Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 393 อย่าฝันหวาน!

เวลาหกโมงเย็น

เฉินตงเลิกงานตรงเวลา

แต่พอเขาออกมาจากประตูบริษัท เมฆครึ้มสีดำที่ก่อตัวมานานก็เปลี่ยนสภาพเป็นฝนกระหน่ำ

ฝนปรอยลงมาไม่ขาดตอน สาดกระเซ็นลงบนพื้น บรรยากาศพร่ามัว

“ฝนตกมาเร็วไปนิด”

เฉินตงขยี้จมูกก่อนจะสตาร์ทรถกลับไปยังคลับสี่ยิ่น

ฤดูใบไม้ร่วงฝนปรอย

ยิ่งทำให้ลานป่าไผ่เงียบสงบมากขึ้น

กู้ชิงหยิ่งนั่งถักเสื้อตัวน้อยอยู่เงียบๆ ท่านหลงนั่งพักผ่อนจิบชาอยู่บนเก้าอี้โยก

คุนหลุนกับฟ่านลู่ก็กำลังวุ่นทำงานอยู่ในห้องครัว

เป็นภาพที่ดูสงบสุขเป็นหนึ่งเดียว

ตอนที่เฉินตงมาหยุดยืนอยู่ที่ลานแล้วเห็นภาพนี้ เขาก็อดอมยิ้มออกมาอย่างสบายใจไม่ได้

ความเหน็ดเหนื่อยที่สะสมมาทั้งวัน หายไปเป็นปลิดทิ้งในตอนนี้

เขาเดินตรงเข้าไปหากู้ชิงหยิ่งเป็นคนแรก

“ที่รัก กลับมาแล้วหรอคะ”

เมื่อกู้ชิงหยิ่งเห็นเฉินตงก็ยิ้มออกมาอย่างสดใส เธอชูเสื้อตัวน้อยที่กำลังถักอยู่ในมือขึ้นมาเพื่อโอ้อวด “คุณดูที่ฉันถักสิ ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ”

“ไม่เลวเลย ดีกว่าก้อนหมูยอตั้งเยอะ” เฉินตงเย้าแหย่

กู้ชิงหยิ่งกลอกตาแล้วบ่นว่า “ใครไม่มีครั้งแรกกันบ้างล่ะคะ ฉันถักได้เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้ว ถ้ายังล้อปมด้อยของฉันอีก ฉันจะแทงคุณ”

เฉินตงยิ้มกว้าง

จากนั้นจึงเดินไปหาท่านหลงแล้วถามว่า “ท่านหลง ทางตระกูลเฉินส่งข่าวพ่อมาบ้างไหม”

ท่านหลงยิ้มอย่างขมขื่น “ทางตระกูลเฉินไม่เคยสั่งหน่วยข่าวกรอง ให้ลดระดับการตามหาพ่อของคุณลงเลย แต่ก็ไม่เคยได้เบาะแสอะไร กระผมเองก็รู้สึกเช่นกันว่าเรื่องนี้มันผิดปกติ”

ยิ่งกว่าผิดปกติเสียอีก

เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ

คิ้วของเฉินตงขมวดแน่น ด้วยความสามารถของหน่วยข่าวกรอง ตระกูลเฉินแล้ว เวลาผ่านมาเนิ่นนานขนาดนี้ อย่าว่าแต่หาตัวเจ้าบ้านเลย ต่อให้หาคนธรรมดาคนหนึ่งจากคนจำนวนมากก็ควรจะต้องได้เบาะแสอะไรมาบ้างแล้ว

แต่นี่เป็นถึงเจ้าบ้านตระกูลเฉิน!

ผู้นำของตระกูลเฉิน!

“คุณชายใจเย็นก่อน อย่างน้อยๆ พวกเราก็มีข้อมูลมากกว่าตระกูลเฉินอยู่หน่อย นั่นคือตอนนี้คุณท่านยังคงปลอดภัยอยู่ไม่ใช่หรือ”

ท่านหลงกะพริบตาแล้วยิ้มอย่างแปลกประหลาด

เฉินตงขยี้จมูก เขามองไปยังลานป่าไผ่แล้วเอ่ยว่า “ผมคิดว่าพวกเราควรจะย้ายกลับไปที่วิลล่าเขาเทียนซานกันได้แล้ว ขืนยังอยู่ที่นี่ต่อไปมีแต่จะยิ่งรู้สึกเกรงใจเปล่าๆ”

“กระผมเองก็คิดแบบนั้น” ท่านหลงพยักหน้า “ตอนนี้วิกฤตองค์กร hidden killers ก็ได้จบลงไปแล้ว โจวเย่นชิวก็ได้จัดการวิลล่าเขาเทียนซานเรียบร้อยแล้ว กลับไปก็ดีเหมือนกัน”

ช่วงเวลาอาหารค่ำ เฉินตงได้เอ่ยความคิดเตรียมจะย้ายกลับไปที่วิลล่าเขาเทียนซานออกมาเนื่องจากคลับสี่ยิ่นเป็นสถานที่ของท่านเมิ่ง ท่านเมิ่งตัดสินใจรับเขาเข้ามาอยู่อย่างเต็มใจในตอนที่เขากำลังลำบาก และดูแลเขาอย่างใส่ใจ ถึงตอนนี้วิกฤตได้ผ่านพ้นไปแล้วจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะอยู่ที่นี่ต่อ

เพราะอาจเป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับท่านเมิ่ง

และเฉินตงพยายามที่จะไม่สร้างความยุ่งยากให้กับใคร

ราตรีปกคลุม

ฝนปรอยๆ อย่างคงโปรยปรายไม่หยุด

แสงไฟในเขตวิลล่าเขาเทียนซานสว่างไสว

แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ทหารรับจ้างในครั้งที่แล้วมา ภายในเขตวิลล่าก็รกร้างไปไม่น้อย

ผู้ที่จะสามารถอาศัยอยู่ในเขตวิลล่าเขาเทียนซานได้ ล้วนต้องเป็นคนชั้นสูงของเมืองนี้เท่านั้น

เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนั้น ไม่ว่าจะพยายามแก้ไขให้ดีขึ้นมากเท่าไร ก็ยังคงไม่สามารถรั้งให้พวกชนชั้นสูงเต็มใจยอมอยู่ในสถานที่ที่มีสิ่งแวดล้อมไม่ปลอดภัยเช่นนี้ได้

มีเงินและอำนาจอยู่ในมือ ตัวเลือกก็ย่อมมากตามไปด้วย

บวกกับฝนปรอยๆ ที่ตกลงมาในวันนี้ ยิ่งทำให้เขตวิลล่าเขาเทียนซานตกอยู่ในสภาวะเงียบสงบ

มีเพียงเสียงตกเปาะแปะลงมาไม่ขาดสายเท่านั้น

ณ ประตูใหญ่เขตวิลล่า

รถแท็กซี่คันหนึ่งขับมาช้าๆ

เอี๊ยด!

รถหยุดลงพร้อมน้ำสาดกระเซ็น

แก๊ก

ประตูรถเปิดออก

หวางเต๋อเดินลงจากรถมาเป็นคนแรก เขากางร่มพลางหันหลังเข้าไปทางด้านในรถ

เมื่อหวางเห้าปีนขึ้นมาบนหลังเขาแล้ว เขาก็กัดฟันด้วยใบหน้าแดงก่ำ พร้อมออกแรงลุกขึ้นยืน

“ไอ้ตัวไร้ประโยชน์ แบกเสี่ยวเห้าดีๆ ด้วยล่ะ ถ้าทำเขาตก ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่”

จางซิ่วจือด่าพลางเดินลงมาจากรถ ผมเผ้ายุ่งเหยิง สภาพสะบักสะบอม

หวางเต๋อจนปัญญา จึงไม่ได้เอ่ยตอบโต้ไป

ส่วนหวางเห้าที่อยู่บนหลังของเขา ตอนนี้ไร้เรี่ยวแรงเอาแต่ส่งเสียงร้องไห้โอดโอย ขาทั้งสองข้างของเขาใส่เฝือกหนาๆ เอาไว้

หลินหลิ่งตงไม่ได้พูดเกินจริง เมื่อลั่นคำสั่งให้ตัดขาหวางเห้าแล้ว ก็คือตัดจริงๆ

“พี่คนขับรอเดี๋ยวนะ ถ้าพวกเราไม่ได้เข้าไปข้างใน ก็ต้องกลับมาขึ้นรถพี่ออกไปอีก”

จางซิ่วจือพยายามยิ้มแล้วหยิบเงินหนึ่งร้อยหยวนส่งให้คนขับรถ

จากนั้นจึงตรงไปประคองหวางเห้าและมุ่งหน้าเดินเข้าไปที่ประตูใหญ่ของวิลล่า

แต่เดินไปได้ไม่ไกลนัก ก็เกิดเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขึ้นจากทางด้านหลัง

เมื่อทั้งสองหันกลับไปมอง จึงพบว่ารถแท็กซี่ได้หักหัวเลี้ยวลงเขาไปแล้วอย่างรวดเร็ว

“ไอสัตว์นรก! ให้รอแป๊บเดียวก็ไม่ได้ จะรีบกลับไปชิงหมาเกิดหรือไง”

จางซิ่วจือกระทืบเท้าตึงตังและตวาดเสียงต่อว่า “พอหมดอำนาจเงินทอง แม้แต่คนขับรถหน้าโง่ยังกล้าขัดขืนแม่”

หวางเต๋อมองไปที่จางซิ่วจือด้วยสายตาที่มืดมนกว่าครั้งใด

“แกมัวแต่เหม่ออะไร เดินตามฉันมาสิ”

จางซิ่วจือมองค้อนหวางเต๋อ

หวางเต๋อไม่ได้โต้ตอบ และเดินตามไปราวกับเป็นเครื่องจักรกล

แต่เมื่อเห็นประตูบานใหญ่ที่สวยงามหรูหราของเขตวิลล่า

หวางเต๋อจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างลังเล “แม่ พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับเฉินตงแล้วนะ”

จางซิ่วจือหยุด

แล้วหันกลับมาถลึงตาใส่ และยกขาถีบไปที่ขาของหวางเต๋ออย่างแรง

“ไอ้ตัวไร้ประโยชน์ อยู่มาจนป่านนี้ได้ยังไง?”

และด้วยการถีบนี้เอง ทำให้หวางเต๋อที่ออกแรงแบกอยู่เสียสมดุล จึงพาเอาหวางเห้าล้มลงไปบนพื้นด้วยกัน

การกระแทกอย่างรุนแรงทำให้หวางเห้าส่งเสียงร้องเหมือนหมูถูกเฉือด

หวางเต๋อเองก็ล้มลงไปอย่างรุนแรงเช่นกัน

ทว่าปฏิกิริยาของจางซิ่วจือกลับเหนือความคาดคิด

เมื่อได้ยินเสียงร้องโอดครวญของหวางเห้า จางซิ่วจือจึงแยกเขี้ยวราวกับหมาบ้าแล้วทั้งถีบทั้งต่อยระรัวลงไปที่หวางเต๋อ

“แกมันเป็นสวะ ทำลูกร่วงได้ยังไง ทำไมแกไม่หน้าคว่ำตายไปแทนนะ?”

ทั้งด่าทั้งตีราวกับจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ

โดยไม่คิดจะไปช่วยประคองหวางเห้าที่นอนกลางสายฝน ร้องโหยหวนเลยแม้แต่น้อย

การกระทำนี้เอะอะวุ่นวาย

การ์ดที่เข้ากะอยู่ตรงประตูใหญ่ของวิลล่าก็วิ่งมาอย่างรวดเร็ว

“ดึกดื่นป่านนี้ มาทำอะไรกันที่นี่? ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้!”

การ์ดแผดเสียงไล่ สภาพน่าสังเวชของคนทั้งสามคนนี้ไม่มีทางเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเขตวิลล่าอย่างแน่นอน

“แกพูดบ้าอะไร? แกก็แค่หมาตัวหนึ่ง ริอ่านจะเป็นคนเหรอ? ฉันอยู่ในเขตวิลล่านี่แหละ ฉันเป็นเจ้านายของพวกแกนะ!”

จางซิ่วจือที่กำลังเดือดดาล หันขวับไปถลึงตาด่ากราด

สีหน้าของการ์ดทั้งสองคนเครียดขึ้นทันที

นี่คือคนที่อาศัยอยู่ในเขตวิลล่าหรือ?

คิดว่าหลอกเด็กอยู่รึไง?

และขณะที่กำลังจะแผดเสียงต่อไป

หวางเต๋อก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่ง แล้วหันไปเอ่ยด้วยเสียงที่หมดอาลัยตายอยากกับจางซิ่วจือที่กำลังกระฟัดกระเฟียด

“เธอเลิกก่อเรื่องได้แล้ว ครอบครัวอยู่กันมาดีๆ เธอก็ทำพังไปแล้ว ไปเถอะ เฉินตงไม่มีทางออกมาพบพวกเราหรอก พวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว เธออย่าทำเรื่องขายหน้าอีกเลยนะ ทำตัวเป็นคนดีๆ บ้าง!”

เปรี้ยง!

จางซิ่วจือที่กำลังเดือดดาลรู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า

เธอเบิกตากว้างอย่างอาฆาตมาดร้าย แล้วค่อยๆ หันกลับมาที่หวางเต๋อ

“ที่ฉันต้องหน้าด้านแบบนี้ก็เพราะต้องการหาที่ลงหลักปักฐานให้พวกแก ตอนนี้แกยังว่าฉันว่าน่าอาย? แถมยังด่าว่าฉันไม่ใช่คนอีกเหรอ?”

วินาทีต่อมา

จางซิ่วจือกระโจนเข้าใส่หวางเต๋อแล้วคร่อมบนตัวเขาไว้ พลางใช้มือทั้งสองข้างข่วนหน้าของหวางเต๋ออย่างบ้าคลั่ง

“แกมันคนไร้สมอง ตอนนี้ถ้าไม่มาหาไอ้ตัวเส็งเคร็งนี่ พวกเราจะไปหาใครได้อีก? มันเป็นผัวเก่าของนังหวางหนันหนัน ตอนนี้มันรวยแล้ว ตอนนั้นคงจงใจให้เศษเงินพวกเราเพื่อถีบหัวพวกเราออกจากบ้าน มันฝันหวานเกินไปแล้ว! ฉันเป็นหนี้อยู่ตั้งหลายแสน ถ้าไม่มาเอาจากมัน จะให้ไปเอาที่ไหนล่ะ? หรือว่าจะรอจนพวกทวงหนี้มาหน้าบ้าน แล้วพวกเราสามคนค่อยกระโดดตึกลงมาดีล่ะ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset