Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 312 คุนหลุน นักฆ่ามือพระกาฬ

ถึงแม้คุนหลุนจะกำลังก่นด่า

แต่ทว่าน้ำเสียง การออกคำสั่ง ไปจนถึงสีหน้าอารมณ์ ล้วนแสดงออกถึงความหวาดกลัวที่มีต่อทหารรับจ้างเดดพูล

เฉินตงพยายามสูดหายใจเข้าเต็มปอด เพื่อให้ตนเองสามารถสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้

แต่ในเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ จะให้สงบอยู่ได้อย่างไร ?

ภารกิจลอบสังหาร ที่ดึงทหารรับจ้างเดดพูลมาเข้าร่วมอย่างไม่คาดฝัน เช่นนี้จะให้ป้องกันได้อย่างไร ?

เสียงปืนดังขึ้นจากที่ไกลๆ

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนสิบกว่าคนที่อยู่บริเวณโถงทางเดิน ต่างก็ค่อยๆ หันหลังกลับ ยกปืนขึ้นเพื่อป้องกันตัวออกไป และล่าถอยตามคำสั่ง

นี่ไม่ใช่การลอบสังหารและการป้องกันตามปกติอีกต่อไป

แต่เป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธปืนอย่าเต็มรูปแบบ

คุนหลุนสีหน้าเคร่งขรึม แววตาของเขาสั่นไหว ราวกับกำลังมีความคิดอะไรบางอย่าง

เฉินตงนั่งลงตรงโถงทางเดิน เสียงปืนที่ดังขึ้นอย่าต่อเนื่องทำให้สติของเขาแตกกระเจิง

แต่เขารู้ดีว่า ในการต่อสู้เช่นนี้ เขาจำเป็นต้องเลือกที่จะเชื่อใจคุนหลุนและทีม

หากตอนนี้เขาเข้าไปมีส่วนร่วมมากเกินไป จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง

“หัวหน้า พวกเขาถอนกำลังกลับมาหมดแล้วครับ !”

มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากในห้องห้องหนึ่ง

เฉินตงเหลือบมองอย่างไม่รู้ตัว ห้องนั้นอยู่ตรงข้ามกับประตูใหญ่ของเขตวิลล่าเขาเทียนซานพอดี และเป็นทิศทางที่มีเสียงปืนดังขึ้น

เฉินตงลูบจมูก และยิ่งรู้สึกหนักใจมากยิ่งขึ้น

เหตุการณ์ใหญ่โตเช่นนี้ คาดว่าภายในวิล่าตอนนี้ คงจะวุ่นวายไม่น้อย ?

ปกติแล้ว ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับตระกูลมั่งคั่ง ทว่าส่วนใหญ่ก็จะพยายามกระทำการอย่างรอบคอบ และพยายามปิดบังเรื่องทุกอย่างเอาไว้เป็นความลับอย่างดีที่สุด ไม่ให้ใครล่วงรู้ได้

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ด้านนอกคือทหารรับจ้างเดดพูล

เป็นทหารรับจ้างที่อันตรายและโหดร้าย และไม่สนใจว่าจะปิดบังได้หรือไม่ หรือจะถูกคนอื่นล่วงรู้เข้าหรือไม่

“เอาปืนของฉันมา !”

ความดุดันเผยขึ้นในแววตาของคุนหลุน

ตอนนี้ ร่างกายของเขาแผ่ซ่านเจตนาฆ่าที่รุนแรงออกมา จนแม้แต่เฉินตงก็รู้สึกหวาดกลัว

ตอนนี้เขี้ยวอันแหลมคมถูกเผยออกมาราวกับสัตว์ร้ายโบราณ

นี่ถึงจะเป็นท่าทางของนักฆ่ามือพระกาฬที่แท้จริงใช่หรือไม่ ?

เฉินตงยังคงรู้สึกหวาดกลัว เขามองดูแผ่นหลังของคุนหลุนและรู้สึกตกใจถึงขีดสุด

โดยปกติแล้ว คุนหลุนทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าเขาเป็นคนเงียบขรึมและหนักแน่น

ถึงแม้ในตอนนั้น เขาจะเคยเผยเจตนาฆ่าที่รุนแรงออกมาเพื่อปกป้องฟ่านลู่ แต่ทว่ายังแตกต่างกับท่าทีในตอนนี้โดยสิ้นเชิง

ตอนนี้คุนหลุนทำให้เฉินตงรู้สึกราวกับกำลังขึ้นเนิน แล้วจู่ๆ ก็ทะยานขึ้นไปสู่ยอดเขาในทันที

ไม่ช้า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง ได้หยิบปืนยาวที่ถูกห่อหุ้มเอาไว้อย่างดีด้วยผ้าใบกันน้ำสีเขียวออกมา

ตุ้บ !

หลังจากที่ผืนผ้าใบกันน้ำหล่นลง ก็เผยให้เห็นปืนไรเฟิลซุ่มยิงที่ดูน่าเกรงขามออกมา

AWM—P!

เฉินตงตกใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้เขาจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธปืนมากนัก แต่เขาก็รู้จักสไนเปอร์กระบอกนี้

กระบอกปืนไรเฟิลซุ่มยิงทั้งกระบอกเป็นสีเขียว ดูราวกับงูพิษที่กำลังเล็งเป้าไปที่เป้าหมาย

“หัวหน้าครับ ปืนกระบอกไม่ได้นำออกมาใช้งานกี่ปีแล้ว ?”

แววตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังถือปืนอยู่ลุกวาว

“สามปีแล้ว”

คุนหลุนค่อยๆ ลูบปืนกระบอกยาว ราวกับกำลังลูบแก้วตาดวงใจของเขา

เขาหันหลัง แล้วถือปืนเดินตรงไปยังห้องที่อยู่ตรงข้ามกับประตูใหญ่ของเขตวิลล่า

เฉินตงนั่งอยู่บนพื้นตลอดเวลา

การเปลี่ยนแปลงของคุนหลุน ทำให้เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งมีเสียงกระซิบของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนดังขึ้นข้างหูของเขา

“พวกนายว่า ครั้งนี้หัวหน้าจะฆ่าได้กี่คน ?”

“กี่คนนะเหรอ? หากน้อยกว่าสิบคน ก็คงไม่คุ้มกับที่หัวหน้าหยิบปืนกระบอกนี้ออกมาใช้แล้ว”

“เยี่ยมไปเลย หัวหน้าเผยความสามารถที่แท้จริงออกมาแล้ว คราวนี้พวกทหารรับจ้างเดดพูลมีหวังน้ำตาตกแน่ๆ”

……

เมื่อได้ยินเสียงกระซิบกระซาบ เฉินตงก็รู้สึกราวกับมีคลื่นลูกใหญ่ถาโถมอยู่ภายในหัวใจ

เขาเหลือบตาไปมองแล้วพบว่า บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังกระซิบกระซาบกันอยู่ ไม่มีทีท่าวิตกกังวลอย่างเช่นเมื่อครู่อีกต่อไปแล้ว แต่กลับดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

ถึงขั้นว่าขณะที่พูดคุยกัน ยังมีคำพูดติดตลกออกมาด้วย

ปัง !

ทันใดนั้น มีเสียงดังกระหึ่มออกมาจากในห้อง

ปัง !

เสียงดังต่อเนื่องไม่หยุด ยังคงเป็นเสียงปืนที่ดังกระหึ่มขึ้นมา

เสียงปืนทำให้แก้วหูของเฉินตงสั่นสะเทือนและรู้สึกเจ็บปวดในทันที

จากนั้น เขาก็เป็นนิ้วมือสองนิ้วโผล่ออกมาจากภายในห้อง

เห็นได้ชัดว่าเป็นการส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามนายที่อยู่ข้างๆ เขา

“หนึ่งนัดหนึ่งคน สมแล้วที่เป็นหัวหน้า !”

บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่างรู้สึกดีใจและตื่นเต้น

เฉินตงเองก็พลอยโล่งใจไปด้วย

ก่อนหน้านี้ เขารู้แค่เพียงว่าทักษะการต่อสู้ของคุนหลุนนั้นยอดเยี่ยม

แต่เมื่อลองพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ราชาแห่งนักรบที่ฝ่าสมรภูมิรบมาได้ หากอาศัยเพียงแค่ทักษะการต่อสู้ก็สามารถฟันฝ่ามาได้ มันก็คงจะดูธรรมดาเกินไปหน่อย ?

ดูเหมือนว่าการยิงปืนต่างหาก ที่เป็นทักษะชั้นเยี่ยมที่แท้จริงของคุนหลุน !

หลังจากเสียงปืนไรเฟิลซุ่มยิงดังขึ้นสองนัดจากที่ไกลๆ เสียงดังของปืนก็หยุดลงอย่างกะทันหัน

แต่คุนหลุนไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย

ปัง !

ปัง !

ปัง !

……

เสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด ระยะห่างของแต่ละนัดนั้นสั้นมาก

แต่เฉินตงกลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน มือที่ยื่นออกมาจากห้องห้องนั้น ยกนิ้วที่งออยู่ขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนิ้วทั้งห้าถูกยกขึ้นทั้งหมด แล้วค่อยๆ งอกลับไปทีละนิ้วๆ อีกครั้ง

หนึ่งนัดหนึ่งคน !

ไม่มีนัดไหนที่พลาดเป้า !

ตอนนี้เอง มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นต่อเนื่องที่ชั้นล่างของวิลล่า และภายในลานด้านนอก ก็มีเสียงปืนดังขึ้น

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ออกไปตามหานักฆ่าเมื่อครู่ ตอนนี้ได้ถอนกำลังกลับเข้ามาอยู่ภายในบ้านทั้งหมดแล้ว

สิ่งที่น่าตกใจก็คือ การคุ้มกันทีมทั้งทีมในการถอนกำลังกลับมา ด้วยฝีมือการยิงของคุนหลุน ที่สามารถฆ่าหนึ่งคนต่อการยิงหนึ่งนัดได้ !

ภาพที่ปรากฏขึ้นนี้ ทำให้เฉินตงเหงื่อกาฬไหลออกมาจนเต็มแผ่นหลัง และรู้สึกขนลุกด้วยความกลัว

ความสามารถเช่นนี้ จะมีอยู่สักกี่คนบนโลก ?

“คงจะล่าถอยไปแล้วสินะ ?” เฉินตงรู้สึกผ่อนคลายลง

ขณะที่ความคิดเพิ่งจะปรากฏขึ้น ก็มีเสียงของชาวต่างชาติดังขึ้นจากที่ไกลๆ

เฉินตงได้ยินอย่างชัดเจน

ใช่แน่นอน

“คุนหลุน ! ฉันคือผู้นำของแวมไพร์ดูดเลือดเดดพูล คิดไม่ถึงเลยว่า ไม่เจอกันหลายปี ฝีมือการยิงปืนของนายยังยอดเยี่ยมเช่นเดิม !”

คุนหลุนก่นด่าด้วยภาษาต่างชาติก่อน จากนั้นจึงตะคอกออกมาด้วยความโมโห

“แวมไพร์เหรอ? ไอ้พวกหมาป่าจรจัด คนที่อยู่ที่นี่ คือคนที่ฉันต้องปกป้อง ถ้าไม่อยากตาย ถอนกำลังกลับไปให้หมด !”

จากนั้น

ทันทีที่พูดจบ

“ถอย !”

จู่ๆ เสียงตะโกนด้วยความโกรธของคุนหลุน ก็ดังออกมาจากภายในห้อง

เฉินตงยังไม่ทันได้ตอบโต้ ก็มองเห็นคุนหลุนและบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ภายในห้องต่างวิ่งออกมาด้วยความหวาดกลัว

ทันใดนั้น เฉินตงก็มองเห็นประกายไฟและกลุ่มควันลอยโขมงขึ้นมาจากที่ไกลๆ ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น

“คุณชาย หนีเร็ว !”

ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน คุนหลุนวิ่งเข้าไปหาเฉินตง แล้วดึงเฉินตงขึ้นมา

ทั้งสองวิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว

แต่ออกวิ่งได้เพียงไม่กี่ก้าว

ตูม !

มีเสียงดังสนั่นเกิดขึ้นที่ด้านหลัง ข้าวของกระจัดกระจาย

การโจมตีที่น่ากลัว ทำให้กำแพงพังทลาย

เฉินตงรู้สึกเหมือนมีแรงผลักพุ่งเข้ามาที่ด้านหลังอย่างแรง จนตัวของเขาลอยพุ่งไปด้านหน้า

หลังจากล้มลงบนพื้น เขาก็หันกลับไปมองด้วยความตื่นตระหนก และรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

ห้องที่พวกของคุนหลุนอยู่เมื่อครู่ ตอนนี้พังทลายเป็นผุยผง มีควันลอยโขมงและฝุ่นตลบอบอวล

“บัดซบ ใช้แม้กระทั่งระเบิด RPG ไอ้พวกสวะพวกนี้ มันบ้าไปแล้วหรือยังไง ?”

คุนหลุนถ่มน้ำลายที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงออกมา

“พวกมันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”

ใบหน้าซีดเผือดของเฉินตงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด แววตาลึกซึ้งของเขาเผยให้เห็นความกลัวอย่างถึงที่สุด ซึ่งไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน

“นี่มันเป็นกลุ่มคนบ้าชัดๆ คนบ้าที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น อาศัยเพียงแค่พวกนายคงจัดการกับพวกมันไม่ได้”

คำพูดประโยคนี้ ยากที่คุนหลุนจะโต้เถียงได้

ในโลกของทหารรับจ้าง เขาผู้ซึ่งเป็นราชาของทหารรับจ้างย่อมรู้ดีกว่าใคร

เงินสำคัญกว่าชีวิต

ภายใต้การยั่วยวนของเงินพันล้านดอลลาร์ พวกสวะเดดพูลที่อยู่ด้านนอก จะต้องยอมต่อสู้อย่างสุดชีวิตแน่นอน

“แต่พวกเราไม่มีที่ไปแล้ว” คุนหลุนพูดอย่างจริงจัง

เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นมาทันที : “มีอยู่ที่หนึ่ง ที่พวกมันน่าจะกลัว !”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset