Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 27 ดูห้อง

บทที่ 27 ดูห้อง

เช้าตรู่วันที่สอง

เฉินตงได้รับข้อความในโทรศัพท์

เมื่อเห็นว่าเป็นบัตรเครดิตชงโค ที่โอนเข้ามากว่าพันล้าน เขาก็ยิ้มเยาะ

มันทำให้เขารู้ว่าเขาเข้าใจคำพูดของท่านหลงเมื่อวานผิดไปแล้ว

พันล้านไม่สามารถชดเชยได้ เลยโอนมาให้อีกพันล้านงั้นเหรอ?

มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ง่ายและลวกๆ จริงๆ เลย!

พ่อที่ไม่เคยเห็นหน้าเนี่ย มีเงินมากแค่ไหนกันแน่นะ?

หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เฉินตงก็ดูบ้านเช่าสองห้องนอน จู่ๆ เขาก็นึกถึงสิ่งที่ฟ่านลู่พูดกับเขา

มีเงินในมือเยอะขนาดนี้ ยังอยู่บ้านเก่าๆ อีก ทำไมต้องมีทำให้ตัวเองน้อยใจด้วยนะ?

ยังไม่ต้องสนใจเรื่องรถในตอนนี้ก็ได้ แต่บ้านอย่างไรก็ต้องเปลี่ยนใหญ่หน่อย

เขาทำสำเร็จ อีกเดี๋ยวแม่ก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว บ้านก็ต้องมีฟ่านลู่เพิ่มมาอีก มีแต่สองห้องนอนไม่พอแน่นอน

ลังเลอยู่สักพัก เฉินตงก็ตัดสินใจไปดูบ้านพักตากอากาศ

ถ้าเทียบกับห้องพักธรรมดานั้น บ้านเดี๋ยวมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า

เขาอายุพอๆกับฟ่านลู่ หลังจากนี้ฟ่านลู่ต้องมาอยู่ในบ้านเขาอีก ถ้าบ้านเล็กเกินไป เดี๋ยวจะเกิดเรื่องที่ทำให้มองหน้ากันไม่ติดได้

เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ เฉินตงก็ออกจากบ้านเพื่อขับไปที่เขตบ้านเดี่ยวที่ดีที่สุดของเมือง

……

เขตวิลล่าเขาเทียนซาน เป็นเขตที่มีแต่คนรวยๆ อยู่กัน

หนึ่งตารางเมตรราคาหนึ่งแสน เลยทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาอยู่

แต่นี่ เป็นแค่ราคาเริ่มต้นของเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

สิ่งที่ทำให้คนมีความตื่นเต้นได้คือบ้านที่มันตั้งอยู่ตรงกลางภูเขา เจ้าของที่นี่ถึงจะเป็นราคาที่สูงลิ่วจริงๆ

อยู่ที่บ้านที่ตั้งอยู่กลางเขา สามารถมองเห็นทั้งเขตได้อย่างชัดเจน บรรยากาศเขียวชอุ่มสวยงาม สิ่งที่ดึงดูดก็คือ ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นและตก จะมาแสงสาดเข้ามา คลุมทั้งบ้านยิ่งสวยขึ้นไปอีก

หลี่ต้าเป่าเดินเข้าไปในที่ซื้อขายบ้านของเขาเทียนซาน

การทำโฆษณาการขายบ้านในเขาเทียนซานนั้น เป็นผลงานของพี่เขยเขาอย่างโจวเย่นชิว

แต่ทว่า หลังจากเจอเรื่องเมื่อคืนมา หลี่ต้าเป่าไม่ใช่แค่ตาจมูกบวม แต่ขนาดตำแหน่งการขายนั้นยังเปลี่ยนไปอย่างไม่ทันตั้งตัว

ในตอนแรกเขายังพึ่งพาพี่เขยได้ และได้เป็นผู้จัดการของการขาย แต่ผ่านไปเพียงคืนเดียว โจวเย่นชิวที่โกรธมากและขู่จะหย่ากับพี่สาวเขา ทำให้เขาต้องไปขอโทษเฉินตง มันทำให้จากที่เขาได้เป็นผู้จัดการการขาย กลายมาเป็นแค่คนขายเท่านั้น

“เฮ้ย หลี่ต้าเป่า มาทำอะไรแต่เช้าเลย?” มีผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดทำงานอย่างมืออาชีพและแต่งหน้าหนายิ้มพลางเดินเข้ามา “คืนนี้เป็นวันเกิดของฉัน หลี่ต้าเป่าต้องมาดื่มเป็นเพื่อนนะ”

การเข้ามาทำการขายวันแรกของหลี่ต้าเป่า เขาบอกทุกคนไว้หมดแล้ว ว่าเขาเป็นน้องชายของผู้บริหารอย่างโจวเย่นชิว นี่เป็นสิ่งที่เขามักจะทำอยู่บ่อย

เมื่อได้ร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ อย่างหนึ่งคือจะได้ทำอะไรได้สะดวกขึ้น

แค่ฐานะของตัวเองคนเดียว ก็สามารถทำให้ผู้หญิงพวกนี้เข้ามาหาได้เหมือนกับเป็นผีเสื้อแล้ว

ตรงหน้ามีผู้หญิงคนหนึ่ง

“ได้สิๆ” หลี่ต้าเป่ายังหย้าบวมอยู่ ยิ้มแล้วดูไม่ได้เลย

“แต่ทว่า หลี่ต้าเป่า การประเมินงานเดือนนี้ของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดังนั้นหลี่ต้าเป่า……ฉันจะทำดีตอบแทนคุณนะ”

ผู้หญิงคนนี้ยิ้มสวย ก่อนจะจับไปที่แผงอกของหลี่ต้าเป่าเบาๆ เพื่อทำให้หลี่ต้าเป่าหัวใจกระชุ่มกระชวย

ฉากแบบนี้เขาเห็นมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ทำไมจะไม่เข้าใจความหมายของผู้หญิง?

เพียงแต่ว่า แค่คิดก็ใจหายแล้ว

เขาเลยพูดเบาๆ ด้วยอารมณ์หมองว่า: “อันที่จริงฉัน……”

“จางโยวโยว หลี่ต้าเป่า พวกคุณยังไม่รีบไปเก็บของอีก เดี๋ยวจะเริ่มทำงานแล้ว ยังจะยืนกันอยู่ทำไม?” วัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้น

จางโยวโยวขมวดคิ้ว ก่อนจะตอบว่า: “ฉันกับผู้จัดการหลี่มีเรื่องต้องไปจัดน่ะ”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณมีอะไรก็มารายงานกับฉัน ประธานโจวบอกมาเอง ว่าตอนนี้หลี่ต้าเป่าถูกลดขั้นมาเป็นพนักงานขายแล้ว ผู้จัดการพนักงานขายให้ฉันเป็นคนทำแทน”

วัยกลางคนยิ้มพลางพูดอย่างเย็นชา ทันทำให้จางโยวโยวอ้าปากค้างไปเลย

หลี่ต้าเป่าไม่ได้เป็นน้องชายของประธานโจวหรอกเหรอ?

เพียงคืนเดียวก็ถูกประธานโจวกำจัดแล้ว?

เพียงตอนแรกที่ได้เห็นรอยแผลของหลี่ต้าเป่า จางโยวโยวเป็นคนฉลาด

เลยยิ้มสวยออกมา ก่อนจะพูด: “หลี่ต้าเป่า เดี๋ยวฉันไปทำงานก่นนะ”

ผู้จัดการหลี่กับหลี่ต้าเป่าเปลี่ยนคำเรียกไปหมด อย่างเลี่ยงไม่ได้

หลี่ต้าเป่ามองเรือนร่างของจางโยวโยว ก่อนจะพูดด้วยความไม่เต็มใจ: “โยวโยว วันเกิดคุณคืนนี้……”

“อ๋อ หลี่ต้าเป่า คืนนี้ฉันต้องทำงานดึกเพื่อการประเมินน่ะ” จางโยวโยวไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ แต่กลับเติมบาดแผลให้หลี่ต้าเป่า

จางโยวโยวหลบหลี่ต้าเป่าไปแล้ว ก่อนจะรีบไปหาคนวัยกลางคนที่สั่งเมื่อครู่

“พี่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลี่ต้าเป่าเป็นน้องชายแท้ๆ ของภรรยาของประธานโจวเลยนะ!”

วัยกลางคนกลอกตามองบน ก่อนจะพูดด้วยความโกรธ: “เห็นรอยแผลบนหน้าเขาไหมล่ะ?ประธานโจวทำเองกับมือเลยล่ะ น่าจะไปมีเรื่องกับคนใหญ่คนโตที่ไหนมา ผู้บริหารฝ่ายการขายได้รับสายจากประธานโจวตอนกลางดึก ว่าให้เอาหลี่ต้าเป่าลงไป”

“ได้ยินผู้จัดการบอกว่า คนใหญ่คนโตคนนั้นขนาดประธานโจวเองยังไม่กล้ามีเรื่องเลย แถมประธานโจวยังคิดจะหย่ากับภรรยาอีก”

ความลับไม่มีในโลก ยิ่งในบริษัทที่มีคนเยอะแยะวุ่นวายยิ่งแล้วใหญ่

“ให้ตายเถอะ!”

จางโยวโยวมองด้วยสายตากลมโต พลางเอามือสวยปิดปาก: “งั้นก็หมายความว่า หลี่ต้าเป่าคงจะหมดหวังแล้วงั้นเหรอ?”

หลังจากที่ได้รับการยืนยันจากชายวัยกลางคน จางโยวโยวก็รู้สึกโกรธหลี่ต้าเป่ามาก ก่อนจะดึงเสื้อผ้า แล้วด่า: “แม่งเอ้ย!”

เมื่อเฉินตงรีบเดินเข้ามาในแผนกการขายของบ้านเดี่ยวเขาเทียนซาน

คนขับแท็กซี่มองเฉินตงจากกระจกหลัง ก่อนจะขำ: “น้องเอ้ย มาสมัครงานเป็นคนขายที่เทียนซานเหรอ?ตาถึงนะเนี่ย ฉันขับแท็กซี่มาเนี่ยรู้ข่าวดีที่สุดเลย พนักงานขายที่เทียนซานเนี่ย ได้เงินเดือนห้าหมื่นเชียวนะ!”

“มาซื้อบ้าน” เฉินตงจ่ายเงินก่อนจะลงจากรถ

คนขับแท็กซี่งงเป็นไก่ตาแตกก่อนจะมองพวงมาลัย พลางบ่นพึมพำ: “ให้ตายเถอะ เพิ่งเคยเห็นคนอวดดีขนาดนี้ นั่งแท็กซี่มาซื้อบ้านเดี่ยว แถมแต่งตัวที่เรียบง่าย ?งั้นฉันก็ขับโรลส์-รอยซ์แล้วล่ะ”

เมื่อได้ยินคนขับรถพูด เฉินตงยิ้ม แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

ขณะที่เขาเดินเข้าไปในที่ขายของบ้านพักเทียนซานนั้น

จางโยวโยวกับพนักงานขายหลายๆ คนก็เห็นเขา

คนที่จะมาเป็นพนักงานขายในบ้านพักตากอากาศของเขาเทียนซานได้ เป็นคนเก่งทั้งนั้น และก็ต้องเป็นคนที่ดูอารมณ์คนเก่งและวางตัวดีเป็นอย่างมากด้วย

ไม่อย่างนั้น ก็คงจะไม่มีข่าวลือที่ว่าเงินเดือนต่ำสุดห้าหมื่นได้หรอก

“ได้เวลาสอบแล้ว” พนักงานขายผู้ชายคนหนึ่งพูดล้อขึ้น

นี่เป็นความสนุกที่พวกเขามีกันในแต่ละวัน จะดูความสามารถในการซื้อขายจากการมองคน

เมื่อพูดออกไป

จางโยวโยวและอีกหลายๆ คนก็พูดด้วยความรังเกียจพร้อมกันว่า: “ยากจน!”

“ใครจะเข้าไปต้อนรับ?” พนักงานขายชายถาม

“เสียเวลา”

“ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ไป ใครกล้า ก็ลองให้พนักงานขายใหม่อย่างหลี่ต้าเป่าเข้าไปลองดูสิ?”

“มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะไปต้อนรับเขา นั่งแท็กซี่มา เสื้อผ้าดูไม่ได้ ไม่มีนาฬิกาสักเรือน ดูสะอาดสะอ้าน ดูยังไงก็ไม่ใช่คนมีตัง แต่แอบหล่ออยู่ แต่ทว่าดูซื่อๆ ไม่ไปหรอก”

พนักงานขายหลายคนพูดจบแล้วก็แยกย้ายกัน

การเป็นพนักงานขาย การดูลูกค้าก่อนมันเป็นสิ่งที่จะลดความเหนื่อยลงได้ในการซื้อขาย

เฉินตงในสายตาของพวกเขา เป็นลูกค้าที่ไม่มีทางซื้อบ้านได้และจะเสียเวลา ถ้าเกิดต้อนรับลูกค้าแบบนี้ อาจจะพลาดโอกาสในการต้อนรับลูกค้ารวยๆ จริงๆ ก็ได้

จางโยวโยวส่ายหัว ขณะที่กำลังออกไป ผู้จัดการการขายก็เดินเข้ามา: “โยวโยว เมื่อกี้คุณบอกว่าการประเมินของเดือนนี้ไม่พอไม่ใช่เหรอ?นี่ไง การประเมินคะแนนมาหาแล้ว รีบไปเร็ว!”

เพื่อนร่วมงานต่างหัวเราะใส่

จางโยวโยวขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้า และเดินเข้าไปพลาง ปากก็บ่นไปด้วยว่า: “ไอหลี่ต้าเป่าเอ้ย!”

เฉินตงเดินเข้ามาในสำนักงานขาย ก็เห็นผู้หญิงแต่งหน้าจัดคนหนึ่งเจ้ามาต้อนรับด้วยความโกรธ

เขาไม่ได้สนใจอะไร ยิ้มอ่อนๆ พลางพูด: “สวัสดี ฉันอยากจะมาดูบ้านวิลล่าตากอากาศสักหน่อย”

จางโยวโยวที่กำลังโกรธเพราะคิดถึงเรื่องของหลี่ต้าเป่า ก็ไม่อยากจะยิ้มเพราะหน้าที่การงาน เลยพูดออกไปว่า: “ดูเอาเองละกัน”

เฉินตงขมวดคิ้ว พลางรู้สึกฝืดคอขึ้นมา

เขาทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มาสามปี การที่หญิงตรงหน้าพูดแบบนี้ใส่เขา เขารู้ดีว่าหมายความว่าอย่างไร

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset