Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 263 อย่าร้อง เดี๋ยวมงกุฎจะร่วงลงมา

ตอนนี้ เหมือนเวลาเดินช้าลง

เฉินตงรู้สึกว่าโลกกำลังหมุน เขารู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง และรู้สึกแน่นหน้าอกเป็นอย่างมาก

เขารู้สึกว่ากำลังเท้าของเขาอ่อนแรง เหมือนกับเท้าแต่ละข้างมีน้ำหนักเป็นพันกิโล และค่อยๆวิ่งโซเซขึ้นไปบนเวที

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

ทำให้คลับสี่ยิ่นเต็มไปด้วยความโกลาหล

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตื่นตระหนก

การรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดรัดกุม แต่ใครจะไปคิดว่า สุดท้ายคนที่เป็นฆาตกรจะเป็น “ตัวเอก” ของงานในวันนี้

“ฮ่าๆ……ฮ่าๆๆ……”

โจวสวนปล่อยหลี่หลาน เขากำมีดที่เปื้อนไปด้วยเลือด แล้วเดินโซเซถอยหลังไป เขามีท่าทีเหมือนคนเสียสติ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือดและน้ำตา : “หมดแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว ต่อให้ต้องตาย ฉันก็จะลากใครสักคนไปตายกับฉันด้วย”

“ตระกูลโจว……ข้ามาแล้ว !”

ตุ๊บ !

คุนหลุนที่ตามมาด้านหลัง เตะเข้าไปที่ท้องของโจวสวนทันที

เขาคว้ามีดด้วยมือเปล่า แล้วกดโจวสวนลงไปบนพื้นเวทีอย่างแรงทันที

และในเวลานี้

พวกกู้ชิงหยิ่ง กู้โก๋ฮั๋วและท่านหลง ก็รีบเข้ามาล้อมหลี่หลานที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ทันที

เฉินเต้าหลินสีหน้าซีดเผือด เขาคุกเข่าลงที่พื้นด้วยแววตาที่ว่างเปล่า แล้วดึงหลี่หลานขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด

เจ้าบ้านตระกูลเฉินผู้สูงส่ง คนที่เป็นผู้ตัดสินใจทุกอย่างในตระกูลเฉิน เป็นผู้ที่ไม่เคยก้มหัวให้ใครและไม่เห็นใครอยู่ในสายตา แต่มาบัดนี้ดวงตาของเขากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำตา

“หลาน……หลานเอ๋อ……”

น้ำเสียงของเฉินเต้าหลินสั่นเครือเป็นอย่างมาก มือข้างขวาที่สั่นเทาของเขา กุมอยู่ที่หัวใจของหลี่หลาน แต่ก็ยังไม่สามารถระงับเลือดที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องได้

“ดูแลตงเอ๋อ……ให้ดีๆ นะคะ”

ดวงตาของหลี่หลานเบิกโพลง ใบหน้าที่ซีดเผือดจ้องมองไปที่เฉินเต้าหลิน เธอยิ้มออกมาอย่างเศร้าหมอง : “ความสุข ที่ครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ฉันรอมายี่สิบปีแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่า มันจะสั้น……ขนาดนี้”

ลมหายใจที่รวยริน ทำให้เสียงพูดของหลี่หลานสั่นเครือ และหยุดเป็นระยะๆ ราวกับว่าทุกคำที่เธอพูดออกมา ต้องใช้แรงทั้งหมดที่มี

เฉินเต้าหลินตัวสั่นเทา ตอนนี้น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาของเขา มุมปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมา

อ่อนโยนจนทุกคนไม่เคยได้เห็นมาก่อน

“ได้ ผมเชื่อฟังคุณทั้งหมด”

“คุณป้า……”

กู้ชิงหยิ่งร้องไห้คร่ำครวญ เธอคุกเข่าลงแล้วกุมมือของหลี่หลานเอาไว้

“เด็กโง่ ยังจะเรียกป้าอีกหรือ ?” หลี่หลานพูดด้วยรอยยิ้ม

ริมฝีปากของกู้ชิงหยิ่งสั่นเทา และเอ่ยปากเรียกออกมา : “แม่คะ……”

คนที่อยู่รอบๆ ต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าดวงตาแดงก่ำ

ท่านหลง คุนหลุน และฟ่านลู่ ยิ่งอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

ในที่สุด เฉินตงก็เดินขึ้นมาถึงบนเวที

เขาพุ่งเข้าไปตรงหน้าของหลี่หลาน เขาดึงแม่ของเขาออกมาจากอ้อมกอดของเฉินเต้าหลินมาไว้ในอ้อมกอดของตัวเองอย่างเสียมารยาท และถึงขั้นผลักกู้ชิงหยิ่งจนล้มลงไปกับพื้น

“แม่……ไม่เป็นไรนะครับ ไม่เป็นไร แม่จะต้องไม่เป็นไร……”

เฉินตงรู้สึกหวาดกลัว เขากัดฟันแล้วอุ้มหลี่หลานขึ้นมา : “ผมจะพาแม่ไปโรงพยาบาล แม่จะต้องไม่เป็นไร จะต้องไม่เป็นไร……”

“ตกเอ๋อ ไม่มีประโยชน์หรอกลูก……”

ใบหน้าซีดเผือดของหลี่หลานเต็มไปด้วยความอ้างว้างและโศกเศร้า : “ขอโทษด้วย แม่ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนลูกได้อีกแล้ว ต่อไปก็ไม่อาจอยู่ช่วยเลี้ยงหลานได้แล้ว”

กริชของโจวสวนที่แทงลงมาตรงหัวใจ เห็นได้ชัดว่าหมายจะเอาชีวิต

หลี่หลานรับรู้ได้ว่าลมหายใจของตัวเองกำลังจะหมดลง

“ไม่เป็นไรครับ ต้องไม่เป็นไร ผม ผมจะพาแม่ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ ยังไงจะต้องช่วยแม่ได้แน่ๆ” เฉินตงมีท่าทีเหมือนคนเสียสติ เขาอุ้มหลี่หลานขึ้นมา และตะโกนด้วยความโกรธ : “คุนหลุน คุนหลุน รีบขับรถให้ฉันเดี๋ยวนี้ เร็วสิ !”

การเคลื่อนไหวที่รุนแรง ทำให้หลี่หลานกระทบกระเทือน เธอรู้สึกเจ็บปวดมากจนขมวดคิ้ว และหายใจแรง

“เฉินตง วางแม่ของลูกลง !”

เฉินเต้าหลินที่ดวงตาเต็มไปด้วยคราบน้ำตา หันไปจ้องมองเฉินตงด้วยความโกรธ : “ลูกกำลังทำให้แม่เจ็บ !”

“ผม ผมจะช่วยแม่ของผม ผมจะช่วยแม่ของผม……”

เฉินตงไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย น้ำตาของเขาไหลรินออกมาราวกับสายฝน : “ไม่เป็นไรนะครับ แม่ของผมจะต้องไม่เป็นไร”

ตอนนี้ เหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับอยู่บนหน้าอกของเขา

ความรู้สึกตำหนิตัวเอง โศกเศร้าเสียใจ และไม่อาจตัดใจได้ ผสมปนเปกันอยู่ในอกของเขาตอนนี้

เขาพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อจะจะได้กลับมา

ผลลัพธ์ที่เขาต้องการ……ไม่ใช่แบบนี้ !

ภาพของเขากับแม่ตลอดระยะเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาไม่หยุด

เขาจำได้ดีว่า ในช่วงฤดูหนาวที่หนาวเย็นที่สุด แม่ของเขาจะเอาเสื้อตัวที่หนาที่สุดในบ้านมาห่มให้กับเขา ถึงแม้ตัวเองต้องทนหนาว ก็ยังต้องออกไปเก็บขยะเพื่อหาเลี้ยงเขา

เขาจำได้ดีว่า ในช่วงตรุษจีน แม่จะยกเกี๊ยวร้อนๆ มาวางเอาไว้ตรงหน้าของเขาด้วยรอยยิ้ม และนั่นก็เป็นเกี๊ยวเพียงถ้วยเดียวที่มีอยู่ในบ้านในช่วงตรุษจีน แม่หลอกให้เขากินลงไปจนหมด

เขาจำได้ดีว่า เวลาที่คนอื่นด่าว่าเขาเป็นลูกนอกคอก แม่จะจะใช้ร่างกายอันบอบบางของเธอ เขามายืนขวางเอาไว้ และโต้เถียงกับคนคนนั้น

เขาจำได้ดีว่า แต่ละวันแม่ต้องทำงานหนักหลายอย่าง จนมือของเธอเต็มไปด้วยรอยบาดแผล ในตอนกลางคืนยังต้องรับงานเย็บปักมาทำภายใต้แสงเทียน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูเขา

……

แต่ละภาพค่อยๆ แวบเข้ามาในหัวของเขา

ใช้ชีวิตร่วมกับแม่มายี่สิบกว่าปี แม่ของเขาอดทนเพื่อเขามามากมายเหลือเกิน

ดังนั้น

เขาจึงตั้งใจทำงานอย่างหนัก ก็เพื่อให้แม่ของเขาได้มีชีวิตที่สุขสบาย

แต่หลังจากสามปีของการแต่งงาน ความเหนื่อยล้าที่แม่สะสมมาตลอดหลายปีก็ถึงจุดอิ่มตัวจนระเบิดขึ้น ในขณะที่ร่างกายของแม่ทรุดโทรมลง ก็ยังคงกล้ำกลืนฝืนทนอยู่บ้านตระกูลหวางเป็นเพื่อนเขา

กว่าจะพบกับฟ้าหลังฝนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ก้าวข้ามฝันร้ายมายี่สิบกว่าปี ในที่สุดเขาก็สามารถทำให้แม่มีชีวิตที่สุขสบายขึ้นมาได้ และในที่สุดก็ทำให้แม่ได้เห็นเขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ดีได้

แต่ทำไมจู่ๆ……ทุกอย่างถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ?

เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปีนขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้น ก็เพื่อต้องการที่จะตอบแทนแม่ได้มากขึ้น ต้องการที่จะพาแม่กลับไปที่ตระกูลเฉินอย่างเต็มภาคภูมิ

แต่ตอนนี้ จนกระทั่งตอนนี้ แม้กระทั่งโอกาสที่เขาจะล้างเท้าให้แม่สักครั้งก็ยังไม่มี

“จะต้องไม่เป็นไร ผมช่วยแม่ได้ ลูกจะต้องช่วยแม่ได้แน่นอน……”

ดวงตาของเฉินตงพร่ามัวเพราะน้ำตา เขาเห็นคอของแม่ขยับ ราวกับกำลังจะกระซิบอะไรบางอย่าง

“พรวด !”

เลือดสีแดงสดพุ่งออกมา จนสาดเต็มใบหน้าของเฉินตง

ภาพนี้ทำให้เฉินตงผงะไปทันที

และทำให้คนอื่นๆ ต่างตกใจจนหน้าถอดสี

“เฉินตง แกวางแม่ของแกลงเดี๋ยวนี้ !”

เผียะ !

เฉินเต้าหลินที่กำลังอยู่ในท่าทีที่โกรธเกรี้ยวราวกับสิงโต ตบเข้าไปที่หน้าของเฉินตงอย่างแรงหนึ่งครั้งทันที

การตบครั้งนี้ ราวกับใช้แรงทั้งหมดที่มี ถึงขั้นทำให้เฉินตงลงไปคุกเข่าอยู่บนพื้น

“แม่……”

เฉินตงไม่สนใจเลือดที่เปื้อนอยู่เต็มใบหน้า เขาร้องไห้เสียงดังออกมา

เสียงร้องของเขาเหมือนกับใจจะขาด

ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ร้องไห้ตาม

ทุกคนรู้ดีว่า บาดแผลจากการถูกแทงในครั้งนี้ ไม่มีใครสามารถช่วยชีวิตหลี่หลานได้อีก

แม้แต่ผู้อำนวยการหลิวแห่งโรงพยาบาลลี่จิงจะยืนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ก็ทำได้เพียงแค่ยืนส่ายหัวอยู่ข้างๆ เท่านั้น

“ตงเอ๋อ……”

หลี่หลานที่กำลังจะสิ้นใจ ดวงตาของเธอเบิกโพลง ปากของเธออ้ากว้างและออกแรงเพื่อพยายามหายใจ

แต่ทว่า เธอกลับค่อยๆยกมือขวาขึ้นมา แล้วค่อยๆ เช็ดน้ำตาที่เปื้อนอยู่ที่หางตาของเฉินตงเบาๆ

“ตงเอ๋อที่รัก อย่าร้อง……อย่าร้อง……เดี๋ยวมงกุฎจะร่วงลงมา……”

ริมฝีปากของเฉินตงสั่นเทา เขารู้สึกเหมือนคอของตัวเองตีบลง ขณะที่กำลังพยายามออกแรงเพื่อส่งเสียงออกมา

เหมือนกับเวลาหยุดเดินลง

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า มือข้างขวาที่แม่เช็ดน้ำตาให้กับเขา ค่อยๆ ร่วงลงไป

ตุ๊บ !

เมื่อหล่นลงไปอยู่ในกองเลือด เสียงดังราวกับเสียงฟ้าผ่า

จากนั้น ดวงตาของหลี่หลานก็ค่อยๆ ปิดลง……

“แม่ครับ……”

เฉินตงผงะไป น้ำตาที่เพิ่งถูกเช็ดจนแห้งสนิท พรั่งพรูออกมาอีกครั้ง เขาตะโกนออกมาอย่างเสียสติ : “ผม ผมไม่ต้องการมงกุฎ……ผม ผมต้องการแม่ !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset