Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 30 ความสงสัยของหวางเห้า

บทที่ 30 ความสงสัยของหวางเห้า

หวางหนันหนันรู้สึกหายใจไม่ออก

พลางมองจางซิ่วจือด้วยความอึ้งไป

“แม่ เรื่องในงานหมั้น ฉันคุยกับหลินเสว่เอ๋อดีแล้วจริงๆ !” หวางหนันหนันรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก

งานหมั้นทำให้ตระกูลหวางเสียหน้า ช่วงนี้โดนจางซิ่วจือว่าประจำ จนเธออธิบายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว

“คุณยังจะมาโกหกอีก!”

จางซิ่วจือโกรธจนด่าออกมาว่า: “เสว่เอ๋อมีพื้นเพดีขนาดนั้น คุณกำลังจะบอกว่าเธอหลอกตบตาพวกเรา เพื่อก่อเรื่องในงานหมั้นงั้นเหรอ?”

“พี่ คุณหมายความว่าอย่างไรกันแน่?” หวางเห้าเองก็ร้อนใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน: “เสว่เอ๋อเป็นคนแบบไหน ฉันรู้ดี เธอไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน”

หวางหนันหนันโกรธตัวสั่น พลางน้อยใจจนน้ำตาแทบไหลออกมา

เธอร้องไห้พลางพูดว่า: “ทำไมพวกคุณไม่เชื่อฉันเลย?แม่ ใครเป็นลูกสาวแม่กันแน่เนี่ย?”

จางซิ่วจือหน้าแดงขึ้นมา ก่อนจะเอามือกุมหน้าอก: “ฉันดูที่เรื่องไม่ได้ดูที่คน คุณเป็นลูกสาวฉัน เสว่เอ๋อก็เป็นสะใภ้ที่จะแต่งเข้ามา คุณยังจะมาท้าทายกันอีกเหรอ?”

“ฉัน……” หวางหนันหนันกำลังจะเปิดปากพูด

หวางเต๋อพูดออกมาด้วยความเหลืออด: “พอแล้วหวางหนันหนัน คุณยังอยากจะทำให้แม่อาการกำเริบอีกเหรอ?”

ประโยคเดียว ทำให้หวางหนันหนันเลิกเถียง

“แม่ คุณพักผ่อนให้มากๆ ฉันจะไปทำงาน” หวางหนันหนันวางกระติกเก็บความร้อนลง ก่อนจะปิดตาแล้ววิ่งออกไป

“ทำงานๆ เอาแต่สนใจเงินเดือนเท่าขี้มด มันพอใช้ไหมน่ะ?ฉันเป็นแม่แท้ๆ ของคุณ ตอนนี้ป่วยอยู่ ยังจะไม่สนใจกันอีกเหรอ?”

ด้านหลัง มีเสียงของจางซิ่วจือพูดด้วยความโกรธ

เมื่อได้ยิน หวางหนันหนันก็แทบบ้า เลยเดินจากทางเดิน เข้าไปที่ตรงบันไดตึก ก่อนจะทนไม่ไหว แล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง

“ทำไมทุกคนถึงโทษฉัน?ฉันทำอะไรผิด?ทำไมถึงให้ฉันแบกทุกอย่างเอาไว้คนเดียว?”

เมื่อถามเองตอบเอง และร้องไห้ไปด้วย ความกดดันในช่วงนี้ ก็ถูกปลดปล่อยออกมาหมด

แม่ป่วยอยู่โรงพยาบาล เธอมีแรงกดดันสูงมาก วิ่งวุ่นไปหมด ไม่เพียงแค่ส่งข้าวส่งน้ำให้แม่กับน้องชาย แต่ยังต้องไปทำงานอีก

แต่สิ่งที่ได้รับ กลับเป็นคำถามที่ไร้เยื่อไงและไม่เข้าใจจากแม่

เธออยากจะถามหลินเสว่เอ๋อเหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนั้นในงานหมั้น

แต่เธอก็อดทนไว้

เพราะว่าเธอรู้ ว่าหลินเสว่เอ๋อไม่มีทางพูดความจริง ในสถานการณ์แบบนี้ตอนนี้ทุกคนกำลังอยู่ข้างหลินเสว่เอ๋อ จนเธอต้องอธิบายแก้ต่างมากมาย

ตอนที่ตกอยู่ในภวังค์ หวางหนันหนันก็มองไปที่ด้านหน้าอย่างเหม่อลอย ก่อนจะพึมพำ: “เฉินตง……”

แต่งงานมาสามปี ความน้อยใจแบบนี้ เธอเองก็เคยได้รับ

แต่ทุกครั้งจะมีเฉินตงคอยปลอบ ช่วยเธอแก้ไข

ตอนที่กำลังพึมพำ หวางหนันหนันก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะส่งข้อความให้เฉินตง

“เฉินตง ฉันเหนื่อยจังเลย”

รอมานาน แต่ก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับ

หวางหนันหนันร้องไห้อยู่แบบนั้นด้วยความเจ็บปวด และดูไม่มีหวังอะไรแล้ว

ในห้องพักผู้ป่วย

หวางเต๋อมองจางซิ่วจืออย่างไร้ทางเลือก: “คุณดูแลตัวเองดีๆ นะ ช่วงนี้ เห็นลูกสาวก็โกรธขึ้นมาแล้ว จะไม่รักษาร่างกายแล้วเหรอ?”

“คุณโทษฉันเหรอ?”

จางซิ่วจือเลิกคิ้วขึ้น พลางมองหวางเต๋อตาขวาง: “เธอเป็นคนสัญญาว่าทำเรื่องกับเสว่เอ๋อเรียบร้อยแล้วแท้ๆ แต่งานหมั้นล่ะ?เพื่อนพี่น้องกว่าสามสิบโต๊ะ ฉันต้องมาเสียหน้าไปหมดเลย!”

หวางเต๋อพึมพำ กำลังจะแก้ต่าง จางซิ่วจือก็พูดต่อ: “ตระกูลหวางของพวกเราเสียหน้าไปหมดแล้ว!ถ้าเกิดมันทำให้เสว่เอ๋อไม่พอใจแล้ว เลิกกับเสี่ยวเห้าไป ตระกูลหวางยังจะมีคนสืบทอดตระกูลได้อีกเหรอ?คุณฝันไปเถอะ!”

เมื่อได้ยินแบบนั้น หวางเต๋อนิ่งไป

เขารู้ ว่าลูกไร้ประโยชน์นั้น ได้มาเจอหลินเสว่เอ๋อที่การศึกษาดี มีตระกูลที่ดี งานก็ดี มันถือว่าเหลือเชื่อเกินพอแล้ว

หลินเสว่เอ๋อจะเลิกกับหวางเห้าจริงๆ หวางเห้าจะไปหาผู้หญิงแบบนี้อีก คงจะไม่มีใครชอบหวางเห้าได้

จางซิ่วจือเหมือนจะคิดอะไรออก เลยมองหวางเห้า: “จริงสิลูกชาย งานหมั้นน่ะเสว่เอ๋อไม่พอในมาก คุณ คุณได้ไปอธิบายให้เธอฟังหรือยัง?”

“แม่ เสว่เอ๋อไม่สนใจฉันเลยด้วยซ้ำ ฉันไปหาเธอที่บ้าน เธอก็ไปทำงาน เธอไม่นั่งรถของฉันแล้ว ไม่พูดกับฉันสักคำ” หวางเห้าโกรธควันออกหู ใบหน้ารีบร้อน

“ให้ตายเถอะ……”

จางซิ่วจือถอนหายใจพลางมองเพดาน: “ถ้าไม่ใช่เพราะหวางหนันหนันนั่น พวกเราคงหาอีกแสนหนึ่ง จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”

หวางเห้าถูกคำพูดของจางซิ่วจือทำให้คิดถึงแต่หลินเสว่เอ๋อ

เขาคิดถึงก่อนหน้านี้ที่หลินเสว่เอ๋อพูดกับเขา บอกว่าเฉินตงมีเงิน ให้เขาไปเอากับเฉินตง

จากนั้นเขาก็ไปบังคับหวางหนันหนัน หวางหนันหนันกลับไม่ได้ไปหาเฉินตงเหรอ?ทำไมถึงไปหาหลินเสว่เอ๋อแทนล่ะ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ หวางเห้าโกรธเป็นอย่างมาก: “พ่อแม่ แม่ของเฉินตงป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลลี่จิงใช่ไหม?”

หวางเต๋อกับจางซิ่วจือตกใจอึ้งไปตามๆ กัน

จากนั้นหวางเต๋อพยักหน้า: “ได้ ได้ยินว่าพี่สาวคุณเคยพูด น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลลี่จิง”

เขาเองก็ไม่แน่ใจ หลังจากที่แม่ของเฉินตงป่วยหนักและเข้าโรงพยาบาล พวกเขาเลยสนใจแต่เรื่องราวและเหตุผล เคยมาที่โรงพยาบาลครั้งเดียว เลยไม่ได้รู้จักมากมาย

“ฉันจะไปหา”

หวางเห้าหันตัวออกจากห้องผู้ป่วยไป

เขาจะไปยืนยันสักหน่อย ว่าเฉินตงมีหรือไม่มีเงินกันแน่

คำพูดของหลินเสว่เอ๋อนั้น เขาเชื่อ

ถ้าเกิดว่าเฉินตงมีเงิน งั้นอาการป่วยของแม่เขาก็ต้องได้ดีขึ้น

ถ้าอย่างนั้น……เป้าหมายที่เฉินตงหย่ากับพี่สาวเขาก็คือ……

กัดฟันกรอด หวางเห้ามีแววตาที่พร้อมฆ่าคนออกมา

ในห้องผู้ป่วย

ฟ่านลู่กำลังช่วยหลี่หลานเช็ดล้างร่างกาย อย่างระมัดระวัง และละเอียดมาก เพราะกลัวว่าหลี่หลานจะเจ็บ

หลี่หลานยิ้มขึ้นในทันใด: “เสี่ยวลู่ มือของคุณที่ด้าน……”

“ขอโทษ ที่ทำให้คุณป้าเจ็บ” ฟ่านลู่ตกใจ ก่อนจะรีบขอโทษ

“ไม่ๆ เสี่ยวลู่คุณเข้าใจฉันผิดแล้ว” หลี่หลานรีบอธิบาย: “คุณป้าสงสัยในตัวหนูน่ะ ทำไมมือถึงได้ด้านขนาดนี้ ลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ฟ่านลู่นิ่งไป ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา พลางก้มหน้าพูด: “ไม่เป็นไรหรอกคุณป้า ฉันไม่สนใจ”

เมื่อเห็นท่าทีของฟ่านลู่ หลี่หลานก็ถอนหายใจออกมาอย่างไร้ทางเลือกใดๆ พลางยิ้มเบาๆ แล้วพูด: “เด็กโง่”

ปัง!

ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกเปิดออก

หลี่หลานกับฟ่านลู่ต่างตกใจ และมองไปด้วยความสงสัย

หวางเห้าเดินเข้ามาในห้องพักด้วยความรวดเร็ว เมื่อเห็นหลี่หลานบนเตียง ก็ขึ้นเสียง: “เฉินตงบอกว่าคุณใกล้ตายแล้วใช่ไหม?”

หลี่หลานตกใจกลัวตัวสั่น

เธอไม่ได้รู้จักอะไรหวางเห้ามากมาย แต่ด้วยอาการป่วยของเธอในตอนนี้ เปิดประตูเดินเข้ามาพูดแบบนี้ มันเหมือนแช่งกันชัดๆ !

ฟ่านลู่ยิ่งเย็นชากว่า ก่อนจะรีบพูดสั่งว่า: “ขอให้คุณออกไป!”

“ทำไมต้องให้ฉันออกไปด้วย?” หวางเห้าโกรธมาก “ฉันเป็นน้องของภรรยาเฉินตง ทำไมต้องให้ฉันออกไปด้วย?”

อาการของหลี่หลานนั้นดีกว่าแต่ก่อนแล้ว แน่นอนว่าได้รับการรักษาไปไม่น้อย

เฉินตงรักษาแม่ที่ใกล้ตายคนนี้ เลยจะมาหย่ากับพี่สาว!

ถ้าเกิดว่าเขาสองคนไม่ได้หย่า แล้วพี่สาวเอาเงินจากเฉินตงมาหน่อย เขากับหลินเสว่เอ๋อก็จะหมั้นกันอย่างราบรื่น และเตรียมงานแต่ง จะมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน?

หลี่หลานตัวสั่นเทา และร้องไห้ออกมาในทันที

เมื่อเห็นหลี่หลานร้องไห้ ฟ่านลู่ก็ร้อนใจ

ตอนที่เฉินตงรับเธอมาทำงาน ก็ได้กำชับเอาไว้แล้วว่า ตอนนี้หลี่หลานรับแรงอะไรต่อไปไม่ไหวแล้ว!

“คุณออกไปให้พ้น อย่ามาทำร้ายจิตใจคุณป้านะ!”

ฟ่านลู่รีบปรี่เข้ามา

หวางเห้าเองก็เข้ามาด้วยท่าทีเหิมเกริม ก่อนจะต่อยไปที่หน้าของฟ่านลู่: “หลบไป คุณเกี่ยวอะไรด้วย?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset