Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 402 เธอคู่ควรหรือ?

เสียงปืนดังขึ้น

ดูเหมือนเวลาจะเดินช้าลง

เสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้นในหัวของหวางหนันหนัน ร่างกายที่ดูบอบบางไร้เรี่ยวแรง กลับฟื้นคืนพละกำลังขึ้นมา เธอลุกขึ้นและหันหลังกลับในทันที

เลือดสีแดงสดกระเซ็นใส่ใบหน้าของเธอ

หวางหนันหนันยืนนิ่งไปทันที

ภาพที่เห็นคือ ใบหน้าของจางซิ่วจือที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว โกศที่ถืออยู่หลุดออกจากมือ ส่วนร่างกายของเธอก็ล้มลงไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว

ตรงหว่างคิ้วมีจุดสีแดงฉานราวกับดอกบ๊วย

“คุนหลุน!”

ในขณะนั้นเอง เสียงตะโกนดังลั่นของท่านหลงก็ดังขึ้นมา

คุนหลุนที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้น พุ่งตัวออกไปราวกับลูกศร เขาพลิกตัวในอากาศ และรับโกศของหลี่หลานเข้ามาไว้ในอ้อมกอด และกระแทกตัวลงบนพื้นอย่างหนัก

แรงกระแทกเกือบทำให้คุนหลุนหมดสติไป เขายังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หันกลับมาพูดว่า “คุณชาย ไม่เป็นไรครับ!”

เฉินตงพยักหน้า “ฝังแม่ของฉันใหม่อีกครั้ง”

ขณะที่พูด เขาโน้มตัวลงไปหยิบถุงใบใหญ่ที่พื้น แล้วค่อยๆ เดินไปยังหลุมฝังศพของหลี่หลาน

ขณะที่เดินผ่านร่างของจางซิ่วจือ เขาไม่แม้แต่จะหันไปมองสักนิด ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ท่านหลงรีบเดินนำไปด้านหน้า

ส่วนหลินหลิ่งตงยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาจุดบุหรี่ขึ้นสองมวน แล้วยื่นให้อู๋จุนหาวหนึ่งมวน

“นายยังลงมือไม่เร็วพอ! หากเร็วกว่านี้สักหน่อย ไม่แน่ว่าฉันคงไม่ต้องเกลียดผู้หญิงคนนี้แล้ว”

คำพูดนี้ ดูเหมือนกำลังกล่าวโทษ แต่อีกด้านก็เป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริง ที่มีต่อหวางหนันหนันในตอนนี้

“ขอโทษด้วยครับเจ้านาย” อู๋จุนหาวก้มหน้าแล้วกล่าวขอโทษ

และในเวลานี้

หวางหนันหนันที่กำลังอยู่ในอาการตกใจ ก็ตั้งสติกลับมาได้อีกครั้ง

“แม่……”

เธอดูราวกับคนเสียสติ วิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้าไปหาจางซิ่วจือ

จางซิ่วจือสิ้นลมหายใจไปนานแล้ว ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ทำให้นอนตายตาไม่หลับ

หวางหนันหนันรู้สึกปวดใจราวกับถูกมีดกรีด เธอกอดร่างของจางซิ่วจือเอาไว้ แล้วร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ

“ทำไมแม่ถึงได้โง่อย่างนี้ ทำไมแม่ถึงไม่ฟังที่หนูเตือน หนูอยากที่จะช่วยแม่ หนูเป็นลูกสาวของแม่ หนูจะไม่ช่วยแม่ได้อย่างไร?”

เสียงร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าดังก้องกังวานไปทั่วผืนป่าและเขา

แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครสนใจ

แม้แต่หลินหลิ่งตงเองก็ยืนสูบบุหรี่นิ่ง

เฉินตงจุดธูปและเผากระดาษเงินกระดาษทองที่หน้าหลุมศพของหลี่หลาน พยายามข่มน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา แล้วค่อยๆ รับโกศในมือของคุนหลุนมาอย่างทะนุถนอม

มองดูโกศที่ได้รับความเสียหาย ก็นึกถึงภาพที่จางซิ่วจือโปรยเถ้ากระดูก

เฉินตงรู้สึกปวดใจราวกับถูกมีดกรีด ถึงแม้จะพยายามข่มอารมณ์เอาไว้อย่างถึงที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถระงับน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาได้

ริมฝีปากสั่นเทา ส่งเสียงแหบพร่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ออกมา “เป็นเพราะลูกอกตัญญู เป็นเพราะลูกอกตัญญู ที่ปล่อยให้สัตว์ร้ายมารบกวนการนอนหลับอย่างสงบของแม่”

เฉินตงค่อยๆ ฝังโกศของหลี่หลานกลับลงไปในหลุมอย่างระมัดระวัง เขานั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้างแล้วใช้มือทั้งสองค่อยๆ โกยดินกลบลงไปในหลุม

น้ำตายังคงไหลรินออกมาจากดวงตาที่แดงก่ำ

ต่อให้มือทั้งสองข้างจะถูกเศษกรวดในหลุมศพบาดเข้าจนเลือดออก ก็ยังไม่ยอมหยุด

ความโกรธแค้นและเจตนาฆ่าที่รุนแรงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกผิดอย่างมหันต์

ในฐานะที่เป็นลูก ไม่สามารถทำให้แม่จากไปอย่างสงบได้ ถือเป็นการอกตัญญู

ในฐานะที่เป็นลูก ไม่สามารถทำให้แม่นอนตายตาหลับได้ ยิ่งเป็นความผิดอันใหญ่หลวง และเป็นการอกตัญญูอย่างยิ่ง

“คุณชาย ผมช่วยครับ”

คุนหลุนแสดงสีหน้าสะเทือนใจออกมา เขาคุกเข่าลงที่หลุมศพ และกำลังจะโกยดินขึ้นมา

“หยุด!”

เฉินตงจ้องมองไปที่คุนหลุนด้วยแววตาที่ดุร้ายเหมือนสัตว์ป่า แล้วตะคอกเสียงดังว่า “นี่คือแม่ของฉัน ฉันจะทำเอง!”

คุนหลุนตกใจ และรีบถอยกลับไปอยู่ตรงหน้าหลุมศพ แล้วช่วยท่านหลงเผากระดาษเงินกระดาษทอง

หลุมศพเล็กๆ ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยมือทั้งสองข้างที่เปื้อนไปด้วยเลือดและโคลนของเฉินตง

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย

เฉินตงก็เดินไปหน้าหลุมศพทั้งน้ำตา ไม่สนใจการขัดขวางของท่านหลงและคุนหลุน ใช้มือทั้งสองข้างที่เปื้อนไปด้วยเลือด วางโกศกลับลงไปใหม่อีกครั้งด้วยตัวเอง

เหลือไว้เพียงรอยประทับของฝ่ามือที่เปื้อนเลือดอยู่บนหลุมศพ

เฉินตงคุกเข่าลงตรงหน้าหลุมศพ มองดูรูปภาพที่พร่ามัวตรงป้ายหลุมศพ แล้วร้องไห้ออกมาโดยไม่มีเสียง

ราวกับว่ามีก้อนหินมากมายทับอยู่เต็มอก จนรู้สึกหนักอึ้ง แทบจะหายใจไม่ออก

น้ำตาไหลรินออกมาไม่หยุดราวกับสายน้ำไหล

ผู้ชายมักร้องไห้ออกมาในช่วงเวลาที่เจ็บปวดจริงๆ เท่านั้น

ภาพนี้ แม้แต่หลินหลิ่งตงและอู๋จุนหาวที่อยู่ออกไปไม่ไกล ต่างก็รู้สึกผิดและเห็นอกเห็นใจ

ในฐานะที่เป็นมนุษย์ และในฐานะที่เป็นผู้ชาย ใครจะไปทนเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ได้?

อีกอย่าง เรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเพราะ……ผู้หญิงเสียสติคนเดียว!

น่าแค้นใจ!

น่ารังเกียจ!

“แม่……แม่……”

หวานหนันหนันกอดศพของจางซิ่วจือด้วยความสิ้นหวัง น้ำตาไหลรินลงมาเป็นสายไม่หยุด

เสียงค่อยๆ แผ่วลง เธอค่อยๆ ยกมือทั้งสองข้างขึ้น แล้วลูบลงบนใบหน้าของจางซิ่วจือ เพื่อให้ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท

ทันใดนั้น เธอทรุดลงไปกับพื้น พยายามเอื้อมมือออกไปคว้าถุงใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยกระดาษเงินกระดาษทอง ที่วางอยู่ตรงหน้าเฉินตงมา

ตุบ!

เฉินตงยกมือขึ้น แล้วปัดมือเธอออกไปอย่างแรง

หวางหนันหนันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และกล่าวอ้อนวอนทั้งน้ำตาว่า “พวกคุณฆ่าแม่ของฉันแล้ว ฉันแค่จะเผากระดาษเงินกระดาษทองให้เธอสักสองสามยังทำไม่ได้เลยหรือ?”

“คู่ควรหรือ?”

เฉินตงตอบกลับอย่างไม่แยแส

ราวกับมีมือขนาดใหญ่ มากดหวางหนันหนันให้จมดิ่งลงไปสู่นรก

ในขณะที่เธอกำลังจ้องมองด้วยน้ำตา เฉินตงโยนถุงใบใหญ่ทั้งใบ เข้าไปในกองไฟที่กำลังเผาไหม้กระดาษเงินกระดาษทองอยู่อย่างไม่แยแส เปลวไฟยิ่งลุกโชนขึ้นทันที

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เฉินตงก็หันไปคำนับป้ายหลุมศพของหลี่หลานสามครั้ง

จากนั้นจึงลุกขึ้นทันที

และเดินจากไป

“เฉินตง……”

หวางหนันหนันตะโกนเรียกเฉินตงเพราะต้องการพูดอะไรบางอย่าง

แต่เฉินตงกลับเดินต่อไป และพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “เธอควรจะขอบใจที่ฉันใจกว้าง ไม่อย่างนั้นตัวเธอเองก็สมควรตายด้วยเช่นกัน!”

น้ำเสียงอำมหิต ทำให้หวางหนันหนันรู้สึกราวกับตกลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็งทันที เธอรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัว และสิ่งที่ต้องการจะพูดออกมาก็หยุดชะงักลงทันที

เฉินตงพาท่านหลงและคุนหลุนที่กำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าเดินจากไป

ต่อให้เดินผ่านหลินหลิ่งตงไป ก็ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเลยสักนิด

ความเย็นชาอย่างถึงที่สุดนี้ ทำให้หลินหลิ่งตงและอู๋จุนหาวต่างรู้สึกตกตะลึง

เปรี้ยง!

สายฟ้าฟาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนลงมา

ลมที่พัดท่ามกลางหุบเขาในยามค่ำคืน ตอนนี้ยิ่งพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ

ก้อนเมฆที่จับตัวอยู่หนาแน่น ในที่สุดตอนนี้ก็ตกลงมาเป็นสายฝน

ฝนค่อยๆ โปรยปรายลงมาจากเมฆดำหนาทึบที่ปกคลุมอยู่

ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ

ซู่ ซู่ ซู่……

สายฝนที่เทกระหน่ำลงมา ทำให้เกิดเป็นเมฆหมอกหนาลอยอยู่ระหว่างท้องฟ้ากับพื้นดิน

หลินหลิ่งตงโยนก้นบุหรี่ที่อยู่ในมือลงบนพื้น แล้วหันหลังกลับอย่างเฉยเมย “จุนหาว ไปกันเถอะ”

หวางหนันหนันตัวสั่นและรู้สึกตกใจทันที

“หลิ่งตง คุณต้องช่วยฉันนะ! ต้องช่วยฉันฝังศพแม่ด้วย!”

เป็นคำพูดที่แทบจะวิงวอน

ทว่า

“เธอคู่ควรหรือ?” หลินหลิ่งตงตอบกลับอย่างไม่ไยดี

เมื่อเข้าไปถึงหูของหวางหนันหนัน เป็นเหมือนกับเสียงฟ้าผ่า

ใบหน้าของเธอบูดเบี้ยว และเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“หลิ่งตง คุณ คุณหมายความว่าอย่างไร?”

“จบกันเถอะ”

หลินหลิ่งตงเงยหน้าขึ้นเผชิญกับสายฝนที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า เขายกมือขวาขึ้นมาปาดน้ำฝนที่เปียกปอนอยู่บนใบหน้า แล้วยิ้มออกมาอย่างหดหู่ “ผม หลินหลิ่งตง ไม่ใช่คนดีอะไรนัก แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี คนอย่างผม ไม่คู่ควรกับคุณหรอก ขอบคุณที่ทำให้ผมได้รู้จักคุณใหม่อีกครั้ง”

คำพูดเสียดแทงเชือดเฉือน

ทำให้หวางหนันหนันอึ้งไป

มองดูคนทั้งสองเดินจากไป ตอนนี้ในสมองนั้นว่างเปล่า

เสียงฟ้าร้องและสายฝนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ฝนตกกระหน่ำลงมาจนเปียกปอนไปทั่วร่างของเธอ เธอนั่งนิ่งอยู่กับพื้นราวกับรูปปั้น

หมดแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว!

หวางหนันหนันใช้มือทั้งสองข้างกอดศพของจางซิ่วจือเอาไว้ ตอนนี้เธอค่อยๆ ทรุดตัวลงไปอย่างเงียบๆ

“ฮือ!”

จู่ๆ เธอก็แหงนหน้าขึ้น เผชิญหน้ากับสายฝนที่ตกลงมา แล้วส่งเสียงร้องที่บีบหัวใจออกมา……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset