Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 348 สมควรฆ่า! สมควรฆ่าจริงๆ!

ทุกคนที่อยู่ในนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปหมดแล้ว

สีหน้าของเฉินเทียนฟ่างแน่วแน่ เส้นเอ็นตรงหางตานูนขึ้นมาอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นถึงความดุร้าย

“แกกล้า!”

“ฉัน ทำไมจะไม่กล้า?” เฉินตงยิ้มเยาะ ด้วยท่าทางที่กดขี่ข่มเหง

พริบตาเดียว

ในเรือน เกิดการปะทะได้ทุกเมื่อ

สถานการณ์ตึงเครียดอย่างมาก

ท่านหลงกับคุนหลุนมีใจอยากจะห้ามปราม แต่ทั้งสองคนเข้าใจดี เรื่องได้ดำเนินมาถึงขั้นที่ไม่อาจจะย้อนกลับไปได้แล้ว

เป็นอย่างนั้น ตั้งแต่ที่เขาลงมือกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินแล้ว

และการปรากฏตัวของเฉินเทียนฟ่าง เป็นเหมือนดั่งที่เฉินตงพูด ก็แค่ต้องการเหยียบเฉินตงขึ้นไป ที่เฉินตงทำเช่นนี้ ก็เพื่อทุบความคิดของเฉินเทียนฟ่างให้แหลกละเอียดเท่านั้น

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะได้ดังขึ้น

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก้มหน้าลง หัวเราะจนร่างกายสั่นไปทั้งตัว

ทำให้ทุกคนมองอย่างตกตะลึง

ทันใดนั้น คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็เงยหน้าขึ้น: “เทียนฟ่างตอนนั้นย่ามองแกผิดไป ไม่ได้ให้สิทธิ์ในการสืบทอดกับแก วันนี้หากแกฆ่าไอ้เดรัจฉานตัวนี้ ตำแหน่งผู้สืบทอดของเขา ก็มีแกเป็นคนแทนที่!”

“คุณหญิงใหญ่!”

เพื่อจะพูดออกมา ท่านหลงกับคุนหลุนก็พูดห้ามพร้อมกัน

นี่เหมือนกับการใช้ตำแหน่งผู้สืบทอดที่เป็นผลประโยชน์มหาศาล ล่อให้เฉินเทียนฟ่างฆ่าเฉินตง!

และผลประโยชน์ที่มหาศาลแบบนี้ เด็กรุ่นใหม่ของตระกูลเฉิน ยังไม่มีใครสามารถปฏิเสธมันได้

“ขอบคุณคุณย่า!”

เฉินเทียนฟ่างยิ้มด้วยความปีติ ใบหน้าดุร้ายและเย็นชา แต่นิ้วชี้ของมือขวาของเขาอยู่ที่ไกรปืนแล้ว

ถูกเฉินตงเปิดโปงความคิดของเขา ทำให้เขาหงุดหงิดเล็กน้อย

แต่ตอนนี้มีคำสัญญาของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ซึ่งตรงตามความต้องการของตัวเอง

เฉินเทียนฟ่างในอดีต ดื้อรั้นไม่เอาไหนจริงๆ แต่เขาก็ยังคงใฝ่ฝันที่อยากจะได้ตำแหน่งของผู้สืบทอด

มีแต่อำนาจเท่านั้น ที่จะสามารถบันดาลให้ทุกสิ่ง!

มันคือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนใฝ่หา

และในฐานะคนของตระกูลเฉิน ขอเพียงได้เป็นเจ้าบ้าน ฝันก็จะเป็นจริง

อย่างไรก็ตาม เพราะนิสัยในอดีตของเขา ทำให้พลาดตำแหน่งผู้สืบทอด และถูกส่งตัวไปเป็นทหารที่แดนตะวันตก

วันนี้กลับมาพร้อมกับเครื่องแบบที่น่าภูมิใจ เจอกับเฉินตงที่คิดอยากจะฆ่าคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ทำให้เฉินเทียนฟ่างเห็นโอกาสในการแก้ไขชะตาชีวิต

เขาเชื่อว่า ด้วยผลงานของเขา มันเพียงพอที่จะแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน และตำแหน่งผู้สืบทอด ก็คือสิทธิ์ที่เขาควรจะได้!

“ท่านหลง คุนหลุน พวกคุณสองคน คนหนึ่งเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของตระกูล คนหนึ่งคือบอดี้การ์ดข้างกาย อาหารที่กินก็เป็นของตระกูลเฉิน คงไม่ใช่เลี้ยงหมาจนอ้วน ตอนนี้ยังรวมหัวกับไอ้ลูกสวะคนนี้มาแว้งกัดเจ้าของ?”

สีหน้าและน้ำเสียงของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินจริงจังมาก ท่าทางที่น่ากลัวบีบบังคับจนท่านหลงกับคุนหลุนหน้าเปลี่ยนสี ไม่กล้าพูดจา

วินาทีต่อมา

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินปริปากพูดอีกครั้ง “ไอ้ลูกสวะเอ๊ย อยากจะฆ่าฉัน ก็สมควรตายแล้ว ต่อให้…….แกจะเป็นลูกชายของเฉินเต้าหลิน!”

“งั้นก็ มาเดิมพันกันสักตั้ง!”

เฉินตงยังคงไม่มีความกลัว มือขวากำด้ามดาบไว้แน่น จนเกิดเสียงดังเอี๊ยดๆ

เวลา ตอนนี้เหมือนได้หยุดนิ่งไปแล้ว

อากาศยิ่งทำให้คนหายใจไม่ออก

ราวกับมือที่ไร้รูปขนาดใหญ่ ได้บีบรัดลำคอของทุกคนเอาไว้

ความขัดแย้งถึงทางตัน

เฉินเทียนเซิงได้ดึงตัวคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินไปอยู่ด้านหลังโดยสัญชาตญาณ ตัวเองก็ก้าวมาข้างหน้าครึ่งตัว

แบบนี้ก็นับว่าคุ้มครองเหรอ

แม้ตอนแรกจะไม่ได้หน้า ครั้งนี้จะต้องได้

“เทียนฟ่าง! ลั่นไกรสิ!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินสั่งอย่างเฉียบขาด ใบหน้าที่แก่เต็มไปด้วยความดุร้าย ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังคลุ้งคลั่ง

“คุณชาย!”

เกือบจะในเวลาเดียวกัน ท่านหลงกับคุนหลุนก็พุ่งเข้าไปทางเฉินตง

“มาเลย ครั้งนี้ ฉันต้องอาศัยแกขึ้นตำแหน่งแล้วจริงๆ!”

เฉินเทียนฟ่างหน้าตาดุร้าย มือขวาค่อยๆกดลงไป เขาไม่ถือสาที่จะฆ่าคน เป็นทหารอยู่ที่แดนตะวันตกสามปี มือของเขาเปื้อนเต็มไปด้วยเลือดของศัตรู

เพิ่มเลือกของลูกสวะในตระกูลเฉินอีกคน ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?

และแล้ว

“เจ้าบ้านมาแล้ว!”

ด้านนอกเรือน ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น

โครม!

เสมือนเสียงฟ้าผ่าฟ้าร้อง

ทำให้ทุกอย่างที่อยู่ในเรือนข้างใน หยุดชะงักไปในพริบตา

บู๊ม!

ไม่ได้รับอนุญาตจากคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ประตูเรือนก็ถูกเตะออกอย่างแรง

สายตาทุกดวงได้มองตามเสียงไป

สายตาของเฉินตงแฝงไปด้วยความคาดหวังและความกังวล

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็ตกตะลึง แววตาขุ่นมัว

เฉินเทียนเซิง เฉินเทียนฟ่างก็ได้แสดงอาการหวาดกลัวออกมาในเวลาเดียวกัน

“นายท่านมาแล้ว ในที่สุดนายท่านก็มาแล้ว!”

ท่านหลงตื่นเต้นดีใจ ใบหน้าแดงก่ำ มือขวาได้จับตัวคุนหลุนที่กำลังตื่นเต้นเหมือนกันอย่างแน่นๆ

มีเพียงแต่นายท่าน ที่สามารถช่วยคุณชายได้ในตอนนี้!

ตามมาด้วยประตูถูกเปิดออก

ใบหน้าที่ไม่แยแสของเฉินเต้าหลินปรากฏขึ้นก่อนในสายตาของทุกคน

เขานั่งอยู่บนวีลแชร์ แววตาดุจสายฟ้า จับจ้องไปที่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินโดยตรง

และด้านหลังของเขา ฟ่านลู่เป็นคนเข็นวีลแชร์ ค่อยๆเข็นมาข้างหน้า

ซ้ายขาวยังมีสมาชิกหลายสิบคนของคนในตระกูลเฉินมาด้วย

บรรยากาศตึงเครียด กดดัน

แม่ว่าจะนั่งอยู่บนวีลแชร์ เผยให้เห็นถึงความอ่อนแอ แต่ว่าร่างกายของเฉินเต้าหลินก็ยังคงกระจายไปด้วยความน่าเกรงขาม ที่ทำให้คนกลัว

“เป็นฟ่านลู่ที่หาคุณพ่อจนเจอ?”

เฉินตงเห็นฟ่านลู่ ก็เข้าใจทันที เหลือบมองท่านหลงกับคุนหลุนโดยสัญชาตญาณ ดูท่าเมื่อกี้ฟ่านลู่ที่ให้รออยู่ข้างนอกคนเดียว เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

“เต้าหลิน นี่มันเป็นเรือนของฉัน แกฝ่าเข้ามาโดยตรง มันหมายความว่ายังไง?”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินหาเรื่องก่อน

“ฝ่าเข้ามา?”

เฉินเต้าหลินยกมุมปากขึ้น “คุณน้าสามพูดเล่นแล้ว ในตระกูลเฉินผมถึงจะเป็นเจ้าบ้าน ทุกมุมในคฤหาสน์ มีตรงไหนที่ผมเข้าไม่ได้? คุณคงไม่คิดว่าที่ผมเคารพคุณ คุณก็เลยคิดว่าเรือนนี้เป็นที่หวงห้ามของตัวเองจริงๆ?”

“แก……….” คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก กัดฟันอย่างอดกลั้น

เฉินเต้าหลินยกมือขึ้นขัดจังหวะ “คุณน้าสามใจเย็น ผมแค่ได้ยินมาว่าที่เรือนของคุณน้าครึกครื้นอย่างมาก ดังนั้นจึงเกิดความคิดที่อยากจะมาดูความครึกครื้น”

“ยัยเด็กบ้า แกก็กล้าบุกเข้ามาก่อความวุ่นวายในตระกูลเฉินของฉัน!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินกัดฟันจ้องไปทางฟ่านลู่ด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง

สีหน้าของฟ่านลู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย มีความหวาดกลัว

“กลัวอะไร? เธอเชิญฉันมาดูความครึกครื้น มันผิดตรงไหน?”

เฉินเต้าหลินเงยหน้ายิ้มปลอบฟ่านลู่ไปหนึ่งประโยค จากนั้นก็มองไปที่ผู้คน แล้วก็ยักไหล่อย่างไม่แยแส “ฉันแค่มาดูความครึกครื้น พวกแกต่อเลย”

ต่อเหรอ?!

ในเวลาเดียวกันคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน เฉินเทียนฟ่างกับเฉินเทียนเซิงตื่นตระหนกจนไม่รู้จะทำยังไง

ตอนนี้จะฆ่าลูกของเขาแล้ว คนเป็นพ่ออยู่ในที่เกิดเหตุ จะให้ต่อยังไง?

โดยเฉพาะเฉินเทียนฟ่าง

เมื่อกี้ตอนที่เฉินเต้าหลินเข้ามาในเรือน เขากำลังเอาปืนจ่อไปทางเฉินตง

ภาพนี้ นอกเสียจากว่าเฉินเต้าหลินจะตาบอด ไม่เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมองไม่เห็น

ชั่วขณะนั้น เฉินเทียนฟ่างใจลอย เกิดความหวาดกลัว

ปืนในมือ ก็ค่อยๆตกลงไป

“เทียนฟ่าง นายว่าวางปืนทำไม?”

เฉินเต้าหลินยิ้มเยาะ “นายจะใช้ปืนยิงลูกชายฉัน เอาต่อเลยสิ?”

เสียงพรึบดังขึ้นหนึ่งที!

เฉินเทียนฟ่างเหมือนถูกฟ้าผ่า ตกใจจนคุกเข่าอยู่บนพื้น รีบอธิบาย “เจ้าบ้าน โปรดฟังผมอธิบายก่อน!”

“อธิบายอะไร ผู้ชายที่ดีของตระกูลเฉิน กลับมาพร้อมกับผลงานและเครื่องแบบอันมีเกียรติ ยังต้องอธิบายอะไร? เฉินเต้าหลินเลิกคิ้วแล้วยิ้ม หันไปทางคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน คุณน้าสาม คุณน้าว่าผมพูดถูกมั้ย?”

“เฉินเต้าหลิน แกรังแกคนแก่ที่ไร้กำลัง!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินมีหรือจะฟันไม่ออกว่าเฉินเต้าหลินกำลังพูดจากวนประสาท กัดฟันชี้ไปทางเฉินนตง “แกบาดเจ็บ ฉันช่วยแกดูแลตระกูลเฉิน ลูกสวะของแกเข้ามาก็ทำร้ายเทียนหย่างจนพิการ ทำร้ายเทียนเซิง ฉันเรียกเขามาที่นี่ ก็เพื่ออยากจะจัดการเรื่องนี้ ไอ้เดรัจฉานคนนี้แม้แต่ฉันก็ยังอยากจะฆ่าแล้ว แกยังจะปกป้องเขาเหรอ?”

“เหรอ?!”

เฉินเต้าหลินตอบอย่างไม่แยแส

สายตามองไปทางเฉินตง

เฉินตงวางดาบในมือลง มองสายตาที่จะกินคนของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน อย่างไม่หดถอย

“ผมแค่มาเยี่ยมคุณพ่อ ตอนแรกที่มาถึงหน้าซุ้มประตูตระกูลเฉิน เฉินเทียนหย่างใช้ชื่ออย่างลูกสวะไล่ผมกลับไป เท่ากับหยามผม ผมไม่ควรลงมือเหรอ?”

“ตรงระเบียงทางเดินสีเขียว มีสมาชิกและคนรับใช้นับพันอยู่ตรงนั้น เฉินเทียนเซิงเรียกผมว่าลูกสวะ ข่มขู่ว่าจะฆ่าผม ผมไม่ควรลงมือเหรอ?”

“อยู่ในเรือนนี้ คุณพูดขาวให้เป็นดำ ใช้อำนาจในการข่มเหงผม จะหักแข้งหักขาผม แย่งสิทธิ์ในการเป็นผู้สืบทอดของฉัน ผมยังต้องกล้ำกลืนฝืนทนอีกเหรอ?”

ถามซ้อนกันสามคำถาม จี้ใจโดยตรง

ทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและเฉินเทียนเซิงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก

เฉินตงที่เต็มไปด้วยพลัง มองอย่างดูถูก

“พวกคุณเห็นผมเฉินตงเป็นลูกสวะ อ่อนแอรังแกง่าย ใครๆก็สามารถเหยียบย่ำได้ กลับไม่รู้ว่าพระก็โกรธมีความโกรธเหมือนกัน หากผมไม่ต่อต้าน ผมไม่ต้องถูกหามศพออกไปจากตระกูลเฉินหรอกเหรอ?”

“แก แกมันอวดดีเกินไปแล้วจริงๆ สมควรฆ่า สมควรฆ่าจริงๆ!”

คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินถูกถามจริงกระวนกระวาย เธอชี้ไปตำหนิเฉินตงอย่างคนคลั่ง

“สมควรฆ่า สมควรฆ่าจริงๆ!”

เฉินเต้าหลินจู่ๆก็พอย้ำขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินตกตะลึงทันที

จากนั้น ใบหน้าของเฉินเต้าหลินก็เยือกเย็น ดุเดือดไปด้วยแรงอาฆาต

“ดูถูกเหยียบหยามลูกชายฉันขนาดนี้ สมควรฆ่าจริงๆ!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset