Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 264 เฉินตงที่สงบนิ่ง

ความโศกเศร้ายังคงวนเวียนอยู่

ทุกคนต่างร้องไห้ออกมา

เฉินตงกอดหลี่หลานเอาไว้ เขากัดฟัน แต่น้ำตายังคนไหลรินออกมาราวกับสายฝน

ความทรงจำย้อนกลับเข้ามาในหัวของเขา ราวกับมีดที่ค่อยๆ เขามาเชือดเฉือนความรู้สึกของเขา

“ฮ่าๆ……ตายแล้ว ในที่สุดก็ตายแล้ว ความรู้สึกที่ครอบครัวถูกเข่นฆ่าทำลาย แกรับรู้ได้อย่างชัดเจนรึยังล่ะ ?”

โจวสวนที่ถูกกดอยู่บนพื้นหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ตาย ฉันจะให้แกตาย !”

เฉินตงมีท่าทีราวกับคนเสียสติ เขาหันหน้ากลับไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำในทันที ดูราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังโกรธจัด

จากนั้น

มีร่างร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของคุนหลุนและโจวสวน

“ส่งมาให้ฉัน !”

ฉินเย่ที่ใบหน้าเย็นชาแย่งกริชไปจากมือของคุนหลุน

จากนั้น เขาก็โน้มตัวลงมา

ฉึบ !

กริชปักลงไปบนเสื้อกั๊กของโจวสวน

เลือดสีแดงสาดกระเซ็นใส่ใบหน้าของฉินเย่ แต่ท่าทีของเขายังคงเย็นชา

น้ำเสียงเย็นชาของเขาดังก้องไปทั่วเวที

เป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าจับใจ

“แม่ของเขาทำอะไรผิดต่อแกกัน ? แกลงมือกับผู้หญิงคนหนึ่ง ศพของแกควรจะถูกตัดออกเป็นหมื่นๆ ชิ้น !”

ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น กริชที่อยู่ในมือของฉินเย่ ก็กระหน่ำแทงอยู่ในเสื้อกั๊กของโจวสวนอย่างบ้าคลั่ง

แต่กระทั่งในลำคอของฉินเย่ก็ส่งเสียง “โฮกๆ” ออกมา ดวงตาของเขาแดงก่ำ ท่าทีของเขาราวกับคนเสียสติไปแล้ว

ภาพนี้ทำให้คุนหลุนตะลึงงัน

และทำให้คนอื่นๆ ต่างก็ยืนมองอย่างตกตะลึง

ความโหดเหี้ยมเช่นนี้ ราวกับปีศาจที่มาอยู่ในโลกมนุษย์ ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น

ไม่มีใครคาดคิดว่า ฉินเย่จะชิงลงมือก่อนเฉินตง

“ฉินเย่ หยุดเดี๋ยวนี้ คุณรีบหยุดเดี๋ยวนี้ !”

ท่านหลงลืมความโศกเศร้าไปชั่วขณะ เขารีบวิ่งเข้าไปหาฉินเย่ด้วยความตกใจ จากนั้นจึงกอดฉินเย่ไว้จากทางด้านหลัง แล้วพยายามดึงให้เขาถอยหลังออกมาอย่างสุดกำลัง

แต่ฉินเย่กลับมาท่าทางราวกับสัตว์ร้ายที่เสียสติไปแล้ว เขาผลักท่านหลงล้มลง กริชที่อยู่ในมือของเขาก็ยังคงกระหน่ำแทงไม่หยุด

เสียงแหบพร่าของเขาดังออกมาจากในลำคออย่างต่อเนื่อง และเอาแต่เอ่ยถามซ้ำๆ ไม่หยุด : “ฆ่าแม่ของเขาทำไม ?”

“คุนหลุน ห้ามเขาเอาไว้ !”

ท่านหลงตะโกนด้วยความโกรธ

คุนหลุนตั้งสติได้ ก็รีบเตะฉินเย่ลอยกระเด็นออกไปทันที

แต่ฉินเย่กลับพลิกตัวแล้วยืนกลับขึ้นมา และพุ่งเข้าไปหาโจวสวนที่สิ้นใจไปนานแล้วอีกครั้ง

ทันใดนั้น มีร่างร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าฉินเย่

“เฉินตง หลีกไป !”

ดวงตาของฉินเย่แดงก่ำราวกับปีศาจ เขาตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น : “มันฆ่าแม่ของนาย ควรถูกสับออกเป็นหมื่นๆ ชิ้น !”

พึ่บ !

เฉินตงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาดึงฉินเย่เข้ามากอดเอาไว้

เขาพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น : “พอแล้ว น้องชาย”

“ยังไม่พอ นี่มันยังน้อยเกินไป มันฆ่าแม่ของนายนะ ! นายไม่มีแม่แล้ว……” ฉินเย่พยายามดิ้นรน แล้วตะโกนกู่ร้องเสียงดังออกมา

ตุ๊บ !

เฉินตงใช้ด้ามของกริชทุบเข้าที่ท้ายทอยของฉินเย่จนเขาสลบไป

“พอแล้ว……จริงๆ”

น้ำเสียงของเฉินตงเคร่งขรึมอย่างมาก

หลังจากที่เขายกฉินเย่ให้ท่านหลงดูแลต่อ เขาก็หันหลัง แล้วเดินกลับไปที่ร่างของแม่เขา

หลังจากอุ้มหลี่หลานขึ้นมาแล้ว เขาก็พูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า : “แม่ครับ……ผมจะพาแม่กลับบ้านนะครับ”

จากนั้น

ขณะที่เพิ่งจะก้าวเท้าเดิน จู่ๆ ร่างกายของเฉินตงก็อ่อนแรง เขาเดินโซเซและล้มลงทันที

“เฉินตง !”

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก และรีบวิ่งกรูกันเข้าไปทันที

……

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป

หลี่หลานถูกฝัง โดยมีเฉินเต้าหลินเป็นผู้ประกอบพิธี

ภายในเขตวิลล่าเขาเทียนซาน ทุกอย่างยังคงดูหดหู่

บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ห้องรับแขก ทุกคนหันมองหน้ากัน ใบหน้าเต็มใบด้วยความกังวล

“อาทิตย์นี้เขาขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งอาทิตย์เลยหรือ ?”

ใบหน้าของเฉินเต้าหลินแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าและเศร้าโศก แต่ยังเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

ตลอดหนึ่งสัปดาห์มานี้ ตั้งแต่งานมงคลอันยิ่งใหญ่จนถึงโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าบ้าน มีเรื่องมากมายที่เขาต้องรีบจัดการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ถึงขั้นไม่มีเวลาแวะเข้ามาที่วิลล่าเลย แม้กระทั่งเวลาที่จะนอนพักก็ยังไม่มี

“หนึ่งสัปดาห์แล้วครับ มีแต่ตอนที่ฝังคุณผู้หญิงเท่านั้นที่เขายอมออกมา”

ใบหน้าของท่านหลงเต็มไปด้วยความกังวล : “อีกอย่างนายท่านครับ ท่านก็ได้เห็นอาการที่คุณชายแสดงออกมาในตอนนั้นแล้ว ดูสงบนิ่งจนน่าตกใจ”

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ พวกกู้ชิงหยิ่ง ฉินเย่ และคุนหลุน ต่างก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาทันที

“ทั้งงานมงคลและโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ คงจะทำให้เฉินตงรู้สึกช็อกไม่น้อย” แววตาของกู้โก๋ฮั๋วลึกซึ้ง คิ้วของเขาขมวดแน่น

หลี่หวั่นชิงถอนหายใจออกมา แล้วหันมองกู้ชิงหยิ่ง : “เสี่ยวหยิ่ง สถานการณ์ของเฉินตงในตอนนี้ เขาต้องการลูก ลูกต้องช่วยชี้ทางสว่างให้เขาหน่อย”

กู้ชิงหยิ่งกล่าวด้วยใบหน้าที่โศกเศร้าและดวงตาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา : “หลายวันมานี้หนูก็คอยอยู่เป็นเพื่อนเขา และพยายามพูดชี้ทางสว่างให้เขา แต่ตอนนี้แม้กระทั่งหนูเขาก็ไม่ยอมพบหน้าแล้ว และไม่ยอมฟังในสิ่งที่หนูพูดอีกด้วย”

ตลอดหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ กู้ชิงหยิ่งคอยอยู่ข้างกายเฉินตงไม่ห่าง

เพราะเขารู้สึกความสัมพันธ์ระหว่างแม่และเฉินตงดี ดังนั้นจึงกลัวว่าเฉินตงจะคิดสั้น

แต่หลังจากที่หลี่หลายตายไป และเฉินตงฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล ก็ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เขานิ่งสงบจนกู้ชิงหยิ่งรู้สึกกลัว

เขาไม่สนใจไยดีเธอแม่แต่น้อย ไม่แม้แต่จะพูดตอบกลับเธอมาสักประโยค

เฉินตงทำตัวราวกับกำลังขังตัวเองเอาไว้ในเปลือกหอย แล้วให้คนอื่นๆ อยู่เพียงแค่ด้านนอก

และหลังจากที่หลี่หลานถูกฝังเรียบร้อยแล้ว เฉินตงก็กลับมาด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ แล้วตรงกลับเข้าไปที่ห้องของเขาทันที หลังจากที่ผลักเธอออกมาจากห้องแล้ว เขาก็ล็อกประตูห้องจนสนิท

ความรู้สึกที่ไร้พลังเช่นนี้ ทำให้กู้ชิงหยิ่งแทบจะทรุดตัวลง

“หากคุณชายยังคงเก็บกดอยู่อย่างนี้ จะต้องเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแน่นอน อาจถึงขั้นทำให้อารมณ์ของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ท่านหลงถอนหายใจออกมา แล้วหันมองเฉินเต้าหลิน : “คุณท่าน คิดหาวิธีเถอะครับ !”

“ต้องโทษฉัน โทษฉันที่ดูแลพวกเขาสองแม่ลูกได้ไม่ดี”

เฉินเต้าหลินถอนหายใจออกมาด้วยความโศกเศร้า : “ฉันเป็นถึงเจ้าบ้านตระกูลเฉินที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ใครจะไปคิดว่า แม้กระทั่งลูกเมียของตัวเอง ฉันยังปกป้องไม่ได้ ไร้น้ำยาจริงๆ”

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกสิ้นหวัง

แต่ใครก็รู้ดีว่า

สภาพของเฉินตงในตอนนี้ ต้องได้รับการชี้ทางสว่างให้โดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้นจะต้องเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแน่นอน

อารมณ์ที่ได้รับการปลดปล่อยออกมา อาจจะทำให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่หลังจากได้ระบายอารมณ์ออกมาแล้ว ก็สามารถกลับไปเป็นปกติได้เหมือนเดิม

แต่อารมณ์ที่ถูกเก็บกดเอาไว้ อาจไม่เกิดความผิดปกติขึ้นในชั่วระยะเวลาอันสั้น แต่เมื่อไหร่ที่อารมณ์ถูกปลดปล่อยออกมา ก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นได้

และเฉินตง เป็นประเภทหลัง

“เฮ้อ……”

เสียงถอนหายใจดึงดูดความสนใจของทุกคน

ฉินเย่ค่อยๆ ลุกขึ้น เขาลูบใบหน้าของเขาแล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า : “ในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล ก็คงต้องใช้ไม้แข็งแล้ว พวกคุณใกล้ชิดกับเขามากเกินไป จึงทนไม่ได้ที่ต้องใช้ไม้แข็ง เช่นนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง”

“ฉินเย่……”

กู้ชิงหยิ่งอยากจะรั้งฉินเย่เอาไว้ แต่กลับถูกเฉินเต้าหลินปรามด้วยสายตา

ฉินเย่เอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า แล้วเดินไปที่หน้าห้องของเฉินตงด้วยท่าทีไม่แยแส

“พี่ตง เปิดประตูหน่อย”

แต่เสียงภายในห้องกลับเงียบสงัด

เฉินตงไม่ตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย

ฉินเย่หรี่ตาลง

ปัง !

เขายกเท้าขึ้น แล้วเตะประตูห้องให้เปิดออกทันที

เสียงดังนั้น จนทำให้กู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ด้านล่างรู้สึกตกใจจนกระโดดตัวลอยขึ้นมา เธอรู้สึกเป็นห่วงจึงอยากเดินขึ้นไปดู

แต่เฉินเต้าหลินกลับคว้าข้อมือของกู้ชิงหยิ่งเอาไว้ : “เสี่ยวหยิ่ง อย่าเพิ่งรีบร้อน”

“แต่ว่า หนูกลัวว่า……” กู้ชิงหยิ่งรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก

ในฐานะที่เป็นภรรยาของเฉินตง จู่ๆ ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้เธอเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าเฉินตงและเฉินเต้าหลิน

แต่ทว่า

ท่านหลงกลับยิ้มออกมาเล็กน้อย : “ให้ฉินเย่ลองดูเถอะครับ เขากับคุณชายเป็นคนประเภทเดียวกัน”

ภายในห้อง

บรรยากาศมืดสนิท

ผ้าม่านผืนหน้าบดบังแสงอาทิตย์เอาไว้ จึงมีเพียงแค่แสงสีจางๆ ที่ลอดผ่านช่องว่างระหว่างผ้าม่านเข้ามาทั้งนั้น

กลิ่นของเหล้าและบุหรี่ตลบอบอวลอยู่ภายในห้อง จนรู้สึกแสบจมูก

บนพื้นมีขวดเหล้าและซองบุหรี่วางเกลื่อนกลาดอยู่

ฉินเย่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เขาเตะขวดเหล้ากระเด็นออกไปสองสามใบ แล้วก้าวเข้าไปในห้อง

เขามองเห็นเฉินตงกำลังนั่งตัวแข็งทื่อราวกับท่อนไม้อยู่ข้างๆ เตียง กำลังกอดรูปถ่ายที่เก่าจนซีดใบหนึ่งโดยไม่ขยับเขยื้อน

ฉินเย่ยิ้ม แล้วเดินเข้าไปหาเฉินตง

ฟึ่บ !

เขาจุดบุหรี่ขึ้นสองม้วน ม้วนหนึ่งใส่เข้าไปในปากของเฉินตง จากนั้นตนเองก็นั่งลงด้วยเช่นกัน

เขาหยิบเหล้าที่วางอยู่ข้างๆ เฉินตงขึ้นมาดู : “เหล้า XO ปี 12 ? นายนี่รสนิยมดีไม่เบาเลยนะ “

เฉินตงไม่พูดไม่จาและไม่เคลื่อนไหว

ฉินเย่พูดเองเออเองว่า : “เมื่อก่อนนายสูบบุหรี่ไม่เป็น แต่ตอนนี้กลับหัดสูบบุหรี่จนช่ำชองแล้วหรือ”

เฉินตงยังคงไม่พูดไม่จา และไม่เคลื่อนไหว

ภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์สั้นๆ ร่างกายของเขาทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด

ใบหน้าของเขาซูบผอมจนเผยให้เห็นกระดูก : “ช่างน่าหดหู่”

“ตอนนี้รู้สึกเหมือนตกอยู่ในนรกใช่ไหม ?”

ฉินเย่พิงลงไปที่เตียง มือทั้งสองข้างของเขาวางพาดลงบนเตียง คาบบุหรี่เอาไว้ในปากแล้วพูดว่า : “จริงๆ แล้ว ฉันเองก็เคยเป็นแบบนายมาก่อน เคยตกลงไปอยู่ในขุมนรก แต่ฉันปีนออกมาแล้ว ฉันคิดว่านายจะเป็นคนประเภทเดียวกันกับฉันเสียอีก แต่สุดท้ายก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี นายไม่สามารถปีนออกมาจากขุมนรกได้”

ห้องที่เงียบสงัด

มีควันของบุหรี่สองมวลลอยโขมงอยู่

เสียงที่ฟังดูเคร่งขรึมและอ้างว้างค่อยๆ ดังขึ้น

“ดังนั้น นายก็เลยช่วยฉันฆ่ามันใช่ไหม ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset