Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 380 คำเชิญของหลินหลิ่งตง

“วัยเด็ก?”

เฉินตงหยุดฝึก ปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้า รอยยิ้มเผยให้เห็นคนความขมขื่นที่เข้มข้น

วัยเด็กของเขานั้นมืดมนมาก

มีเพียงแม่เท่านั้น ที่ส่องแสงนำทางให้เขา

คุนหลุนเห็นเฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น ก็รู้สึกตัวทันที

เขารีบกล่าว “ขอโทษครับคุณชาย เมื่อกี้ผมใจร้อนไปแล้ว ไม่ต้องตอบคำถามข้อนี้หรอก”

“ไม่เป็นไร”

เฉินตงชี้ไปเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลนัก เพื่อบอกให้คุนหลุนนั่งลงพร้อมกัน

หลังจากนั่งลงแล้ว เฉินตงจึงค่อยๆพูดขึ้น “อันที่จริงวัยเด็กของผมก็ไม่มีอะไร นอกจากที่ถูกคนด่าว่าลูกสวะ ใช้ชีวิตโดยที่ไม่สามารถจะรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในนาทีต่อไป กินมื้อนี้ไปแล้วก็ไม่รู้ว่ามื้อต่อไปยังจะมีกินหรือเปล่า”

“หากไม่ใช่แม่ผมที่พยายามเลี้ยงดูผมอย่างสุดชีวิต คาดว่าผมคงตายไปนานแล้ว”

คำพูดง่ายๆเพียงสองประโยค กลับสามารถบรรยายความลำบากทั้งหมดที่มี

คุนหลุนรู้สึกผิด เขาเพียงแค่อยากจะหาคำตอบบางอย่าง จากวัยเด็กของเฉินตง เพื่อมาอธิบายสัญชาตญาณการต่อสู้ของเฉินตงและความแข็งแกร่งทางร่างกายที่เติบโตอย่างไม่มีขีดจำกัด

เพียงเพราะคำพูดเดียว ก็ได้ไปสะกิดบาดแผลในวัยเด็กของเฉินตงเข้าให้

หลังจากพูดสองประโยคนี้จบแล้ว เฉินตงก็ตกอยู่ในความครุ่นคิด

เขาไม่อยากที่จะไปคิดถึงอดีตของเขาเลย

เขาพยายามอย่างสุดชีวิต ก็เพราะอยากจะให้แม่ที่เสียสละ ได้รับการตอบแทน และก็ทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากความโชคร้ายที่ต้องเผชิญในวัยเด็กไปทั้งหมด

ความทรงจำในวัยเด็ก ทุกเฟรมคือความมืด ทุกเฟรมทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด และแม้แต่ทุกเฟรมก็เต็มไปด้วยเลือด

แม่ทำงานหนักอย่างสุดชีวิต ไม่เพียงทำงานหนักจนป่วยออดๆแอดๆ ยังต้องเลี้ยงดูส่งเสียเขาไปโรงเรียน และตั้งแต่เล็กจนโตก็ถูกด่าคนว่าลูกสวะ เมื่อโกรธมากก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ แต่สิ่งที่ได้มาคือถูกรุมทำร้าย สุดท้ายก็ต้องให้แม่ออกหน้ามาปกป้อง

พร้อมกับที่รู้เรื่องในตอนนั้น เขาจึงรู้ว่า

ทั้งหมดนี้ สาเหตุมาจากที่พ่อเขาไม่อยู่ แต่มากกว่านั้นคือการกินเลือดกินเนื้อของตระกูลหลี่ มองเขากับแม่ไม่ใช่คน

“ขอโทษครับคุณชาย”

คุนหลุนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด กล่าวอธิบาย “ผมเพียงแค่ประหลาดใจกับสัญชาตญาณการต่อสู้ของคุณชายและขีดจำกัดการเติบโตทางกายภาพ ดังนั้นจึงอยากจะรู้ว่าวัยเด็กของคุณชายเคยผจญภัยอะไรมาบ้าง หรือว่าเคยฝึกตั้งแต่แรกแล้ว”

ในวัยเด็ก กระดูกและกล้ามเนื้อกำลังเติบโต

ฝึกฝนในช่วงนั้นจะง่ายที่สุด มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเพิ่มขีดจำกัดของการเติบโต

“ผจญภัย?”

เฉินตงเลิกคิ้ว ยิ้มอย่างขมขื่น “สามวันถูกซ้อมหนึ่งครั้ง นับหรือเปล่า?”

คุนหลุนหยุดพูด

ไม่รอให้เขาพูดต่อ

เฉินตงก็ลุกขึ้นมาฝึกต่อ “เอาล่ะ หากผมได้ผจญภัยตั้งแต่เด็ก ก็คงไม่ต้องรอให้กองทัพที่กล้าหาญและรวดเร็วอย่างท่านหลง มาช่วยผมและแม่แล้ว”

คุนหลุนมองดูเฉินตงที่ฝึกอย่างหนัก ใจก็ล่องลอย

บางที…….การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ ก็คือการฝึกฝนอย่างหนักมั้ง?

หลังจากที่ฝึกเสร็จ เฉินตงอาบน้ำอาบท่าแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังไท่ติ่ง

ตระกูลเฉินมีฉินเย่กับฉินเสี่ยวเชียนรับผิดชอบ

บริษัทด้านความบันเทิงในเมืองหลวงมีตระกูลจางกับตระกูลฉู่รับผิดชอบ

เมืองนี้โจวจุนหลงสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง จุดโฟกัสของเฉินตงยังคงอยู่ที่ไท่ติ่ง

มันคือจุดที่เริ่มต้นของเขา แม้ว่าตอนนั้นเขาจะได้รับเงินหลายพันล้านที่คุณพ่อมอบให้กับเขาเอาไว้ใช้ แต่ยังคงมีความรักความผูกพันที่ลึกซึ้งกับไท่ติ่ง

หลังจากฟังเสี่ยวหม่ารายงานเสร็จ เฉินตงตัดสินใจว่าหลังจากนี้หนึ่งเดือน ไท่ติ่งต้องได้ที่ดินห้าแปลงมาในเวลาเดียวกัน

“พี่ตง ซื้อที่ดินห้าแปลงในเวลาเดียวกัน มันจะเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า?” เสี่ยวหม่าพูดด้วยความประหลาดใจ ไท่ติ่งในอดีต เวลาซื้อที่ก็ซื้อทีละแปลง มากสุดก็ซื้อสองแปลงในเวลาเดียวกัน

ตอนแรกที่ไท่ติ่งได้โครงการย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ได้มาโดยไม่คาดฝัน

“เสี่ยงเหรอ?”

เฉินตงยิ้มอย่างเรียบเฉย “ตอนนี้เรามีความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงแล้ว ทำไมยังต้องกลัวความเสี่ยง?”

มองดูท่าทางของเฉินตงที่สงบใจเย็น เสี่ยวหม่าก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พยักหน้าแล้วออกไปจากห้องทำงาน

“ก็ยังคงต้องทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและสม่ำเสมอ”

มองดูเอกสารที่กองเท่าภูเขา เฉินตงยิ้มเจื่อนๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้พ่อของเขาหายตัวไป อยู่ในตระกูลเฉินเขาที่โดดเดี่ยวตัวคนเดียวไม่มีคนช่วยเหลือ เขาจะไม่มีทางเอาแค่ที่ดินห้าแปลงเท่านั้น!

ยุ่งมาทั้งวัน

ใกล้เวลาเลิกงาน ในห้องทำงานบนโต๊ะของเฉินตงก็มีบัตรเชิญเกินมาหนึ่งใบ

“ใครเป็นคนส่งมา?” เฉินตงถาม

กูหลังตอบ “เป็นหลินหลิ่งตงครับ”

เฉินตงยิ้มๆ ก็ไม่ได้เปิดบัตรเชิญ แต่ได้โยนมันลงไปในถังขยะโดยตรง

“ฉันยังต้องกลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนภรรยาน่ะ”

กลับไปถึงลานป่าไผ่ในคลับสี่ยิ่น

ฟ่านลู่ได้เตรียมอาหารค่ำไว้นานแล้ว

อาหารเลิศรส ครบเครื่องทั้งสีสันและกลิ่นหอม

หลังจากรับประทานอาหารแล้ว เฉินตงกับท่านหลงก็ได้เดินไปที่ลาน

“ท่านหลง ทางตระกูลเฉินมีเบาะแสของคุณพ่อบ้างมั้ย?”

เฉินตงถาม เรื่องที่คุณพ่อส่งข้อความมาแจ้งความปลอดภัย มันยังวนเวียนอยู่ในใจของเขาโดยตลอด

ในเมื่อตระกูลเฉินก็ตามหาอย่างสุดกำลังความสามารถ ด้วยพลังของหน่วยข่าวกรองของตระกูลเฉิน เวลานานขนาดนี้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็น่าจะมีเบาะแสบ้าง

ท่านหลงส่ายหัว “ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว”

“เครือข่ายข่าวกรองตระกูลเฉินอ่อนแอแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เฉินตงขมวดคิ้ว กล่าวเสียงต่ำ

ท่านหลงยิ้มเจื่อนๆแล้วพูดว่า “นายท่านก็เป็นคนที่รู้กฎการดำเนินงานของเครือข่ายข่าวกรองดีที่สุด ถ้าเขาไม่ต้องการให้เครือข่ายตามหาเขาเจอ ก็สามารถทำให้หาไม่เจอจริงๆ”

พูดถึงสุดท้าย……..มีความเป็นไปได้ที่คุณพ่อจะซ่อนตัวเองมั้ย?

เขา…….กลัวอะไรกันแน่?

เฉินตงสับสนไปหมด การกระทำของคุณพ่อ ทำให้เขาจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย

เฉินกัดฟันไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าว “ผมต้องการให้คุณแอบติดตามการเคลื่อนไหวของตระกูลเฉินตลอดเวลา ขอเพียงมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ให้รายงานผมทันที”

“กระผมเข้าใจแล้ว” ท่านหลงพยักหน้า แล้วกล่าว “ใช่แล้วคุณชาย โจวเย่นชิวให้คนมาแจ้งว่า ทางวิลล่าเขาเทียนซานได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งที่ได้รับความเสียหายได้ถูกซ่อมแซมหมดแล้ว เราจะย้ายกลับไปกันเมื่อไหร่?”

“รออีกหน่อยเถอะ” เฉินตงกล่าวอย่างครุ่นคิด “ผมมักจะรู้สึกกระวนกระวาย ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้สึกว่าเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้น คลับสี่ยิ่นยังไงก็ปลอดภัยกว่าวิลล่าเขาเทียนซาน”

พูดจบ เฉินตงเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าที่หนักใจ หากู้ชิงหยิ่งจนเจอ

“ที่รัก ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนผมหน่อยได้มั้ย?”

“ได้สิ” กู้ชิงหยิ่งตอบรับโดยตรง “พอดีเลยฉันก็ไม่ได้ออกไปเดินเล่นนานแล้ว ไปที่ริมแม่น้ำที่เราชอบไปตอนเรียนมหาวิทยาลัยกันนะ ไปเดินรับลมกัน”

“ได้!”

รถโรลส์-รอยซ์ถูกขับออกไปจากคลับสี่ยิ่น

คนที่ไปด้วยกันกับเฉินตงและกู้ชิงหยิ่ง มีเพียงคุนหลุนคนเดียว

ตอนนี้ภารกิจลอบสังหารขององค์กรHidden Killing ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ตระกูลหลี่ในเมืองหลวงก็หายตัวไปเช่นกัน

เฉินตงก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกลอบสังหารตลอดเวลาอีก ดังนั้นเมื่อออกไปเดินเล่น ก็ไม่ต้องมีขบวนการที่อลังการเหมือนเมื่อก่อน

ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งและเพื่อนสนิทอีกหลายคน ก็มักจะไปเดินเล่นที่ริมแม่น้ำที่อยู่ด้านนอกมหาวิทยาลัยในเวลากลางคืน

ตรงริมแม่น้ำเล็กๆ กลับมีความทรงจำในวัยเยาว์ของเขาทั้งสอง

รถโรลส์-รอยซ์จอดบนถนนด้านใต้ฝั่งริมแม่น้ำ เฉินตงจูงมือกู้ชิงหยิ่ง และค่อยๆเดินขึ้นบันได ไปถึงฝั่งริมแม่น้ำ

ลมแม่น้ำที่พัดมา เย็นยะเยือกเล็กน้อย

ทำให้คนรู้สึกที่สดชื่น

ต้นฤดูใบไม้ร่วงจะเย็นเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับฤดูร้อนแล้ว ท้ายที่สุดอุณหภูมิยังคงสูงกว่าเล็กน้อย

เวลานี้ใกล้สองทุ่มแล้ว บนฝั่งริมแม่น้ำยังคงมีคนเดินเล่นอยู่ไม่น้อย

เฉินตงพยุงกู้ชิงหยิ่งอย่างระมัดระวัง ทั้งสองคนเข้าเดินไปข้างหน้า

คุนหลุนที่อยู่ด้านหลังเขาทั้งสอง เดินตามอย่างเงียบๆ

ระยะห่างดังกล่าว ไม่เป็นการรบกวนเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่ง ยังสามารถเข้าไปทันทีเมื่อเกิดอันตราย

เพียงแต่ เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งยังเดินไปไม่ไกล ก็ได้หยุดฝีเท้าลงในเวลาเดียวกัน

รั้วกั้นริมแม่น้ำที่ไม่ไกลจากพวกเขา มีคนยืนอยู่หนึ่งคน กำลังมองดูผิวแม่น้ำที่มีแสงระยิบระยับของดวงไฟอย่างเงียบๆ ลมแม่น้ำได้พัดเส้นผมสีดำยาวสลวยปลิวไปมา…….

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset