Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 310 เค้าลางเมฆหมอกที่น่าสงสัย

“ไอ้เดรัจฉาน แกยังมีหน้าโทรมาอีกเหรอ?”

ทันทีที่รับสาย อีกฝั่งก็แผดเสียงโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที

ขณะที่ฟังเสียงก่นด่าของหลี่เต๋อซาน

เฉินตงไม่สนใจ พวกตระกูลหลี่ต่างก็คิดว่าเขาฆ่าคุณท่านใหญ่หลี่ การที่จะมีปฏิกิริยาแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติแล้ว

เมื่อเทียบกับคำสั่งฆ่าขององค์กรนักฆ่าอำพราง The Hidden Killer ในดาร์กเว็บแล้ว ความโกรธแค่นี้ไม่ใช่ก็อะไรใหญ่โต เป็นได้แค่เศษละอองฝนเท่านั้น

เฉินตงพูดอย่างใจเย็น: “การตายของเขาไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”

“ฮะๆ ไม่เกี่ยวงั้นเรอะ? นี่แกตั้งใจมาเล่นตลกรึไง?

เสียงของหลี่เต๋อซานเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว: “เมื่อคืนนั้น ทุกคำพูดที่แกพูดตรงหน้าประตูวิลล่าเขาเทียนซาน ฉันได้ยินมันอย่างชัดถ้อยชัดคำ! แกจะมาบอกฉันว่าแกไม่เกี่ยวแค่ประโยคเดียว แกคิดจริง ๆ เหรอว่ามันจะทำให้พ่อของฉันที่ไปยังปรโลกแล้วนอนตายตาหลับได้ ? ถุย!! ไม่ใช่ว่าแกเย่อหยิ่งทะนงตัวมากหรอกเหรอ ? ไม่ใช่ว่าชอบวางอำนาจบาตรใหญ่นักรึไง? ทำไมตอนนี้ถึงได้พลิกลิ้นมาพูดอะไรแบบนี้ซะแล้วล่ะวะ?”

ในคำพูดนั้น จู่ ๆ ก็กลายเป็นวางตนสูงส่งและดูถูกเหยียดหยามอย่างไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเฉยๆ

หลี่เต๋อซานพูดต่ออีกว่า: “อ๋อ ฉันรู้แล้ว เดรัจฉานอย่างแกคงรู้เรื่ององค์กรนักฆ่าอำพราง The Hidden Killer ในดาร์กเว็บแล้วล่ะสิท่า? รู้จักกลัวขึ้นมาแล้วรึไง ? เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแก รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำแล้วงั้นสิ ? มันสายเกินไปแล้วโว้ย ! นับตั้งแต่ตอนที่แกลงมือฆ่าตาของแกด้วยมือของแกเองต่อให้ตระกูลหลี่ต้องล้มละลายบ้านแตกสาแหรกขาด หมดสิ้นความมั่งคั่ง ฉันก็จะให้แกต้องถูกฝังไปพร้อมกับพ่อของฉัน!”

ชุดคำถามเชิงโวหารที่ย้อนมา แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของหลี่เต๋อซานว่าตัวเองนั้นสูงส่งเหนือกว่า

สถานะมหาเศรษฐีผู้เย่อหยิ่งอวดดีประจำตระกูลหลี่แห่งเมืองหลวง ซึ่งใช้เผชิญหน้ากับเฉินตงในเวลานี้ ท้ายที่สุดก็หวนกลับมาเหมือนเดิมแล้ว

“ไอ้โง่บัดซบเอ๊ย!”

เฉินตงด่าออกไปประโยคหนึ่ง จึงกดวางสาย

เฉินตงขยี้ผมอย่างหงุดหงิด รู้สึกอารมณ์เสียที่จู่ ๆ ก็ดันคิดวิธีแก้เบื่อแบบนี้ออกมาซะได้

อันที่จริง เขาแค่อยากจะช่วยเตือนสติให้คนตระกูลหลี่ได้ตาสว่างขึ้นมาบ้าง

แต่สุดท้าย กลายเป็นว่าเขาดันมองข้ามเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่งไป

นั่นคือ คนตระกูลหลี่ไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ ต่างก็โง่บัดซบเหมือนกันหมดทั้งตระกูล!

ไม่อย่างนั้น ในตระกูลที่ให้ความสำคัญแต่กับลูกชาย ละเลยลูกสาวอย่างตระกูลหลี่ คุณท่านใหญ่หลี่ที่ใกล้จะลงโลงเต็มที จะกัดฟันพกพาหัวใจอันดำมืดมาอ้อนวอนขอร้องเขา ซึ่งเป็นหลานที่ใช้แซ่ของตระกูลอื่นคนหนึ่ง ให้ขึ้นไปเป็นเจ้าบ้านตระกูลหลี่แบบนี้ได้ยังไงล่ะ?

เดาได้ว่าคุณท่านใหญ่หลี่เองก็เข้าใจดีว่า ทุกคนในตระกูลหลี่ที่เหลือเป็นยังไง ดังนั้นจึงได้มาขอให้เขาช่วยเป็นกรณีฉุกเฉิน วางแผนที่จะใช้เขาเป็นสะพานข้าม เป็นเครื่องช่วยกอบกู้ตระกูลหลี่รุ่นต่อไปล่ะสิท่า?

หลังสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง เฉินตงก็เล่นโทรศัพท์มือถืออย่างเบื่อหน่าย

งานในบริษัท คงทำได้เพียงควบคุมจากระยะไกลเท่านั้นแล้ว เมื่อเช้าตอนที่ไปส่งกู้ชิงหยิ่งกับฟ่านลู่ที่สนามบินพร้อมคุนหลุน เขาก็ได้เตรียมจัดการเรื่องงานของไท่ติ่งเอาไว้หมดแล้ว

บริษัทการเงินมีฉินเย่กับฉินเสี่ยวเชียน ช่วยควบคุมดูแลจากทางไกล

ส่วนบริษัทบันเทิงทางนั้น มีฉู่เจียนเจียกับตระกูลจางช่วยจัดการให้

ในทางตรงกันข้าม กลายเป็นว่าเขาเองนี่แหละ ที่เป็นคนเกียจคร้านว่างงานที่สุด

ก๊อกๆ!

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“คุณชายครับ ได้เวลาทานข้าวเที่ยงแล้ว”

“ไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เฉินตงลุกขึ้น ลงไปกินข้าวเที่ยงกับคุนหลุนที่ชั้นล่าง

สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับเฉินตงคือ ในช่วงเวลาสั้น ๆ แค่นี้ ไม่รู้ว่าคุนหลุนไปได้เครื่องมือตรวจสอบมาจากไหน เอามาวางไว้ข้างห้องอาหารแล้วเรียบร้อย

“คุณชาย นี่คือเครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัย นับจากนี้ไป อาหารสามมื้อของคุณในแต่ละวัน แม้กระทั่งน้ำดื่ม ล้วนจะต้องได้รับการตรวจสอบยืนยันด้วยเครื่องมือนี้เสียก่อน จึงจะสามารถกินได้”

คุนหลุนเตือนว่า: “นี่คือสิ่งที่ผมสั่งให้คนที่ดูแลงานทั่วไปในตระกูลเฉิน เอามาให้เมื่อกี้นี้เองครับ ในช่วงเวลาที่ต้องระวังเป็นพิเศษแบบนี้ ทุกอย่างต้องระแวดระวังอย่างถึงที่สุด”

นี่ไม่ใช่การดูแลความปลอดภัยให้แก่ฮ่องเต้ในสมัยก่อนหรอกเหรอ?

เฉินตงหัวเราะเยาะตัวเอง ไม่สิ ท่าทางจะเข้มงวดเสียยิ่งกว่าฮ่องเต้เลยด้วยซ้ำ เพราะแม้แต่ฮ่องเต้ยังใช้แค่เข็มเงินในการทดสอบอาหารเท่านั้น

หลังจากนั่งลงแล้ว เฉินตงกับคุนหลุนก็กินข้าวพร้อมกัน

บนโต๊ะอาหารอันใหญ่โต มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น อาหารก็เป็นเพียงอาหารง่าย ๆ แค่สามอย่างกับซุปอีกหนึ่ง วางอยู่ตรงหน้าพวกเขาที่มุมโต๊ะมุมหนึ่ง

เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน บ้านในวันนี้ ดูเย็นเยียบเปลี่ยวเหงาและว่างเปล่ากว่าเดิมลงไปมาก

แต่เฉินตงรู้ดีว่า มีเพียงความเย็นเยียบว่างเปล่าแบบนี้เท่านั้น ที่จะสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายได้มากที่สุด

จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบสิ้นลง ทั้งหมดที่ทำได้มีเพียงต้องอดทนเท่านั้น

“คุณชาย คาดว่าทีมรักษาความปลอดภัยคงจะมาถึงที่นี่ในตอนค่ำวันนี้นะครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้พวกเขาวางกำลัง ทั้งภายในและภายนอกคฤหาสน์โดยรอบ”

คุนหลุนพูดอย่างใจเย็นว่า: “หลังจากจัดวางกำลังเสร็จแล้ว คฤหาสน์นี้ก็นับได้ว่าเป็นถังเหล็กแห่งหนึ่ง คุณชายไม่ต้องกังวล สามารถนอนหลับฝันดีได้แล้วนะครับ”

“แล้วถ้าจะออกไปข้างนอกล่ะ?” เฉินตงถาม

คุนหลุนเผยสีหน้าจนใจ: “คงต้องพึ่งพาความร่วมมือจากทีมการ์ดเท่านั้นแล้วล่ะครับ”

เขารู้แก่ใจดี ว่าในบ้านเขาสามารถนอนหลับฝันดีได้ แต่นั่นมันก็เป็นแค่เพียงแง่มุมเดียว

แต่ไม่ว่าใคร ก็ไม่มีทางจะขังตัวเองอยู่แต่ในบ้านตลอดไปได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่ออกไปข้างนอก ความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ รวมถึงเหตุไม่คาดฝันที่ไม่สามารถคาดเดาได้ก็มีสิทธิ์จะเกิดขึ้นได้เสมอ

“ฉันจะพยายามลดการออกไปข้างนอกให้มากที่สุดก็แล้วกัน” เฉินตงเริ่มรู้สึกว่าลิ้นไม่รู้รสอาหารขึ้นมาซะแล้ว

หลังจากกินอาหารอย่างจืดชืดไปได้สองคำ เขาก็วางชามกับตะเกียบลง

“คุณชาย ผมทำไม่อร่อยอย่างนั้นเหรอครับ?” คุนหลุนรีบเอ่ยถาม

“ไม่ได้ใส่เกลือ”

คุนหลุน : “…..”

เขาทำอาหารไม่เป็นจริงๆ แต่ตอนนี้ในบ้านมีแค่เขากับเฉินตงสองคน จะยังไงก็ปล่อยให้คุณชายเป็นคนลงมือทำอาหารให้เขาไม่ได้หรอกมั้ง ?

“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงซะแค่คิดเรื่องถูกลอบฆ่านี่แล้ว ฉันก็ไม่มีความอยากอาหารสักเท่าไหร่แล้วล่ะ”

เฉินตงเอนกายลงบนเก้าอี้ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาหนุนไว้ที่ด้านหลังศีรษะ: “คุนหลุน อันที่จริง ฉันมีเรื่องที่คิดตั้งแต่เมื่อกี้ระหว่างทางกลับมาจนถึงตอนนี้ คิดอยากจะถามนายมาตลอดเลย ตอนนี้พอดียังมีเวลาอยู่บ้าง ก็คุยกับนายสักหน่อยแล้วกัน”

“เชิญคุณชายพูดมาเถอะครับ”

คุนหลุนกินไปพลาง คุยไปพลาง

เฉินตงถูจมูกที่เริ่มบวมน้อย ๆ แล้วพูดว่า “ดาร์กเว็บไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะเข้าถึงได้ ทำไมคนแก่ที่เราไปเจอมาเมื่อกี้นี้ สภาพเขาดูยากจนข้นแค้นถึงขนาดนั้นแท้ ๆ ถึงสามารถเข้าไปในดาร์กเว็บ แล้วเห็นภารกิจลอบฆ่าฉันที่ประกาศโดยองค์กรนักฆ่าอำพราง The Hiidden Killer ได้ล่ะ?”

ประโยคที่ราบเรียบธรรมดาประโยคเดียว แต่กลับทำให้แววตาของคุนหลุนลุกวาบเป็นประกาย

อาหารที่เข้าปากไปแล้ว ถึงกับถูกพ่นกลับเข้าไปในชามเลยทีเดียว

คุนหลุนวางชามกับตะเกียบลง ขมวดคิ้วเป็นปม เผยให้เห็นถึงความสงสัยและครุ่นคิด

อย่างจริงจัง

น้อยคนนักที่จะรู้ความลับของดาร์กเว็บ

แม้กระทั่งคนอย่างเฉินตงที่มีสถานะทางสังคมในระดับนี้ ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ

แล้วคนที่เป็นชาวไร่ชาวนาแก่ชราคนหนึ่ง รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?

อีกทั้งยังเข้าไปได้แล้ว ยังไปเห็นภารกิจลอบฆ่าที่ประกาศโดยองค์กรนักฆ่าอำพราง The Hidden Killer ด้วย

ประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคือ การเข้าสู่ดาร์กเว็บนั้น จำเป็นต้องใช้วิธีการพิเศษในการเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องพูดถึงฝีมือระดับแฮ็กเกอร์ก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่มีทักษะ รู้เรื่องทางเทคนิคการใช้คอมพิวเตอร์ในระดับหนึ่ง

แต่ชายชราคนนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีความรู้ในการสื่อสารซึ่งเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์เลย

“ ดูจากท่าทางของนาย ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ”

เฉินตงมองคุนหลุนที่กำลังขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดอย่างหนัก ค่อยพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า: “ฉันสงสัยว่าภารกิจลอบฆ่าที่ว่านี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในดาร์กเว็บอีกต่อไปแล้วล่ะ”

ชายชราคนหนึ่ง ที่ไม่มีทางเข้าสู่แวดวงการสื่อสารในดาร์กเว็บ

แต่ทั้งที่เป็นอย่างนั้น กลับรู้ภารกิจลอบฆ่า ทั้งยังกลายเป็นนักฆ่าคนแรกที่มาลอบฆ่าเขาอีกด้วย

ความลับในเรื่องราวทั้งหลายที่เกิดขึ้นนี้ มีมากเกินไปแล้ว!

ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนจงใจชี้นำ เฉินตงคงจะเชื่อมโยงสองเรื่องนี้เข้าด้วยกันได้ยากจริง ๆ แล้ว

“ มีคนนำภารกิจลอบฆ่าออกมาจากดาร์กเว็บ แล้วเผยแพร่ออกไปในโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว” คุนหลุนสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าไปเฮือกใหญ่ “สรุปแล้ว เป็นใครกันแน่นะที่คอยชี้นำอยู่ ? ”

แค่องค์กรนักฆ่าอำพราง The Hidden Killer ในดาร์กเว็บอย่างเดียว ก็น่ากลัวมากพอแล้วแท้ ๆ

หากยังมีคนธรรมดาเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างนี้ พอถึงเวลานั้นเข้าจริง ๆ เพียงแค่จัดการกับคนธรรมดาพวกนี้ก็ทำให้ปวดหัวมากพอแล้ว ไม่ต้องพูดถึงนักฆ่าตัวจริงที่ซ่อนเร้นพรางกายอยู่ในความมืดนั่นอีก

“ไม่ใช่ตระกูลหลี่แน่ ด้วยวิธีการโง่เง่าในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ของตระกูลหลี่ที่ผ่านมา มันเป็นไปไม่ได้ที่หลังจากประกาศภารกิจในดาร์กเว็บแล้ว จะตามด้วยการประโคมข่าวออกไปให้ใหญ่โตจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแบบนี้”

เฉินตงถูจมูกพลางเลิกคิ้วยิ้มหยัน: “จะเป็นไปได้มั้ยว่า อาจเป็นคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน?”

บึ้ม!

คุนหลุนรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างหนัก

ริมฝีปากของเขาพะเยิบพะงาบ คิดอยากจะพูดอะไรออกมาบ้าง แต่กลับพูดไม่ออก

เพราะว่า มันมีความเป็นไปได้มากจริงๆ!

หากจะพูดว่าใครที่เกลียดเฉินตง และอยากกำจัดตระกูลหลี่ซึ่งในเวลานี้มี “หนี้ชีวิต”กับคุณชายอยู่ คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินย่อมต้องมีชื่ออยู่ในอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน!

“แต่ฉันเองก็ไม่แน่ใจนะ อย่างน้อยในแง่ของการชี้นำ คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็สมควรเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุดแล้ว”

เฉินตงยิ้มอย่างฝืดฝืน หลังจากคิดจนได้ประเด็นสำคัญออกมาแล้ว ความวิตกกังวลและความตึงเครียดในใจกลับไม่ได้คลายลง แต่กลับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปเสียอีก

เพราะที่เขาต้องเผชิญหน้าไม่ใช่ตระกูลหลี่ แต่เป็นตระกูลหลี่กับกองกำลังอื่นซึ่งไม่รู้แน่ชัด ต่อให้นั่นจะไม่ใช่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน แต่อย่างไรก็ต้องมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน

และบุคคลที่สามที่ว่านี้ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า อาจจะเป็นฆาตกรที่ฆ่าคุณท่านใหญ่หลี่จริงๆ!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset