Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 431 เจิ้งจุนหลิน

เมื่อแสงอาทิตย์ลาลับ ความมืดเข้ามาแทนที่

สถานที่อย่างบาร์เหล้าเป็นที่รวมตัวกันของคนหลากหลายอาชีพ ที่มีคนดีเลวผสมปนเปกันไป

มีบรรดาไฮโซที่กินอยู่อย่างหรูหรา และมีคนรากหญ้าที่ต้องการหาความบันเทิงใจเมื่อชีวิตไม่เป็นไปดั่งหวัง

จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะตามสืบข่าวของจุนหลิน กรุ๊ปได้ในสถานที่เช่นนี้

อาจจะง่ายถึงขั้นดื่มเหล้าเพียงแก้วเดียว

บาร์ทไวไลท์

ที่นี่เป็นบาร์เหล้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนี้ ดนตรีเฮฟวีเมทัลกำลังส่งเสียงดังสนั่นหู

ดวงไฟหรูหราหลากสีส่องลำแสงกวาดไปบนฟลอร์เต้นรำตามจังหวะเสียงเพลง

กลุ่มคนเคลื่อนกายส่ายไหวและพากันดื่มเหล้าเมามายเต็มที่ภายใต้ความมืดมิด

อากาศคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสุราที่เสียดแทงจมูก

กริ๊ง!

เสียงเคาะกระดิ่งกังวานดังก้องขึ้นอย่างกะทันหัน

ดีเจบนเวทีกำลังสนุกสนานได้อารมณ์ “คืนนี้คุณชายเจิ้งเลี้ยง!”

เย้!

ในตอนนั้นเสียงฝูงชนดังอื้ออึงขึ้นด้วยความดีใจพร้อมๆ กับเสียงดนตรีที่เปิดดังขึ้น

ที่โซฟาเลานจ์วีไอพีในความมืดสลัวนั้น

หนุ่มวัยรุ่นที่มีใบหน้าอ่อนวัยคนหนึ่งอายุราวๆ ยี่สิบปี กำลังนั่งอยู่บนโซฟาอย่างเหนื่อยหน่าย

เขาแต่งกายด้วยชุดสูทที่ดูโดดเด่นกว่าคนทั่วไป

ผิวหน้าขาวใสของเขาสะท้อนความร้ายกาจออกมา

ทว่ารอยยิ้มของเขากลับดูเปล่าเปลี่ยวและเบื่อหน่าย

รอบๆ ตัวเขามีสาวสวยเซ็กซี่แต่งตัวจัดจ้านรายล้อมราวกับฝูงหงส์ห้อมล้อมมังกร พวกเธอกำลังดื่มด่ำกันอย่างสนุกสนาน

“คุณชายเจิ้ง ชนแก้วกันหน่อยค่ะ”

สาวสวยคนหนึ่งโน้มตัวลงเน้นให้เห็นโค้งเว้าร่างกายเย้ายวน มีกลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อ เธอยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชวนมอง

เพี๊ยะ!

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณชายเจิ้งกลับหยิบธนบัตรปึกหนึ่งออกมาฟาดลงไปที่หน้าอกของสาวสวยคนนั้น

สีหน้าของเขาเย็นชาถึงขั้นดูไร้อารมณ์พลางชี้นิ้วไปยังเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ “ในเมื่อเธอชอบดื่มขนาดนี้ ก็ดื่มเข้าไปให้หมดนี่เลย”

จู่ๆ ก็พูดเช่นนี้

ทำให้คนที่นั่งอยู่ในโซนโซฟาเลานจ์นี้เงียบลงทันใด

หญิงสาวคนอื่นๆ ที่รายล้อมอยู่ต่างพากันเงียบกริบไม่ปริปาก

ส่วนสาวสวยที่ถูกเงินฟาด สีหน้าถอดสีและชะงักไปในตอนนั้น

“ดื่มสิ!”

คุณชายเจิ้งล้วงเอาเงินออกมาอีกปึกหนึ่งแล้วฟาดลงบนหน้าอกของหญิงสาวคนนั้นอีก “แก้วละหมื่น เธอยิ่งดื่มเยอะเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งให้เยอะเท่านั้น! เธอชอบดื่ม ฉันก็ชอบดูเธอดื่มเหมือนกัน!”

เขาพูดพลางล้วงเงินทีละปึกออกมาวางกองอยู่ตรงหน้าหญิงสาวคนนั้น

ด้วยท่าทางหยิ่งผยอง

เพียงชั่วพริบตาเดียว พื้นที่ด้านหน้าของหญิงสาวคนนั้นก็มีธนบัตรสีแดงกระจายอยู่เต็มไปทั่ว

“นี่ถึงแสนนึงแล้วใช่ไหมน่ะ” เมื่อหญิงสาวอีกคนหนึ่งได้สติก็เอ่ยขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ส่วนหญิงสาวที่ถูกใช้เงินฟาดตอนนั้นได้สติกลับมาแล้ว เธอมองเงินตรงหน้าแล้วกัดฟันตัวเองแน่น จากนั้นจึงตัดสินใจหันไปหยิบเหล้าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม

คุณชายเจิ้งยิ้มหยัน แล้วควักเงินปึกหนาออกมาทุ่มลงบนโต๊ะ

“จะดื่มหมดนี่เลยจริงดิ!”

หญิงสาวที่รายล้อมหลายๆ คนเริ่มได้สติกลับมา พวกเธอพุ่งเข้าไปหาสุราที่อยู่บนโต๊ะราวกับสัตว์ที่หิวกระหาย

ส่วนคุณชายเจิ้งที่มีสีหน้าเย็นชามาตลอดนั้น เวลานี้แสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

คนจำนวนมากในบาร์เหล้าแห่งนี้เริ่มหันมามอง

เป็นภาพที่ยากจะไม่ใส่ใจ เพราะทุกคนต่างรู้ว่าชายหนุ่มที่ดูอันตรายผู้นั้นเป็นคนเลี้ยงคืนนี้

ทั้งยังมีคนจำนวนมากที่มองด้วยสายตาชื่นชม

คนรวย…จะทำอะไรก็ได้

ส่วนบริเวณโต๊ะที่อยู่หน้าเวทีอีกด้านหนึ่ง เฉินตงแอบมองเหตุการณ์นั้นอยู่อย่างเงียบๆ “น่าสมเพช”

“คุณชายไม่เข้าใจหรอกครับ นี่มันเรื่องปกติมาก”

ท่านหลงโยกร่างเบาๆ ไปตามเสียงเพลง ร่างกายที่ปกติผอมบางเหมือนตัวจะหัก ตอนนี้กลับมีเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างน่ามหัศจรรย์

สีหน้าของคุนหลุนที่อยู่ข้างๆ แปลกประหลาด เขาคิดจะปรามท่านหลงลง

แต่ท่านหลงไม่รู้ตัว เขากระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสุดเหวี่ยง

เฉินตงขยี้จมูกอย่างเอือมระอา ในความคิดของเขา ภาพลักษณ์ของท่านหลงนับวันก็ยิ่งพังลงทุกวัน

“คุนหลุน ไปสืบข่าวมาหน่อย”

เฉินตงไม่สนใจท่านหลง แต่สั่งให้คุนหลุนไปสืบสถานการณ์มาแทน

“คุณชาย ผมมีเสี่ยวลู่อยู่แล้วนะครับ” คุนหลุนลังเล

เฉินตงเงียบไป แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกไป ท่านหลงก็เดินพลางโยกตัวเข้าไปยังฟลอร์เต้นรำเสียแล้ว

เฉินตง “……”

คุนหลุน “……”

“รูปหล่อ อยากได้คนเป็นเพื่อนไหมล่ะ”

สาวสวยแต่งตัวจัดจ้านสองสามคนเดินโยกตัวเข้ามายังโซฟาเลานจ์

เฉินตงส่ายหน้า “ผมกลัวพวกคุณจะมาแย่งเหล้าผมกินมากกว่า”

หญิงสาวกลุ่มนั้นช็อกไป จากนั้นจึงก่นด่าพลางเดินห่างออกไป

“พระเจ้า เพิ่งเคยเห็นคนขี้งกขนาดนี้ คิดว่าคนมาที่บาร์เพื่อดื่มเหล้าอย่างเดียวหรอ”

“คุณพระ งกขนาดนี้ทำไมไม่ไปนั่งกินร้านข้างถนนล่ะ จะมาสถานที่หรูๆ อย่างที่บาร์นี้ทำไม”

“กาดำคิดอยากจะย้อมตัวเป็นหงส์สิท่า”

เฉินตงไม่ได้ใส่ใจ เขาจะปล่อยให้พวกผู้หญิงกลางคืนมาล้อมรอบกายเขาได้อย่างไร?

สิบนาทีต่อมา

เฉินตงกับคุนหลุนที่กำลังจิบสุรากันอยู่นั้นหยุดชะงัก และสีหน้าแปรเปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจ

เนื่องจากเห็นท่านหลงเดินกลับมาที่โซฟาเลานจ์ โดยโอบสาวเข้ามาทั้งซ้ายขวา

ใบหน้าสูงวัยของเขาปรากฏความภาคภูมิใจ สาวสวยทั้งสองในอ้อมอกต่างกำลังคลอเคลียอย่างเย้าอารมณ์

เฉินตงมองดูหญิงสาวทั้งสองคนจึงเห็นว่าอายุค่อนข้างแตกต่างจนถึงขั้นสามารถเรียกท่านหลงว่าปู่ยังได้

แต่คำว่าความรักนี้เองที่พาให้พวกเขามีโอกาสได้โคจรมาเจอกัน

และหนึ่งในสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นสาวน้อยที่คุณชายเจิ้งใช้เงินฟาดหัวให้ดื่มสุราเข้าไปจนหมดก่อนหน้านี้

เมื่อนั่งลงแล้วจึงเห็นว่าสาวน้อยคนนี้เมามาก เธอตัวอ่อนตัวพับนั่งลงบนโซฟา สายตาของเธอล่องลอย แก้มทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำ

“ดื่มเยอะเพื่อเงิน มันคุ้มแล้วเหรอ”

เฉินตงมองสาวน้อยคนนั้นด้วยความข้องใจ

เมื่อก่อนตอนที่เขายังเป็นรองประธานของบริษัทไท่ติ่ง บ่อยครั้งเขาต้องพาลูกค้าไปคุยงานกันตามบาร์และร้านคาราโอเกะต่างๆ แต่เขาก็ขีดเส้นให้ตัวเองเสมอจึงไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสาวน้อยพวกนี้

“ฮ่าๆ คุณไม่เข้าใจหรอกว่าเงินมันดีขนาดไหน”

สาวน้อยคนนั้นยิ้มพลางโบกมือไปมา ดวงตาของเธอปรากฏน้ำตาคลอ “ฉันลำบากตั้งแต่เด็ก แม่ทิ้ง พ่อก็ป่วยติดเตียง แถมยังต้องส่งน้องชายเรียนมหาวิทยาลัยอีก ที่ฉันยอมออกมาทำอะไรแบบนี้ก็เพื่อเงิน ดังนั้นมีงานอะไรก็ต้องทำ…”

เธอพูดพลางร้องไห้กระซิก

ราวกับคำถามของเฉินตงไปกระตุ้นอารมณ์บางอย่างเข้า เธอจึงมองเฉินตงเป็นที่ระบายความในใจ

ท่านหลงกับคุนหลุนที่อยู่ข้างๆ เห็นอย่างนี้ก็ได้แต่พูดไม่ออก

“พล็อตเรื่องเก่าๆ แบบนี้ยังเอามาใช้อยู่อีกหรอ”

เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าเป็นเช่นนี้ เฉินตงจึงหัวเราะออกมาอย่างเอือมระอา

เขาขี้เกียจจะสนใจเรื่องที่หญิงสาวคนนี้แต่งขึ้นมา จึงหยิบบัตรใบหนึ่งออกมาวางไว้บนโต๊ะด้านหน้า

สาวน้อยที่กำลังร้องไห้ เริ่มเหล่ตามองบัตรธนาคารใบนั้นด้วยสายตาที่เป็นประกาย

เฉินตงกล่าวอย่างเรียบเฉย “ผมไม่ได้อยากให้คุณดื่มเหล้า แค่ต้องการจะถามคำถามบางอย่างเกี่ยวกับจุนหลิน กรุ๊ป ถ้าทำให้ผมพอใจได้ คุณแค่บอกตัวเลขมา ผมจะโอนให้ทันที”

สาวน้อยคนหนึ่งที่สามารถนั่งร่วมโต๊ะกับไฮโซหนุ่มผู้ใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ คงจะเคยเห็นและรู้เรื่องราวอะไรมาบ้าง ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงมากที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับจุนหลิน กรุ๊ปที่คนอื่นไม่รู้

“จริงเหรอคะ”

น้ำตาของสาวน้อยคนนั้นหยุดไหล

ส่วนสาวน้อยอีกคนที่ยังอยู่ในอ้อมอกของท่านหลงก็แสดงอาการประหลาดใจออกมา

“ผมไม่มีความจำเป็นต้องแต่งเรื่องหลอกคุณ” เฉินตงเหล่ตามอง

เธอเริ่มแสดงอาการเงอะงะออกมา จากนั้นจึงครุ่นคิดก่อนจะยกนิ้วหนึ่งนิ้วขึ้นมา “หนึ่งล้าน”

“ตกลง!”

เฉินตงโอนเงินไปทันที

เมื่อสาวน้อยคนนั้นเห็นข้อความการโอนเงินเข้ามาที่มือถือ เธอดีใจอย่างลิงโลด เธออ้าแขนออกพลางวิ่งตรงเข้าไปหาเฉินตง

“หยุด!”

เฉินตงยกมือขึ้นห้ามแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ผมแค่ต้องการข้อมูลจากคุณ ไม่ได้ต้องการตัวคุณ”

“ตามใจ…”

แม้ว่าสาวน้อยคนนั้นจะผิดหวังไปบ้าง แต่เธอก็ดูออกว่าเฉินตงไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา

จากนั้นเธอจึงยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วชี้ไปยังคุณชายเจิ้งที่ใช้เงินซื้อเธอให้ดื่มเหล้า

“นู่น เขานั่นไง คุณถามฉันไม่สู้ไปถามเขา เขาชื่อว่าเจิ้งจุนหลิน คุณชายใหญ่ของจุนหลิน กรุ๊ป”

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างมีความนัยบางอย่าง เขามองไปที่เจิ้งจุนหลินด้วยสายตาเป็นประกาย

จริงอย่างที่เขาว่ากันว่า…ของบางอย่างตามหาให้ตายก็ไม่เจอ แต่สุดท้ายกลับจะมาบังเอิญเจอเอาง่ายๆ

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset