Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 272 กำหนดเวลาสามวัน

พรวด……

เสียงเหล้าที่ถูกเทลงบนพื้นดังชัดเจน

สีหน้าของแขกทุกคนในงานเปลี่ยนไปทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก

งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณท่านใหญ่ตระกูลฉิน แต่กลับอวยพรให้คุณท่านใหญ่ตระกูลฉินไปสู่สุคติอย่างนั้นหรือ ?

ต้องมีความแค้นต่อกันมากขนาดไหนกัน ? ต้องมีความเกลียดชังต่อกันมากขนาดไหนกัน ?

ฉินเสี่ยวเชียนตัวสั่นเทา เธอหันไปมองเฉินตงด้วยความประหลาดใจ

ส่วนฉินเย่ที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งกลับตบไหล่เธอเบาๆ เพื่อส่งสัญญาณให้เธออยู่เฉยๆ

ภายในห้องโถงด้านหน้า

ดูเหมือนบรรยากาศภายในห้องจะเย็นยะเยือกจนถึงจุดเยือกแข็ง

ตอนนี้ทุกคนต่างรับรู้ได้ถึงความอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเฉินตง

เต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ยโสโอหัง และเผด็จการ

เป็นท่าทีที่แสดงออกอย่างชัดเจน

มือทั้งสองข้างของคุณท่านใหญ่ตระกูลฉินถือขวดเหล้าเอาไว้แน่น ใบหน้าเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง แววตาของเขากำลังปั่นป่วน ราวกับสัตว์ร้ายที่จ้องจะกินคน

“เฉินตง คุณไม่เห็นหรือว่าที่นี่คือที่ไหน !”

ฉินเห้อเหนียนตะคอกออกมาด้วยความโกรธ ใบหน้าของเขาบูดบึ้งอย่างที่สุด : “ต่อให้เป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน ก็ไม่กล้าดูถูกเหยียดหยามตระกูลฉินของเราขนาดนี้ !”

ทันใดนั้นเอง

บรรดาทายาทตระกูลฉินที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา ก็ค่อยๆ เดินล้มวงเข้ามาหาพวกของเฉินตง ด้วยท่าทีราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังกระหายเลือด

เมื่อประโยคที่ว่า “ขอให้ไปสู่สุคติถูกพูดออกไป”

ทำให้ตระกูลฉินไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ?

ตระกูลฉินเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในซีสู่ ตระกูลใหญ่ต่างนับหน้าถือตา จะปล่อยให้ดุถูกกันเช่นนี้ไม่ได้ !

แทบจะในเวลาเดียวกัน

คุนหลุนค่อยๆ ลุกขึ้น เขาเหลือบไปมองบรรดาทายาทของตระกูลฉินด้วยสายตาอำมหิต

เพียงเท่านี้ก็พอจะทำให้บรรดาทายาทของตระกูลฉินต่างรู้สึกหวาดกลัว และถอยร่นไป

ส่วนเฉินทงเองก็ลุกขึ้นพร้อมกัน และหันมองรอบข้างอย่างระมัดระวัง

“เห้อเหนียน……”

คุณท่านใหญ่ตระกูลฉินหน้าถอดสี เขากำลังจะดื่มเหล้าให้หมดในทันที

แต่ฉินเห้อเหนียนกลับก้าวเข้าไป แล้วยื่นมือไปคว้าแก้วเหล้าที่อยู่บนโต๊ะ และโยนลงบนพื้นอย่างแรง

เพล้ง !

เสียงแก้วเหล้าแตกกระจัดกระจายบนพื้น

ทันใดนั้น

มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกห้องโถง เฉินซวนพาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สวมใส่ชุดสูทเดินบุกเข้ามาจำนวนสิบกว่าคน

บรรยากาศเต็มไปด้วยความโกลาหลขึ้นมาทันที

“ตีให้พิการ แล้วจับโยนออกไป !”

ฉินซวนอยู่ในท่าทีดุร้าย เมื่อเขาเข้ามาในห้องโถง ก็ชี้นิ้วไปทางพวกของเฉินตงและตะโกนสั่งการด้วยความโกรธทันที

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคน ค่อยๆ พุ่งตรงเข้าไปหาพวกของเฉินตง

“หา !”

ฉินเสี่ยวเชียนตกใจจนหน้าถอดสี

เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย ทำให้เธอรู้สึกตกใจจนถึงขีดสุด

จู่ๆ ก็มีมือใหญ่ยื่นมาคว้าเธอเข้าไปในอ้อมกอด เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง : “พี่เย่”

“อยู่นิ่งๆ ตรงนี้ อย่าขยับ !”

ฉินเย่พาฉินเสี่ยวเชียนเข้าไปหลบที่มุม จากนั้นจึงหันหลังกลับมาแสยะยิ้มหนึ่งครั้ง แล้วพุ่งตรงเข้าไปหากลุ่มคน

ในขณะเดียวกัน

เฉินตง คุนหลุน และเฉินทงก็ตรงเข้าต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนนั้น

คุนหลุนอาศัยร่างกายที่กำยำแข็งแกร่ง ผลักโต๊ะให้ลอยออกไปในอากาศ เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถอยร่นไป เข้าก็ดึงเก้าอี้สองตัวขึ้นมา แล้ววิ่งเข้าไปในวงล้อมเพื่อต่อสู้รอบทิศทางทันที

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฝีมือดี เมื่ออยู่ต่อหน้าคุนหลุน กลับถูกโจมตีจนล้มลงไปพร้อมกันสามคนในคราวเดียว

“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้ !”

คุณท่านใหญ่ตระกูลฉินหน้าถอดสี เขาทุบอกและกระทืบเท้าด้วยความโมโห

แต่เวลานี้การต่อสู้เป็นไปอย่างโกลาหล บรรดาแขกที่มาร่วมงานต่างวิ่งหนีกันอุตลุด สถานการณ์ในตอนนี้ยากที่จะควบคุมได้

“พ่อครับ หากพวกเรายอมทนต่อการดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้ ต่อไปพวกเราจะมีหน้าอยู่ในซีสู่ได้อย่างไร ?”

ใบหน้าของฉินเห้อเหนียนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและดุร้ายจนถึงขีดสุด

เขารู้ดีว่าแขกผู้มาเยือนนั้นไม่ได้มาดี แต่ตระกูลฉินเองก็ใช่ว่าจะปล่อยให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ

เฉินตงสามารถจัดการกับตระกูลหลี่แห่งเมืองหลวงได้

แต่ตระกูลหลี่เป็นพวกหัวโบราณคร่ำครึ ไม่เหมือนตระกูลฉินของเขาที่เจริญรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า

“คุณปู่ วางใจเถอะครับ พวกเขากล้ามาดูถูกคุณปู่เช่นนี้ วันนี้พวกเขาจะต้องถูกจับโยนออกไปทีละคนๆ !” ฉินซวนพูดอย่างภาคภูมิใจ

ทันทีที่พูดจบ

แววตาของเขาก็แสดงออกถึงความตกใจทันที

สิ่งที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

มีร่างร่างหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน แล้วตรงเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ

ดูเหมือนอยู่นอกระยะประชิด

เป็นการเดินเข้ามาด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง

แต่ทว่ากลับมีรังสีของความอำมหิตแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเขาจนทำให้ฉินซวนรู้สึกใจเต้นระส่ำ

เฉินตงค่อยๆ เดินตรงมาข้างหน้า ไม่ว่าบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะพยายามโจมตีมาจากทุกทิศทางเช่นไร ก็ถูกคุนหลุนและฉินเย่สกัดเอาไว้ด้านนอกทั้งหมด

เขาแสยะยิ้มแล้วค่อยๆ หรี่ตาลง

แต่ในสมอง กลับปรากฏภาพในวันที่แม่ของเขาต้องตายอย่างน่าอนาถขึ้นมา

ทำให้เจตนาฆ่าพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง

เขาหรี่ตาลง มีเส้นเลือดสีแดงก่ำค่อยๆ ปรากฏขึ้นเต็มดวงตาของเขา

ในฐานะที่เป็นลูก การที่แม่ต้องมาตายอย่างน่าอนาถ หากเขาไม่ลงมือแก้แค้น เขาก็คงไม่ใช่คนอีกต่อไป !

“ขวางเขาเอาไว้ ขวางเขาเอาไว้เดี๋ยวนี้ !”

ฉินซวนเดินโซเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว

ในขณะเดียวกัน สมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลฉินเองก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน

ตอนนี้ สำหรับพวกเขาแล้ว การเผชิญหน้ากับเฉินตง ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรก

ทำให้ความรู้สึกหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่ว

สีหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลฉินหมองคล้ำลงทันที

เขารู้ดีว่าวันนี้คงจะต้องเกิดเรื่องร้ายขึ้น เขาจึงพยายามวางตัวให้นอบน้อมที่สุด เพื่อลดผลกระทบลงให้ได้มากที่สุด

แต่เฉินตงกลับไม่ให้โอกาสแก่เขา

มิหนำซ้ำยังจ่อมีดมาที่คอของเขาอย่างหยาบคาย

ฉีกหน้าตระกูลฉินต่อหน้าแขกทุกคน

ตุ้บตุ้บตุ้บ……

เสียงของการต่อสู้ดังก้อง พร้อมๆ กับเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่ดังเสียดแทงเข้ามาในหู

ไม่ว่าฉินซวนจะตะโกนเช่นไร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ไม่อาจเข้าใกล้เฉินตงได้

เมื่อเห็นเฉินตงค่อยๆ เดินเข้ามา

แววตาของฉินซวนก็เผยให้เห็นถึงความเกลียดชังปรากฏขึ้นมา

เขาตะโกนออกมา แล้วหยิบขวดเหล้าทุบลงกับพื้น จากนั้นจึงถือเศษขวดเหล้าที่แตกเอาไว้แน่น แล้วพุ่งตรงเข้าไปหาเฉินตง

“แกตายซะเถอะ !”

ตุ้บ !

เฉินตงยื่นมือออกไปทุบแขนของฉินซวน

กรอบ !

กระดูกหักในทันที ข้อต่อกระดูกสีขาวโผล่ทะลุออกมาอยู่ภายนอกผิวหนัง

“อ้า !”

ฉินซวนส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดออกมา สีหน้าของเขาซีดเผือด หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

“โอ๊ย !”

ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้แขกที่มาร่วมงานต่างรู้สึกตกใจโดยพร้อมเพรียงกัน

เมื่อได้เห็นแววตาของเฉินตง ก็รู้สึกหวาดกลัวจนถึงขีดสุด

อีกทั้ง

ตั้งแต่ต้นจนจบ แววตาของเฉินตงไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย

แต่กลับยิ่งดูเย็นชาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เขาใช้มือขวาของเขา จับลงบนใบหน้าของฉินซวน จากนั้นจึงกดฉินซวนลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นต่อหน้าเขา

“แค่สุนัขรับใช้ กล้าอวดดีหรือ ?”

น้ำเสียงเย็นชาที่ฟังดูราวกับดังขึ้นมาจากนรก

ทำให้ทุกคนในตระกูลฉินรู้สึกกลัวจนเสียวสันหลัง

คุณท่านใหญ่ตระกูลฉินและฉินเห้อเหนียนหน้าถอดสีทันที

ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะอ้าปากพูด

เฉินตงก็เดินเข้าไปในระยะประชิด

“แก แกจะทำอะไร……”

น้ำเสียงของฉินเห้อเหนียนสั่นเครือ สีหน้าซีดเผือด

ทำไมตระกูลฉินที่สูงส่ง จึงถูกรังแกถึงขนาดนี้ได้ ?

สิ่งที่น่าอับอายและคาดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ ในอาณาเขตของตระกูลฉิน พวกเขาเกณฑ์ทายาทตระกูลฉินมามากมาย แต่กลับต้องพ่ายให้กับคนเพียงไม่กี่คนเช่นนี้ !

เผียะ !

เฉินตงตบหน้าฉินเห้อเหนียนจนบวมเป่งและคอเอียงกระอักเลือดออกมา

“ก็จัดการกับตระกูลฉินนะสิ !”

คำพูดประโยคนี้ ทำให้ทุกคนตกใจจนหน้าถอดสี รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า

คุณท่านใหญ่ตระกูลเฉินรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เขาอยู่ในฐานะที่สูงส่งมานาน การที่เขาต้องมาเผชิญหน้ากับปีศาจอย่างเฉินตง ทำให้เขายังสามารถควบคุมสติได้อยู่บ้าง

เขากัดฟัน : “เฉินตง ! นายคิดว่าตระกูลเฉินเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า สามารถกุมทุกอย่างเอาไว้ได้ในกำมือจริงๆ หรือ ? ความแค้นในวันนี้ ฉันไม่เพียงจะทำให้นายต้องสูญเสียตำแหน่งผู้สืบทอดมรดกไปเท่นั้น แต่ฉันจะทำให้นายต้องพบจุดจบอย่างน่าอนาถอีกด้วย !”

เฉินตงหยุดชะงักทันที

เขาแสยะยิ้มออกมา

“ตระกูลฉินมีความหมายอะไรกัน ?”

“นาย……” ใบหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลฉินแดงก่ำ

ดวงตาของเฉินตงเบิกโพลงขึ้น ตอนนี้ บรรยากาศราวกับกำลังมีคลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้ามา

“ความแค้นที่ถูกฆ่าแม่นั้นใหญ่หลวงนัก แม้แต่อำนาจตระกูลฉินของพวกแก ก็เทียบไม่ได้กับความโกรธแค้นอันยิ่งใหญ่ที่ฉันมีได้ !”

“วันนี้ ฉันมามอบของขวัญด้วยตัวเอง ก็เพื่อประกาศให้ตระกูลฉินของแกได้รู้ว่า ภายในสามวัน ฉันต้องการให้พวกแกไปคารวะแม่ของฉันที่หลุมศพ และคุณท่านใหญ่ตระกูลเฉินจะต้องถือดาบยาวสามฟุตมาที่ประตูบ้านของฉัน แล้วโค้งคำนับเพื่อเป็นการขอโทษ !”

ปัง !

หลังจากพูดจบ

เฉินตงก็ใช้หมัดทุบลงไปบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ

เสียงดังสนั่นราวกับเสียงฟ้าผ่า

โต๊ะไม่แตกออกเป็นรูจนเสียงดังสนั่น เศษไม้ลอยกระจัดกระจายไปทั่ว

ทุกคนต่างอยู่ในอาการตกใจ

ความหวาดกลัวค่อยๆ แผ่ซ่าน

ในเวลาเดียวกันนี้

การต่อสู้ของพวกคุนหลุนก็สิ้นสุดลงเช่นเดียวกัน

ฉินเย่จัดเนคไทที่หน้าอกให้เข้าที่ แล้วยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย : “เสี่ยวเชียน เรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว ไปกับพี่ ที่สกปรกอย่างตระกูลฉิน อยู่ไปก็มีแต่จะทำให้เธอทุกข์ใจเสียเปล่าๆ !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset