Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 371 การฆ่าที่เหี้ยมโหด ! ทุกคนตกตะลึง !

เปรี้ยง !

ราวกับเสียงฟ้าผ่าดังก้องอยู่ในหู

ทุกคนต่างหันมองไปที่เฉินตงด้วยความตื่นตระหนก

เสียสติไปแล้วหรือ ?

เขากำลังเดิมพันว่าหลี่เต๋อซานไม่กล้ายิง ?

“คุณเฉิน !”

“คุณชาย !”

“พี่ตง !”

แทบจะในเวลาเดียวกัน พวกฉู่เจียนเจีย ท่านหลง และฉินเย่ ต่างอุทานออกมาพร้อมกัน

แต่เฉินตงกลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย

แต่กลับเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้น

ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม หรี่ตาลงจนเป็นเส้น กำลังแผ่รังสีของความอำมหิตออกมา

ตอนนี้ ท่าทีของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ตัวของเขาเป็นเหมือนดาบคมกริบที่ออกมาจากฝัก ดูน่าเกรงขามจนสยบทุกสิ่งเอาไว้ได้

จ้องเขม็งไปที่ปลายกระบอกปืนของหลี่เต๋อซาน พุ่งความสนใจทั้งหมดลงไปที่ตรงนั้น

ฝีเท้ายิ่งเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ !

หลี่เต๋อซานตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจของเขาเต้นเร็วอย่างไม่อาจควบคุมได้

เมื่อเห็นเฉินตงที่เดินตรงเข้ามาตรงหน้า เขาก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นทันที

เจ้าสัตว์เดรัจฉานนี้ เสียสติถึงขั้นจะเข้าหัวเข้ามาจ่อที่ปืนเลยหรือ ?

บรรยากาศตึงเครียด

ทุกคนต่างตกใจกลัว ถึงขั้นมีผู้หญิงบางคนยกมือขึ้นมาปิดตา เพราะไม่กล้ามองดูภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น

ในสายตาของพวกเขา เฉินตงเป็นเหมือนคนตายเรียบร้อยแล้ว

ภาพที่กระสุนปืนเจาะทะลุสมอง กระทบกระเทือนจิตใจยิ่งกว่าภาพการต่อสู้นองเลือดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มากนัก

“โง่จริงๆ ! ฉันมาหาแกก็เพื่อที่จะฆ่าแก แต่ตอนนี้แกกลับเดิมพันว่าฉันไม่กล้ายิงอย่างนั้นหรือ ?”

หลี่เต๋อซานระงับความตื่นตระหนกในใจเอาไว้ แล้วหัวเราะพลางพูดออกมาอย่างดุร้าย

“ถ้างั้นแกก็ยิงสิ !”

เฉินตงตะโกนดังสนั่น แววตาของเขาแผ่รังสีของความอำมหิตออกมา

ท่าทีน่าเกรงขามนี้ โอบล้อมทุกคนเอาไว้ ราวกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก ทำให้ทุกคนรู้สึกสั่นสะท้าน

หลี่เต๋อซานไม่ทันได้ตั้งตัว เขาตกใจกับเสียงตะโกนที่ดังสนั่น จนสั่นไปทั้งตัว

“ตาย แกตายซะเถอะ !”

หลี่เต๋อซานตะโกนออกมาอย่างดุร้าย และรีบเหนี่ยวไกปืนด้วยมือขวาของเขา

ปัง !

เสียงปืนดังขึ้น จนก้องอยู่ในหู

เกิดเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังขึ้นทันที

ทุกคนรวมไปถึงคุนหลุนเอง ก็ปิดตาลงโดยไม่รู้ตัว

ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน

ราวกับว่าท่าทางของเฉินตงจะยกระดับจนถึงขีดสุดในทันที ในช่วงจังหวะที่หลี่เต๋อซานยิงปืน เขาก็เอียงศีรษะหลบในทันใด

ลูกกระสุนที่ออกมาเฉียดหูของเขาไป ด้วยอุณหภูมิที่ร้อน ถึงขั้นเผาไหม้เส้นผมของเขาไปสองสามเส้น

ปัง !

ลูกกระสุนเจาะทะลุกำแพง

ทันใดนั้น

ตุบ !

เฉินตงฟาดท่อเหล็กในมือของเขาลงไปทันที

“อ้า !”

ปืนที่อยู่ในมือของหลี่เต๋อซานหล่นลงบนพื้น แขนของเขางอจนเสียรูป กระดูกสีขาวโพลนโผล่ทะลุผิวหนังออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและเจ็บปวด

เขามองเฉินตงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับเห็นผี ความเจ็บปวดขนแขนด้านขวาของเขา เหมือนกับมีมีดจำนวนนับไม่ถ้วน ค่อยๆ กรีดลงไปอย่างแรงที่เส้นประสาทของเขาทุกเส้น

เขาทำได้อย่างไร ?

ตอนที่เสียงร้องโหยหวนของหลี่เต๋อซานดังก้องกังวาน

ทุกคนต่างรู้สึกตกใจ

คนที่ควรจะร้องโหยหวน ไม่ใช่เฉินตงหรอกหรือ ?

คุนหลุนลืมตาขึ้นเป็นคนแรก เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า เขาก็ตกใจจนอ้าปากค้างทันที

คุณชาย……ทำได้อย่างไร ?

เขาเคยอยู่ในสนามรบ เป็นราชาของทหาร และเป็นนักฆ่าระดับพระกาฬ จึงเข้าใจอาวุธปืนเป็นอย่างดี

ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ต่อให้เป็นเขาเองก็ยังมีโอกาสชนะได้น้อยมาก

แต่เฉินตงกลับทำได้ !

ความสามารถในการต่อสู้ของคุณชาย ไร้ขีดจำกัดอย่างนั้นหรือ ?

คำถามที่น่ากลัวผุดขึ้นมาในสมอง ทำให้คุนหลุนรู้สึกว่า ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าดูราวกับความฝัน

ในเวลาเดียวกันนี้

เมื่อทุกสายตาค่อยๆ จับจ้องไปที่เฉินตงและหลี่เต๋อซานใหม่อีกครั้ง

ก็เกิดเสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกันอย่างโกลาหล

ทุกคนต่างตกตะลึง

ภาพที่ปรากฏตรงหน้า ทำให้ทุกคนตั้งสติกลับมาได้ใหม่อีกครั้ง

ทำให้ทุกคนรู้สึกงุนงง ราวกับเห็นฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ

เมื่อครู่……เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?

ทำไมคนที่รนหาที่ตายกลับไม่ตาย แต่คนที่จะฆ่าคนอื่นกลับมีสภาพเช่นนี้ ?

ตุบ !

เฉินตงทุบท่อเหล็กลงไปที่ขาซ้ายของหลี่เต๋อซานอย่างแรงอีกครั้ง

เสียงกระดูกหักดังเป๊าะ

หลังจากเสียงกรีดร้อง หลี่เต๋อซานก็ล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้น

ทว่าตอนนี้ หลี่เต๋อซานรู้สึกหวาดกลัวจนถึงขีดสุด นอกจากส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแล้ว ก็ไม่หลงเหลือความเย่อหยิ่งอย่างเช่นตอนเผชิญหน้ากับทุกคนก่อนหน้านี้อีกเลย

ในสายตาของเขา เฉินตงดูราวกับผี เป็นความสยดสยองที่ยากจะพรรณนา

“คนที่โง่คือแกต่างหาก !”

เฉินตงก้มมองลงไป ราวกับกำลังมองดูคนที่กำลังรอความตาย “ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าคุณท่านใหญ่ตระกูลหลี่ คนอย่างฉัน เฉินตงไม่เคยลอบกัดใคร คนที่ต้องการฆ่า ก็จะฆ่าต่อหน้า ! ที่ตระกูลหลี่ต้องล่มสลาย เป็นเพราะน้ำมือของแก !”

“ไม่ ไม่ใช่แบบนี้ มันต้องไม่ใช่แบบนี้ !”

หลี่เต๋อซานดวงตาแดงก่ำ ในความหวาดกลัวก็แฝงไปด้วยความบ้าคลั่ง เขาส่ายหัวแล้วพูดโต้กลับว่า “เพราะแก เพราะแกนั่นแหละ ที่ตระกูลหลี่มีสภาพอย่างเช่นทุกวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของแก !”

ฉึบ !

ทันใดนั้นเอง มีแสงสะท้อนแวววาวออกมาจากเอวของหลี่เต๋อซาน

หลี่เต๋อซานดึงกริชออกมา แล้วพุ่งเข้าไปหาเฉินตงด้วยแววตาที่ดุดันราวกับสุนัขบ้า

เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังขึ้นอีกครั้ง

ตุบ !

เกิดเสียงดังขึ้นเบาๆ

หลี่เต๋อซานที่กำลังบ้าคลั่ง หยุดชะงักไปกะทันหันทันที

ใบหน้าที่เต็มใบด้วยความหวาดกลัวและบ้าคลั่งค่อยๆ จางหายไป แววตาก็ค่อยๆ ว่างเปล่า และสิ้นสติ

เลือดสีแดงสดไหลนองลงมาจากศีรษะของเขา จนอาบไปทั่วทั้งใบหน้าของเขา

หลี่เต๋อซานล้มลงไปนอนบนพื้นดังตุ้บ

แกร๊ง……

เฉินตงโยนท่อเหล็กลงบนพื้นอย่างไม่แยแส แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย !”

หลังจากพูดจบ

เฉินตงก็ค่อยๆ เดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไป

ภายในห้องจัดเลี้ยง ทุกคนต่างหันมองไปยังหลี่เต๋อซานที่นอนจมกองเลือดอยู่ ต่างก็รู้สึกกลัวจนเสียวสันหลังและขนลุก

ความกลัวแผ่ซ่านไปทั่ว

ไม่มีใครคาดคิดว่า ในที่สุด สถานการณ์ทุกอย่างจะถูกพลิกกลับโดยเฉินตง

ไม่มีใครสงสารหลี่เต๋อซาน มีเพียงแค่บางคนที่ตกใจว่าเมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเท่านั้น

“เจียนเจีย หยู่หลัน ตรงนี้ฝากให้เป็นหน้าที่ของพวกเธอแล้ว”

ท่านหลงตั้งสติได้ ก็หันไปกำชับกับฉู่เจียนเจียและจางหยู่หลันด้วยท่าทีที่สงบ

จากนั้นจึงประคองฉินเย่เดินออกไปด้านนอก

ตอนที่เดินผ่านคุนหลุน ท่านหลงพบว่าคุนหลุนยังคงนั่งใจลอย จึงได้พูดขึ้นว่า “มัวแต่อึ้งอะไรอยู่ คุณชายไปตั้งนานแล้วนะ”

แววตาของคุนหลุนสั่นคลอนเล็กน้อย จากนั้นจึงตั้งสติกลับมาได้

เขาในตอนนี้ ยังคงรู้สึกปั่นป่วนในใจ

เขาพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่ยังคงหวาดกลัว “ขีดจำกัดของคุณชาย อยู่ที่ไหนกันแน่ ?”

“ขีดจำกัดอะไร ?” ท่านหลงถาม

“ความสามารถในการต่อสู้” คุนหลุนตอบ “เมื่อครู่คงจะเป็นคุณชายที่หลบลูกกระสุนอย่างฉับพลัน และพลิกสถานการณ์กลับมาโจมตีได้ นี่ นี่……อัตราความสำเร็จนี่ มันควรจะเป็น0 !”

“นายทำได้ไหม ?” ท่านหลงถามกลับหนึ่งประโยค

คุนหลุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับอย่างเคร่งขรึมว่า “มีโอกาสเพียงแค่ 1 %”

“นั่นก็หมายความว่าทำได้”

ท่านหลงพยักหน้า แล้วพูดออกมาด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง “ใครก็ตามที่อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ขอแค่ไม่ยอมก้มหัวยอมแพ้ ก็สามารถต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดได้เสมอ”

“คุณไม่ตกใจหรือ ?”

คุนหลุนเดินตามท่านหลงไปพลาง เอ่ยถามไปพลาง

ท่านหลงยิ้มแหยออกมา “จะไม่ตกใจได้อย่างไร ภาพนี้ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องตกใจทั้งนั้น ต่อให้เป็นเต้าจูน เกรงว่าก็อาจตกใจจนอ้าปากค้างได้เช่นกัน”

หลังจากที่พวกของเฉินตงจากไป

การประชุมแลกเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นลงอย่างรวดเร็ว

แต่หลังจากบรรดาคนที่อยู่ในอาการหวาดกลัวและตื่นตกใจกลับออกไปจากงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉากที่ปรากฏอยู่ภายในห้องจัดเลี้ยง ดูราวกับพายุใหญ่ที่กวาดเมืองหลวงจนราบเป็นหน้ากลอง

เจ้าบ้านตระกูลหลี่สิ้นชื่อ

นี่เพียงพอที่จะทำให้เมืองหลวงต้องสั่นสะเทือน

เป็นที่รู้กันดีว่า ในช่วงที่ตระกูลหลี่ตกต่ำ มีตระกูลมั่งคั่งไม่น้อยที่กำลังแอบเฝ้าดูอยู่

การเสียชีวิตของเจ้าบ้านตระกูลหลี่ เท่ากับเป็นการประกาศว่าตระกูลหลี่ล่มสลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว

เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปถึงหูของบรรดาตระกูลมั่งคั่งภายในเมืองหลวง

ทุกคนต่างตกตะลึง ถึงแม้จะเป็นเวลาใกล้เที่ยงคืนแล้ว

ทุกคนก็ไม่รู้สึกง่วงนอน เป็นที่แน่ชัดว่าคืนนี้ ทั้งเมืองหลวงจะไม่มีการหลับใหล

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset