Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 425 ความรักลึกซึ้ง

ท่านหลงที่รีบร้อนวิ่งเข้ามา เมื่อเห็นกู้ชิงหยิ่งร้องไห้อย่างควบคุมตนเองไม่ได้ก็รู้สึกสงสารจับใจ

ตามความคิดของเขา

ภูมิหลังเรื่องฐานะของเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งมีความแตกต่างกันจริงๆ

หากพูดถึงภูมิหลังเรื่องฐานะ ตระกูลเฉินกับตระกูลกู้ไม่อยู่บนเส้นทางเดียวกัน

แต่ท่านหลงแน่ใจ

ว่าการแต่งงานระหว่างเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่ง ไม่ใช่กู้ชิงหยิ่งที่วาสนาดีได้แต่งงานเข้าตระกูลร่ำรวย แต่เป็นเฉินตงต่างหากที่ได้โชคใหญ่มหาศาล

แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงคนในบ้านตระกูลเฉิน แต่ในหัวของเขาก็ไม่เคยมีความคิดเช่นนั้นมาก่อน

ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กู้ชิงหยิ่งช่วยเหลือเฉินตงอย่างสุดแรงกายแรงใจมาโดยตลอด

แต่ตอนนี้กลับต้องมาเผชิญเรื่องราวเช่นนี้

“ท่านหลง มีเรื่องอะไรหรอคะ?”

กู้ชิงหยิ่งยกมือทั้งสองข้างขึ้นเช็ดน้ำตา พยายามเอ่ยถามโดยข่มกลั้นน้ำตาเอาไว้

ท่านหลงหลุดจากภวังค์ “คุณพ่อกับคุณแม่ของคุณนายน้อยมาถึงแล้วครับ”

“พ่อกับแม่?”

กู้ชิงหยิ่งประหลาดใจ จากนั้นจึงก้มหน้าร้องไห้อีกราวกับกำลังคิดบางอย่างในใจ

อารมณ์ของท่านหลงกับฟ่านลู่เปลี่ยนไปพร้อมๆ กัน

ตอนนี้เรื่องราวในบ้านจะเป็นอย่างไร ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกู้ชิงหยิ่งแล้ว

วินาทีต่อมา

กู้ชิงหยิ่งเงยหน้าขึ้น ใบหน้าโรยราของเธอกลับปรากฏรอยยิ้มที่พยายามฝืนยิ้มออกมาอย่างเศร้าสร้อย

“รบกวนท่านหลงกับพี่เสี่ยวลู่ช่วยลงไปต้อนรับพ่อกับแม่ก่อนนะคะ ฉันขออาบน้ำก่อนแล้วค่อยตามลงไป”

ท่านหลงกับฟ่านลู่จึงออกจากห้องนอนไป

กู้ชิงหยิ่งเช็ดน้ำตาไปพลางบ่นพึมพำกับตัวเอง

“กู้ชิงหยิ่ง อย่ายอมแพ้นะ อย่าให้พ่อกับแม่รู้เด็ดขาด ตัวเองเป็นคนเลือกเขาเองนี่”

“ไม่มีอะไร จะต้องไม่มีอะไร กู้ชิงหยิ่งเป็นคนเข้มแข็งอยู่แล้วใช่ไหม? จะต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้เองให้ได้”

“พ่อกับแม่อุตส่าห์มาตั้งไกลเพื่อมาหาหลาน จะให้พวกเขาโมโหไม่ได้”

เธอสูดหายใจลึกก่อนจะออกแรงบิดขี้เกียจ แล้วพยายามฝืนยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ

ห้องรับแขกด้านล่าง

เฉินตงกำลังต้อนรับกู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงอยู่

เมื่อเห็นท่านหลงกับฟ่านลู่ลงมา

กู้โก๋ฮั๋วจึงลุกขึ้นทักทาย “ท่านหลง เมื่อกี้เป็นอะไรหรือ ทำไมเห็นพวกเราแล้วต้องวิ่งหนีด้วย”

“พอดีมีเรื่องด่วนต้องรีบจัดการ ก็เลยวุ่นวายไปสักหน่อยน่ะครับ”

ท่านหลงอธิบายสั้นๆ แล้วยิ้มอย่างรู้สึกผิด “ต้องขออภัยด้วย”

กู้โก๋ฮั๋วโบกมืออย่างไม่สนใจ เขาเป็นคนที่มีนิสัยไม่สนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่แล้ว

หลี่หวั่นชิงเอ่ยขึ้นมาว่า “ตงเอ๋อ เสี่ยวหยิ่งล่ะลูก”

มือที่กำลังรินน้ำชาของเฉินตงสั่นเล็กน้อย

กู้โก๋ฮั๋วรีบแทรกขึ้นมาว่า “จริงสิ รีบไปตามเสี่ยวหยิ่งลงมา พวกเราสองคนอยากดูหลานตัวน้อย”

ฟ่านลู่รีบตอบว่า “คุณนายคะ พอดีคุณนายน้อยเพิ่งตื่น กำลังอาบน้ำอยู่ค่ะ”

“เด็กคนนี้ พอท้องก็ชักขี้เกียจซะแล้ว นี่คิดจะนอนตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยหรือ” กู้โก๋ฮั๋วขมวดคิ้ว “ทำไมลูกถึงขี้เกียจแบบนี้ เดี๋ยวลงมาจะต้องต่อว่าสักหน่อยแล้ว”

หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเหลือบมองกู้โก๋ฮั๋ว

เฉินตงอมยิ้มแล้วอธิบายว่า “คุณพ่อครับ เวลาท้องก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เสี่ยวหยิ่งอยากพักผ่อนก็ให้พักผ่อนไปเถอะครับ”

เมื่อได้ยินดังนั้น

กู้โก๋ฮั๋วก็หัวเราะออกมา

คิ้วของหลี่หวั่นชิงก็เริ่มคลายออก แล้วอมยิ้มบางๆ

คนเป็นพ่อเป็นแม่ แม้ว่าปากจะตำหนิลูกสาวของตน แต่ในใจจะคิดแบบนั้นได้อย่างไร?

ไม่ว่าใครต่างก็รู้ว่าการตั้งครรภ์มันลำบากขนาดไหนสำหรับผู้หญิง

การอธิบายของเฉินตง ทำให้สามีภรรยาสองคนนี้เห็นความรักและทะนุถนอมของเฉินตงที่มีต่อกู้ชิงหยิ่ง

ในตอนนั้น

กู้ชิงหยิ่งค่อยๆ เดินลงมาจากชั้นบน

ฟ่านลู่เห็นเป็นคนแรกจึงรีบเข้าไปพยุงลงมา

“เสี่ยวหยิ่ง!”

กู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงรีบร้อนเดินเข้าไปหา

ในใจของเฉินตงเกิดคลื่นลูกใหญ่ เขามองไปที่กู้ชิงหยิ่งอย่างละอายใจ ความคิดของเขายุ่งเหยิง

เห็นได้ชัดว่ากู้ชิงหยิ่งแต่งหน้า เพื่อปิดบังความเหนื่อยล้าและรอยบวมช้ำใต้ดวงตา

“ทำไมพ่อกับแม่จะมาถึงไม่บอกหนูล่วงหน้าก่อนคะ”

กู้ชิงหยิ่งพูดพร้อมรอยยิ้ม สายตาของเธออ่อนโยน ราวกับไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก่อน

กู้โก๋ฮั๋วเอ่ยอย่างเซ็งๆ “เมื่อวานพวกเราโทรหาลูกแล้ว แต่โทรหาลูกไม่ติด ก็เลยบอกเฉินตงเอาไว้”

เมื่อวาน?

แววตาของกู้ชิงหยิ่งเกิดประกายเล็กน้อย เมื่อวานคงจะเป็นวันที่ยากจะลืมเลือนมากที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว

เธอเหลือบดวงตาคู่งามของตนมองไปที่เฉินตง แล้วยิ้มอย่างสดใส “คงเป็นเพราะเมื่อวานหนูหลับอยู่ หมอนี่ก็ไม่ยอมปลุก จนสุดท้ายตัวเองคงลืมไปเองล่ะมั้งคะ”

เฉินตงชะงักไป

แววตาของเขาเริ่มลนลาน

เขาจ้องมองกู้ชิงหยิ่งที่กำลังยิ้มแย้มเบิกบาน

ตอนนั้นเขารู้สึกราวกับว่ามีมีดคมๆ หลายเล่มระดมแทงเข้าที่หัวใจของเขาจนหัวใจของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ

เมื่อความละอายใจปะทุออกมา เฉินตงก็เริ่มรู้สึกเวียนหัว

เขารู้ดีว่าตอนนี้กู้ชิงหยิ่งกำลังแบกรับความเจ็บปวดใหญ่หลวง การที่เธอเอ่ยออกไปเช่นนี้ไม่รู้ว่าต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน

คุนหลุนถอนใจดัง

ส่วนฟ่านลู่นั้นมองกู้ชิงหยิ่งอย่างเห็นอกเห็นใจ

ท่านหลงฝืนยิ้มหม่นหมองพลางเหลือบมองเฉินตง ได้ภรรยาดีเช่นนี้ ถ้าคุณชายยังคิดนอกใจอีกจะเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเฉินได้อย่างไร

จากประสบการณ์ของเขา ความทุกข์ใจสารพัดบนโลกนี้ล้วนเคยประสบพบเจอมาหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าการกระทำเช่นนี้ของกู้ชิงหยิ่งแสดงถึงความรักที่มีต่อเฉินตงลึกซึ้งมากเพียงใด

“ตงเอ๋อ ลืมจริงๆ หรือ” กู้โก๋ฮั๋วหันกลับไปมองเฉินตง

เฉินตงสะดุ้ง

แล้วหันไปมองกู้ชิงหยิ่งอย่างลึกซึ้งก่อนจะเกาศีรษะอย่างเขินอาย “ใช่แล้วครับพ่อ ผมลืมไปเลย”

“เจ้าเด็กนี่ งานก็ไม่น่าจะเยอะอะไรมาก”

กู้โก๋ฮั๋วยิ้มระคนระอา เขารู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเฉินตงช่วงนี้ดี ดังนั้นคงจะเป็นเพราะว่าแรงกดดันที่มากเกินไปบวกกับงานยุ่งจนทำให้เผลอลืมไปบ้าง

เป็นเพราะกู้ชิงหยิ่งพยายามสงบอารมณ์ของตัวเองไว้ บรรยากาศจึงเป็นไปอย่างรักใคร่อบอุ่น

ส่วนกู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงเองก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ จึงพูดคุยกับทุกคนอย่างสบายใจ

เมื่อเริ่มดึกขึ้นเรื่อยๆ

‘มีพ่อกับแม่อยู่ด้วยแบบนี้ เสี่ยวหยิ่งคงจะไม่นอนแยกห้องกับเราหรอกมั้ง จะได้ใช้โอกาสนี้อธิบายกับเธอไปด้วยเลย’

นี่คือความคิดในใจของเฉินตง

ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคือ

กู้ชิงหยิ่งทำท่าหาวแล้วโอบแขนของหลี่หวั่นชิงไว้พลางเอ่ยว่า “แม่คะ ไม่ได้เจอแม่นานแล้ว หนูคิดถึงแม่จัง คืนนี้หนูขอนอนกับแม่ได้ไหมคะ”

เฉินตงชะงักแล้วมองไปที่กู้ชิงหยิ่งอย่างสับสน แค่โอกาสในการอธิบายก็ให้ผมไม่ได้งั้นหรือ

ท่านหลง คุนหลุนกับฟ่านลู่ต่างพากันประหลาดใจไปตามๆ กัน

หลี่หวั่นชิงพิจารณามองกู้ชิงหยิ่งแล้วอมยิ้มก่อนจะหันไปตอบว่า “เรื่องนี้แม่ไม่สามารถตัดสินใจได้หรอก ต้องถามว่าพ่อของลูกกับเฉินตงจะยอมรึเปล่า”

“ไม่เป็นไรๆ ฉันสบายๆ อยู่แล้ว” กู้โก๋ฮั๋วพูดอย่างไม่คิดอะไร ทำเอาหลี่หวั่นชิงขมวดคิ้ว

เฉินตงฝืนยิ้ม “แม่ครับ ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร เสี่ยวหยิ่งไม่ได้เจอพ่อกับแม่มานานแล้วจริงๆ”

“งั้นก็ดี คืนนี้แม่จะได้นอนเป็นเพื่อนเสี่ยวหยิ่ง” หลี่หวั่นชิงยิ้มอย่างอบอุ่น แล้วลูบหัวกู้ชิงหยิ่งอย่างอ่อนโยน

กลางดึกอันเงียบสงบ

เฉินตงนอนอยู่ห้องข้างห้องนอนใหญ่

ส่วนในห้องนอนใหญ่นั้น กู้ชิงหยิ่งนอนซบอยู่ในอกของหลี่หวั่นชิง หลี่หวั่นชิงลูบผมของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ

สองแม่ลูกนอนในท่าทางแบบนี้อยู่นาน โดยไร้การสนทนา

หลี่หวั่นชิงเอ่ยปากเบาๆ เพื่อทำลายความเงียบว่า

“เสี่ยวหยิ่ง ยังไม่หลับอีกหรอลูก”

“ค่ะ” กู้ชิงหยิ่งตอบเบาๆ

“มีเรื่องอะไรกังวลก็พูดกับแม่ได้นะ ถ้าอยากร้องไห้แม่จะกอดลูกเอาไว้เอง” หลี่หวั่นชิงยิ้มด้วยความสงสารลูก

ร่างกายของกู้ชิงหยิ่งสั่นสะท้านเบาๆ

เธอเงยหน้าขึ้นมองหลี่หวั่นชิงด้วยความแปลกใจ

หลี่หวั่นชิงยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วกล่าวช้าๆ

“ลูกไม่ให้แม่นอนเป็นเพื่อนลูกมานานมากแล้ว คืนนี้อยากนอนกับแม่ก็เพราะมีเรื่องไม่สบายใจไม่ใช่หรอ”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset