าพันแผลลงไปยังพื้นที่มีคราบเลือด ขัดจังหวะการพูดของชายชราผมหงอก

เขาลุกขึ้น

การกระทำที่เรียบง่าย ดึงดูดให้ป๋าและอีกเก้าคนที่เหลือกลายเป็นเหมือนศัตรูในทันที และพวกเขาก็ค่อยๆเข้าไปใกล้กับชายชราผมหงอก

“ขยะ เสียเวลา”

เสียงของชายในเสื้อคลุมเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม :“คุณไม่พอใจ พรุ่งนี้บนเวที ผมจะฆ่าเขาเอง !”

ทุกคนต่างตกตะลึง

คนเดียวที่จัดการกับจ่าฝูงทั้งสี่ เคลียร์ทางที่มีขวากหนามให้กับเฉินตง เพียงเพื่อไม่อยากจะเสียเวลา แล้วฆ่าเฉินตงให้ตายบนเวที ?

นี่มัน……

ชายในเสื้อคลุมที่จวนจะเดินไปถึงประตูก็หยุดลงอีกครั้ง

“อลิส เดี๋ยวมาที่ห้องฉันด้วย”

อลิสที่เซ็กซี่ดูเหมือนจะหายใจไม่ออก เอ่ยพูดด้วยความกังวลว่า :“เต้าจูน ตอนนี้สภาพของคุณ……”

“ฉันต้องการ!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset