Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 29 บรรยากาศทั้งสองในห้องพักผู้ป่วย

บทที่ 29 บรรยากาศทั้งสองในห้องพักผู้ป่วย

ในสำนักงานขาย เงียบเป็นป่าช้า

ทุกคนต่างหัวขาวโพลน

หนึ่งร้อนยี่สิบล้านเหรอ!ไม่ลังเลเลย เหมือนกับ……ซื้อกับข้าวเลย?

“โอเค ฉันจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย” หลี่ต้าเป่าพูดด้วยความยินดี

นี่เป็นบิลแรกในการขายของเขา แถมยังเป็นบ้านที่หรูดูดีที่สุดอีกด้วย

เขตวิลล่าเขาเทียนซาน ตั้งแต่เปิดขายมา ก็โด่งดังเป็นอย่างมาก

ระดับอยู่กลางเขาแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะดูดีมีชาติตระกูล แต่ราคากลับทำให้คนร่ำรวยอยากได้แต่ก็ทำได้แค่มองต่อไป

จางโยวโยวรู้สึกเหมือนจะตายในตอนนั้น

ร่างกายเหมือนไร้เรี่ยวแรง หน้าซีดเซียว ตาเลื่อนลอย

บิลหนึ่งร้อยยี่สิบล้าน เพียงเพราะว่าตัวเองตาไม่ถึง เลยถูกหลี่ต้าเป่าเอาไปแบบง่ายๆ งั้นเหรอ?

ในตอนนี้เองเธอไม่ได้รู้สึกอะไรต่อแรงที่หลี่ต้าเป่าทำเลย

แถมยังอยากจะตบตัวเองแรงๆ ซ้ำอีกด้วย

บิลใหญ่ขนาดนี ถ้าเธอทำได้ ก็จะได้เงินเยอะเลยล่ะ

อีกอย่าง มันสามารถทำให้เธอปิดการประเมินในเดือนนี้ได้ด้วย!

พนักงานขายของวิลล่าในเขาเทียนซานนั้นเยอะมากจริงๆ เลยทำให้คนต่างหิวกระหาย อยากจะมาทำงานที่บ้านพักของเขาเทียนซาน

ดังนั้น ใครก็ตามที่ทำผลงานรั้งท้ายจะถูกคัดออกจากบ้านพักตากอากาศเขาเทียนซาน

แต่การประเมินของเธอนั้น เดือนนี้มันน้อยมาก ไม่อย่างนั้นเมื่อครู่เธอคงไม่ปรี่เข้าไปหาหลี่ต้าเป่าหรอก

ถ้าให้พูดอีกอย่าง เดือนนี้เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว ถ้าเกิดว่าภายในเวลาไม่กี่วันนี้ เธอไม่สามารถปิดการประเมินนี้ได้ เธอก็จะถูกคัดทิ้ง และตกงาน!

จางโยวโยวนั่งยองลง ก่อนจะปิดหน้าร้องไห้ ด้วยความไม่เสียดายเป็นอย่างมาก

ผู้จัดการฝ่ายขายกับเพื่อนร่วมงานต่างมองเธอ แต่ไม่มีใครเข้าไปปลอบใจเลย

การจัดการการซื้อบ้านแต่ละหลังนั้นมันยากมาก แต่ทว่าเมื่อมีหลี่ต้าเป่าวุ่นเต้นให้ อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยากมาก

เมื่อเซ็นสัญญากันเสร็จ เฉินตงก็หยิบกุญแจออกมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บ้านก็ถือเป็นของเขาแล้ว

ตอนที่ออกจากสำนักงานขายนั้น เฉินตงเห็นว่าจางโยวโยวกำลังถูกผู้จัดการการขายต่อว่าอยู่ด้านนอก เขาแอบได้ยินผู้จัดการการขายพูดว่าเชิญออกด้วย

เฉินตงยิ้ม เพราะการกระทำของจางโยวโยวเอง เขาทำอะไรไม่ได้

เมื่อกลับไปที่บริษัทไท่ติ่ง

เสี่ยวหม่าก็รีบเดินเข้าไปรายงานเฉินตงด้วยความยินดีว่า: “พี่ตง คุณนี่เก่งจริงๆ !เรื่องที่ฉันรับผิดชอบที่เขตนั้น แก้ปัญหาได้แล้ว ไม่ถึงวันด้วยซ้ำ”

“แก้ได้ก็ดีแล้ว ไปทำงานเถอะ งานที่เขตนั้นมันสำคัญมากสำหรับคุณ อย่าได้มีความผิดพลาดเลยนะ” เฉินตงยิ้มพลางพูดเบาๆ

“วางใจเถอะ พี่ตง” เสี่ยวหม่าทุบหน้าอกเป็นการรับประกัน

……

โรงพยาบาลลี่จิง

หลี่หลานฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ร่างกายยังอ่อนแอ

ร่างกายที่ได้รับการฟื้นฟูแล้ว เมื่อกลับเข้าไปในicu ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

หลี่หลานนอนหน้าซีดอยู่บนเตียง ในมือถือแอปเปิลที่ฟ่านลู่ปลอกไว้ให้ ค่อยๆ กินไป

เมื่อเห็นท่าทีเหนื่อยอ่อน และขอบตาดำๆ ของฟ่านลู่ หลี่หลานก็สงสาร: “เสี่ยวลู่ ขอโทษนะ ที่ทำให้คุณเหนื่อย”

ฟ่านลู่ตกใจ: “คุณป้า ฉันไม่เหนื่อย ไม่เหนื่อยเลย ฉันทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า?คุณป้าอย่าไล่ฉันออกนะ”

เธอถือเงินหนึ่งหมื่นของเฉินตง เพื่อดูแลหลี่หลานยี่สิบสี่ชั่วโมง เหนื่อยมาก แต่ก็ยังสบายกว่างานบิดเหล็กเมื่อก่อน

แต่คำพูดของหลี่หลาน กลับทำให้เธอคิดว่าจะถูกไล่ออก

เธอกลับไม่รู้ ว่าหลี่หลานคุ้นเคยกับการมีชีวิตลำบาก เพื่อเลี้ยงเฉินตงให้เติบโตขึ้นมา เลยรู้ว่าความลำบากนั้นมันลำบากขนาดไหน

หลี่หลานพูดไป เพื่อเห็นแก่ความลำบากของฟ่านลู่จริงๆ และเหนื่อยแทน

แต่ปฏิกิริยาของฟ่านลู่ กลับทำให้หลี่หลานยิ้มออกมา: “เสี่ยวลู่ คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ คุณป้าหมายความว่าคุณน่าจะเหนื่อยจริงๆ ไม่ได้จะไล่คุณออก ป้าเองก็เคยลำบากมา คุณกับลูกฉันอายุพอๆ กัน เห็นคุณเหนื่อย ก็สงสาร”

เธอกลัวว่าฟ่านลู่จะติดมาก เลยอธิบาย: “คุณทำดีหมดเลย จนป้าชอบไม่ทันแล้วเนี่ย จะไปไล่ออกได้อย่างไรกัน แต่ทว่ามีที่ไม่ดีอยู่ ก็คือคุณไม่รู้จักพักผ่อนบ้างเลย!”

ฟ่านลู่มีดวงตาแดงก่ำ ก่อนจะฟุบอยู่ตรงข้างเตียง พลางร้องไห้ออกมา: “คุณป้าทำฉันตกใจหมด ฉันก็คิดว่าคุณจะไม่เอาแล้ว งานนี้มันสำคัญกับฉันมากนะ”

หลี่หลานยิ้มพลาง มองฟ่านลู่ด้วยความลึกซึ้ง ก่อนจะเอามือขึ้นมาตกไหล่ของฟ่านลู่เบาๆ พลางพูดเสียงอ่อนว่า: “เด็กดี คุณป้าไม่มีทางไม่เอาคุณหรอก ไม่งั้นคุณก็โทรหาลูกชายฉัน ให้เขามาดูแลฉันคืนหนึ่ง แล้วคุณกลับบ้านไปนอนซะ”

ฟ่านลู่สั่นเทา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตา พลางพูด: “คุณป้า พี่ตงยุ่งมาก ฉันคือคนที่เขารับมาเพื่อให้ดูแลคุณ จะไปเรียกเขามา แล้วฉันไปพักได้อย่างไร”

“ก็ได้ แต่ทว่าคุณต้องเชื่อฟังป้านะ ตอนกลางคืนต้องนอนให้เยอะๆ อย่าตื่นขึ้นมาเพียงเพราะฉันขยับตัวนะ”

หลี่หลานพูดไป เมื่อเห็นว่าฟ่านลู่จะต่อต้าน เธอก็จริงจังขึ้นมา: “เป็นสาวอยู่ดีๆ กลายเป็นหมีแพนด้าซะอย่างนั้น แล้วใครจะมาแต่งด้วยเนี่ย?คุณต้องดูแลตัวเองดีๆ หน่อย”

ฟ่านลู่อึ้งไป ดวงตาแดงก่ำ และมีน้ำตาคลอ

คำพูดของหลี่หลาน เหมือนกับลมโชยเบาๆ ที่พักเข้ามาในจิตใจของเธอ

เธอ ไม่ได้ยินคนพูดด้วยความเป็นห่วงขนาดนี้มานานแล้ว

เพียงแวบเดียว

ฟ่านลู่ก็อยู่ในอ้อมอกของหลี่หลาน พลางร้องไห้แล้วพูด: “ขอบคุณ ขอบคุณคุณป้ามากจริงๆ”

ห้องพักผู้ป่วยอีกทางหนึ่ง

จางซิ่วจือนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ด้วยใบหน้าซีดเซียว มองเพดาน และหางตามีน้ำตาไหลออกมา

งานหมั้นนั้น เธอถูกทำให้โกรธจนโรคหัวใจกำเริบ ดีที่ช่วยเอาไว้ได้ทัน เลยมีชีวิตอยู่ต่อได้

หวางเต๋อนั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ พลางปอกผลไม้ และส่งให้จางซิ่วจือชิ้นหนึ่ง: “กินหน่อยเถอะ?”

จางซิ่วจือส่ายหัว และร้องไห้ต่อไป

เธอมีภาพลักษณ์ดีๆ ดังนั้นงานหมั่นของหวางเห้ากับหลินเสว่เอ๋อเลยจัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าอะไร

แต่งานหมั้นนั้น กลับทำให้เธอต้องมาเสียหน้า ต่อหน้าเพื่อนพี่น้องของเธอ อย่างแตกละเอียด

มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น

“เห้อ” หวางเต๋อรู้นิสัยของจางซิ่วจือดี เลยถอนหายใจ แต่ไม่กล้าพูดโน้มน้าวอะไร

ตั้งแต่ต้นจนจบ หวางเห้าเอาแต่นั่งบนเก้าอี้ และเล่นROVอย่างตั้งใจ โดยที่ไม่ได้สนใจหวางเต๋อกับจางซิ่วจือ แถมยังพูดคุยกับเกมออกมาบ้างด้วย

“ตีป้อมเลย ตีสิ!” หวางเห้าตะโกนออกมาเสียงดัง

หวางเต๋อขมวดคิ้ว ก่อนจะด่า: “หวางเห้า เสียงเบาหน่อย นี่มันโรงพยาบาล!คุณบอกว่าจะมาดูแลแม่ แล้วนี่มันเรียกว่าดูแลยังไงกัน?”

“รู้แล้วๆ” หวางเห้าพูดด้วยความหงุดหงิด ดวงตาเอาแต่มองโทรศัพท์: “ฉันไม่มาโรงพยาบาลเพื่อดูแลแม่ของฉัน แล้วจะให้อยู่บ้านเล่นเกมเหรอไง?”

หวางเต๋อโกรธจนอยากจะด่าออกมา

ใกล้เที่ยง

หวางหนันหนันเอากระติกเก็บความร้อน เข้ามาในห้องพักผู้ป่วย

เมื่อเห็นว่าหวางเห้ายังคงเล่นเกม ก็มีสีหน้าจริงจัง: “หวางเห้า คุณไม่มาดูแลแล่ เอาแต่เล่นเกม โตแค่ไหนแล้วเนี่ย?”

หวางเห้าก้มหน้า กำลังจะเปิดปากตอบ

จางซิ่วจือที่ร้องไห้บนเตียงก็ระเบิดอารมณ์ออกมา

เธอชี้ไปที่หวางหนันหนันก่อนจะด่า: “คุณยังมีหน้าว่าน้องชายคุณอีกเหรอ?งานหมั้นของเขาถูกคุณพังหมดแบบนี้ คุณทำให้ตระกูลหวางขายหน้า คุณทำเรื่องแบบนี้ คุณโตแค่ไหนแล้ว?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset