Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 381 เงาที่เศร้า

ลมริมแม่น้ำเย็นเล็กน้อย

บนผิวน้ำ ระยิบระยับไปด้วยแสงของดวงไฟ

ผู้หญิงคนนั้นที่สวมเสื้อกันลมยาวสีดำ ยืนเงียบๆ อยู่ตรงรั้วกั้น ใบหน้าด้านข้างที่ขาวและคม ภายใต้เส้นผมสีดำยาวสลวยที่ถูกลมพัด ทำให้ดูเศร้าเล็กน้อย

“คุณชาย คุณนายน้อย เป็นอะไรหรอ?”

คุนหลุนเห็นถึงความผิดปกติ เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วถาม

“กลับบ้านเถอะ”

เฉินตงพูดขึ้นมาทันที อารมณ์ที่มีความสุขในตอนแรก เวลานี้กลับกลายเป็นความเคร่งขรึม ถึงขนาดสะอิดสะเอียนเล็กน้อย

กลับบ้าน?!

เพิ่งจะมาถึงเอง

คุนหลุนแปลกใจ รีบมองตามสายตาของเฉินตง

เมื่อเห็นแล้ว ก็เข้าใจทันที

ไม่ได้พูดอะไรอีก ได้ตามเฉินตงหันหลังเดินจากไป

แต่ มือที่เรียวยาวก็ได้จับแขนของเฉินตงเอาไว้อย่างเบาๆ

“หลายปีแล้ว ไม่ทักทายหน่อยเหรอ?” กู้ชิงหยิ่งกล่าว

“ผมจะเอาอารมณ์ที่ไหนไปทักทายหล่อน” เฉินตงไม่ได้ปกปิดความรังเกียจของเขาเลย

แต่งงานกันไปสามปี มีแต่ความเจ็บปวด

แม่นอนป่วยหนักอยู่บนเตียง ยังสามารถเอาเงินที่จะช่วยชีวิตคนไปให้กับครอบครัวของตัวหล่อน เพียงเพื่อซื้อบ้านให้กับน้องชายที่จะแต่งงาน

แม้กระทั่งหย่าร้างกันไปแล้ว หล่อนยังคงสร้างความวุ่นวายและแอบเล่นงานเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

หากไม่รักแล้ว ก็ให้ปล่อย

แต่เมื่อเกิดกับหล่อน กลับกลายเป็นว่าหากไม่รักแล้ว ก็จะทำร้ายให้ถึงที่สุด

ถึงขนาดตอนแรกหากไม่ใช่กู้ชิงหยิ่งไว้เนื้อเชื่อใจเขาอย่างมาก เขากับกู้ชิงหยิ่งคงเลิกกันไปนานแล้ว คงเดินมาไม่ถึงวันนี้กันแล้ว

เห็นกู้ชิงหยิ่งลังเล

เฉินตงกัดฟันกล่าว “คุณคิดว่าที่หวางหนันหนันทำร้ายพวกเรา ยังไม่พอใช่มั้ย?”

กู้ชิงหยิ่งลังเลไปครู่หนึ่ง ก็ไม่เถียงอีก ไปจากที่นี่พร้อมกับเฉินตง

จนกระทั่งทั้งสามคนขึ้นรถ หลังจากนั่งรถออกไปแล้ว

เงาคนที่ยืนอยู่ตรงรั้วกั้นริมแม่น้ำ ในที่สุดก็ขยับตัวแล้ว

มือที่เรียวยาวกระตุกไปหนึ่งที ลูบผมที่หน้าผากไปทักที่ข้างหู ยิ้มอย่างเศร้าๆ “อดีตท้ายที่สุดก็ผ่านไปแล้ว ฉันก็ควรปล่อยมันแล้ว ได้เวลาต้อนรับชีวิตใหม่แล้ว”

หวางหนันหนันค่อยๆ หันหน้า เตรียมตัวเดินไปจากที่นี่

เธอยังคงสวยเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอในวันนี้ นอกจากความสวยแล้ว กลับเพิ่มขึ้นด้วยความสง่างามแบบผู้ใหญ่

เหมือนกับว่าหลังจากที่เกิดคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ ก็กลับมาสู่พื้นผิวน้ำที่สงบนิ่ง

ไม่เหลือเค้าความหยิ่งผยองในอดีตอีก

อย่างไรก็ตาม เมื่อหวางหนันหนันเงยหน้าขึ้น เห็นรถโรลส์-รอยซ์ขับผ่านไปพอดี

เธออดไม่ได้ที่จะตกใจ

รถคันนั้น คุ้นจัง

มองไปโดยรอบริมแม่น้ำ อารมณ์ที่สลบนิ่งของหวางหนันหนันก็ถูกคลื่นกระทบเล็กน้อย แววตาเปล่งประกาย “เมื่อกี้ มาที่นี่เหรอ?”

เธอยิ้มอย่างขมขื่น แล้วก็รวบเสื้อกันลมที่อยู่บนตัว มุ่งหน้าเดินตรงไปอีกทาง

เมื่อเดินลงมาจากริมฝั่ง ข้างถนนก็มีรถแลนด์โรเวอร์คันหนึ่งจอดรออยู่

เมื่อขึ้นรถ โชเฟอร์ที่ขับรถได้หันมากล่าวอย่างสุภาพ “คุณหวาง พี่หลิ่งตงเพิ่งจะโทรมาเมื่อกี้ บอกว่ารายการมีการเปลี่ยนแปลง งานเลี้ยงคืนนี้ยกเลิกแล้ว”

“อืม ไปบ้านเขาเถอะ” หวางหนันหนันกล่าวอย่างใจเย็น

“อะไรนะ?” โชเฟอร์แปลกใจ

“ไปบ้านเขา” หวางหนันหนันพูด

สีหน้าของโชโฟอร์เปลี่ยนไปอย่างมาก มีความรู้สึกเหมือนกำลังฝัน

น้ำเสียงที่ตื่นเต้นของเขามีความสั่นเล็กน้อย “คุณ คุณหวาง คุณ คุณตกลงแล้ว?”

“อืม” หวางหนันหนันพยักหน้า

“พี่หลิ่งตงรู้ต้องดีใจมากๆ เลย ผมจะโทรแจ้งข่าวดีเขาตอนนี้เลย!”

โชโฟอร์พลางสตาร์ทรถ พลางโทรศัพท์ให้หลิ่งตง

หวางหนันหนันนั่งเอนหลังอย่างเกียจคร้านอยู่ตรงเบาะหลัง มองทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่กรอถอยหลังอย่างรวดเร็วนอกหน้าต่าง แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “ไปจากเมืองนี้แล้ว ยังไงก็ต้องหาคนที่ห่วงใยเรา เขาเป็นคนที่ไม่เลวจริงๆ อย่างน้อยเขาก็รู้จักให้เกียรติฉัน”

หลังจากผ่านประสบการณ์ในตอนแรกทั้งหมด เธอในวันนี้ ได้ชะล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปหมดแล้ว

สิ่งที่เรียกว่ามหาเศรษฐีกับความฝันที่สวยงาม มันก็เป็นเพียงความคิดที่จอมปลอมไม่สมเหตุสมผล

จนถึงสุดท้าย ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้รับความเคารพแต่อย่างไร เป็นเพียงของเล่น เล่นเสร็จแล้ว ก็ถูกทิ้งไป

หลังจากที่ไปจากเมืองแห่งนี้แล้ว เขาใช้แรงกายแรงใจอย่างมาก สุดท้ายถึงสามารถทำให้ตัวเอง “เกิดใหม่อีกครั้ง”

การได้พบกับหลินหลิ่งตง ทำให้เธอได้เห็นชีวิตที่แตกต่างออกไป

เงินทองแม้ไม่ได้อยู่ในระดับมั่งคั่งที่สุด ไม่ได้อยู่ระดับมหาเศรษฐี แต่ก็มั่งมีพอสมควร สิ่งสำคัญที่สุด คืออีกฝ่ายให้ความเคารพเธออย่างสูงสุด

เธอรู้จักตัวตนและภูมิหลังของหลินหลิ่งตงดี ดังนั้นจึงยิ่งรู้ว่าความเคารพนี้ มีค่ามากขนาดไหน

ด้วยการที่มีชีวิตแบบนั้น ผู้หญิงที่เขาถูกใจ ในคืนนั้นก็สามารถมานอนอยู่บนเตียงได้เลย

แต่หลินหลิ่งตง แสดงความอดทนต่อเธออย่างมาก ทำให้เธอรู้สึกว่าหลินหลิ่งตงไม่ได้เป็นเหมือนในข่าวลือ

คืนนี้ เขากลับมาที่นี่ ก็เพื่อบอกลากับอดีต แล้วต้อนรับอนาคตใหม่

คนเรา ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมองไปข้างหน้าไม่ใช่เหรอ?

หลินหลิ่งตงท้อใจมาก เป็นความท้อใจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ในคฤหาสน์ที่อยู่ในหมู่ตึกหลิ่งตง กลับนอนไม่หลับ

เขาอยากเป็นเพื่อนกับเฉินตง การมีอยู่แบบนั้น หากสามารถเป็นเพื่อนกัน ต้องมีประโยชน์อย่างมาก

เดิมทีคิดว่าเรื่องที่ดิน จะเป็นขั้นบันไดที่ยอดเยี่ยมในการเชื่อมความสัมพันธ์ ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาไม่นาน รีบจัดงานเลี้ยงเชิญเฉินตง

เป็นเพราะเรื่องที่ยกที่ดีให้ ทำให้เขาที่อยู่ในเมืองหลิ่งตงถูกนินทาและหัวเราะเยาะ เขาไม่ได้สนใจเลย

การทำงานของคนที่ทะเยอทะยาน โดยปกติก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่ต้องเสียไปเพียงเล็กๆ น้อย

คิดคำนวณไปทั้งหมด ถึงจะเป็นสิ่งที่เขาควรจะทำ คนที่เยาะเย้ยเขา เป็นเพียงคนธรรมดาที่มองการณ์ตื้นเขินในสายตาของเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลินหลิ่งตงนั้นคาดไม่ถึงเลย

การเชื้อเชิญของตัวเอง กลับเหมือนโยนหินลงในทะเล ไม่ได้รับการตอบสนองเลย

เมืองข้างๆ มีมังกรตัวจริงอาศัยอยู่

เขาถึงขึ้นเคยเผชิญหน้ากับมังกรตัวจริงตัวนี้แล้ว

ตอนนี้เขากลับไม่สามารถที่จะเข้าใกล้ขึ้นไปอีก เรื่องนี้ทำให้หลินหลิ่งตงที่ทำทุกอย่างราบรื่นมาโดยตลอดได้เรียนรู้ถึงอุปสรรค ใจไม่สามารถที่จะสงบลงได้เลย

โทรศัพท์ดังขึ้น

หลินหลิ่งตงรับโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด

หลังจากปลายสายคุยไปไม่กี่วินาที

หลินหลิ่งตงก็กระโดดขึ้นมานั่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ “จริงเหรอ?”

ก็ได้หยุดนิ่งไปอีกหนึ่งวินาที

หลินหลิ่งตงตื่นเต้นจนหายใจเร็ว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างห้ามไม่อยู่

“เร็ว รีบเอาโทรศัพท์ให้หนันหนัน ฉันจะฟังเขาพูดด้วยตัวเอง!” หลินหลิ่งตงพูดอย่างตื่นเต้น

ไม่นาน ในโทรศัพท์ ก็ดังขึ้นด้วยเสียงของหวางหนันหนัน

“คุณไม่เต็มใจเหรอ?”

“เต็มใจ! ผมเต็มใจ! ผมรอวันนี้ รอมานานมากแล้ว!”

น้ำเสียงของหลินหลิ่งตงสั่นเล็กน้อย พูดอย่างตื่นเต้นดีใจ “กลับบ้านนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ตรงนี้ก็คือบ้านของคุณ คุณก็คือคนที่ผมหลินหลิ่งตงรักมากที่สุด ผมจะให้คุณทุกอย่าง ขอเพียงคุณมีความสุข!”

“ขอบคุณค่ะ”

ปลายสาย น้ำเสียงของหวางหนันหนันเหมือนจะร้องไห้

หลินหลิ่งตงก็อึ้งไปทันที “หนันหนัน คุณเป็นอะไร? ทำไมจู่ๆ ถึงร้องไห้?”

“ไม่มีอะไร ขอบคุณนะหลิ่งตง”

หลังจากพูดด้วยน้ำเสียงที่จะร้องไห้ หวางหนันหนันก็ได้วางสายไป

หลินหลิ่งตงนิ่งไปครู่หนึ่ง

หรือว่าเป็นเพราะหนันหนันดีใจมากเกินไป?

ใช่ ต้องใช่แน่ๆ !

หลังจากที่หลินหลิ่งตงคิดออกแล้ว เขาก็รีบสั่งให้คนรับใช้ในคฤหาสน์ ทำความสะอาดห้อง และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทั้งหมดในห้องนอนของเขา

แต่เมื่อลังเลไปครู่หนึ่ง สุดท้ายหลินหลิ่งตงก็ได้ให้คนรับใช้เตรียมห้องนอนอีกห้อง

มันเป็นการเคารพหวางหนันหนัน เขาจะไม่ฝืนใจใคร โดยเฉพาะกับคนที่ตัวเองรัก นอกเสียจากอีกฝ่ายจะเต็มใจ

อย่างไรก็ตาม หลินหลิ่งตงนั้นกลับไม่รู้เลย คำว่าขอบคุณที่หวางหนันหนันพูดคำสุดท้าย แท้จริงแล้วมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่า

นั่นเป็นเพราะว่าหลังจากผ่านทัศนคติที่แย่และชีวิตพังทลายไปโดยสิ้นเชิง มันเป็นความรู้สึกขอบคุณที่ได้เจอกับที่พึ่งใหม่และทำให้ตัวเองรอดมาได้……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset