Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 341 แกจะทำอะไรฉันได้?

ลูกสวะ?!

เฉินตงสีหน้าเย็นชา ในใจมีความหดหู่

กำมือแน่นทั้งสองข้างอย่างเงียบๆ จนเส้นเอ็นตรงหลังมือโผล่ขึ้นมาอย่างชัดเจน

ฟ่านลู่ที่อยู่ด้านข้าง สัมผัสถึงไอเย็นอย่างชัดเจน อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฉินตงอย่างตื่นกลัว

ท่านหลงกับคุนหลุน สีหน้าจมดิ่งลงไปถึงจุดต่ำสุด

นี่มันคือซุ้มประตูด้านหน้าของตระกูลเฉิน มีคนมามากมาย

กลับเรียกเฉินตงว่าลูกสวะโดยตรง เป็นการสร้างความอัปยศให้กับเฉินตง และได้เหยียบย่ำเขาอย่างรุนแรง

ถึงขนาดที่ไม่คะนึงถึงภาพพจน์ของตระกูลเฉิน!

“คุณชายเทียนหย่าง”

คนรับใช้หนุ่มสาวหลายคนก็โล่งใจไปทันที ต่างตะโกนอย่างประจบสอพลอ

และโดยรอบ ก็มีคนที่มาเคาะประตูขอเข้าพบอย่างไม่ขาดสาย

การปรากฏตัวของเฉินเทียนหย่าง ทำให้คนเหล่านี้มองไปอย่างดีใจและกลัว แววตาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

แต่ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวของเฉินเทียนหย่าง กลับทำให้ทุกคนกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก และเขาก็ขัดจังหวะคนที่มีความคิดที่เข้ามาประจบเพื่อหวังก้าวหน้า หยุดฝีเท้ามองดู

“เทียนหย่าง นายก็เป็นรุ่นหัวกะทิของตระกูลเฉิน เป็นหนึ่งในผู้สืบทอด พูดจาแบบนี้ ไร้มารยาทเกินไปหรือเปล่า?”

ท่านหลงสีหน้ามืดมน ได้บีบคำพูดประโยคนี้ออกมาจากซอกฟัน

เผชิญกับคนใช้ในบ้าน เขาสามารถวางอำนาจข่มขู่ได้

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินเทียนหย่างซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้สืบทอด สุดท้ายเขาก็ต้องอดกลั้นความโกรธเอาไว้

“มารยาท?”

เฉินเทียนหย่างยิ้มเยาะ สองมือผลักออกไป “ไม่ใช่มั้ง ท่านหลง มารยาทนั้นไม่ได้มีไว้ใช้กับลูกสวะนะ!”

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา

ทันใดนั้นแววตาของท่านหลงก็เดือดพล่านไปด้วยไฟโกรธ

คุนหลุนนั้นจะกระโดดไปข้างหน้า กลับถูกท่านหลุงแอบดึงตัวเอาไว้

สีหน้าของเฉินเทียนหย่างเคร่งขรึมขึ้นมาทันที กล่าวอย่างเฉียบขาด “ลูกสวะห้ามเข้า นี่เป็นกฎของตระกูลเฉิน อยู่ในถิ่นฐานของตระกูลเฉิน ก็ต้องทำตามกฎของตระกูลเฉิน คนที่ไม่ปฏิบัติตาม ก็เท่ากับท้าทายตระกูลเฉินของฉัน!”

แววตาของเขาเยือกเย็น ยิ้มเยาะเย้ยและพูดติดตลกกับท่านหลงและคุนหลุน “ท่านหลง คุนหลุน แกสองคนคิดจะกินบนเรือนขี้บนหลังคา และยังจะมาท้าทายตระกูลเฉิน?

ที่หน้าซุ้มประตูอันกว้างขวาง อากาศเย็นเฉียบในพริบตา

กลุ่มคนที่มองดูเหตุการณ์ต่างตกตะลึง ใจเย็นวาบ และกระซิบกันด้วยความหวาดกลัว

“โอ้พระเจ้า! ฉันมาตระกูลเฉินสิบกว่าครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็น!”

“ลูกสวะ? !ผู้ชายคนที่อยู่ในรถคือลูกสวะของตระกูลเฉิน?”

“พระเจ้า แม้ว่าพวกเราจะมาเคาะประตูบ้านแต่ก็ไร้ประโยชน์ ถูกพวกคนใช้ปฏิเสธให้อยู่ด้านนอกประตู ก็ไม่ถึงกับต้องดูถูกหมิ่นและข่มขู่ถึงขั้นนี้หรอกมั้ง?”

……

ท่านหลงกับคุนหลุนเดือดไปด้วยไฟโกรธ

อย่างไรก็ตาม คำพูดประโยชน์สุดท้ายของเฉินเทียนหย่าง วางอำนาจในการข่มเหงรังแกคนอื่นชัดๆ

หากท่านหลงกับคุนหลุนกล้าเถียง ก็จะถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นคนที่ท้าทายตระกูลเฉิน

พวกนักธุรกิจทั้งหลายยังไม่กล้าท้าทายตระกูลเฉินเลย

พวกเขา ทั้งที่เป็นคนของตระกูลเฉิน จุดจบของการท้าทาย……..

“ท้าทายตระกูลเฉิน?”

ทันใดนั้น เสียงที่เย้ยหยันก็ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดโดยรอบ

สายตาทุกคู่จับจ้องไปอยู่ที่เจ้าของเสียง

บางคนตะลึง บางคนแปลกใจ บางคนไม่กล้าจะเชื่อ

เฉินตงลุกขึ้นมาแล้ว สีหน้าเคร่งขรึม ปรากฏให้เห็นถึงความเย่อหยิ่ง “ฉันท้าทายตระกูลเฉิน แล้วแกจะทำอะไรฉันได้?”

อวดดี สายตาดูถูกเหยียดหยาม

หยาบคาย เผด็จการ

คำพูดประโยคเดียว ทำให้ผู้ชมที่อยู่ในเหตุการณ์เหมือนถูกฟ้าผ่า หวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก

พระเจ้า!

ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้วเหรอ?

คำพูดนี้มันช่างไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเลย?

ท่านหลงกับคุนหลุนก็ตื่นตระหนกไม่รู้จะทำอย่างไรดี

คำพูดประโยคนี้ของเฉินตง ถูกใจเฉินเทียนหย่างอย่างไม่ต้องสงสัย!

เป็นจริงเช่นนี้

เฉินเทียนหย่างยิ้มอย่างเย็นชา “ลูกสวะก็กล้าที่จะพูดจาเช่นนี้ด้วยเหรอ? ลากตัวมันออกไป!”

“หยุดนะ!”

ท่านหลงกับคุนหลุนตะโกนพร้อมกัน

คุนหลุนกระโดดลงมาจากรถโดยตรง ขวางอยู่หน้ารถ

และฟ่านลู่ ก็ลุกขึ้นอย่างรีบร้อน คุ้มกันเฉินตงอยู่ข้างๆ

กลิ่นของความรุนแรง พริบตาเดียวก็เข้มข้นขึ้นอย่างมาก

ผู้ชมที่อยู่ในเหตุการณ์หลังจากที่หายกลัวแล้ว แววตาก็ฉายแววสว่าง รู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด

บางที่อาจจะเป็นเพราะถูกตระกูลเฉินที่หยิ่งผยองกดดันมานานเกินแล้ว

บางทีอาจจะคับข้องใจจากการมาเคาะประตูตระกูลเฉินนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ไม่เกิดประโยชน์

ทำให้ผู้ชมที่อยู่ในเหตุการณ์ในเวลานี้เห็นคนท้าทายตระกูลเฉิน กลับมีความรู้สึกเบิกบานใจ

อย่างไรก็ตาม……..การเฝ้าดูเรื่องสนุกไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร

“ไปจัดการมันเลย!”

เฉินเทียนหย่างตะโกนใส่คนรับใช้ทั้งหลายที่ยืนซื่อบื้ออยู่อย่างโมโห

เหล่าคนรับใช้กำลังลังเลอยู่ และเข้าไปล้อมรถที่จอดอยู่

“คุนหลุน หยุดเดี๋ยวนี้!”

เฉินตงสั่งอย่างเย็นชา

ภายใต้สายตาที่จ้องมองอยู่มากมาย เขาก้าวลงมาจากรถอย่างสงบใจเย็น

สีหน้าเย็นชาและเคร่งขรึม ให้ความรู้สึกเย้ยหยันในความเผด็จการ

ในเวลานี้ บุคลิกทั้งหมดของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนภูเขาที่ตั้งตระหง่าน และทะเลที่ยิ่งใหญ่

สายตา ก็คมเฉียบอย่างไม่มีใครเทียบได้

สองมือของเขาล้วนอยู่ในกระเป๋า เดินเข้าไปหาเหล่าคนรับใช้ด้วยท่าทางที่เหมือนกับเดินเล่น สายตาที่คมเฉียบราวกับสามารถฆ่าคนได้

“ฉันก็อยากจะดูเหมือนกัน ใครจะกล้าแตะต้องฉัน!”

น้ำเสียงที่หยิ่งผยอง ทำให้ทุกคนตื่นตกใจ

เหล่าคนรับใช้ ล้วนตะลึงกันไปหมด ไม่แม้กระทั่งที่จะกล้าสบตากับเฉินตง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องลงมือทำร้ายเลย

แม่แต่คุนหลุน ท่านหลงและฟ่านลู่ ก็คิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะกลายเป็นแบบนี้ในทันใด

สายตาทุกคู่จับจ้องอยู่ที่เฉินตง

ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าบ้านตระกูลผู้ร่ำรวยที่มองดูอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองนั้นตัวเล็กกว่ามากเมื่ออยู่ข้างหลังของเฉินตง

“ลงมือสิ? พวกแกล้วนเป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉินของฉัน ตอนนี้ตายไปหมดแล้วเหรอ?”

เฉินเทียนหย่างใจเต้นระทึก เห็นเฉินตงเดินเข้ามา ก็ตะคอกใส่คนรับใช้

และแล้ว เหล่าคนรับใช้ราวกับว่าถูกตอกให้อยู่ตรงที่เดิม

“ขาของแก ยังหักไม่พอใช่มั้ย?”

เฉินตงก้าวเดินเข้าไปหาเฉินเทียนหย่างทีละก้าว ยิ้มอย่างเย้ยหยัน

เดิมเขาไม่อยากมีส่วนร่วมกับการพัวพันในเมื่อกี้

การมาตระกูลเฉินครั้งแรก ฟังท่านหลงกับคุนหลุนจัดการก็พอ

แต่ในเมื่อเฉินเทียนหย่างมีความคิดที่จะหาเรื่องเขาแต่แรกแล้ว ไม่แม้กระทั่งจะให้เข้าประตูตระกูลเฉิน กลับพูดคำว่าไอ้ลูกสวะไสหัวไป!

การเหยียบหยามแบบนี้ ทำไมต้องทน?

เฉินตงไม่ใช่คนนิสัยอ่อนแอยอมให้รังแกง่ายๆ

คนที่ดูถูกเหยียบหยามเขา เขาต้องให้มันชดใช้คืนสิบเท่า!

ร่างกายที่บึกบึนของเฉินเทียนหย่างสั่นสะท้าน ทันใดนั้นใบหน้าที่ชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นด้วยความดุร้าย

คำพูดประโยคนี้ของเฉินตง ราวกับว่าได้แทงใจดำเขา ทำให้เขามีความรู้สึกอยากจะอาละวาดในทันที

“ครั้งที่แล้วมีคุนหลุนช่วยแก ครั้งนี้อยู่หน้าประตูของตระกูลเฉิน คุนหลุนไม่กล้าลงมือแล้ว!”

เฉินเทียนหย่างหัวเราะอย่างชั่วร้าย ชั่วพริบตาเดียว ก็เหมือนเสือโคร่งที่ลงมาจากภูเขา บุกเข้าไปหาเฉินตงโดยตรง

ภาพที่กะทันหันนี้

ทำให้สถานที่เกิดเหตุอุทานขึ้นด้วยเสียงตกใจ

ท่านหลงกับคุนหลุนและฟ่านลู่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก

และแล้ว

การเผชิญหน้ากับเฉินเทียนหย่างที่บุกเข้ามาอย่างอุกอาจ

เฉินตงกลับหยุดอยู่ที่เดิม ส่ายหัวแล้วยิ้มเจื่อนๆ “คุณลุงพูดถูก ผู้สืบทอดของเศรษฐีก็เป็นเพียงผีร้ายที่อยู่ภายใต้ผิวหนังที่สวยงามของมนุษย์ มีเพียงแต่คนที่ไม่กลัวตายและน่าขยะแขยงกว่าพวกแกถึงจะชนะมันได้”

ม่านตาของเฉินเทียนหย่างหดเกร็ง รอยยิ้มเจื่อนๆและความใจเย็นของเฉินตง ทำให้เขามีความรู้สึกกระวนกระวาย

แต่เขาที่บุกเข้ามาใกล้ ไม่มีความลังเลใดๆ ได้ปล่อยหมัดอันทรงพลังไปทางเฉินตงโดยตรง

โวง!

ถึงขนาด หมัดแฝงไปด้วยเสียงที่แสบหู

ในเวลานี้

เฉินตงขยับตัวแล้ว

ขยับร่างกาย เผชิญกับหมัดนั้นของเฉินเทียนหย่าง กลับไม่ได้หลบเลี่ยง เหมือนกับสัตว์ร้ายที่กระโจนเข้าหามัน และพุ่งเข้าไปโดยตรง

ในพริบตาเดียว หลบหมัดนั้นของเฉินเทียนหย่างได้อย่างง่ายดาย

อะไรเนี่ย?!

สีหน้าของเฉินเทียนหย่างเปลี่ยนไปอย่างมาก ในใจมีความกลัว

โดยที่ไม่รอให้เขาได้โจมตีต่อ

เขารู้สึกว่าคอของเขาถูกมือใหญ่จับไว้อย่างแน่นหนา

จากนั้น ก็เกิดแรงที่มหาศาล

ตู๊ม!!

เฉินตงที่จับคอของเฉินเทียนหย่าง กระแทกศีรษะของเขากับเสาหินของซุ้มประตูอย่างอุกอาจ

ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเฉินเทียนหย่าง เลือดได้กระเด็นไปที่เสาหิน เหมือนดอกพลัมที่เบ่งบาน สีแดงระยิบระยับ

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset