Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 430 เดินทางไปจุนหลิน กรุ๊ป

ตลอดทั้งคืน

เฉินตงพยายามต่อสายถึงกู้ชิงหยิ่งนับครั้งไม่ถ้วน

แต่ปลายสายยังคงปิดเครื่องอยู่ตลอด

แม้จะเป็นคู่รักที่ผูกพันลึกซึ้งมากที่สุด แต่กู้ชิงหยิ่งกลับต้องเจ็บปวดราวโดนมีดเป็นพันเล่มทิ่มแทงเพราะความเข้าใจผิดเพียงครั้งเดียว

เฉินตงละอายใจราวกับเขาตกลงไปสู่เหวลึก มืดมิดไร้ความหวัง

เมื่อฟ้าเริ่มสาง

ในที่สุดเฉินตงที่ไม่ได้นอนมาตลอดคืนก็วางโทรศัพท์ลงอย่างหมดหวัง

ระบบของโทรศัพท์ยังคงทำงาน เสียงการติดต่อเล็ดลอดออกมาเตือนให้รู้ว่าปลายสายยังคงปิดเครื่องอยู่

เขาถูหน้าตัวเองอย่างแรง จากนั้นจึงลุกขึ้นเงียบๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

ในห้องอาหาร

กลิ่นหอมลอยคลุ้ง

ท่านหลง คุนหลุนและฟ่านลู่กลับไม่รู้สึกอยากอาหาร

เรื่องราวของเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่ง กระตุกหัวใจของพวกเขาให้รู้สึกหวาดหวั่น

“คุณเฉินลงมาแล้ว” ฟ่านลู่เอ่ยขึ้น

ท่านหลงกับคุนหลุนรีบลุกขึ้นเพื่อต้อนรับเฉินตง

“กินข้าวกันเถอะ”

เฉินตงไม่พูดอะไรต่อ

ท่านหลงกับคุนหลุนแลกสายตาซึ่งกันและกัน

นี่มันนิ่งสงบเกินไปรึเปล่า

พวกเขาไม่ได้เห็นอารมณ์เศร้าสลดที่พวกเขาคาดการณ์ว่าจะได้เห็น คำพูดปลอบใจที่ท่านหลงกับคุนหลุนเตรียมเอาไว้จึงไม่ได้นำออกมาใช้

แต่ความนิ่งเงียบของเฉินตงกลับทำให้หัวใจของคนทั้งสองกระจุกขึ้นมาอยู่ตรงคอหอย

หลังจากนั่งที่แล้ว

คุนหลุนจึงเอ่ยว่า “คุณชายครับ เย่หยวนชิวกับเย่หลิงหลงกลับไปแล้ว”

ตอนที่ได้เจอกันบนภูเขาซี่สุ่ย เขาได้ลั่นคำพูดเอาไว้แล้วว่า ถ้าเกิดเรื่องบาดหมางอะไรขึ้นมาระหว่างเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่ง เขาจะต้องกลับไปจัดการเย่หยวนชิวกับเย่หลิงหลง

เมื่อคืนเขาจึงสืบหาที่พักของสองปู่หลานแล้วแอบออกไปกลางดึก

แต่เมื่อไปถึง กลับหาตัวคนไม่พบเสียแล้ว

“อืม” เฉินตงเอ่ยพลางกินข้าวต้ม

อืม?!

ท่านหลง คุนหลุน ฟ่านลู่ต่างพากันชะงักไป

ในสายตาของพวกเขา ปฏิกิริยานิ่งสงบของเฉินตงเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง

ผิดปกติเสียจนทำให้คนทั้งสามรู้สึกกลัว

“คุณชาย…”

ท่านหลงค่อยๆ เอ่ยปาก แต่เฉินตงกลับยกมือขึ้นมาขัดไว้

เฉินตงเช็ดมุมปากแล้วเอ่ยอย่างสงบนิ่งว่า “ท่านหลง วันนี้ผมจะเดินทางไปที่จุนหลิน กรุ๊ปที่มั่วเป่ย ช่วยผมจัดการหน่อย”

อะไรนะ?!

ท่านหลงและคนทั้งสองพากันแปลกใจ

ฟ่านลู่เอ่ยถามอย่างกระอึกกระอักว่า “ไม่ไปตามเสี่ยวหยิ่งเหรอคะ”

“ต้องเอาเรื่องสำคัญมาก่อน”

เฉินตงส่ายหน้า “เสี่ยวหยิ่งกลับไปพร้อมคุณพ่อกับคุณแม่ คงจะไม่มีอันตรายอะไร แต่ความปลอดภัยของพ่อกลับยังไม่สามารถยืนยันได้”

ตลอดทั้งคืนที่เขาพยายามติดต่อกู้ชิงหยิ่ง

เขาก็พยายามคิดว่าควรทำอย่างไรต่อไป

กู้ชิงหยิ่งกลับไปกับพ่อตาแม่ยายถือว่าหายห่วงเรื่องความปลอดภัยไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้กู้ชิงหยิ่งกับพ่อตาแม่ยายกำลังโกรธจัด ต่อให้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปก็อาจหาตัวพวกเขาไม่พบ

ในทางกลับกัน การตามหาพ่อต่างหากที่เป็นเรื่องเร่งด่วนมากกว่า

พ่อจะอยู่ที่จุนหลิน กรุ๊ปในมั่วเป่ยหรือไม่นั้นยังเป็นแค่การคาดเดาของเฉินตง เขาจึงต้องรีบพิสูจน์การคาดเดานี้โดยเร็ว

สิ่งที่สำคัญคือเขาต้องแน่ใจให้ได้ว่าตอนนี้พ่อยังอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัย

ถึงแม้ว่าพ่อจะเคยบอกเขาเอาไว้ว่าตนปลอดภัย แต่การที่เจ้าบ้านตระกูลเฉินผู้ยิ่งใหญ่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้จะต้องเป็นเพราะกำลังหวาดกลัวบางอย่างอยู่แน่นอน

และสิ่งที่พ่อหวาดกลัวนั้น อาจเป็นสิ่งที่สามารถทำให้พ่อยอมออกจากสถานที่ที่ปลอดภัยไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยได้

“กระผมจะรีบไปจัดการ” ท่านหลงพยักหน้า

เฉินตงเอ่ยอย่างนิ่งขรึมว่า “คุนหลุนกับท่านหลงเดินทางไปเป็นเพื่อนผม”

คุนหลุนพยักหน้าแล้วขึ้นไปเก็บของด้านบน

จากนั้นเฉินตงจึงมองกลับไปที่ฟ่านลู่ “พี่เสี่ยวลู่ ระหว่างที่พวกเราไม่อยู่นี้ รบกวนช่วยผมติดต่อเสี่ยวหยิ่งด้วย”

“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณเฉิน” ฟ่านลู่พยักหน้า

สิบนาทีผ่านไป

รถโรลส์-รอยซ์ขับมุ่งหน้าไปยังสนามบินชานเมือง

ระหว่างทางเฉินตงไม่ได้หยุดพัก แถมยังประชุมวิดีโอคอลกับเสี่ยวหม่าและกูหลังเรื่องงานที่บริษัทไท่ติ่งที่ต้องจัดการต่อจากนี้

มีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ!

ความผูกพันของสามีภรรยานั้นแน่นแฟ้น บางครั้งอาจเป็นแค่การหยุดเวลาเอาไว้ชั่วคราวเท่านั้น

เฉินตงยังคงจำคำพูดที่แม่กล่าวก่อนจะจากไปได้ นี่คือ…คำสั่งเสียสุดท้ายของแม่

เมื่อถึงสนามบินชานเมือง คนทั้งสามรีบเดินไปตามช่องทางพิเศษของวีไอพีแล้วขึ้นเครื่องบินส่วนตัวออกไป

เฉินตงเหม่อดูกลุ่มก้อนเมฆผ่านหน้าต่าง แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “ท่านหลง สถานที่ตั้งของจุนหลิน กรุ๊ปในมั่วเป่ย มีสำนักงานของตระกูลเฉินอยู่บ้างไหม”

“ไม่มีครับ”

ท่านหลงส่ายหน้า “มั่วเป่ยพื้นที่กว้างขวาง บวกกับเศรษฐกิจที่ไม่ดี สำนักงานของตระกูลเฉินจะตั้งอยู่ในเขตเมืองสำคัญๆ เท่านั้น ส่วนตำแหน่งที่จุนหลิน กรุ๊ปตั้งอยู่นั้นเป็นเพียงเมืองเล็กๆ เท่านั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปตั้งสำนักงานอยู่ที่นั่น”

“เล็กขนาดไหน”

จู่ๆ เฉินตงก็ยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด

ท่านหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “รวมทั้งนอกตัวเมืองและในตัวเมืองแล้ว มีคนอาศัยอยู่ไม่เกินหนึ่งล้านคนครับ”

“เล็กจริงๆ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินตงยิ่งชัดเจนขึ้น

ที่ท่านหลงบอกว่าทั้งในตัวเมืองและนอกตัวเมืองนั้น แสดงว่าในจำนวนคนไม่ถึงหนึ่งล้านคนนี้ รวมคนที่อยู่ในเมืองและยังมีคนที่อยู่ในเขตปกครองด้านตัวนอกเมืองด้วย!

เมืองนี้เล็กของจริง!

“คุณชายมีประเด็นอะไรรึเปล่าครับ” ท่านหลงทำท่าแปลกใจ

เฉินตงขยี้จมูก “ดินแดนที่ไกลหูไกลตาการปกครอง แม้จะเล็กแต่มีทุกอย่างเพียบพร้อม จุนหลิน กรุ๊ปก่อตั้งอยู่ในเมืองเล็กมานานขนาดนี้ คงจะกลายเป็นสถานที่น่าจับตาของเมืองแห่งนี้แล้วล่ะมั้ง”

แววตาของท่านหลงเป็นประกายสว่างวาบ คล้ายเข้าใจทุกอย่างในตอนนั้น

ไม่มีสำนักงานของตระกูลเฉินอยู่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนของตระกูลเฉินคอยสอดส่อง?

นี่ต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ!

เมื่อคิดตามทันแล้ว อารมณ์ของท่านหลงจึงพลุ่งพล่านขึ้นมา เขายกมือตบฉาดเข้าที่หน้าผาก “ปัดโธ่ ทำไมกระผมถึงนึกไม่ถึงสถานที่สำคัญอย่างนี้ได้”

“อยู่ที่นี่จริงๆ หรือ”

ละเอียดรอบคอบ。

คุนหลุนเอ่ยถามขึ้นเบาๆ เขาไม่ได้มีความคิดถี่ถ้วนเช่นเดียวกับเฉินตงและท่านหลง

แต่การจะมีตำแหน่งราชาทหารได้นั้น จะใช้เพียงร่างกายกับศิลปะในการต่อสู้แค่นั้นไม่ได้ สติปัญญาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก

“ไปดูเดี๋ยวก็รู้” ท่านหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

แม้ว่าจะยังไม่ได้คำตอบที่แน่นอน แต่แววตาที่เป็นประกายเพราะความตื่นเต้นและอกของเขาที่กระเพื่อมขึ้นลงนั้น คล้ายกำลังจะอธิบายคำตอบทั้งหมดได้

เมื่อเครื่องบินถึงสนามบินก็เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว

เนื่องจากเมืองที่ตั้งของจุนหลิน กรุ๊ปเล็กมาก แถมยังไม่มีสนามบิน จึงทำให้เฉินตงและพวกต้องลงจอดที่สนามบินในเมืองใหญ่เมืองหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่นั่นมากที่สุด

พวกเขาใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการเช่ารถเมอร์เซเดส-เบนซ์ จี คลาสคันหนึ่งและขับมุ่งหน้าไปยังเมืองที่ตั้งของจุนหลิน กรุ๊ป

ตลอดทางเห็นแต่ทรายสีเหลืองเวิ้งว้าง สองข้างทางมีเพียงทะเลทรายที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา

นานๆ ครั้งกว่าจะมีรถ off road สักคันสองคันแล่นผ่านมา แต่เนื่องจากความกว้างใหญ่ของถนน จึงยังคงให้ความรู้สึกไร้ชีวิตชีวา

ยังดีที่ดวงอาทิตย์ที่มั่วเป่ยตกช้า

ดังนั้นตอนที่เฉินตงและพวกเดินทางมาถึงเมืองเล็กๆ แห่งนี้ แม้ว่าจะเป็นเวลาสามทุ่มแล้ว แต่ดวงอาทิตย์ก็ยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า

“พวกเราหาที่พักกันก่อนเถอะ”

เฉินตงไม่ได้รีบร้อน ในเมื่อมาถึงที่แล้ว การจะไปจุนหลิน กรุ๊ปจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ตอนนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะรู้เรื่องราวจากปากคนแถวนี้ว่าจุนหลิน กรุ๊ปเป็นอย่างไร!

บริษัทหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรไม่เกินหนึ่งล้านคน แต่กลับยังได้กำไรในเวลาที่พวกกระเป๋าหนักทำสงครามกันในตลาดหุ้น

ฉะนั้นสำหรับที่นี่ จุนหลิน กรุ๊ปจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

เมื่อดวงตะวันค่อยๆ ลับขอบฟ้าลง

เฉินตงและพวกสามารถหาโรงแรมได้และเอาสัมภาระไปเก็บ จากนั้นจึงกลับขึ้นรถกันอีกครั้ง

คุนหลุนรับหน้าที่คนขับรถจึงถามขึ้นมาว่า “คุณชาย จะไปไหนหรือครับ”

เฉินตงลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “ที่เมืองเล็กๆ นี่น่าจะมีร้านเหล้าบ้างล่ะมั้ง”

“ร้านเหล้า?” ท่านหลงประหลาดใจ

จากนั้นใบหน้าดูมีอายุของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มที่ออกมาอย่างรู้ทัน

ส่วนคุนหลุนเองก็หัวเราะจนรถส่าย

เฉินตงยิ้มแล้วมองไปด้านนอกรถ “จะมีที่ไหนที่จะสามารถสืบข่าวได้ดีไปกว่าที่ร้านเหล้าอีกเหรอ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset