Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 311 ทหารรับจ้างเดดพูล

อาหารกลางวันจืดชืดและไร้รสชาติ

การลอบสังหารชายชรา เป็นการประกาศจุดเริ่มต้นในการลอบสังหารครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน ถือเป็นการประกาศว่าภารกิจการลอบสังหารขององค์กรhidden killers จากดาร์กเว็บ มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

เฉินตงถึงขั้นสามารถจินตนาการได้ถึงภาพของเมืองที่ถูกซอมบี้ล้อมเอาไว้

พันล้านดอลลาร์ !

ด้วยเงินจำนวนมหาศาลที่ล่อตาล่อใจอยู่นี้ เป็นการยากที่จะรับประกันได้ว่าจะมีสักกี่คนที่จะสามารถข่มใจของตนเองเอาไว้ได้ และไม่กลายเป็นปีศาจไปเสียก่อน

ในช่วงบ่าย

ในที่สุดทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนหนึ่งร้อยนายก็มาถึง

เสียงเฮลิคอปเตอร์กว่าสิบลำดังกระหึ่ม แล้วบินตรงเข้าไปในเขตวิลล่าเขาเทียนซานอย่างทรงพลัง

ช่างทรงอานุภาพและแข็งแกร่ง

ฉากนี้ ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในเขตวิลล่าเป็นอย่างมาก

ยังดีที่คุนหลุนได้บอกกล่าวโจวเย่นชิวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าจะมีการจัดระบบรักษาความปลอดภัยในที่เกิดเหตุขึ้นในเขตวิลล่า

อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยค่อยๆ ถูกลำเลียงลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ทีละชิ้นๆ

เมื่อเห็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่กองเป็นภูเขาเลากา กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกกองร้อย เฉินตงก็รู้สึกราวกับว่า พวกเขาจะเข้ามาปรับปรุงวิลล่าให้เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม

แต่เป็นเช่นนี้ก็ดี ระบบที่ซับซ้อน จะทำให้รู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

คุนหลุนให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จัดระบบภายในห้องนอนของเฉินตงเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงพาคนไปจัดระบบตรงจุดอื่นๆ

สิ่งนี้เอื้อประโยชน์ต่อการพักผ่อนของเฉินตง

เมื่อเฉินตงเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง เขาก็มองสำรวจรอบๆ และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย

จากการประเมินด้วยสายตา สิ่งของทุกอย่างยังคงถูกจัดวางไว้ที่เดิม

ราวกับไม่มีการสัมผัสใดๆ เลยแม้แต่น้อย

มีเพียงสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปก็คือ บนพื้นข้างหน้าต่าง มีอุปกรณ์ในการทำงานเพิ่มขึ้นมาสองสามชิ้นเท่านั้น

“คุณชายครับ มีการดัดแปลงอยู่หลายจุด แต่ได้ถูกแอบซ่อนไว้อย่างดีแล้ว”

คุนหลุนเดินตามเข้ามา ราวกับเข้าใจความคิดของเฉินตง เขาเดินนำไปที่หน้าต่าง จากนั้นจึงใช้ข้อนิ้วเคาะกระจก แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “ยกตัวอย่างเช่นกระจกบานนี้ เป็นกระจกด้านเดียว คุณชายสามารถมองเห็นด้านนอกได้ แต่ด้านนอกกลับมองไม่เห็นด้านใน”

ขณะที่พูด คุนหลุนก็ชี้นิ้วไปยังอุปกรณ์สองสามชิ้นเหล่านั้น

“ยังมีของพวกนี้อีก ซึ่งจะทำหน้าที่คอยรบกวนระบบอินฟราเรด และรบกวนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น ถึงแม้นักฆ่าจะใช้การฆ่าด้วยสไนเปอร์จากระยะไกลด้วยเทคโนโลยีขึ้นสูงก็ไม่อาจทำได้ รวมไปถึงผนังทั้งสี่ด้าน มีการเสริมด้วยวัสดุโลหะผสมพิเศษเอาไว้ด้วย”

เฉินตงอดไม่ได้ที่จะแอบรู้สึกตกใจ

การรักษาความปลอดภัยระดับนี้ เกรงว่าจะเทียบได้กับเหล่าบรรดามหาอำนาจทรงพลังเหล่านั้นได้เลยทีเดียว ?

คุนหลุนแนะนำเพียงสั้นๆ ซึ่งน่าจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

เฉินตงเชื่อว่า น่าจะยังมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอีกหลายอย่างภายในห้องนอนแห่งนี้ มิเช่นนั้นการผนวกกำลังปรับปรุงห้องของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนร้อยนาย คงไม่ทำอยู่นานจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดินเช่นนี้จึงจะสำเร็จ

เขาค่อยๆ กวาดสายตามองดูห้องนอนที่ยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

เฉินตงกลับยิ้มไม่ออก ระบบการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและแน่นหนา แสดงให้เห็นว่าการลอบสังหารในครั้งนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง

หลังจากรู้ว่าภายในห้องนอนห้องเล็กๆ นี้ มีการติดตั้งระบบเอาไว้มากมาย เขายิ่งรู้สึกหนักใจมากขึ้น

อีกทั้ง

คุนหลุนเองก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “หวังว่าจะป้องกันได้นะครับ”

เฉินตงรู้สึกใจสั่นเล็กน้อย และเหลือบไปมองคุนหลุนด้วยความประหลาดใจ

เดิมทีเขาคิดว่า มีเพียงตัวเขาซึ่งตกเป็นเป้าในการลอบสังหารเท่านั้น ที่มีความรู้สึกเช่นนี้

กลับคิดไม่ถึงเลยว่าคุนหลุนจะรู้สึกเช่นเดียวกัน !

“ระบบมากมายขนาดนี้ ยังจะป้องกันไม่ได้อีกเหรอ?” เฉินตงถาม

“ในปีนั้น Rothschild เพื่อที่จะปกป้องตัวเขาเอง Rothschild ได้สร้างป้อมปราการพิเศษขึ้นมาหนึ่งป้อม”

คุนหลุนผายมือออกมา แล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ซับซ้อน : “คุณชาย ประสิทธิภาพในการสังหารที่นักฆ่าจะปลดปล่อยออกมาจริงๆ นั้น ยากเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการได้”

น้ำเสียงที่ทุ้มและเคร่งขรึม ทำให้ห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอันตรายในทันที

เฉินตงยืนนิ่งอยู่กับที่ ตอนนี้ริมฝีปากของเขาขยับ แต่กลับพูดอะไรไม่ออก

เขารู้สึกราวกับว่าลำคอตีบตัน เหมือนมีมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นเข้ามาบีบที่ลำคอของเขาเอาไว้ อย่าว่าแต่พูดเลย แม้กระทั่งหายใจก็ยังรู้สึกหายใจลำบาก

คราวนี้เดินมาถึงทางตันแล้วจริงๆ หรือนี่ ?

คุนหลุนเป็นหนึ่งในสามนักฆ่าที่ประสบความสำเร็จในการลอบสังหาร Rothschild ในครั้งนั้น สิ่งที่เขาพูดออกมา จึงไม่เกินกว่าความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย

เปรียบได้กับ คนเราเมื่อถึงคราวก็ต้องตาย ไม่มีใครยึดรั้งได้แม้แต่เสี้ยวเดียว

“คุณชาย คุณพักผ่อนก่อนเถอะครับ อย่ากังวลจนเกินไปเลย ควรทำอะไรอยู่ในห้องก็ทำ ทำทุกอย่างให้เหมือนปกติ”

คุนหลุนตบไหล่เฉินตง แล้วพูดปลอบเบาๆ แต่เมื่อมาถึงประโยคสุดท้าย น้ำเสียงกลับฟังดูเคร่งขรึมขึ้น : “ส่วนที่เหลือ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมกับบรรดาสหายเก่าที่อยู่ข้างนอกก็พอ”

“ลำบากพวกนายแล้ว”

เฉินตงพยักหน้า หลังจากประตูห้องปิดลงแล้ว เขาก็ค่อยๆ เดินไปที่หน้าต่าง

ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังตกดิน ไฟทางเดินด้านนอกเริ่มสว่างขึ้นมา

มองไปแวบแรก ก็เห็นความเงียบเหงาของเขตวิลล่าเขาเทียนซานปรากฏขึ้น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นได้ง่ายดายนัก

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นอกจากจะเชื่อใจพวกของคุนหลุนแล้ว ก็คงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้อีกจริงๆ

“ความรู้สึกแบบนี้ เกิดขึ้นมาอีกแล้ว น่ารำคาญจริงๆ”

เฉินตงบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง

เขาพยายามอย่างสุดชีวิต เพื่อไม่ต้องการให้ตนเองกลายเป็นคนไร้ความสามารถที่อยู่ภายใต้กระแสสังคมนี้ แต่สุดท้าย เขากลับไม่สามารถหลีกหนีจากการหมุนเวียนของกระแสสังคมไปได้

การตายของแม่ ทำให้นิสัยของเขาเปลี่ยนไป

แต่ถึงแม้นิสัยที่เปลี่ยนไปของเขาจะมีความโหดเหี้ยมและเด็ดขาดมากขึ้น ทว่าตอนนี้กลับยังคงไร้ความสามารถอยู่เช่นเดิม ถึงขั้นต้องเกลี้ยกล่อมให้ภรรยายอมเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อปกป้องตนเอง

เรื่องนี้ เมื่อลองคิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกน่าขำ

ยิ่งคิด เฉินตงก็ยิ่งรู้สึกหดหู่มากขึ้น

เขาแง้มหน้าต่างออกไปด้วยความกว้างประมาณนิ้วหัวแม่มือ คิดที่จะสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกสักหน่อย

โขลบ !

ขณะที่เปิดหน้าต่าง โทรศัพท์ก็ร่วงออกจากกระเป๋ากางเกง ลงไปอยู่บนพื้น

เฉินตงก้มลงไปเก็บโทรศัพท์ ขณะที่กำลังลุกขึ้น

ปัง !

เสียงปืนดังขึ้น

แทบจะในเวลาเดียวกัน เฉินตงรู้สึกเหมือนมีลมร้อนพัดผ่านท้ายทอยของเขาไป

ปัง !

พุ่งตรงเข้าไปยังผนังที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งแขวนรูปแต่งงานของเขาและกู้ชิงหยิ่งเอาไว้

และตอนนี้เอง กระสุนลูกหนึ่งได้ยิงทะลุรูปของเฉินตงที่อยู่ในรูปแต่งงาน และฝังเข้าไปในกำแพง

“เฮ้ย !”

เฉินตงตกใจจนหน้าซีด เขารีบโน้มตัวแล้วย่องไปที่มุมกำแพงในทันที

ภาพที่เห็นคือ กระสุนเจาะทะลุศีรษะของเขาที่อยู่ในภาพพอดิบพอดี

กระสุนลูกนี้ เกือบไปแล้ว !

“คุนหลุน !”

เฉินตงตะโกนเสียงดัง

แทบจะในเวลาเดียวกัน มีเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นอย่างต่อเนื่องที่โถงทางเดินด้านนอก

ปัง !

ประตูห้องเปิดออก

คุนหลุนนำกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่านายบุกเข้ามา

ในขณะเดียวกัน เขาก็ตะคอกขึ้นมาด้วยความโมโห : “บัดซบ ! รีบไปเดี๋ยวนี้ ไปลากตัวไอ้สารเลวที่เป็นคนยิงมาให้ฉันให้ได้ แล้วฆ่ามันซะ !”

ขณะที่ตะคอกอยู่นั้น คุนหลุนก็ก้มลงไปลูบตรงด้านหน้าของเฉินตง มือขวาของเขาถือปืนเอาไว้ ส่วนมือซ้ายจับไหล่ของเฉินตง : “คุณชาย ตามผมมา”

เฉินตงใบหน้าซีดเผือด ถึงขั้นแววตาดูเลื่อนลอย

ด้วยแรงกระตุ้นจากสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เขาจึงนั่งยองๆ ลงบนพื้น แล้วเดินตามคุนหลุนออกจากห้องนอนไป

ขณะที่ทั้งสองคนเดินไปถึงโถงทางเดิน ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนสิบกว่านาย

จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้นจากที่ไกลๆ

เสียงไม่ดังมาก คาดว่าน่าจะอยู่ห่างจากวิลล่าไปพอสมควร

แต่หลังจากที่เสียงปืนดังขึ้น

คุนหลุนก็หยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน

“บัดซบ ! ไม่ใช่คนเดียว ?”

ร่างกายของเฉินตงสั่นเทา

แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน เครื่องรับส่งวิทยุบนไหล่ของคุนหลุนก็ดังขึ้น

“หัวหน้า ! ขอกำลังเสริม ฝ่ายตรงข้ามไม่ทราบจำนวนแน่ชัด กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบ พวกเราสูญเสียพี่น้องไปสามคนแล้ว !”

คุนหลุนโกรธจัด

บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินหนาวเหน็บขึ้นทันที

เฉินตงเองก็รู้สึกชาไปทั้งตัว

หากไม่ใช่เพราะเขายังพอมีสติอยู่บ้าง ตอนนี้เขาคงทำถึงขั้นลุกขึ้นและวิ่งออกไปข้างนอกแล้ว

แต่วิ่งออกไปข้างนอกตอนนี้ ก็ต้องตาย !

ยังไม่ทันที่คุนหลุนจะตอบกลับ

จู่ๆ ปลายสายก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“หัวหน้า ! ผมเห็นแล้ว เป็นทหารรับจ้างเดดพูล !”

ทหารรับจ้างเดดพูล ?

เฉินตงขมวดคิ้วแน่น แทบจะในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกได้ว่ามือใหญ่ของคุนหลุนที่วางอยู่บนไหล่กำลังสั่น

เขาเหลือบมองคุนหลุน กลับพบว่าคุนหลุนสีหน้าซีดเผือดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

จากนั้น คุนหลุนก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : “ถอนกำลังเดี๋ยวนี้ สร้างแนวป้องกัน ให้ตายเถอะ ทีมหมาป่าที่โด่งดังในทะเลทรายเช่นนี้ ทำไมถึงได้เข้าร่วมภารกิจขององค์กรลอบสังหารได้ ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset