Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 306 ครั้งนี้ต่อให้ถูกฟ้าผ่าตาย ก็ต้องโกหกเธอแล้วล่ะ!

ในห้องนั่งเล่น

บรรยากาศเงียบสงัดราวน้ำนิ่ง

อากาศรอบกายคล้ายหยุดไหลเวียน แข็งค้างชะงักงัน

ขนทั่วทั้งสรรพางค์กายของเฉินตง ถึงกับลุกชี้ชันจนตั้งตรง ไม่รับรู้ถึงอุณหภูมิโดยรอบเลยแม้แต่น้อย

เขาในเวลานี้ ฉากหน้าอาจดูแล้วสงบนิ่ง แต่ในความเป็นจริง หัวใจเขากลับเต้นระทึกจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

เขาไม่กลัวที่จะถูกคนวางแผนการร้ายใส่ ทั้งไม่กลัวว่าจะถูกลอบฆ่าด้วย

ก่อนจะมาแต่งงานกับกู้ชิงหยิ่ง เขาก็เคยได้เจอมาก่อน ถึงขั้นที่ว่าภายใต้เจตนาที่พ่อของเขาเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า งัดเอากลยุทธ์ “ปิดฟ้าข้ามทะเล” มาใช้ส่งตัวเขาไปที่คุกมืดเพื่อหาประสบการณ์มาแล้วด้วยซ้ำ

ในสถานที่แบบคุกมืดนั่น ไม่ใช่สถานที่ที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายหรอกหรือ?

ประเด็นสำคัญคือ มันไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีแม้ช่องว่าง ถึงขั้นที่เกิดการลอบฆ่ากันได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น

สิ่งนี้ต่างหาก คือสิ่งที่ทำให้เขาตื่นตระหนกจริง ๆ

นั่นหมายความว่า เขาจะต้องคอยระวังตัวตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เพียงแต่ต้องคอยระแวดระวังป้องกันตัวเองเท่านั้น แต่ยังต้องคอยระแวดระวังป้องกันคนรอบข้างอีกด้วย

ท่านหลง ฉินเย่ และคุนหลุนต่างก็มีสีหน้าหนักอึ้งเคร่งเครียด ทุกคนต่างก็จมอยู่ในความเงียบงันไปด้วยกันทั้งหมด

พวกเขารู้ดี ถึงความน่ากลัวของนักลอบฆ่าที่ซ่อนอยู่ในดาร์กเว็บดีกว่าใคร ๆ ทั้งนั้น

ยิ่งรู้ด้วยว่า ตระกูลหลี่สั่งการให้ลอบฆ่าในครั้งนี้ เป็นการใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่พาลพาโลอย่างไม่มีเหตุผลขนาดไหน

พูดแบบจริงจังไม่อ้อมค้อม ตระกูลหลี่ถึงกับกล้าเปิดเผยชื่อจริงออกมา ความหมายย่อมเป็นไปตามที่ฉินเย่พูดมาจริง ๆ นั่นคือเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า พวกเขาพร้อมจะชนแหลกกับเฉินตงจนกว่าจะตายกันไปข้าง

แม้จะพูดได้ว่าในวันนี้ สถานการณ์ของตระกูลหลี่ในเมืองหลวง จะตกอยู่ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแล้วก็ตาม ทั้งมีหมาป่าที่เฝ้ารอรุมทึ้งอีกเป็นโขยง แต่ก่อนที่วิมานเทียมฟ้านั่นจะพังถล่มลงมา ในตอนที่พวกเขาตัดสินใจชนแหลกให้ตายกันไปข้างกับเฉินตง ตระกูลหลี่ก็ยังมีพลังอำนาจที่มากพอจะสร้าง “เทศกาลรื่นเริง” บนดาร์กเว็บขึ้นมาได้แบบไม่ยากเย็นเลย

และเทศกาลรื่นเริงที่ว่านี้ มีเป้าหมายก็คือการล่าชีวิตของเฉินตงนั่นเอง!

“เฮ้อ~”

เฉินตงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อมองดูเงินรางวัลราคาค่าหัวของเขา ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่คล้ายคนหัวเราะเจือสะอื้นว่า: “ตระกูลหลี่ดูจะประเมินฉันไว้สูงไม่น้อยเลยนะเนี่ย ตั้งราคาไว้ที่พันล้านดอลลาร์เชียวนะ”

“คุณชาย…” ท่านหลงถึงกับผงะไปชั่วขณะ ทำไมจนเวลาแบบนี้แล้วแท้ ๆ เขาก็ยังหัวเราะเยาะเย้ยตัวเองได้อยู่อีกล่ะนี่?

เฉินตงยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ วางโทรศัพท์ลง: “ไอ้ภารกิจลอบฆ่านี่ พอจะมีวิธียกเลิกมันบ้างมั้ย?”

พวกท่านหลงทั้งสามต่างส่ายหน้าพร้อมกัน

คุนหลุนพูดว่า: “หลังจากที่องค์กรhidden killersประกาศภารกิจ หากไม่เพราะภารกิจนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็ต้องเป็นเพราะลูกค้าเป็นฝ่ายยกเลิกงานโดยสมัครใจ ไม่อย่างนั้น ภารกิจนั้นจะไม่มีวันหายไปครับ”

“แล้วถ้าใช้ชื่อของตระกูลเฉินเข้ากดดันล่ะ?” เฉินตงลองถามอย่างไม่มั่นใจ

“ตอนนี้คุณท่านกำลังคิดหาหนทางเจรจากับพวกคนในดาร์กเว็บอยู่ครับ”

ท่านหลงยิ้มอย่างขมขื่น: “แต่ความหวังคงมีไม่มาก ดาร์กเว็บเป็นสถานที่ที่อยู่นอกกฎหมาย มันมืดมิดและโหดร้ายอย่างยิ่ง ผมยังจำได้ว่าเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว สมาชิกคนหนึ่งของตระกูล Rothschild ถูกประกาศชื่อไปยังองค์กรนักฆ่าอำพราง The hidden killer ที่ซ่อนตัวอยู่ในดาร์กเว็บให้ทำภารกิจลอบฆ่า ก็ถูกจัดอยู่ในระดับ S และมีการเสนอเงินรางวัลมูลค่าถึงแปดร้อยล้านดอลลาร์เลยทีเดียวครับ”

“ในเวลานั้น ตระกูล Rothschild พยายามคิดหาหนทางอย่างสุดความสามารถ ถึงขั้นยอมวางเงินรางวัลที่มากกว่ารางวัลค่าหัวตัวเอง เพื่อลบล้างภารกิจลอบฆ่า แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ประสบความสำเร็จ สมาชิกในตระกูลคนนั้น ก็ยังมีจุดจบคือลงไปนอนจมกองเลือดอยู่ดีครับ”

“เฮ้อ~”

เฉินตงแอบถอนหายใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเกี่ยวกับดาร์กเว็บ กับองค์กรนักฆ่าอำพราง The Hidden Killer

แต่ตระกูล Rothschild นั้นเรียกได้ว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในระดับโลก มีประวัติศาสตร์ที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลายาวนานมากเชียวนะ!

สัตว์ประหลาดระดับอสุรกายนั่น ก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องแบบนี้เหมือนกันเหรอเนี่ย ?

“ในตอนนั้น นักฆ่าระดับมือพระกาฬสามคนลงมือพร้อม ๆ กัน ภายใต้การคุ้มกันของบอดี้การ์ดจำนวนหลายร้อยคน พวกเขาก็สามารถทำได้สำเร็จ!” คุนหลุนกล่าวเสริมอีกประโยคหนึ่ง

เฉินตงตกตะลึง: “ทำไมนายถึงรู้รายละเอียดได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ล่ะ?”

คุนหลุนช้อนดวงตาขึ้น มองไปที่เฉินตงแน่วนิ่ง : “เพราะผมคือหนึ่งในสามนักฆ่านั่นไงครับ!”

เฉินตง: “…..”

“ตอนนั้นเพราะเรื่องนี้นี่เอง จึงเป็นเหตุให้คุนหลุนถูกนำตัวไปลานประหาร สุดท้ายเป็นคุณท่านที่บุกเดี่ยวเข้าไปช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ครับ ” ท่านหลงอธิบาย

เฉินตงเข้าใจได้โดยพลัน เขารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุนหลุนกับพ่อของเขามานานมากแล้ว

แต่เหตุผลที่คุนหลุนถูกตัดสินประหารชีวิตในตอนนั้น เป็นเรื่องที่เพิ่งมารู้เอาตอนนี้นี่เอง

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกใหญ่ พยายามทำให้จิตใจสงบผ่อนคลายลง

เฉินตงถามว่า: “ดังนั้น แปลว่าตอนนี้ไม่มีหนทางเลยสักนิดจริง ๆ น่ะเหรอ?”

พวกท่านหลงทั้งสามส่ายหน้าพร้อมกัน

“เว้นเสียแต่ว่า คุณจะเกลี้ยกล่อมให้ตระกูลหลี่ยอมเพิกถอนคำสั่งได้ครับ”

ฉินเย่ยกยิ้มประหลาด: “แต่เงื่อนไขนี้ยากเกินไป คิดว่าต่อให้คุณท่านใหญ่หลี่ที่นอนเป็นศพอยู่ใต้ดินแล้วจะตอบตกลง แต่คนตระกูลหลี่ที่ยังอยู่บนพื้นดินจะไม่ยอมตกลงน่ะสิ พวกเขาถึงขั้นคิดจะยอมตายไปพร้อมกับฉันแล้วชัด ๆ”

เฉินตงหัวเราะเยาะตัวเอง รู้สึกอับจนหมดหนทางแล้วจริง ๆ

ไม่อยากเข้าไปพัวพันอะไรกับตระกูลหลี่อีก

เขาหาทางยุติมันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งมาโดยตลอด

แต่กลับคิดไม่ถึงว่า จะถูกหมาบ้าที่ทำทุกวิธีได้อย่างไร้ยางอายตัวนี้ กัดเข้าจนจมเขี้ยวเต็มคำ

อีกทั้งเหตุผลที่ถูกกัด แบบ….อยู่ดีๆก็งานเข้าซะงั้น

“เรื่องของคุณท่านใหญ่หลี่ จะต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลแน่ มันทำให้ฉันรู้สึกเลยว่า เหมือนเป็นการพุ่งเป้ามาที่ฉันโดยตรง”

เฉินตงขมวดคิ้ว นัยน์ตาลึกล้ำทอประกายวาววับน้อย ๆ : “ฉันไม่ได้หมายถึงการจ้างวานให้มาลอบฆ่าฉันของตระกูลหลี่หรอกนะ แต่เป็นการฆาตกรรมคุณท่านใหญ่หลี่ ที่ต้องการพุ่งเป้ามาที่ฉันต่างหาก”

“พวกเราหลายคนก็คิดอย่างนั้นครับ แต่ตอนนี้กุญแจสำคัญคือ เราไม่สามารถหาหลักฐานที่จะใช้โน้มน้าวให้ตระกูลหลี่ยอมเชื่อคุณ ทั้งยังไม่มีวิธีที่จะทำให้ตระกูลหลี่ยอมเพิกถอนคำสั่งได้ด้วย” เสียงของท่านหลงแผ่วต่ำและสั่นเครือ: “ผมรู้สึกว่าคุณชายควรต้องระวังให้มาก พวกเราต้องเตรียมการรับมือไว้เสียแต่เนิ่นๆ”

“ต้องเตรียมการไว้สักหน่อยแหละ”

เฉินตงยิ้มอย่างจนใจ: “เรื่องมันเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้ฉันไม่กลัวตาย ฉันก็สมควรต้องคิดเผื่อคนรอบข้างสักหน่อยแล้วล่ะ”

เขามองไปที่คุนหลุน: “คุนหลุน ให้พี่เสี่ยวลู่เก็บข้าวของให้เรียบร้อย ฉันจะให้เธอไปบ้านตระกูลกู้กับเสี่ยวหยิ่งคืนนี้เลย”

จากนั้นเฉินตงก็พูดว่า: “ยังมีฉินเย่ นายกับเสี่ยวเชียนกลับไปซ่อนตัวที่บ้านตระกูลฉินสักพักก่อน ท่านหลงก็กลับไปบ้านตระกูลเฉินคืนนี้เลย ฉันต้องการทีมรักษาความปลอดภัยระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ ให้เรียกกูหลังมาที่นี่ด้วยเถอะ” .”

เฉินตงไม่ใช่คนที่มีนิสัยเหยาะแหยะโลเล หรือตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด

เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว มัวแต่ตีอกชกหัวโกรธเคืองไป ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้

ใจเย็น ๆ เตรียมการให้ดี รอรับมือพวกนักฆ่าที่จะดาหน้าเข้ามา นี่ต่างหากคือวิธีการที่ดีที่สุด

เขาไม่อาจยอมให้กู้ชิงหยิ่งมาอยู่ข้าง ๆ เขาในเวลานี้ แล้วต้องมาร่วมเผชิญอันตรายไปด้วยกันกับเขาได้จริง ๆ

เขาถึงขั้นไม่ยอมให้ใครก็ตามที่อยู่รอบตัว ต้องมาร่วมแบกรับอันตรายไปพร้อมกันกับเขาด้วย

“คุณชายครับ ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!”

“พี่ตง ให้เสี่ยวเชียนกลับไปตระกูลฉินคนเดียวก็พอแล้ว ให้ฉันอยู่ที่นี่เถอะ ฉันแฮกระบบเก่งอยู่นะ!”

ท่านหลงกับฉินเย่พูดขึ้นพร้อมกัน

ปึง!

เฉินตงตบฝ่ามือกับโต๊ะอย่างโกรธจัด: “ฟังที่ฉันพูดซะ!”

เผด็จการ เย่อหยิ่งจองหอง ไม่มีที่ว่างสำหรับการโต้แย้ง

ท่านหลงกับฉินเย่หันมองหน้ากัน เห็นความจนใจทั้งยังไม่เต็มใจของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

“ท่านหลง ฉินเย่ ที่คุณชายพูดมาก็ถูกนะ สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้ คงจะเหนือการควบคุมจริง ๆ นั่นแหละ ถ้าพวกคุณอยู่ข้าง ๆ คุณชาย คงจะไม่เป็นผลดีแน่”

คุนหลุนพูดช้าๆ: “พวกคุณอยู่ที่นี่ มีแต่จะทำให้เกิดตัวแปรเพิ่มขึ้นซะเปล่า ๆ ยิ่งเป็นภาระให้คุณชายต้องหันเหความสนใจมาคอยดูแลอีก”

เพียงประโยคเดียว ก็ทำให้ฉินเย่กับท่านหลงต้องก้มหน้าผงกหัวรับโดยสดุดี

“คุณชาย ผมจะไปเรียกเสี่ยวลู่เดี๋ยวนี้เลยนะครับ” คุนหลุนลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

ส่วนเฉินตงก็ลุกขึ้นในเวลาเดียวกัน แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน

ในห้องนอน ทุกอย่างยังคงเงียบสนิท

กู้ชิงหยิ่งขดตัวกลมเหมือนลูกแมวตัวน้อยอยู่บนเตียง ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ

เฉินตงที่หนักใจมาตลอดทางระหว่างที่เดินขึ้นมา เพียงชั่วขณะที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอน แล้วได้เห็นกู้ชิงหยิ่ง สีหน้าเขาก็พลันผ่อนคลายลงไปทันที

ราวกับว่าแค่ได้เห็นหน้ากู้ชิงหยิ่ง ความกระสับกระส่ายไม่สบายใจทั้งหมด ก็มีอันมลายหายไปจนสิ้น

เขาเดินไปข้าง ๆ กู้ชิงหยิ่ง โน้มตัวลงแล้วจูบเบา ๆ ที่หน้าผากของกู้ชิงหยิ่ง

จูบอันแผ่วเบานี้ ทำให้กู้ชิงหยิ่งส่งเสียงครางฮือในลำคอ จากนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณสามี มากอดกันจุ๊บกันหน่อยเร็ว”

กู้ชิงหยิ่งเหมือนเด็กตัวน้อยที่แสนไร้เดียงสา อ้าแขนกว้างเข้าใส่เฉินตงอย่างออดอ้อน

เฉินตงยิ้มอย่างอ่อนโยน กอดกู้ชิงหยิ่งพลางพูดเบา ๆ ว่า “เด็กโง่ พอดีช่วงนี้ฉันมีเรื่องยุ่ง ๆ ที่ต้องจัดการนิดหน่อย ตอนนี้เธอช่วยเก็บของแล้วไปอยู่กับคุณพ่อตาแม่ยายที่ต่างประเทศ สักพักดีมั้ย”

เพิ่งสิ้นเสียง

ร่างกายนุ่มนิ่มบอบบางของกู้ชิงหยิ่งก็พลันสั่นสะท้าน เธอปล่อยมือจากเฉินตง แล้วเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจว่า: “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”

“ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องเล็ก ๆ แค่นั้นเอง”

เฉินตงไม่ได้อธิบายอะไร เขาไม่อยากให้กู้ชิงหยิ่งต้องเป็นกังวล: “เชื่อฉันนะเด็กดี ไปอยู่กับคุณพ่อตาแม่ยายสักพักก่อน หลังจากที่เราแต่งงานกันมา ไม่ใช่ว่าเธอยังไม่เคยกลับไปเยี่ยมหาพวกท่านเลยหรอกเหรอ? นี่มันก็นานมากแล้วนะ หรือเธอไม่คิดถึงพวกท่านบ้างเลยเหรอ?”

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกงุนงง คล้ายตกอยู่ในภวังค์ไปครู่หนึ่ง

เธอ คิดถึงพ่อแม่ของเธอมากจริง ๆ นั่นแหละ

แต่กู้ชิงหยิ่งกลับเป็นฝ่ายจ้องมองเฉินตงอย่างจริงจัง: “คุณมองตาฉันสิคะ”

ดวงตาทั้งคู่มองประสาน

กู้ชิงหยิ่งพูดว่า: “มันเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ จริงเหรอ? คุณอย่าโกหกฉันนะ!”

เฉินตงจ้องไปที่ดวงตาใสกระจ่างของกู้ชิงหยิ่ง ยกยิ้มน้อย ๆ พลางชูสามนิ้วแล้วพูดว่า : “ฉันขอสาบานต่อสวรรค์เลยว่า มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยจริง ๆ ถ้าฉันโกหก นร. กู้ชิงหยิ่งแล้วล่ะก็ ขอให้ถูกฟ้าผ่าตาย!”

คำพูดนั้นช่างรวดเร็วเด็ดขาด รวดเร็วจนกู้ชิงหยิ่งที่สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือดแล้ว รีบยกมือขึ้นมาปิดปากไม่ทัน

สุดท้าย กู้ชิงหยิ่งก็พยักหน้าตอบรับ: “เอาเถอะ ฉันจะไปเก็บของเลยแล้วกัน”

“อื้ม ฉันจะให้พี่เสี่ยวลู่ไปช่วยเธอนะ ให้พี่เสี่ยวลู่ไปพร้อมกับเธอเลย จะได้ดูแลเธอได้สะดวกหน่อย”

เฉินตงแสร้งทำเป็นเดินออกจากห้องไปอย่างสบาย ๆ พ้นห้องนอน รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายวับไป เปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างฝืดฝืน: “เพื่อเธอแล้ว ครั้งนี้ต่อให้ถูกฟ้าผ่าตาย ก็ต้องโกหกเธอแล้วล่ะ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset