Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 391 ทางเลือกของหวางหนันหนัน

ร่างกายบอบบางของหวางหนันหนันสั่นไหว หัวใจเต้นระส่ำ

เธอรับรู้ถึงความหนาวสะท้านกระดูกที่แผ่ออกมาจากร่างกายของหลินหลิ่งตงที่อยู่ตรงหน้า

นี่ทำให้เธอรู้สึกราวกับตกลงไปในธารน้ำแข็ง

“ฮู่…”

หลินหลิ่งตงพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม

ทว่าเขาปล่อยหวางหนันหนันที่กำลังตกใจและยิ้มออกมาอย่างน่าหวาดหวั่น จากนั้นจึงมองไปที่อู๋จุนหาว “จุนหาว ไปเชิญพวกเขาเข้ามา ฉันอยากพบพวกเขา”

“ครับ”

อู๋จุนหาวพยักหน้าแล้วหันตัวเดินห่างออกไป

สุดท้ายหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอจึงร้องไห้แล้วเอ่ยว่า “หลิ่งตง คุณฟังฉันอธิบายก่อนนะคะ เรื่องนี้มัน…”

ยังไม่ทันพูดจบ หลินหลิ่งตงพลันเอ่ยแทรกเสียงแข็งออกมา “ผมเชื่อคุณ ดังนั้นผมจะช่วยคุณแก้ปัญหาเรื่องนี้เอง”

เปรี้ยง!

หวางหนันหนันรู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า เธอยืนนิ่งไม่ไหวติง

แก้ปัญหา?

แก้ปัญหายังไง?

เธอรู้ดีว่าหลินหลิ่งตงเป็นใคร ดังนั้นคำว่า “แก้ปัญหา” ของเขาทำให้เธอเกิดความรู้สึกพรั่นพรึงพุ่งปรี๊ดเข้ามาในหัวของเธอในทันที

ความหนาวสะท้านไล่ขึ้นมาจากฝ่าเท้าของเธอจนถึงหัวกะโหลก

“ตอนนี้ คุณต้องอธิบายเรื่องราวที่ผ่านมาให้ผมฟัง”

หลินหลิ่งตงกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้งด้วยท่าทางที่สูงส่งห่างไกล

เขาได้สั่งให้อู๋จุนหาวสืบอดีตของหวางหนันหนัน ทว่าตอนนี้ยังไม่ทันจะสืบอดีตของเธอได้เรียบร้อย พ่อแม่และน้องชายก็โผล่ออกมาพูดจาสาดโคลนให้ร้าย ทำให้คนทั้งเมืองต่างพากันเข้าใจผิดไปหมด

ความอดทนของหลินหลิ่งตงจึงหมดลง เขาจึงตัดสินใจถามหวางหนันหนันโดยตรง

หวางหนันหนันมีสีหน้าสับสน มือทั้งสองของเธอประสานเข้าด้วยกันแน่น

ลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนที่เธอจะค่อยๆ เอ่ยปากเล่าเรื่องราวออกมา

เวลาผ่านไปราวสายน้ำไหล

หลินหลิ่งตงคอยฟังอยู่เงียบๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่หว่างคิ้วของเขาค่อยๆ ปรากฏรอยย่นลึกขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนทางด้านหวางหนันหนัน ระหว่างที่เธอกำลังเล่าเรื่องราวอยู่นั้นก็แอบสังเกตปฏิกิริยาของหลินหลิ่งตงอยู่ตลอด

ชีวิตของเธอเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ไม่ง่ายเลยกว่าจะกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เมื่อได้พบกับหลินหลิ่งตง เธอก็เกิดความรู้สึกนับถือในตัวเขาและหลังจากที่ทดสอบเขาเรียบร้อย เธอก็ยอมรับในตัวหลินหลิ่งตง

แต่การเคลื่อนไหวเช่นนี้ของพ่อแม่และน้องชาย กลับกำลังจะทำให้ความฝันแสนหวานของเธอกำลังจะพังทลายลง

นี่ไม่ใช่ฝันหวานที่เธอคิดหวังจะคบแต่กับคนรวยเหมือนอย่างเมื่อก่อน

เธอเพียงฝันจะมีใครสักคนที่จะแต่งงานมีลูกและอยู่ด้วยกันกับเธอไปจนแก่เฒ่า

แต่ยิ่งรอยย่นตรงหว่างคิ้วของหลินหลิ่งตงลึกมากขึ้นเท่าไร ฝันหวานของหวางหนันหนันก็ยิ่งบินห่างออกไปไกลมากเท่านั้น

เมื่อหวางหนันหนันเล่าเรื่องราวทั้งหมดจนจบ

หลินหลิ่งตงก็เงียบขรึมไป

เป็นเช่นนี้อยู่กว่าหนึ่งนาทีกว่าหลินหลิ่งตงจะเอ่ยออกมาว่า “ดังนั้นการที่คุณหย่ากับเฉินตง สาเหตุทั้งหมดเป็นเพราะพ่อแม่และน้องชายของคุณ?”

“ส่วนหนึ่งฉันก็ผิดด้วย” หวางหนันหนันไม่โยนความผิดให้คนอื่น

“คุณก็ผิดจริง”

หลินหลิ่งตงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ไม่สนความผิดถูกเอาแต่ปกป้องมาตลอด คุณคิดว่าคุณกำลังช่วย แต่ในสายตาของพวกเขา คุณก็เป็นแค่คนที่ไม่มีความสลักสำคัญอะไร ไม่สิ สำคัญตรงที่เป็นแหล่งขุดทองยังไงล่ะ”

แม้จะเอ่ยเบาๆ แต่คำพูดกลับไม่ไว้หน้า

หัวใจของหวางหนันหนันกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง สีหน้าของเธอเริ่มแปรเปลี่ยน

หลินหลิ่งตงค่อยๆ นั่งยืดตัวขึ้น “นับว่าคุณเฉินใจดีมากแล้ว ถ้าเป็นผมน่ะหรือ เหอะๆ…”

เสียงหัวเราะเย็นๆ ทำให้อุณหภูมิในห้องตกวูบลงสู่ความเหน็บหนาว

หวางหนันหนันตกใจจนหน้าถอดสี

หลินหลิ่งตงยกมือขึ้นมาถูใบหน้าของตน “ตอนที่แม่ของคุณวางแผนหลอกเอาเงินของคุณเฉินไปมากขนาดนั้น พอครอบครัวของคุณแยกตัวออกไปแล้ว พวกคุณตัดขาดกันได้ยังไง?”

หลินหลิ่งตงไม่ใช่คนโง่

แม้ว่าเมื่อครู่นี้หวางหนันหนันจะพยายามอธิบายอย่างละเอียด แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าในคำพูดของหวางหนันหนันมีบางตอนที่ขาดหายไป

และแน่นอนว่า หวางหนันหนันไม่ได้เล่าเรื่องราวบางส่วนออกมาจริงๆ

เช่นเรื่องของเฉินเทียนเซิง!

“หลังจากที่ออกจากเมืองนั้นมาแล้ว ฉันก็ผิดหวังกับครอบครัวของฉันมาก”

สีหน้าของหวางหนันหนันหมดอาลัยตายอยาก “ฉันไม่เคยคิดเลยว่า หลังจากที่พวกเขาได้เงินมาจากเฉินตงและกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืนแล้ว พวกเขาจะเปลี่ยนไป แม่ของฉันเริ่มกลายเป็นผีพนัน ยิ่งเล่นก็ยิ่งถลำลึก น้องชายของฉันเที่ยวเสเพลไปตามสถานบันเทิงทั้งวัน ส่วนพ่อดีกว่าคนอื่นหน่อย แต่ก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรแม้ว่าครอบครัวจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหนก็ตาม”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ น้ำตาของหวางหนันหนันก็เอ่อทะลักออกมาไม่หยุด

“ผมเข้าใจดีว่าครอบครัวนั่นเละเทะและไร้ทางเยียวยาแค่ไหน ผมเองก็คงไม่อยากให้พ่อแม่และน้องชายของตัวเองทวงบุญคุณบังคับให้ทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ ให้เราไปคบคนรวยๆ เพื่อให้เป็นแหล่งสมบัติของพวกเขา และพอเราบาดเจ็บ พวกเขาก็หาแต่ความสุขใส่ตัว ครอบครัวแบบนั้นเคยรักกันที่ไหน”

หวางหนันหนันเงยหน้ามองตาของหลินหลิ่งตง เธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา “ดังนั้น ฉันเลยตัดขาดทุกอย่างกับพวกเขา และออกจากเมืองที่พวกเขาอยู่ จากนั้นจึงมาที่เมืองหลิ่งตงแล้วรู้จักกับคุณ”

“หึหึ อย่างนั้นก็คงเป็นโชคดีของผม”

หลินหลิ่งตงแค่นหัวเราะ มือทั้งสองถูหน้าของตนอย่างแรง “จริงๆ เป็นโชคดีจริงๆ”

หวางหนันหนันก้มหน้าแล้วแอบเช็ดน้ำตา น้ำตาของเธอเปรอะไปทั่วหน้า

เธอฟังออกว่าหลินหลิ่งตงกำลังเยาะเย้ย และเพราะเสียงเยาะเย้ยนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

ทันใดนั้น

ฝ่ามือใหญ่ๆ สัมผัสบนไหล่ของหวางหนันหนัน

“ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงต้องพูดสาดโคลนอีก”

“อะไรนะคะ?” ดวงตาที่หวางหนันหนันมองหลินหลิ่งตงมีม่านน้ำตาบดบัง

“ไม่มีเงินแล้วน่ะสิ”

ริมฝีปากของหลินหลิ่งตงหยักยิ้ม แล้วเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ผมขอถามคำถามคุณข้อเดียว คุณจะเลือกผมหรือเลือกพวกเขา ถ้าเลือกผม ต่อไปไม่ว่าจะจัดการอย่างไรผมจะไม่ถามคุณ แต่ถ้าเลือกพวกเขา ต่อไปผมจะไม่ทำให้คุณต้องลำบากใจ และคุณก็ไปกับพวกเขาซะ”

หวางหนันหนันชะงักงัน เธอคิดไม่ถึงเลยว่าหลินหลิ่งตงจะตัดสินใจได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

เลือกหนึ่งในสอง จะเลือกอย่างไรดี?

ตอนที่เธอตัดขาดกับพ่อแม่และน้องชาย ความเจ็บปวดที่เธอสัมผัสนั้นยากที่จะหาคำพูดใดมาอธิบายได้

ทว่าตอนนี้ คำถามที่หลินหลิ่งตงโพล่งออกมา แน่นอนว่าทำให้เธอต้องสัมผัสกับความเจ็บปวดแบบในครั้งนั้นอีกครั้ง

“เลือกมา!”

น้ำเสียงของหลินหลิ่งตงเย็นชาอย่างถึงที่สุดแล้วในตอนนี้

เขาเป็นราชาใต้ดินเมืองหลิ่งตง เป็นผู้นำอย่างแท้จริง

เมื่อการโต้เถียงในใจจบลงและตัดสินใจทุกอย่างได้แล้ว ก็จะรีบถอนตัวเองออกมาโดยเร็ว นี่คือนิสัยของคนเป็นผู้นำ

คนโง่ที่ตกอยู่ในวังวนของความเห็นอกเห็นใจ ไม่มีทางเป็นผู้นำได้

ผ่านไปครู่ใหญ่

หวางหนันหนันจึงกัดริมฝีปากแดงระเรื่อแล้วเอ่ยว่า “ฉันเลือกคุณ”

“ดี!”

หลินหลิ่งตงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน เขาก้มตัวลงจูบบนริมฝีปากของหวางหนันหนันเบาๆ “งั้นต่อจากนี้ ไม่ว่าผมจะทำอะไร คุณจะว่าผมไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่เกี่ยวอะไรกับคุณแล้ว”

หวางหนันหนันเงียบไม่ตอบ

แต่ดวงตาของเธอบวมแดงยิ่งกว่าเดิม มือทั้งสองของเธอประสานกันไว้แน่น

ต่อจากนี้ หลินหลิ่งตงจะทำอะไรกับพวกเขา?

ในหัวของเธอมีคำถามนี้ลอยวนเวียนไปมาจนไม่อาจสงบจิตใจลงได้

ผ่านไปสิบนาที

ตึ้งๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“เข้ามา”

หลินหลิ่งตงเหลือบไปมองหวางหนันหนันคราหนึ่ง จากนั้นจึงนั่งลงด้วยสีหน้าเย็นชาด้านหลังโต๊ะทำงาน

หลังจากนั่งลงแล้ว ปฏิกิริยาของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นปลิดทิ้ง

เขาทำหน้าราวกับกำลังจะยกภูเขา หว่างคิ้วของเขาขมวดแน่นอย่างน่าหวาดกลัว

ประตูเปิดออก

สายตาของหวางหนันหนันมองไปยังประตู

อู๋จุนหาวเดินนำเข้ามา “เจ้านาย พวกเขามาแล้วครับ”

คนที่เดินตามอู๋จุนหาวเข้ามาก็คือ หวางเต๋อ จางซิ่วจือและหวางเห้า

ทว่า

เมื่อจางซิ่วจือก้าวเข้าประตูมา แล้วเห็นหวางหนันหนัน ก็ถลึงตาใส่อย่างมาดร้าย

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอาฆาต แล้วตั้งท่าจะพุ่งตรงเข้าใส่หวางหนันหนัน “นังเด็กบ้า ฉันหาแกอยู่ตั้งนาน ที่แท้ก็วิ่งแจ้นมาเป็นนกน้อยในกรงทองอยู่ที่นี่เองเหรอ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset