Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 294 การระเบิดอย่างรุนแรง

เป็นคำพูดที่เสียงดังฟังชัด

ทุกถ้อยคำ ทุกประโยค ฉาบไปด้วยความเย็นชาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

“ขอบคุณครับพ่อ”

เฉินตงแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ

หน้าตาและชื่อเสียง สำหรับตระกูลที่ร่ำรวยแล้วนั้น เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าชีวิตเสียอีก

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลี่แห่งเมืองหลวง หรือแม้แต่ตระกูลฉินแห่งซีสู่ ล้วนแล้วแต่เป็นเช่นนี้ทั้งสิ้น

เพื่อหน้าตาและชื่อเสียงแล้ว ถึงขึ้นยอมเหยียบย่ำชีวิตของคน และเห็นชีวิตของคนไร้ค่าเหมือนผักเหมือนปลา

แต่พ่อ ในฐานะที่เป็นถึงเจ้าบ้านตระกูลเฉิน การที่เขาสามารถเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ นั่นหมายถึงเขายอมเอาตัวเอง ออกมาอยู่นอกเหนือขอบเขตของความเป็นเจ้าบ้านตระกูลมั่งคั่งเรียบรอบแล้ว

คำสัญญาของพ่อประโยคนี้ ทำให้เขามีหนทางที่จะจัดการกับเรื่องนี้ได้มากขึ้น

หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว

เฉินตงก็ต่อสายโทรศัพท์หาฉินเย่ทันที

เขาแสยะยิ้ม “เจ้าสัตว์ร้าย ดำเนินการตามแผนบีได้เลย”

“ว้าว ! นายนี่มันสุดยอดจริงๆ สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ด้วย ?” เสียงของฉินเย่ที่ดังอยู่ในสายเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน : “รีบไปจัดการเร็วเข้า วันนี้มาทำให้เรื่องไร้สาระนี่จบลงเสียที ถึงเวลาที่เฉินหยู่เฟยควรจะชดใช้แล้ว !”

เมื่อเห็นเฉินตงวางโทรศัพท์ลง

ในที่สุดท่านหลงก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดขึ้นมา : “คุณชาย ต้องทำเช่นนี้จริงๆ หรือครับ ?”

ในฐานะที่เป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉิน และเป็นคนสนิทของนายท่าน

ท่านหลงรู้ดีว่า เป็นเพราะนายท่านรู้สึกผิด กับการทอดทิ้งคุณชายให้เติบโตขึ้นตามยถากรรมมานานกว่ายี่สิบปี ประกอบการการตายของหลี่หลานที่เกิดขึ้นตามมา ทำให้ความรู้ผิดยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ จึงพยายามตามใจแทบทุกอย่างจนเกินไป

ถึงแม้เรื่องนี้นายท่านจะไม่ได้ใส่ใจ แต่ตัวเขาจำเป็นที่จะต้องพูดเพื่อเตือนสติ

“ท่านหลง……”

เฉินตงลูบจมูก แล้วพูดออกมาอย่างเฉยเมยว่า : “ตอนที่เฉินหยู่เฟยจัดการกับผม ก็ไม่เคยย้อนถามตัวเองว่าต้องทำเช่นนี้จริงๆ หรือไม่นี่”

ท่านหลงยิ้ม : “กระผมก็เพียงแต่อยากจะพูดเตือนเท่านั้น ในเมื่อคุณชายต้องการจะทำ ก็ทำเถอะครับ”

เฉินตงยิ้ม มือขวาของเขาวางลงบนเมาส์ แล้วกดรีเฟรชอีกครั้ง

ละครฉากใหญ่ในครั้งนี้ กำลังจะเปิดการแสดงแล้ว

คำพูดของผู้คน สามารถฆ่าคนได้จริงๆ

กระแสสังคมที่ถาโถมเข้ามา ไม่มีใครสามารถต้านทานได้

ดาบเล่มนี้ สามารถใช้ป้องกันตนเองจากการถูกทำร้ายได้ แต่ก็สามารถย้อนกลับมาทำร้ายตนเองได้เช่นกัน !

คงต้องคอยดูว่า หลังจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากผ่านพ้นไป ใครจะเป็นคนสามารถคว้าดาบเล่มนี้เอาไว้ได้

เมืองหลวง

โรงแรมซ่างเต่า

สถานที่ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามราวกับบทกวี และเต็มไปด้วยห้องพักที่หรูหรา

ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ทั้งหนังสือที่ถูกฉีกออกและเศษกระดาษ รวมไปถึงเศษแก้วที่แตกแล้ว

แม้แต่โทรทัศน์และห้องชมภาพยนตร์ที่โรงแรมจัดเตรียมเอาไว้ให้ ก็เต็มไปด้วยกลิ่นควันลอยคละคลุ้ง

หลังจากที่เธอระบายอารมณ์เรียบร้อยแล้ว เฉินหยู่เฟยก็นึกถึงที่พึ่งสุดท้ายขึ้นมาได้

เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วกดต่อสายโทรศัพท์ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

ทันทีที่ต่อสายติด

ความอัดอั้นตันใจทั้งหมดที่มี ก็พรั่งพรูออกมาราวกับประตูระบายน้ำที่ถูกเปิดออกทันที

น้ำตาที่เธอพยายามฝืนกลั้นเอาไว้ ก็ไหลรินลงมาเช่นกัน

“คุณย่า……ครั้งนี้จะต้องช่วยหนูนะคะ ไอ้เฉินตงนั่น มันไม่ใช่คน มันรังแกหนู……ฮือฮือฮือ……”

“มันไม่เพียงแต่รังแกหนู ตอนนี้มันพยายามเล่นงานหนูกลับ ใส่ร้ายป้ายสี หาว่าหนูใช้วิธีสกปรกเพื่อไต่เต้าไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้น ซ้ำยังหาว่าหนูเป็นเด็กนั่งดริงก์ มิหนำซ้ำยัง……”

ร้องห่มร้องไห้ออกมาด้วยความขมขื่น

แต่พูดไปได้เพียงครึ่งเดียว

เสียงถอนหายใจของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินดังออกมาจากปลายสาย : “เฟยเอ๋อ เรื่องนี้ ย่าว่าเธอยอมรามือแค่นี้เถอะ”

เปรี้ยง !

เฉินหยู่เฟยรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าอันงดงามที่เปื้อนคราบน้ำตาของเธอ เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

“คุณย่า คุณ คุณย่าพูดว่าอะไรนะคะ ?”

น้ำเสียงของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินโศกเศร้ากว่าปกติ และฟังดูไร้ซึ่งเรี่ยวแรง : “ย่าก็อยากจะช่วยเธอ ย่าเองก็คอยช่วยเหลือเธอมาตลอด เธอเองก็รู้ดีว่า ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจที่จะแก้แค้นแทนย่า ย่าก็คอยช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด แม้แต่ตอนที่เธอจัดการกับเฉินตง ย่าเองก็พยายามขัดขวางเจ้าบ้านเพื่อเธอ”

“แต่ตอนนี้ ยอมรามือเสียเถอะ เรื่องนี้ควรจะหยุดไว้แค่นี้”

เฉินหยู่เฟยแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ใบหน้าอันงดงามของเธอแปดเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาและความตกใจ

ความคับข้องใจทั้งหมด ความรู้สึกไม่เต็มใจทั้งหมด ทำให้เธอแทบทรุดเมื่อได้ยินสิ่งที่ย่าพูดออกมาในตอนนี้

คุณย่ารักใคร่เอ็นดูฉันมากที่สุดมาโดยตลอดไม่ใช่หรือ ?

แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ?

“เพราะอะไร ? เพราะอะไรคุณย่าถึงต้องให้หนูยอมรามือตอนนี้ ?”

เฉินหยู่เฟยถามกลับเสียงดัง : “คุณย่าเกลียดลูกสวะนั่นมากที่สุด ทุกคนในบ้านเองก็เกลียดลูกสวะกันหมด เป็นแค่ลูกสวะ มีสิทธิ์อะไรมาครอบครองตำแหน่งผู้สืบทอดมรดก มีสิทธิ์อะไรมาแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน มีสิทธิ์อะไรที่อีกาอย่างมันจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายไปเป็นหงส์ได้ ?”

“เฟยเอ๋อกำลังพยายามช่วยคุณย่าแก้แค้นอยู่ และกำลังพยายามทวงคืนความยุติธรรมให้กับทุกคนในบ้าน !”

“เฉินหยู่เฟย ! เธอเป็นคนดื้อรั้น ย่ารู้ดีว่า ตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเฉิน อย่างไรเสียก็ต้องมาจากการต่อสู้แข่งขันของพวกหัวกะทิในรุ่นของพวกเธอแน่นอน ส่วนไอ้เฉินตงนั่น มันไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ”

ในสาย คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินดุเธออย่างรุนแรง จนเสียงของเฉินหยู่เฟยหยุดชะงักลง

จากนั้น คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ถอนหายใจออกมาเสียงดัง : “แต่ในฐานะที่เธอเป็นลูกหลานของตระกูลเฉิน ก็ควรที่จะคิดถึงหน้าตาของตระกูลเฉินเป็นสำคัญ ตอนนี้เรื่องเกี่ยวพันมาถึงตระกูลเฉินที่อยู่เบื้องหลังเธอแล้ว ถ้าหากยังไม่ยอมรามือแล้วล่ะก็ เธอจะยอมปล่อยให้ตระกูลเฉินต้องกลายเป็นตัวตลกไปหรืออย่างไร ?”

อะไรนะ ? !

เฉินหยู่เฟยตกตะลึง มีคลื่นลูกใหญ่ถาโถมอยู่ในใจของเธอ

หรือว่า……

ในขณะที่กำลังตื่นตระหนกอยู่นั้น เฉินหยู่เฟยก็รีบสลับการเชื่อมต่อ แล้วกดเข้าไปในเว่ยป๋อทันที

เมื่อครู่เธอกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ และกำลังทำลายข้าวของเพื่อระบายอารมณ์อยู่ จนกระทั่งลืมสนใจเรื่องบนเว่ยป๋อไปเสียสนิท

เป็นเพราะเธอรู้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นในเว่ยป๋อ หรือในสื่อหลักอื่นๆ เรื่องทั้งหมดกำลังดำเนินไปสู่เส้นทางที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นแล้ว

เธอคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

แต่ทว่า คำพูดของคุณย่าในตอนนี้ แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายอื่นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ตอนที่รายการค้นหายอดนิยมปรากฏขึ้นต่อหน้า การค้นหายอดนิยมเกี่ยวกับเฉินหยู่เฟยหัวข้อนั้น ก็ได้ก้าวขึ้นไปสู่อันดับหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สิ่งนี้ทำให้เฉินหยู่เฟยใจเต้นอย่างรุนแรง

ส่วนการค้นหายอดนิยมเกี่ยวกับเฉินตงและกู้ชิงหยิ่ง กลับตกไปอยู่ในอันดับที่สองและสาม

ภาพที่ปรากฏนี้ ทำให้การคาดการณ์ล่วงหน้าของเธอ เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ

แต่ทว่าการค้นหาที่เพิ่งปรากฏขึ้นมาใหม่ กลับทำให้ใบหน้าของเฉินหยู่เฟยซีดเผือด

【ช็อก ! ดาราดังเฉินหยู่เฟยมีเบื้องหลังที่น่ากลัว !】

นิ้วมือที่สั่นเทากดเข้าไปดู

มีเนื้อหาที่ละเอียดยิบอธิบายเอาไว้อย่างชัดเจน

เมื่อกวาดสายตาดู เฉินหยู่เฟยก็ต้องรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

เพราะเนื้อหาของบทความนี้ เกี่ยวพันถึงตระกูลเฉิน !

ใช้วิธีบรรยายอย่างต่อเนื่องเป็นฉากๆ มาบรรยายเส้นทางของเธอตั้งแต่ตอนที่เธอเริ่มเดบิวต์ จนกระทั่งกลายมาเป็นดาราดังที่มีชื่อเสียงภายในระยะเวลาหนึ่งปี

และในขณะเดียวกัน ก็มีการกล่าวอ้างอยู่หลายครั้งถึง……ตระกูลเฉิน !

ทุกๆ ประโยค เป็นเหมือนกับระเบิด ที่พร้อมจะโยนใส่เฉินหยู่เฟยให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง

ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่า เพราะอะไรคุณย่าถึงได้เย็นชาขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังบังคับให้เธอต้องยอมรามือ

เมื่อเรื่องเกี่ยวพันถึงตระกูลเฉิน หากไม่ยอมรามือแล้วล่ะก็ ตระกูลเฉินจะต้องถูกจับจ้องจากสาธารณชนอย่างแน่นอน

และเมื่อถึงเวลานั้น ความแค้นระหว่างเธอและเฉินตง คงจะลุกลามบานปลายไปถึงตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

เพื่อหน้าตาของตระกูลเฉินแล้ว จะให้เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด !

“คุณย่าค่ะ เรื่องนี้พวกเขาตั้งใจที่จะใส่ร้ายหนู ตั้งใจที่จะใส่ร้ายตระกูลเฉิน คุณย่ามองไม่ออกเลยหรือคะ ?”

เฉินหยู่เฟยพูดทั้งน้ำตา : “หนูไม่ยอม หนูทุ่มสุดตัวแล้ว ถ้าหากยอมรามือตอนนี้ หนูคงต้องพ่ายแพ้ให้กับเฉินตงอย่างราบคาบ แม้กระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูมีอยู่ตอนนี้ ก็ต้องสูญสิ้นไปหมด !”

ปัง !

มีเสียงตบโต๊ะดังขึ้นมาจากปลายสายทันที

“เฉินหยู่เฟย นี่เธอสูญสิ้นจิตสำนึกไปแล้วหรืออย่างไร ?”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินดุด้วยความโมโห : “อาชีพนักแสดงชื่อดังของเธอ ก็เป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ต้อยต่ำ เธอคิดว่าจะเป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูลเฉินได้จริงหรือ ?”

“ปกติแล้ว เธอซึ่งอยู่ในฐานะผู้สืบทอดมรดก คิดอยากจะเป็นนักแสดง ย่าเองก็ไม่ได้ตำหนิเธอ มิหนำซ้ำยังตอบสนองความต้องการของเธอด้วย แต่ในเมื่อเกี่ยวพันมาถึงตระกูลเฉิน เธอคิดว่าอาชีพนักแสดงของเธอ สำคัญกว่าหน้าตาของตระกูลเฉินอย่างนั้นหรือ ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset