Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 373 ให้เฉินตงคุกเข่าพร้อมกับยกเหล้าขอโทษ

“ประธานโจว เรื่องจัดหาที่ดิน คุณเป็นมืออาชีพ คงไม่ต้องรบกวนผมหรอกมั้ง ?”

เฉินตงกล่าวอย่างงุนงง

โจวเย่นชิวโลดแล่นอยู่ในแวดวงห้างสรรพสินค้ามาหลายสิบปี ในเมืองนี้ มีเพียงธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ก็ยังสามารถเทียบชั้นได้กับโจวจุนหลง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ ถึงขั้นสามารถเหยียบโจวจุนหลงจนไม่อาจลืมตาอ้าปากได้

ยอดฝีมือเช่นนี้ ไม่สามารถจัดหาที่ผืนเดียวได้ ?

โจวเย่นชิวลูบมืออย่างทำตัวไม่ถูก “ขอพูดตามตรง หากเป็นเมืองนี้ ผมคงคว้ามาไว้ในมือได้อย่างง่ายดาย แต่ที่ดินผืนนั้นอยู่ในเมืองหลิ่งตงที่อยู่ติดกัน หากผมซื้อมาก็คงเกิดปัญหาขึ้น”

เฉินตงไม่ได้สนใจ เขาโบกมือ “เรื่องนี้คุณไปคุยกับเสี่ยวหม่าและกูหลังที่ไท่ติ่งเถอะ พวกเขาจะร่วมมือกับคุณ”

“ขอบคุณครับคุณเฉิน !”

โจวเย่นชิวยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขารีบพูดว่า “ขอบคุณคุณเฉินที่ช่วยเหลือ หากผมจัดหาที่ดินผืนนี้มาได้สำเร็จ ผมจะต้องตอบแทนอย่างเต็มที่แน่นอนครับ หากคุณเฉินไม่รังเกียจ จะร่วมพัฒนาด้วยกันผมก็ยินดี !”

“เอาล่ะ คุณไปเถอะ ผมจะต้องรีบไปอยู่เป็นเพื่อนภรรยาอีก”

เฉินตงโบกมือ จากนั้นจึงเดินนำท่านหลงและคุนหลุนไปยังลานป่าไผ่

“คุณชาย โจวเย่นชิวถึงขั้นเอ่ยปากให้ร่วมพัฒนาด้วยกัน ดูเหมือนว่าที่ดินผืนนี้น่าจะมีปัญหาจริงๆ” จู่ๆ ท่านหลงก็พูดขึ้นมา

“เสี่ยวหม่ากับกูหลังน่าจะจัดการได้”

เฉินตงพยักหน้า โจวเย่นชิวเป็นคนเช่นไรนั้น เขารู้ดี

ยอดฝีมือที่โลดแล่นอยู่ในวงการห้างสรรพสินค้ามาหลายสิบปี ไม่ว่ากลอุบายหรือวิธีการต่างก็อยู่ในระดับสูง

หาดที่ดินผืนนั้นสามารถจัดหาได้ง่ายๆ โจวเย่นชิวคงจะฮุบเอาไว้คนเดียวนานแล้ว

ตอนนี้ถึงขั้นเสนอให้พัฒนาร่วมกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นการแบ่งเนื้อชิ้นอร่อยที่อยู่ในปากออกมาให้ครึ่งหนึ่ง หากเขายอมสูญเสียเงินจำนวนนี้ได้ แสดงว่าต้องเป็นเรื่องที่เหนือความสามารถของตนเอง

ท่านหลงพยักหน้า และไม่พูดอะไรต่อ

เมื่อกลับไปถึงลานป่าไผ่

กู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ในลาน

“กลับมาเร็วขนาดนี้เลยหรือคะ ทำไมคุณต้องทำให้ตัวเองเหนื่อยขนาดนี้ด้วย”

กู้ชิงหยิ่งกล่าวทักทายพร้อมกับบ่นมาหนึ่งประโยค

เฉินตงยิ้มเล็กน้อย “ไม่ใช่เพราะผมต้องการรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนคุณหรอกหรือ ?”

“มีพี่เสี่ยวลู่อยู่ ยังจะต้องให้คุณอยู่เป็นเพื่อนอีกหรือยังไง ?”

กู้ชิงหยิ่งชูหมัดขวาขึ้น “ตอนนี้คุณจะเป็นพ่อคนแล้ว เป้าหมายแรกที่คุณต้องทำก็คือ หาค่านมให้ลูก หากไม่มีค่านมลูก ฉันในฐานะที่เป็นแม่ คงต้องจัดการกับคุณแล้ว”

ประโยคนี้ ทำให้ทุกคนหัวเราะขึ้นมา

แต่เฉินตงรู้ดีว่า กู้ชิงหยิ่งกำลังเข้าใจเขา

เพราะระยะเวลาหนึ่งปีนั้นถือว่าสั้นมาก !

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินตงก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นในใจ

จากนั้นจึงลูบดั้งจมูกของกู้ชิงหยิ่งด้วยความรัก แล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “วางใจเถอะ ตอนที่ลูกคลอด ผมจะต้องหาเงินลูกเอาไว้ได้เยอะๆ อย่างแน่นอน หาเงินเป็นเรื่องสำคัญ แต่อยู่เป็นเพื่อนคุณนั้นสำคัญยิ่งกว่า”

เฉินตงอยู่เป็นเพื่อนกู้ชิงหยิ่งตลอดทั้งเช้า

เมื่อผ่านพ้นเรื่องเมื่อคืนมา ลานป่าไผ่ในตอนนี้ ก็เงียบสงบเป็นอย่างมาก ทำให้เฉินตงรู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย

มีภรรยาและลูกอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น ล้วนเป็นชีวิตที่ผู้ชายทุกคนใฝ่หา

ถึงแม้เขาจะอยู่เหนือผู้คนทั้งปวงก็ตาม

หลังจากทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จ

ท่านหลงก็เชิญเฉินตงไปที่ลาน

“คุณชายครับ ตระกูลหลี่จบสิ้นลงแล้ว”

ท่านหลงพูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม “เมื่อคืนสงวนท่าทีกันตลอดทั้งคืน เช้าวันนี้ตระกูลมั่งคั่งต่างๆ ในเมืองหลวง ต่างชิงลงมือพร้อมกัน ยักยอกทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตระกูลหลี่ไปจนหมด ส่วนที่เหลือก็ดูเหมือนว่ากำลังจะหมด”

เฉินตงคาดการณ์เอาไว้นานแล้ว

“หากหลังจากที่คุณท่านใหญ่ตระกูลหลี่ตายไป หลี่เต๋อซานพอจะมีสมองสักหน่อย ก็คงพอประคองตระกูลหลี่ไปได้อีกนาน ถึงแม้ไม่อาจประคองเอาไว้ได้ ต้องสูญเสียตำแหน่งตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงไป แต่อูฐที่ผอมโซก็ยังคงตัวใหญ่กว่าม้า ตระกูลหลี่ยังคงเป็นตระกูลมั่งคั่งภายในเมืองหลวงได้”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉินตงก็หัวเราะเยาะออกมา “แต่น่าเสียดายที่ตระกูลหลี่มีแต่คนโง่ ยิ่งหลี่เต๋อซานนั้น โง่เขลากว่าคนปัญญาอ่อนเสียอีก”

ท่านหลงพยักหน้า เฉินตงพูดตรงกับความเป็นจริงทุกอย่าง

จิ้งจกที่หางขาด ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้

อีกทั้งยังเคยมีตำแหน่งเป็นถึงตระกูลหลี่ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงอีกด้วย !

แต่หลี่เต๋อซานกลับเลือกใช้วิธีการที่โง่ที่สุดในบรรดาตัวเลือกที่มี

“นายหาฉันคงไม่ได้ต้องการมาพูดแค่เรื่องนี้หรอกใช่ไหม ?” จู่ๆ เฉินตงก็หันมองท่านหลง

ท่านหลงยิ้มออกมาอย่างเก้อเขิน “อันที่จริงแล้วฉู่เจียนเจียให้ผมช่วยมาถามความคิดเห็นของคุณแทนเธอ”

เงียบไปครู่หนึ่ง ท่านหลงก็พูดต่อว่า “หลี่เต๋อซานตายไปแล้ว ตระกูลหลี่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ บุตรชายตนที่สามของตระกูลหลี่รู้ดีว่าคุณกับตระกูลหลี่นั้นเหมือนน้ำกับไฟ แต่เขาเป็นคนที่ฉลาด จึงได้พลิกสถานการณ์และขอโอกาส ต้องการจะให้ธุรกิจของตระกูลหลี่ส่วนหนึ่ง ไปตกอยู่ในมือของตระกูลฉู่”

“ลอกคราบใหม่ ?” เฉินตงเลิกคิ้ว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ “ฉันดูถูกตระกูลหลี่เกินไปแล้ว ดูเหมือนจะยังหลงเหลือคนมีสมองอยู่หนึ่งคน”

ตอนนี้ตระกูลหลี่กำลังถูกตระกูลมั่งคั่งรุมทึ้งอย่างบ้าคลั่ง หากยกส่วนหนึ่งให้กับตระกูลฉู่ แล้วยอมละทิ้งผลประโยชน์บางส่วน ก็ยังพอที่จะรักษาพื้นฐานส่วนหนึ่งเอาไว้ได้

ถึงแม้ตระกูลฉู่จะไม่ได้อยู่เหนือสุดของยอดพีระมิดในเมืองหลวง แต่ก็ถือเป็นตระกูลมั่งคั่งอันดับต้นๆ

และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ตระกูลมั่งคั่งในเมืองหลวงต่างรู้กันดีว่า ตระกูลฉู่นั้นอยู่ภายใต้การดูแลของเฉินตง อีกทั้งยังอยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลเฉิน !

เมื่อมีธงขนาดใหญ่นี้ปักอยู่ ตระกูลมั่งคั่งต่างก็ต้องยอมรามือจากทรัพย์สินของตระกูลหลี่ที่กำลังผนวกรวมเข้ากับตระกูลฉู่

“น่าจะมีความหมายประมาณนี้ ฉู่เจียนเจียคงคิดไม่ตก ดังนั้นจึงให้กระผมช่วยมาถามความคิดเห็นจากคุณชายแทนเธอ” ท่านหลงพยักหน้า

“นายคิดเห็นว่ายังไงล่ะ ?” เฉินตงเลิกคิ้วถาม

“ระยะเวลาหนึ่งปีอยู่ใกล้แค่เอื้อม มีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมาเพียงแค่นิดเดียวก็สามารถทำคะแนนเพิ่มได้” ท่านหลงตอบ

จู่ๆ เฉินตงก็หัวเราะออกมา

เสียงหัวเราะทำให้ท่านหลงผงะไป

จากนั้น เฉินตงก็พูดขึ้นว่า “การเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ ท่านหลงก็คงพอเข้าใจดีนะ ? เรื่องชาวนากับงูเห่า ก็คงมีคนเคยเล่าเอาไว้มากมาย ? ฉันยังไม่ถึงขั้นอดอยากหรอกนะ”

บิดขี้เกียจ

แล้วเฉินตงก็พูดขึ้นว่า “ฉันกลับไปอยู่เป็นเพื่อนภรรยาก่อน”

ท่านหลงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม หลังจากคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาฉู่เจียนเจีย

“ให้ตระกูลหลี่เป็นไปตามที่ควรจะเป็นเถอะ ตระกูลจางและตระกูลฉู่ ห้ามยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด !”

……

เฉินตงไม่สนใจว่าจะเกิดความวุ่นวายขนาดไหนขึ้นภายในเมืองหลวง

หากต้องไปสนใจตระกูลหลี่ ไม่สู้เอาเวลามาสนใจภรรยาของตนเอง และสนใจเรื่องการหายตัวไปของพ่อจะดีกว่า

ผ่านไปอีกหนึ่งวันอย่างสงบสุข

ช่วงเวลาที่สุขสบายเช่นนี้ กลับถูกทำลายลงด้วยสายโทรศัพท์จากกูหลัง

“คุณเฉิน การเจรจาล้มเหลว !”

เฉินตงรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย “เรื่องแค่นี้ยังเจรจาล้มเหลวอีกหรือ ? เพียงก็ที่ดินที่อยู่เมืองข้างๆ แค่นี้ ไท่ติ่งกับโจวเย่นชิวร่วมมือกัน ยังไม่อาจเจรจาได้สำเร็จอีกหรือ ?”

“เจรจาไม่สำเร็จไม่พอ เมื่อครู่ยังมีการลงไม้ลงมือด้วยครับ”

เฉินตงสีหน้าเคร่งขรึมลง แค่เมืองที่อยู่ติดกัน เขาปฏิรูปเมืองนี้ครั้งใหญ่ขนาดนี้ เมืองที่อยู่ติดกันก็น่าจะเคยได้ยินข่าวคราวบ้าง

ไท่ติ่งและโจวเย่นชิวร่วมมือกันออกหน้าขนาดนี้ ต่อให้อีกฝ่ายเป็นนายท่านหม่าก็น่าจะไว้หน้ากันบ้าง

อย่างไรเสียก็เป็นเพียงงูยักษ์เจ้าถิ่นเท่านั้น ไม่เหมือนยี่เคอกรุ๊ปของตระกูลเฉินที่เป็นมังกรผู้ยิ่งใหญ่

“นายไม่ได้อ้างชื่อของไท่ติ่งเราหรอกหรือ ?” เฉินตงถาม

“พูดครับ !”

จู่ๆ กูหลังก็พยายามระงับเสียงที่เต็มไปด้วยความโมโหอย่างสุดความสามารถ “เพียงแต่อีกฝ่ายไม่เห็นไท่ติ่งของเราอยู่ในสายตา อีกทั้งยังขู่ว่าหากไท่ติ่งยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้ จะให้คุณคุกเข่าและยกเหล้าไปขอโทษพวกเขาครับ”

เฉินตงรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าขำในทันที

ที่ดินเพียงแค่ผืนเดียว กลับทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้เชียวหรือ

อีกฝ่ายเป็นคนประเภทไหนกันแน่ ?

เฉินตงสูดหายใจเข้าหนึ่งครั้งแล้วพูดว่า “บอกพิกัดมาให้ฉัน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ จะดูซิว่าพวกเขาจะทำให้ฉันยอมยกเหล้าไปขอโทษได้ไหม”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset