Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 291 เพื่อคุณแล้ว ฉันไม่ลังเลเลย

เฉินตงผงะไปครู่หนึ่ง

เขาหันกลับไปมองกู้ชิงหยิ่งที่อยู่ในสภาพเหนื่อยล้า แล้วรู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที

ตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมา เขาไม่เคยได้หลับพักผ่อน แล้วกู้ชิงหยิ่งจะต่างกันได้อย่างไร ?

ลมพายุในครั้งนี้ คนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดไม่ใช่ตัวเขา แต่เป็นกู้ชิงหยิ่ง

ฝั่งหนึ่งเธอต้องแบกรับกับอารมณ์ของตนเอง ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง เธอก็ต้องอดทนต่อความกดดันจากโลกไซเบอร์

ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาจากทั้งสองฝั่ง สิ่งที่กู้ชิงหยิ่งต้องแบกรับเอาไว้ทั้งหมดนั้น มากมายกว่าเขาหลายเท่านัก

“เสี่ยวหยิ่ง ไม่เป็นไรนะ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และจะอธิบายให้คุณฟัง” เฉินตงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก

“ฉันไม่ต้องการให้คุณอธิบาย ฉันเชื่อใจคุณ”

กู้ชิงหยิ่งหันหลังกลับไปด้วยใบหน้าที่หมองเศร้า แล้วเดินลงบันไดไป : “คุณเป็นสามีของฉัน ไม่ว่าจะช่วงเวลาใดก็ตาม ฉันก็ควรจะคอยสนับสนุนคุณอยู่ด้านหลัง”

เฉินตงหันไปมองแผ่นหลังอันบอบบาง แววตาของเขาสั่นเครือ และดวงตาของเขาค่อยๆ แดงก่ำ

คำพูดประโยคนี้ จะต้องอดทนต่อความเจ็บปวดมากแค่ไหน ถึงจะพูดออกมาได้ ?

เผียะ !

เฉินตงตบหน้าตัวเองอย่างแรง

ท่านหลงตกใจจนหน้าถอดสี และรีบเดินเข้าไปหาทันที : “คุณชาย คุณเป็นอะไรไปครับ ?”

“ฉันรับปากว่าจะทำให้เสี่ยวหยิ่งมีความสุข เธอใช้ทั้งชีวิตของเธอเพื่อเดิมพัน แล้วฉันล่ะ ?”

เฉินตงทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างโศกเศร้า แล้วยิ้มออกมาอย่างหดหู่ : “งานแต่งงานก็ไม่สมบูรณ์แบบ มิหนำซ้ำยังมีร่องรอยการตายของแม่ฉันปรากฏอยู่ด้วย นี่เพิ่งจะผ่านมานานเท่าไหร่กัน ? ฉันกลับดึงเธอมายืนอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ที่รุนแรงเช่นนี้ด้วยกัน แต่สิ่งเดียวที่เธอตำหนิฉันกลับเป็นเรื่องที่ฉันขาดการติดต่อไปเมื่อคืนนั้น ทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วง”

เฉิงตงเคยผ่านการมีชีวิตคู่มา

ดังนั้นเขาจึงยิ่งเห็นคุณค่าของความรู้สึกอันแสนล้ำค่าของกู้ชิงหยิ่ง

การใช้ชีวิตร่วมกับหวางหนันหนันตลอดสามปีเป็นเหมือนกับฝันร้าย

เธอเมื่อกู้ชิงหยิ่งกลับมาอยู่ข้างกายเขา เขากลับรู้สึกถึงความสุขที่ไม่เคยได้รับมาก่อน

ถ้าตอนนี้เปลี่ยนเป็นหวางหนันหนันแล้วล่ะก็ บ้านคงจะลุกเป็นไฟไปเรียบร้อยแล้ว ?

“ดังนั้นคุณชายก็ควรจะยิ่งฮึดสู้ !” ท่านหลงกัดฟันแล้วพูดว่า “คุณผู้หญิงอดทนเพื่อคุณชายขนาดนี้แล้ว ถ้าหากคุณชายยอมแพ้ล่ะก็ จะสู้หน้าคุณผู้หญิงได้อย่างไร ?”

“คงไม่กล้าสู้หน้าแน่นอน !”

แววตาที่มืดมนของเฉินตงค่อยๆ เป็นประกายราวกับมีไฟลุกโชนขึ้น มือทั้งสองข้างของเขากำหมัดไว้แน่น แล้วพูดออกมาอย่างแน่วแน่ว่า : “ฉันไม่มีทางยอมให้เธอแพ้เด็ดขาด หากมีเธออยู่ ถ้ายังไม่ตายก็ยังไม่ถือว่าฉันแพ้”

ตอนนี้ เฉินตงทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาดูกระปรี้กระเปร่าและมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

แม้กระทั่งท่านหลงเอง ก็อดไม่ได้ที่จะแอบรู้สึกแปลกใจ

“คงจะต้องลองคิดหาวิธีอื่นแล้ว”

แววตาของเฉินตงดูลึกซึ้ง เขาพึมพำออกมาอย่างเยือกเย็น : “กระแสสังคมถือเป็นอาวุธอันร้ายกาจของเธอ ฉันไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำได้ แต่กระแสสังคมก็เป็นอาวุธที่ทุกคนสามารถดึงมาใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน หากใช้อย่างถูกวิธีก็จะจัดการกับศัตรูได้อย่างราบคาบ แต่ถ้าหากใช้ไม่ดี มันก็จะย้อนกลับมาทำลายตนเองเช่นกัน”

แววตาของท่านหลงสั่นไหว ราบกับมีความคิดอะไรบางอย่าง

รอจนเขาตั้งสติได้ เฉินตงก็เดินลงไปชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว

“ท่านหลง ทำอะไรให้ฉันกินหน่อยได้ไหม ? ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษากับฉินเย่และฉู่เจียนเจียสักหน่อย”

“ได้ครับคุณชาย !” ท่านหลงขานรับอย่างยินดี

เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ

ความมืดมิดจางหาย แสงสว่างค่อยๆ ปรากฏขึ้นแทนที่

เฉินตงที่เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอกับฉินเย่และฉู่เจียนเจียมาตลอดครึ่งคืนนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ แล้วหันมองไปยังพระอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าอยู่ที่ไกลๆ เขากลับไม่ปรากฏความอ่อนล้าเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำกลับมีรอยยิ้มที่ผ่อนคลายปรากฏขึ้นมาที่มุมปากของเขา

ตลอดระยะเวลาสามวันมานี้ เขาได้แต่หวังว่าฟ้าจะไม่สว่างขึ้นมา เพราะเขารู้ดีว่า หลังจากฟ้าสาง จะมีความคิดเห็นที่ดุเดือดของประชาชนโหมกระหน่ำเขามาระลอกใหญ่

การบดขยี้อย่างโหดเหี้ยมและรุนแรง ทำให้บริษัทที่อยู่ในมือของเฉินตง ได้รับผลกระทบอย่างหนักอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ภายในระยะเวลาเพียงแค่สามวันสั้นๆ

แต่ทว่าตอนนี้ เฉินตงกลับรอคอยให้ฟ้าสางเร็วๆ

เขาไม่สนใจว่ากู้ชิงหยิ่งจะใช้วิธีไหนในการช่วยเหลือเขา เมื่อเขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาก็มีความคิดอยู่ในหัวคร่าวๆ เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่เขาประชุมผ่านวิดีโอกับฉินเย่และฉู่เจียนเจียอยู่พักใหญ่ ภายใต้การวางแผนของผู้เชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมบันเทิงอย่าฉู่เจียนเจีย แผนการทั้งหมดก็ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

บวกกับมีฉินเย่ซึ่งมีทั้งความดีและความชั่วอยู่ในตัว รวมไปถึงวิธีการที่ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลของเขา

เขาเชื่อว่า วันนี้ จะต้องเกิดคลื่นความเห็นของประชาชนขึ้นอย่างแน่นอน !

“เฉินหยู่เฟย เธอคิดที่จะทำลายชื่อเสียงของฉันให้ป่นปี้ ฉันไม่ว่า แต่ถ้าเธอคิดจะทำลายชีวิตคู่ของฉัน คิดที่จะทำร้ายเสี่ยวหยิ่ง ก็อย่าโทษที่ฉันเล่นกันถึงตายก็แล้วกัน”

เฉินตงพึมพำเบาๆ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล

“คุณชาย !”

จู่ ๆ เสียงที่ฟังดูร้อนรนของท่านหลงก็ดังขึ้นมาทางด้านหลัง

เฉินตงหันหลังกลับไปในทันที ท่านหลงที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีใบหน้าที่แดงก่ำ ดวงตาลุกวาว แววตาของเขาสั่นคลอนและดูสับสน เอาแต่จับจ้องไปที่โทรศัพท์มือถือ

“คุณชาย คุณ คุณรีบดูในเว่ยป๋อเร็วเข้า !”

น้ำเสียงของท่านหลงสั่นเครืออย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาหันไปพูดกับเฉินตงอย่างมีนัย : “คุณผู้หญิงทุ่มเทช่วยเหลือคุณอย่างไม่สนใจอะไรแล้วจริงๆ !”

เฉินตงรีบรับโทรศัพท์มือถือมา เมื่อเห็นเนื้อหาที่ปรากฏอยู่ในเว่ยป๋อ เส้นเลือดบริเวณหางตาของเขาก็ปูดโปนขึ้นมาทันที

หัวข้อยอดนิยมอันดับหนึ่งในการค้นหาบนเว่ยป๋อก็คือ : ภรรยาสาวแสนสวยของเฉินตงบุกไปให้กำลังใจเขากลางดึก !

เมื่อกดเข้าไปในการค้นหายอดนิยม เว่ยป๋อของกู้ชิงหยิ่งก็ปรากฏขึ้นมาทันที

ช่วงเวลาที่มีการเผยแพร่เนื้อหา คือช่วงราวๆ ตีห้า

และตอนนี้ ก็เพิ่งจะเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่สองชั่วโมง กลับขึ้นไปอยู่ในหัวข้อยอดนิยมอันดับหนึ่งในการค้นหาได้รวดเร็วจนน่าตกใจ

เนื้อหาในทุกตัวอักษรมีคารมคมคาย มีความไพเราะสละสลวย และเต็มไปด้วยความห่างหาอาทรที่ลึกซึ้ง

แต่กลับสรุปสาระสำคัญออกมาได้เพียงความหมายเดียว

นั่นก็คือ ในฐานะที่กู้ชิงหยิ่งเป็นภรรยา เธอยินดีที่จะเชื่อมั่นในตัวเฉินตง และพร้อมสนับสนุนเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ภายใต้กระแสสังคมในครั้งนี้ !

“นี่มัน……”

เฉินตงมองดูด้วยสมองที่ว่างเปล่า ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนมีมีดเป็นพันเล่มเข้ามาทิ่มแทงเขา

ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาในสมองของเขาราวกับคลื่นยักษ์

“เธอทำเช่นนี้ เท่ากับเข้ามารับกระสุนแทนเขา และดึงดูดความคิดเห็นทั้งหมดของประชาชน ให้ไปลงที่ตัวเธอ !”

เฉินตงดวงตาแดงก่ำ มือข้างขวากำโทรศัพท์เอาไว้แน่นด้วยอาการสั่นเทา

ความคิดเห็นของประชาชนยังคงถาโถมเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เป็นการเข้าครอบงำบนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างบ้าคลั่ง จนก่อตัวขึ้นเป็นกระแสที่รุนแรงราวกับคลื่นลูกใหญ่

ในสถานการณ์เช่นนี้ ทุกคนที่ก้าวออกมาเพื่อพูดแทนเขา ล้วนแล้วแต่ต้องถูกดึงเข้าไปในคลื่นลูกนี้ด้วยทั้งสิ้น

ยิ่งไปกว่านั้น กู้ชิงหยิ่งเองก็เป็นภรรยาของเขาอีกด้วย

ถือเป็น “ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง” รายที่สามในเหตุการณ์ครั้งนี้ !

ตอนนี้ความคิดเห็นและการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมดต่างพุ่งเป้ามาที่เฉินตง แต่ทว่าตอนนี้กู้ชิงหยิ่งกลับออกรับแทนเช่นนี้ ทำให้ความคิดเห็นและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ พุ่งเป้าไปที่ตัวเธอแทน

“เพื่อคุณแล้ว เธอยอมอดทนกับความทุกข์ทรมานใจทั้งหมด” ใบหน้าของท่านหลงเจ็บไปด้วยความเจ็บปวดและสงสาร

ในสถานการณ์เช่นนี้ เขารู้ดีว่า กู้ชิงหยิ่งกำลังแบกรักความกดดันและความทุกข์ใจที่หนักหนาสาหัสอยู่

และในตอนนี้ เพื่อที่จะช่วยบรรเทาความลำบากของเฉินตง เธอจึงเลือกที่จะใช้ฐานะภรรยาในการสนับสนุนเฉินตง

วิธีการเช่นนี้ จะช่วยลดทอนความลำบากในตอนนี้ของเฉินตงไปได้ไม่น้อยแน่นอน

ภายใต้สถานการณ์ที่เฉินตงถูกสังคมชี้นิ้วประณาม แต่กลับลุกขึ้นมายืนอยู่หน้าเฉินตง และออกรับการถูกชี้นิ้วประณามในครั้งนี้แทน !

สิ่งนี้……ต้องอาศัยความกล้าหาญขนาดไหนกัน ?

หรือจะพูดอีกอย่างว่า……จะต้องรักมากขนาดไหนกัน ?

เฉินตงถือโทรศัพท์เอาไว้แน่น เขาลุกขึ้นพร้อมด้วยดวงตาที่แดงก่ำ แล้วเดินลงไปชั้นล่าง

เขาเปิดประตูห้องนอน กู้ชิงหยิ่งยังคงเอนกายอยู่บนเตียง แต่ไม่ได้นอนหลับ ดวงตาของเธอเอาแต่จ้องเขม็งไปที่โทรศัพท์

“เสี่ยวหยิ่ง”

เฉินตงใช้แรงทั้งหมดที่มีตะโกนออกมา แต่ด้วยลำคอที่ตีบตันของเขา ทำให้เสียงที่เขาตะโกนออกมานั้นเบามาก

กู้ชิงหยิ่งเหลือบขึ้นไปมองเฉินตง ใบหน้าที่ซีดเซียวและอิดโรยของเธอเผยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นออกมา : “หวังว่าฉันจะช่วยคุณได้”

พรึ่บ !

เฉินตงดึงกู้ชิงหยิ่งเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างแรง ตอนนี้มีทั้งความรักที่อ่อนโยนและความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามา

น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาที่แดงก่ำของเฉินตง เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า : “ที่รัก ขอบคุณนะ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset