Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 419 โกรธจนเก็บอาการไม่อยู่

ในห้องทำงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

เฉินตงยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นเดิม ราวกับรูปปั้น มองดูทัศนียภาพภายนอกอยู่ที่ริมหน้าต่าง

และยกแก้วชาขึ้นมาจิบเป็นครั้งคราว

แต่นั่งอยู่ในท่าทีผ่อนคลาย

ถึงเวลาออกล่าแล้ว!

เขากำลังรอ รอให้ทางด้านของฉินเย่ส่งข่าวมา

การแข่งขันด้านเงินทุน เมื่อขาดยักษ์ใหญ่อย่างRothschildไป เงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย

ดาบคมกริบกำลังปักลงไปบนหัวของทั้งสองบริษัทอย่างเงียบๆ

นอกห้องทำงาน

เสี่ยวหม่าและกูหลังต่างก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“พี่กูหลัง วันนี้พี่ตงเป็นอะไรไป?”

เสี่ยวหม่าถือเป็นผู้ช่วยมือดีของเฉินตงในบริษัท ตอนนี้เขาเองก็ยังรู้สึกงุนงง “มาบริษัทตั้งแต่เช้า เอาแต่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง และไม่ลงมือทำงานอะไรเลยสักนิด”

“บริษัทของเราคงไม่ได้มีปัญหาใหญ่หรอกใช่ไหม? ผมจำได้ว่าตอนนั้นที่บริษัทมีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ย่านสลัมทางภาคตะวันตกของเมือง ประธานเฉินก็เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน?” มีคนคาดเดาขึ้นมา

“จะเป็นไปได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมของบริษัทของเราเลย หากไม่ใช่เพราะประธานเฉินถ่อมตัวแล้วล่ะก็ ตอนนี้บริษัทของเราคงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไปแล้ว” มีพนักงานบางคนพูดขัดขึ้นมา

สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่กูหลัง

ความคิดเช่นเดียวกับเสี่ยวหม่า ในสายตาของพวกเขา กูหลังใกล้ชิดกับเฉินตงมากที่สุด

เสี่ยงหม่าเพียงแค่รับผิดชอบงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งเท่านั้น

ส่วนกูหลัง มีส่วนร่วมในเรื่องส่วนตัวของเฉินตงด้วย

“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

กูหลังลูบจมูกอย่างเก้อเขิน “เมื่อครู่เข้าไปรินน้ำชาให้คุณเฉิน ได้ยินเขาพูดแต่ว่าได้เวลาออกล่าแล้ว บอกว่าอาจจะแจกโบนัสให้กับพวกเรา”

โบนัส?!

ทุกคนต่างผงะไป รวมถึงเสี่ยวหม่าด้วย

ช่วงนี้……ไม่มีโครงการที่จะแจกโบนัสนี่?

สงสัยก็สงสัย แต่ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจขึ้นมา

ตอนที่พวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่วิกฤติที่สุดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ที่ต่างตัดสินใจทำงานกับเฉินตงต่อไป ก็เป็นเพราะมีความเชื่อมั่นในตัวเฉินตง

ในขณะเดียวกัน ก็คาดหวังว่าจะได้เฉลิมฉลอง

โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ย่านสลัมแถบภาคตะวันตก ทำให้ทุกคนในบริษัทต่างก็อิ่มท้องไปตามๆ กัน

เฉินตงเองก็ไม่เคยตอบแทนพนักงานทุกคนอย่างขาดตกบกพร่อง!

ในใจของพนักงานทุกคนของไท่ติ่งรู้ดีว่า ที่ติดตามเฉินตงมาตั้งแต่แรก เป็นความคิดที่ถูกต้องแล้ว!

เวลาใกล้เที่ยง

ในที่สุดเสียงโทรศัพท์ของเฉินตงก็ดังขึ้น

เมื่อเห็นว่าฉินเย่เป็นคนโทรเข้ามา

เฉินตงก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วกดรับสาย

“พี่ตง เก็บเกี่ยวกำไรเรียบร้อยแล้ว!”

ในสายโทรศัพท์ ฉินเย่พยายามข่มความยินดีเอาไว้ แต่ก็ยังเผยให้เห็นความรู้สึกออกมา

“เท่าไหร่?” เฉินตงถามด้วยความอยากรู้

เฉินเย่หัวเราะร่าออกมา “ตอนนี้ยังไม่บอกพี่ก่อน ตอนบ่ายยังมีครึ่งหลังอีก ตอนเช้าผมยังไม่ให้บริษัทชิงหยิ่งเข้าตลาด ตอนบ่ายหากผ่านไปได้ด้วยดี ครั้งนี้คงเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของเรา และคงทำให้พวกเราอิ่มจนพุงกาง”

ตู้ด!

เฉินตงวางสายโทรศัพท์

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าหมอนี่ ยังมีลับลมคมในกับฉันอีก?”

แต่เมื่อฉินเย่บอกว่าไม่ได้ให้บริษัทชิงหยิ่งเข้าตลาด ก็ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

เพียงแค่อาศัยบริษัทของตัวเอง หงหุ้ย และจุนหลิน กรุ๊ป ก็สามารถทำกำไรได้สำเร็จ หากตอนบ่ายเมื่อเปิดตลาด แล้วให้บริษัทชิงหยิ่งเข้าร่วมในตลาดด้วยแล้วล่ะก็……นั่นคงจะแข็งแกร่งดุจภูเขาไท่ซานจริงๆ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินตงก็ยิ้มร่าออกมา “อยากจะกินเฉินตง ก็คอยดูละกันว่าใครกระเพาะใหญ่กว่าใคร!”

อีกทางด้านหนึ่ง

ที่ตระกูลเฉิน

ภายในห้องเงียบสงัด

เฉินเทียนเซิง เฉินเทียนหย่าง และเฉินหยู่เฟยนั่งนิ่งด้วยใบหน้าซีดเผือด

เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ สองชั่วโมงเมื่อครู่ ทำให้พวกเขารู้สึกงุนงงราวกับอยู่ในความฝัน

เก็บเกี่ยว!

ถูกเก็บเกี่ยวไปอย่างหมดเปลือก!

ถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี!

ความตื่นเต้นยินดีในตอนแรกที่เป็นเฉินตงถูกโจมตีอย่างหนัก ตอนนี้ความตื่นเต้นนั้นกลับแปรเปลี่ยนไป ความยินดีกลับแปลเปลี่ยนเป็นความตกตะลึง

“นี่ นั่นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

เฉินเทียนหย่างเอ่ยปากทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัด “ทำ ทำไมพวกเราถึงถูกเล่นงานกลับเสียแล้ว? ฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า?”

ความรู้สึกที่เหมือนไม่เป็นความจริง ทำให้เฉินเทียนหย่างเหม่อลอยไป ไม่สามารถตั้งสติได้

เมื่อครู่เพียงแค่เปิดตลาด ทางฝั่งฉินเย่ก็ลงมือเก็บเกี่ยวอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้า และบ้าคลั่ง

สถานการณ์ที่น่ากลัวที่เช่นนี้ แตกต่างจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานราวฟ้ากับดิน!

ใบหน้าอันงดงามที่ตกอยู่ในอาการตื่นตะลึงของเฉินหยู่เฟย ค่อยๆ เผยความหวาดกลัวออกมา ริมฝีบางขยับเล็กน้อย “พวกเรา ดีใจกันเร็วเกินไปใช่ไหม?”

มีเพียงแค่เฉินเทียนเซิงที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทีดุร้ายราวกับงูพิษ มีรังสีของความโกรธแค้นแผ่ซ่านออกมาจากทั่วทั้งตัว

ถึงแม้จะเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเช่นเขา แต่ในเวลานี้ สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ก็คือ ให้สติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่ ช่วยควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองไม่ให้ปะทุออกมา

“พี่ พี่พูดอะไรหน่อยสิ!”

เฉินเทียนหย่างเห็นเฉินเทียนเซิงนิ่งเงียบไป ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที “การเก็บเกี่ยวเฉพาะช่วงเช้า พวกเราก็ขาดทุนไปมหาศาลแล้ว เมื่อวานไม่ได้เป็นแบบนี้เสียหน่อย!”

ปัง!

เฉินเทียนหย่างให้ฝ่ามือตบโต๊ะ และพูดขึ้นมาทันทีว่า “หรือพวกเราจะถูกเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาหักหลังเข้าแล้ว?”

เฉินหยู่เฟยผงะไป จากนั้นแววตาที่มองเฉินเทียนหย่างก็ดูแปลกไป

“เจ้าโง่!”

เฉินเทียนเซิงลูบหน้าอย่างแรง แล้วจ้องมองเฉินเทียนหย่างด้วยแววตาดุดัน “เงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวารู้ดีว่าเราเป็นคนตระกูลเฉิน พวกเขาไม่กล้าที่จะหักหลังพวกเราหรอก!”

สายตาค่อยๆ เลื่อนไปมองยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ “พวกเรา……คงถูกเฉินตงและฉินเย่ ตลบหลังเข้าให้แล้ว”

คำพูดที่ทำให้รู้สึกตกตะลึง

สีหน้าของเฉินเทียนหย่างและเฉินหยู่ไปเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

เมื่อคิดถึงภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ความหวาดกลัวก็พลุ่งพล่านจากเท้าของพวกเขาทั้งสองขึ้นไปบนหัว

ริมฝีปากแดงระเรื่อของเฉินหยู่เฟยสั่นเทา “คำพูดเตือนสติของพี่เทียนเซิง ฉัน ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าที่พวกเขาขาดทุนไปพันล้านเมื่อวาน เหมือน เหมือนกับว่าจงใจล่อเหยื่อพวกเรา?”

“บ้าเอ๊ย ลูกสวะนั่น นอกจากความเจ้าเล่ห์เพทุบาย ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย!”

เฉินเทียนหย่างก่นด่าด้วยความโมโห

เฉินเทียนเซิงและเฉินหยู่เฟยหันมองเฉินเทียนหย่างด้วยท่าทีแปลกๆ และรู้สึกประหลาดใจ

ความเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่หนึ่งในคุณสมบัติที่เจ้าบ้านพึงมีอย่างนั้นหรือ?

แต่ทั้งสองคนก็ไม่พูดอะไร

เฉินหยู่เฟยหันมองเฉินเทียนเซิงอย่างจริงจัง “พี่เทียนเซิง พวกเราจะถอนตัวกันดีกว่าไหม?”

ถึงแม้ช่วงเช้าจะถูกเก็บเกี่ยวกำไรไปหนึ่งระลอก แต่ถ้าหยุดการสูญเสียได้ทันเวลา ก็ยังพอควบคุมการสูญเสียได้

ทว่า

เฉินเทียนเซิงกลับยิ้มออกมาอย่างขมขื่น และพูดด้วยความโศกเศร้า “ยังถอนตัวได้อีกหรือ? ทุกอย่างเริ่มขึ้นแล้ว ใครจะไปห้ามไม่ให้หิมะถล่มลงมาได้?”

คำพูดเดียว แต่กลับทำให้เฉินหยู่เฟยพูดอะไรไม่ออก

ส่วนเฉินเทียนหย่างซึ่งอยู่อีกทางด้านหนึ่งกลับโกรธจนหน้าเขียวและกัดฟันแน่น

ทั้งสามรู้ดีว่าสถานการณ์ทางการเงินเป็นเช่นไร เมื่อเงินทุนหลายพันล้านเข้าไปสู่ตลาด คิดว่าเวลาสั้นๆ เพียงแค่สองชั่วโมงในตอนบ่าย จะสามารถถอนทุนกลับมาได้ทันอย่างนั้นหรือ?

ภายในห้องเงียบสงัด

เหมือนบรรยากาศทุกอย่างหยุดนิ่ง

ประจวบเหมาะกับในตอนนี้

โทรศัพท์ของเฉินเทียนเซิงดังขึ้น

เฉินเทียนเซิงที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธจัด ไม่แม้แต่จะมอง เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะและกดเปิดลำโพง

“สวัสดีครับคุณผู้ชาย ห้องจัดเลี้ยงที่คุณจองไว้ ได้ถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว พร้อมรอต้อนรับตลอดเวลาครับ”

นี่เป็นสายโทรศัพท์จากสถานที่จัดเลี้ยงที่เฉินเทียนเซิงได้จองไว้ล่วงหน้า

คำพูดง่ายๆ ประโยคเดียว กลับเหมือนมีดที่ถูกเผาจนร้อน ทิ่มแทงลงมาที่ใจของพวกเฉินเทียนเซิงทั้งสามคนอย่างรุนแรง

วินาทีถัดมา

เส้นเลือดบริเวณหางตาของเฉินเทียนเซิงปูดโปนขึ้นมา ใบหน้าดุร้าย และอารมณ์โกรธก็ปะทุออกมา

“ต้อนรับบ้าอะไร ไสหัวไปให้พ้น!”

ตุ้บ!

หลังจากส่งเสียงด้วยความโกรธออกมา เฉินเทียนเซิงก็โยนโทรศัพท์ลงไปบนพื้นอย่างแรงจนแตกละเอียด

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset