Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 283 ผู้หญิงโหดเหี้ยมชั่วร้าย

เหตุเกิดกะทันหันอย่างยิ่ง

ทำให้ทั้งเฉินตงและกูหลัง ต่างก็ประหลาดใจขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

ทั้งสองมองไปในทิศทางที่คุนหลุนมองอย่างพร้อมเพรียง

เงาร่างงดงามสะดุดตาร่างหนึ่ง ถูกประทับสู่สายตาของเฉินตง

เรือนร่างสูงโปร่ง สวมชุดกระโปรงสีขาวพิสุทธิ์ ภายใต้แสงอาทิตย์เจิดจ้า ร่างนั้นสวมหมวกกันแดด ใบหน้าขาวละเอียดราวคริสตัลใสกระจ่าง ถูกเผยให้เห็นจากใต้ปีกหมวก

แม้จะยืนอยู่ที่นั่นไกล ๆ ก็ยังดึงดูดให้ทุกคนต่างต้องเหลียวไปมองดู

หญิงสาวที่งดงามราวประติมากรรมชั้นเอกคนนี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ให้ความรู้สึกคล้ายส่องแสงสว่างให้แก่ผู้คนในคืนอันมืดมิด เจิดจ้าจนทำให้ตาพร่า ทั้งยังมีเสน่ห์ดึงดูดความสนใจแก่ผู้คนที่ได้พบเห็น

“หน้าตาคุ้น ๆ อยู่นะ” เฉินตงขมวดคิ้วน้อย ๆ

กูหลังพึมพำว่า: “นี่ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์เฉินหยู่เฟยหรอกเหรอ?”

เฉินตงถึงกับตกตะลึงไปทันที

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยสนใจเรื่องในวงการบันเทิงมากนัก แต่ก็ยังเคยได้ยินชื่อของเฉินหยู่เฟยมาบ้าง

เพราะในปีที่ผ่านมา ชื่อของหญิงสาวคนนี้ ดังกระหึ่มไปทั่วท้องถนนน้อยใหญ่ ทุกตรอกซอกซอยต่างก็รู้จักชื่อเธอ

เฉินหยู่เฟยได้เข้าร่วมรายการประกวดเฟ้นหาดาราหน้าใหม่ ส่งผลให้เธอดังระเบิดเป็นพลุแตกในชั่วข้ามคืน เธอกลายเป็นที่นิยมด้วยความเร็วระดับติดจรวด โด่งดังจนเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศ ดึงดูดให้สื่อหลักรายงานไม่หยุด

และเนื่องจากเธอเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน จึงกลายเป็นต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจไปทั่ว อีกทั้งหลังจากที่เธอโด่งดังแล้วก็ไม่เคยลืมกำพืดตัวเอง ยังมุมานะทำงานอย่างหนักเพื่อการกุศล จนดึงดูดสื่อใหญ่ ๆ ที่เป็นสื่อทางการ ให้มาทำข่าวรายงานเรื่องของเธอได้อีกไม่น้อย

ในวงการบันเทิงยังมีบรรดาขาใหญ่ ผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลายคอยโบกธงเชียร์เธอ ทั้งยังมียักษ์ใหญ่ด้านวรรณกรรมมาขอเขียนชีวประวัติของเธอให้อีกด้วย

ดังนั้น ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงปีเดียว เธอก็ได้รับรางวัลสดุดีมากมาย เปล่งประกายเจิดจรัสดั่งมีรัศมีเทพธิดาล้อมรอบ

เรียกได้ว่า เป็นดาราหญิงที่โด่งดังที่สุดในวงการบันเทิงในตอนนี้แล้ว

“คนตระกูลเฉิน”

คุนหลุนสีหน้าหนักอึ้ง ขณะพูดประโยคนี้ออกมา: “หลานสาวสุดที่รักของคุณหญิงใหญ่เฉิน”

รอยยิ้มค่อย ๆ เลือนหายไปจากใบหน้าของเฉินตง

แน่นอนว่า ดูเหมือนการทำงานหนัก สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ก็จริง แต่โชคชะตาก็เหมือนได้จัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว

เขาเกิดในครอบครัวยากจนจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่า การที่คนจนมีลูกแล้วเลี้ยงดูให้เติบใหญ่ได้สักคนหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน

พูดตรง ๆ เลยคือ ถ้าไม่ใช่เพราะท่านหลงปรากฏตัวขึ้นมาช่วย “เปลี่ยนแปลงโชคชะตา”ของเขาไป ชีวิตนี้เขาคงต้องล้มลุกคลุกคลานไปทั้งชีวิตแล้ว เดาเอาว่าเขาคงเป็นได้แค่รองประธาน หรือไม่ก็เจ้าของบริษัทเล็ก ๆ สักแห่งเท่านั้น โดยพื้นฐานแล้วคงแทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะเปลี่ยนไปเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้มากกว่านั้น

คำพูดประโยคนั้นของคุนหลุน เผยให้รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไม เฉินหยู่เฟยถึงได้โด่งดังเป็นพลุแตกขึ้นมาได้ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี

ด้วยเกียรติของหลานสาวสุดที่รักเพียงคนเดียว ของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ต่อให้เฉินหยู่เฟยจะมีชื่อเสียงโด่งดังจนไปถึงดวงจันทร์ เฉินตงก็จะไม่แปลกใจเลยสักนิด

ย้อนกลับไปที่โรงพยาบาลลี่จิง

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินตงค่อย ๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

“คุณชาย เธอมาทางนี้แล้ว”

เสียงของคุนหลุนดังก้องอยู่ในหูของเขา

เมื่อเฉินตงหันหน้าไปดู เขาเห็นร่างงดงามแสนสง่านั้นค่อย ๆ เดินเยื้องย่างมาทางนี้ ด้วยย่างก้าวอันสูงส่งเป็นสง่าน่าพิสมัย

ผู้หญิงที่งดงามราวประติมากรรม ไม่ว่าจะเป็นคำพูดคำจา กิริยามารยาทและการวางตน ก็ล้วนเผยให้เห็นความงามสง่า ประดุจราชินีนกยูงผู้สูงศักดิ์อยู่เหนือคนทั่วไป ชนิดไม่มีวันเอามาเปรียบเทียบกันได้

กิริยามารยาทเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนที่ยากคนจน จะสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองขึ้นมาได้ภายในระยะเวลาเพียงชั่วข้ามคืน

ทุกคนระหว่างทางอดไม่ได้ที่จะหยุดดู บางคนที่ได้เห็นก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีกระตือรือร้น

คนที่เริ่มรู้สึกตัวว่าเป็นดาราดังอย่างเฉินหยู่เฟย ก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้

เฉินหยู่เฟยดูจะคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ จึงไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเลยสักนิด

เมื่อเธอเดินไปถึงตรงหน้าเฉินตง ก็แย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วยื่นมือที่ขาวละเอียดดั่งหยก ที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อสีขาวกระจ่างออกไป: “พี่ตง ฉันชื่อเฉินหยู่เฟยค่ะ”

ฉากนี้

ทันใดนั้น ฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ก็อุทานออกมาเสียงดังอื้ออึง

โอ้วมายก๊อด !

ซูเปอร์สตาร์เฉินหยู่เฟย มาปรากฏตัวที่นี่เพื่อผู้ชายคนนี้น่ะเหรอ?

แต่เมื่อทุกคนเห็นรูปร่างหน้าตาของเฉินตงแบบชัด ๆ ความกลัวในใจพวกเขาก็คลายลงไปได้เล็กน้อย

เพราะถึงอย่างไร รูปร่างหน้าตาของเฉินตง ก็ไม่ใช่ธรรมดาสามัญอย่างที่เห็นกันได้ดาษดื่น

แต่ในไม่ช้า ทุกคนก็ตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง

ข่าวใหม่!

แถมเป็นข่าวใหญ่ซะด้วย!

แสงแฟลชสว่างวาบขึ้นรัว ๆ ไม่ยั้ง

หลังจากนั้น สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจก็คือ

เฉินตงไม่ได้ยื่นมือออกไปจับมือเฉินหยู่เฟย แต่กลับถามอย่างใจเย็นว่า “เรื่องท่านหลง เป็นฝีมือเธองั้นเหรอ?”

เสียงเบามากจนคนที่อยู่รอบ ๆ ได้ยินไม่ชัด

แต่เมื่อได้เห็นเฉินหยู่เฟยลดมือขวาของเธอลงด้วยท่าทางผิดหวัง ทุกคนต่างก็ตกใจสุดขีด

“โอ้ พระเจ้า! ผู้ชายคนนี้เป็นใคร ซูเปอร์สตาร์เฉินหยู่เฟยเป็นฝ่ายขอจับมือเขาแท้ ๆ แต่เขากลับปฏิเสธดื้อ ๆ แบบนี้เลยน่ะเหรอ?”

“จุ๊ ๆ ๆ … ช่างโหดเหี้ยมแท้ พี่ชายคนนี้จะต้องเป็นคนที่โหดเหี้ยมมากแน่ ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเฉินหยู่เฟยถูกคนปฏิเสธเลยนะเนี่ย”

“ข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ของวันนี้เลยนะเนี่ย เฉินหยู่เฟยมาปรากฏตัวที่โรงพยาบาลลี่จิง เพียงเพื่อจะมาพบกับผู้ชายคนนี้ แต่ผู้ชายคนนี้กลับปั้นปึงเย็นชาใส่ เป็นไปได้มั้ยว่า.…”

………….

ปากคนก็เหมือนปากกา ในเวลานี้ แต่ละคนต่างก็เริ่มเติมเต็มโครงเรื่องกันเองอย่างสนุกปากแล้ว

เฉินหยู่เฟยมองไปรอบๆ คิ้วขมวดน้อย ๆ พูดขึ้นว่า “พี่ตง ที่นี่มีคนเยอะเกินไป เราเปลี่ยนที่คุยกันหน่อยดีกว่าไหม?”

“ได้”

เฉินตงพาคุนหลุนกับกูหลัง เดินตามเฉินหยู่เฟยไปติด ๆ

การถูกแสงแฟลชระยิบระยับรัวใส่ตลอดทาง ทำให้เฉินตงรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก

ความรู้สึกนี้ มันเหมือนกับลิงในสวนสัตว์ที่ถูกผู้คนรายล้อมมุงดูไม่มีผิด

หลังจากขึ้นไปนั่งในรถ Toyota Alphard ของเฉินหยู่เฟยแล้ว รถก็สตาร์ท

มองไปที่รถ Nanny van ที่ขับจากไป

ทางเข้าหน้าโรงพยาบาล ก็เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว

บรรดาผู้ที่ถ่ายภาพและวิดีโอแบบชัด ๆ ได้ ต่างก็รีบโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตอย่างไม่รอช้า

……….

เฉินหยู่เฟยหาร้านอาหารระดับไฮเอนด์ในบริเวณนั้น แล้วจองทั้งร้านไปเลยตรง ๆ

สภาพแวดล้อมที่นี่เงียบสงบหรูหรา สะท้อนถึงท่วงท่าอันสูงส่งสง่างามของเธอ

หลังจากนั่งประจำที่แล้ว

เฉินหยู่เฟยยิ้มแย้ม พลางเลื่อนเมนูไปให้เฉินตง: “พี่ตง อยากกินอะไรก็สั่งตามสบายเลย ฉันเลี้ยงเอง”

สายตาของเฉินตงไม่ได้มองดูที่เมนู แต่จ้องไปที่เฉินหยู่เฟยด้วยความเย็นชาเฉยเมย

“ฉันจะถามเธอแค่เรื่องเดียว บาดแผลบนตัวท่านหลงพวกนั้น เธอเป็นคนทำใช่มั้ย?”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินหยู่เฟยชะงักค้าง เธอไม่รีบตอบ แต่เลื่อนเมนูไปทางคุนหลุนแทน: “พี่คุนหลุน ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ ถ้ายังไงก็ให้พี่สั่งแทนแล้วกัน”

สีหน้าคุนหลุนเคร่งเครียดถมีงทึง นิ่งเงียบไม่พูดจา

สุดท้ายเฉินหยู่เฟยเหลือบมองกูหลังแวบหนึ่ง ค่อยดึงเมนูเก็บเข้ามาข้างหน้าตัวเองอย่างเงียบ ๆ

ริมฝีปากน่ารักราวผลเชอร์รี่น้อยๆ ทอดถอนหายใจออกมาเฮือใหญ่ เฉินหยูเฟยพูดขึ้นว่า: “ก็พี่ทำให้คุณย่าท่านอารมณ์เสีย ฉันจะโมโหแทนคุณย่าหน่อยไม่ได้เลยเชียวเหรอ?”

“แต่อายุของท่านหลงมากขนาดนั้นแล้ว! เขารับไม่ได้กับการโมโหแทนของเธอแบบนี้!”

ใบหน้าของเฉินตงเย็นยะเยือก สายตาแสดงความเป็นศัตรูอย่างโจ่งแจ้ง

เฉินตงไม่ใช่คนโง่ แม้ว่าเฉินหยู่เฟยจะแสดงท่าทางว่าเป็นสาวน้อยใสซื่อตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เขาก็รู้เสียยิ่งกว่ารู้ ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนดีอะไรเลย

“เขาเป็นแค่คนใช้ของตระกูลเฉินนะ ทำไมฉันจะใช้เขาระบายความโกรธไม่ได้ล่ะ? นอกจากนี้ ฉันก็ไม่ได้ตีเขาจนตายซะหน่อย ” เฉินหยู่เฟยบ่นกระปอดกระแปด แสดงท่าทางว่าน้อยอกน้อยใจเสียเต็มประดา

เปรี๊ยะ!

แก้วน้ำในมือของเฉินตง แตกละเอียดจนเกิดเสียงดัง

เขาจ้องไปที่เฉินหยู่เฟยด้วยสายตาโกรธเคือง นี่เธอสามารถพูดเรื่องพรรค์นี้ออกมา โดยใช้น้ำเสียงแบบนี้ได้ยังไงกันนะ?

การควบคุมแรงที่ออกอย่างแม่นยำนั้น มันไม่เพียงพอที่จะฆ่าใครได้ก็จริง

แต่อายุของท่านหลงก็ปาเข้าไปขนาดนั้นแล้ว ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง สามารถลงมือทำเรื่องที่โหดร้ายเลือดเย็นกับคนแก่ได้ถึงขนาดนี้จริง ๆ

ถึงขั้นที่ว่า เธอไม่เคยคิดด้วยซ้ำ ว่านั่นคือชีวิตของคนคนหนึ่ง!

“เธอนี่สมแล้วล่ะนะ ที่ได้เป็นหลานสาวสุดที่รักของคุณหญิงใหญ่เฉิน”

เฉินตงพูดอย่างเย็นชา: “ใต้ผิวหนังที่สวยงาม เก็บซ่อนหัวใจที่โฉดชั่วของอสรพิษเอาไว้นี่เองสินะ ที่เธอทำกับท่านหลงแบบนี้ เธอคงจะรู้ผลที่จะตามมาแล้วใช่มั้ย?”

“จะมีผลอะไรตามมาได้ยังงั้นเหรอ?”

สีหน้าเฉินหยู่เฟย ไม่ได้รู้สึกแยแสอะไรเลยแม้แต่น้อย “เขาเป็นคนใช้ของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาก็เป็นของตระกูลเฉิน ฉันตีเขา ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เห็นจะมีอะไรเลยนี่”

พูดไปพลาง เฉินหยู่เฟยก็เอนตัวไปด้านหน้า ท้าวมือขวาไว้บนโต๊ะ แล้วมองดูเฉินตงด้วยท่าทางเล่นหูเล่นตา : “ถึงยังไง พี่เฉินตงก็คงไม่ทำร้ายฉันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

จู่ ๆ เฉินตงก็ยิ้มออกมาอย่างกะทันหัน

“คุนหลุน พาตัวเธอไป!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset