Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 443 ผู้อ่อนแอจะถูกควบคุม ผู้เข้มแข็งจะควบคุมตนเองได้ ส่วนราชันย์คือคนที่ควบคุมทุกอย่าง

ตู้ม!

สิ้นเสียงพูดก็มีระเบิดตกลงมาอีกไม่ไกลนัก

โชคดีที่เฉินเต้าหลินได้เตรียมตัวเอาไว้แล้ว ท้ายรถส่ายไปมา เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังลั่น ตอนนี้รถจี๊บราวกับสัตว์เดือดกระหาย ขับฝ่าจุดระเบิดที่ฝุ่นกำลังฟุ้งไปทั่ว

สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนที่ของรถยนต์ ส่วนด้านบนก็ได้ยินเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ดังสนั่น

ร่างของเฉินตงเกร็งและไร้ความรู้สึก แม้กระทั่งลำคอของเขายังตีบตัน

เขารู้สึกราวกับตัวเองเป็นทหารรับจ้างที่อยู่ในสนามรบอย่างไรอย่างนั้น

เปลวไฟแผ่รังสีความร้อน เลือดทั่วร่างเดือดปุด

วินาทีต่อมา จุดที่ระเบิดลงกลายเป็นทะเลเพลิงที่ไฟลุกโชน

คุนหลุนที่นั่งอยู่แถวหลังรีบเข้าไปดูกล่องเก็บของที่อยู่ด้านหลัง แล้วหยิบวัตถุรูปร่างยาวที่มีผ้าใบห่อหุ้มออกมา จากนั้นจึงเปิดผ้าคลุมออก

ฟึ่บ!

ผ้าใบถูกเปิดออก

จึงพบว่าเป็นปืน RPG ที่ซ่อนอยู่ในนั้น

ในฐานะที่เคยเป็นผู้นำทหารรับจ้าง เทพแห่งการฆ่าที่กระหายเลือด ความรู้เกี่ยวกับปืนของคุนหลุนนั้นถือเป็นที่สุด

เขาเติมกระสุนอย่างเชี่ยวชาญ จากนั้นจึงใช้มือทุบกระจกที่เต็มไปด้วยรอยร้าวจนแตก

เติมกระสุน เล็ง ยิง

ใช้เวลาทั้งหมดประมาณหนึ่งวินาที

ระเบิดRPG ลูกหนึ่งติดไฟและพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า

เสียงระเบิดยังไม่ดังขึ้นทันที

คุนหลุนก็เอ่ยออกมาว่า “เบี้ยว!”

เฉินตงมองคุนหลุนผ่านกระจกมองหลัง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้สีหน้าของคุนหลุนเรียกได้ว่าเงียบสงบอย่างผิดปกติ

ตอนนี้คุนหลุนอยู่ในท่าทางของผู้ที่มองความตายเป็นเรื่องปกติ และทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

เขาหันกลับไปมองที่พ่อของตนอีกครั้ง

ใบหน้าที่ผ่านเรื่องราวมามากมายยังคงนิ่งสงบ สายตาของเขาจ้องไปยังทิศทางด้านหน้า การเปลี่ยนแปลงเดียวที่เขาแสดงออกมามีเพียงการขมวดคิ้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ความนิ่งเฉยของคุนหลุน กับความนิ่งสงบของพ่อ

ราวกับค้อนหนักสองอันที่ทุบเข้าที่ดวงตาของเฉินตงอย่างแรง

ตอนนั้นความรู้สึกของเฉินตงเต็มไปด้วยความละอายใจ

หากเทียบกับพ่อและคุนหลุนแล้ว ท่าทางของเขาในตอนนี้ นับว่า…อ่อนแออย่างยิ่ง!

ในเวลาเดียวกัน

เฉินเต้าหลินที่กำลังขับรถอยู่กล่าวออกมาว่า “ตงเอ๋อ ลูกคิดว่าท่าทางของลูกในตอนนี้ เหมาะสมกับการรับผิดชอบตระกูลเฉินไหม”

คำพูดเพียงประโยคเดียว ราวกับกระบี่ที่ถูกตีขึ้นร้อนๆ แทงเข้าไปในหัวใจของเฉินตง

เฉินตงกัดฟัน เขาก้มหน้าพลางซึมซับความรู้สึกที่ชาไปทั่วร่างของตน

ในด้านการทำธุรกิจ เขาสามารถเอาชนะทุกสนามได้อย่างไม่ต้องออกแรงอะไรมากนัก

แต่ตอนที่ต้องต่อสู้อย่างดุเดือดเช่นนี้ เขาต้องพยายามควบคุมให้ตนเองอยู่ในความสงบ และพยายามหาจุดอ่อนของศัตรูให้ได้อย่างใจเย็น และแสดงความสามารถในการต่อสู้ที่เข้มแข็ง

แต่ตอนนี้…เขากำลังกลัว!

ตู้ม!

ระเบิดอีกลูกตกลงมา

แรงระเบิดที่น่าหวาดผวาโจมตีรถจนโงนเงนและส่งเสียงแก่กๆ ราวกับกำลังจะต้านทานไว้ไม่ไหว

แต่กระนั้นเฉินเต้าหลินก็ยังคงควบคุมรถได้ด้วยสีหน้าเงียบสงบ

ส่วนคุนหลุนนั้นก็ยังคงเติมกระสุนและเล็ง

ฟิ้ว!

ระเบิด RPG พุ่งขึ้นไปบนฟ้า

ตู้ม!

หลังจากเสียงระเบิดดังสนั่นหู

บนท้องฟ้าพลันเกิดไฟลุกโชนโหมกระหน่ำ

เฮลิคอปเตอร์ที่มีเปลวเพลิงลุกท่วมหล่นกระแทกลงบนพื้น ทำให้เกิดการระเบิดที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

“ยังเหลืออีกสอง คุนหลุนจะจัดการได้ไหมนะ”

เฉินตงยิ้มเย้ย นอกจากจะไม่ชื่นชมแล้ว กลับยังโดนเหยียดหยามอีกต่างหาก “หลายปีมานี้ แกโดนปรนเปรอจนฝีมือในการยิงปืนของแกขึ้นสนิมไปแล้วหรอ”

“หึ!”

คุนหลุนกลับเม้มปากแล้วยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ

จากนั้นเขาจึงเติมกระสุน แล้วเล็งไปที่เป้า

เมื่อเฉินตงต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้กับตัว เขารู้สึกหวาดกลัวและขวัญผวา

เขามองไปรอบตัว คิดจะทำอะไรบางอย่าง

แต่เขากลับค้นพบสิ่งที่น่าตกใจ คือเขาทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

บางที…การที่เขาควบคุมความสงบของตัวเองให้ได้ ก็อาจถือว่าเป็นการช่วยเหลืออย่างหนึ่งแล้ว

“เรา…อ่อนแอจริงๆ หรือ”

เฉินตงคิดใน

เพียงปรากฏตัว สมองของเขาคล้ายมีหินหนักๆ บรรจุอยู่แน่นจนตีบตัน

ความละอายใจของเขารุนแรง ทำให้เฉินตงรู้สึกราวกับตัวเองกำลังจมน้ำ

“ถ้าพอทำอะไรได้บ้าง ก็ต้องทำ” เฉินตงกำหมัดแน่นและพยายามบอกตัวเอง

ปังๆๆๆ……

แม้จะบอกตัวเองเช่นนี้ แต่เสียงกระสุนที่ระดมยิงมาจากด้านบน ทำให้ความคิดทุกอย่างหายวับไป

เฉินตงแทบจะกรีดร้อง เขานั่งขดตัวอยู่บนเบาะข้างคนขับ

กระสุนยังคงสาดลงมาอย่างต่อเนื่อง

บรรยากาศในรถคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นดินปืน

“คุนหลุน!”

ในตอนนั้นเองเฉินเต้าหลินที่กำลังขับรถอยู่มีสีหน้าหนักอึ้ง

ใจของเฉินตงสะท้าน เขารีบหันกลับไปมอง

กระบะท้ายรถจี๊บที่ติดอยู่กับตัวรถ เต็มไปด้วยรูพรุนนี่เกิดจากกระสุนที่สาดลงมา

ส่วนคุนหลุน ตอนนี้กำลังเอนตัวพิงเบาะ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ปืน RPG พิงอยู่กับกระจกรถด้านหน้า บริเวณไหล่ซ้ายของคุนหลุนเป็นรูจากการถูกกระสุนยิงจนเลือดไหลอาบราวกับน้ำพุที่พวยพุ่ง

“ผม ผมไม่เป็นไร”

คุนหลุนกัดฟันแน่น ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความอาฆาต

ตอนนั้น เขารู้สึกราวกับตนเองเป็นสัตว์หิวกระหาย

คุนหลุนพยายามฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นและลองยกปืน RPG ขึ้นมาอีก แต่การเคลื่อนไหวเช่นนี้ส่งผลถึงบาดแผลของเขา ทำให้คุนหลุนเจ็บจนต้องสูดหายใจเข้าลึก ตัวของเขาสั่นเทาและกลับลงไปพิงที่เบาะอีกครั้ง

เขาใช้มือขวากดลงที่แผลบนไหล่ซ้าย

เฉินตงศีรษะชาไร้ความรู้สึก บาดแผลของคุนหลุนเปรียบเสมือนเข็มนับร้อยนับพันทีทิ่มแทงเข้าที่ดวงตาของเขา

ในตอนที่เขากำลังเหม่อลอยอยู่นั้น

เฉินเต้าหลินก็ตวาดเสียงลั่นขึ้น

“ตงเอ๋อ ตอนนี้ลูกควรทำอะไรบ้าง”

ทำอะไรบ้าง?

เฉินตงหรี่ตาเล็ก ในใจของเขาเต็มไปด้วยคำถาม เขาเหม่อมองไปที่เฉินเต้าหลินอย่างล่องลอย

เฉินเต้าหลินกล่าวเสียงแข็ง “ถ้าลูกไม่ก้าวออกมา วันนี้พวกเราสามคนคงต้องตายอยู่ในที่รกร้างนี่แน่”

ใช่!

ก้าวออกมา!

เฉินตงได้สติกลับคืนมา

เขากัดฟันแน่นและข้ามไปยังแถวหลัง

ปังๆๆๆ……

กระสุนปืนยังคงระดมยิงลงมาจากเฮลิคอปเตอร์อย่างไม่ขาดสาย

ส่วนเฮลิคอปเตอร์อีกลำก็ทิ้งระเบิดลงมาอีกลูก

ตู้ม!

ระเบิดดังสนั่น กระสุนระดมยิง

กระแสความกลัวที่โจมตี ทำให้เฉินตงเสียสมดุลทันทีและล้มคว่ำอยู่แถวหลัง

เสียงปืนดังต่อเนื่อง ทำให้เขายิ่งหดตัวกลม

เมื่อเสียงปืนหยุดลง

เฉินตงคลายมือที่กุมศีรษะของตัวเองออก เขามองรถที่เต็มไปด้วยรูพรุนจากลูกกระสุนจนแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อย่างหวาดผวา

“คุณชาย!”

ในช่วงเวลาที่น่าพรั่นพรึงเช่นนี้ คุนหลุนยื่นปืน RPG ยัดเข้าไปที่หน้าอกของเฉินตง

ความคุกรุ่นจากรังเพลิง ทำเอาเฉินตงนิ่งงันไปราวกับตุ๊กตาไม้

“ต้องทำได้ จะต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะต้องตาย พ่อ คุนหลุนและฉันจะตายกันหมด!”

ในใจของเขาคิดประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เฉินตงพยายามรวบรวมพลังสูดหายใจเข้า เขานั่งอยู่ข้างหน้าต่างอีกบานหนึ่ง และทำทุกอย่างเลียนแบบคุนหลุน เขาเอามือทุบกระจกหน้าต่างจนแตกแล้วยื่นปืน RPG ออกไป แต่ตอนนั้นเฉินตงกลับลังเลที่จะยิง

เขามองผ่านลำกล้องปืนไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ด้านบน สีหน้าของเฉินตงซีดขาว หน้าผากของเขาปรากฏเหงื่อเย็นๆ ผุดออกมาแล้วไหลลงมาตามแก้ม

“ตงเอ๋อ ลูกกำลังรออะไรอยู่”

เฉินตงตวาดอย่างไม่สบอารมณ์ “ลูกฝึกฝนมายาวนานขนาดนี้ กะอีแค่เหตุการณ์เล็กๆ แค่นี้ กลับยังควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างนั้นหรอ”

เหตุการณ์เล็กๆ

เฉินตงตะโกนอยู่ในใจ เหตุการณ์นี้มันเล็กตรงไหน

“ถ้าแค่ควบคุมตัวเองยังทำไม่ได้ แล้วลูกจะไปควบคุมอะไรได้”

เฉินเต้าหลินส่งเสียงลอดไรฟันออกมา “ผู้อ่อนแอจะถูกควบคุม ผู้เข้มแข็งจะควบคุมตนเองได้ ส่วนราชันย์คือคนที่ควบคุมทุกอย่าง”

“จะต้องทำได้ จะต้องทำให้ได้ ฉันไม่คนอ่อนแอ ฉัน…จะเป็นราชันย์!”

เฉินตงหรี่ตาลงเป็นเส้นตรง เขามองสอดส่ายไปทั่ว

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ปรากฏเข้ามาในลำกล้องปืน

เขาที่ลังเลมาตลอด ในที่สุดก็ตัดสินใจลั่นไกปืน……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset