Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 445 ไพ่ใบสุดท้าย

ทรายสีทองลอยคลุ้ง

อุณหภูมิร้อนระอุ แม้แต่ลมยังกลายเป็นไอร้อน

เฉินตงสบตากับเฉินเต้าหลิน

คุนหลุนที่อยู่ด้านข้างก็มองไปที่เฉินเต้าหลินด้วยความสงสัย โดยไม่ใส่ใจความเจ็บปวดอีก

ทั้งๆ ที่เป็นการลอบฆาตกรรมธรรมดาเหตุการณ์หนึ่งแท้ๆ แต่กลับทำให้เจ้าบ้านเฉินที่ยิ่งใหญ่ต้องหายตัวไป

ยิ่งไปกว่านั้นคือการทำให้ตัวเองหายไป ซ่อนตัวอยู่อย่างไร้ร่องรอย

ความลับของเรื่องนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องอยากรู้!

โดยเฉพาะคนที่เพิ่งรอดจากการตามไล่ฆ่าเมื่อเมื่อครู่

เฉินเต้าหลินกลับไม่มีท่าทางรีบร้อน เขาค่อยๆ หยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าแล้วจุดสูบหนึ่งมวน

ควันลอยฟุ้งลอดฟันออกมาอย่างเชื่องช้า

เฉินเต้าหลินหลับตาพลางอมยิ้ม “พวกแกคงคิดว่าการหายตัวไปของฉันเกิดจากเหตุการณ์ลอบฆาตกรรมธรรมดาเหตุการณ์หนึ่งใช่ไหม”

“ครับ” เฉินตงตอบ

หากเป็นเหตุการณ์ตอนนั้นที่ยิวหมิน อันดับยมราชที่ 18 ขององค์กร hidden killers ลอบฆ่า แล้วพ่อหายตัวไปคงจะไม่ทำให้เขาข้องใจมากขนาดนี้

แต่ตอนนั้นยิวหมินตายด้วยฝีมือของลุงเต้าจูนไปแล้ว แถมยังโดนตัดหัวเสียบประจานไว้บนป้ายตระกูลเฉินประกาศก้องให้ใต้หล้ารู้

แต่พ่อกลับหายตัวไปจากเหตุการณ์ลอบฆาตกรรมธรรมดาครั้งหนึ่ง แถมยังเป็นนักฆ่าธรรมดาๆ คนหนึ่งที่โดนฆ่าตายคาที่ไปแล้วด้วย

หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ การที่มือสังหารโดนฆ่าตายคาที่ไปแล้วนั้น ตอนนั้นพ่อน่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่หมดห่วงไร้กังวล แต่กลับหายตัวไปดื้อๆ

“เฮ้อ!”

เฉินเต้าหลินเม้มปาก “ตงเอ๋อ ตระกูลเฉินไม่ได้เป็นอย่างที่ลูกคิดไว้หรอก”

ระหว่างเอ่ย สายตาห่างไกลของเฉินเต้าหลินก็เหม่อมองไปยังซากเฮลิคอปเตอร์ที่ไฟลุกท่วม

“การหายตัวของพ่อ ไม่เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพ่อไม่หายตัวไป ไม่เพียงแค่พ่อกับลูกเท่านั้น แต่จะทำให้ตระกูลเฉินต้องตกอยู่ในอันตราย”

เปรี้ยง!

เฉินตงเกิดความรู้สึกลังเลบางอย่างที่เกิดขึ้นราวกับฟ้าผ่าลงมาในตอนกลางวัน

ตระกูลเฉิน……จะตกอยู่ในอันตราย?

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน

ตระกูลเฉินที่ยิ่งใหญ่ที่กำทรัพย์สินของประเทศเอาไว้ ต่อให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีมาจากไหน ในสายตาของตระกูลเฉินก็เป็นเพียงมดในดินที่ไม่มีค่าอะไรให้พูดถึง

บุคคลใหญ่โตคับฟ้าเช่นนี้ หากตกอยู่ในอันตรายก็น่าจะเป็นความเน่าเฟะภายในปรากฏออกมา มากกว่าจะเป็นฝีมือของคนนอก?

แม้แต่คุนหลุนเองก็ยังเป็นใบ้ไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เฉินเต้าหลินเหล่มองเฉินตงกับคุนหลุนแล้วส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น

“ฉันรู้ว่าคำพูดเช่นนี้ พอพูดออกไปแล้ว พวกแกคงไม่อยากจะเชื่อ แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้ ในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน สิ่งที่ฉันรู้และเห็นย่อมแตกต่างจากพวกแก”

เขาโยนก้นบุหรี่ทิ้งไป แล้วชี้ไปที่ซากเฮลิคอปเตอร์ไฟท่วม

“ตัวอย่างเช่นเฮลิคอปเตอร์ทั้งสามลำนี้ ลูกคิดว่านี่เป็นเพียงการตามฆ่าธรรมดาๆ อย่างนั้นหรือ นี่เป็นการประกาศอย่างชัดเจนต่างหากว่าต้องการจะสังหารหมู่!”

เฉินตงเหม่อมองไปที่ทะเลเพลิง

เขาฟังออกว่า แม้ว่าพ่อจะกำลังเล่าเรื่องราวอยู่ แต่จริงๆ แล้วพยายามที่เปลี่ยนประเด็นสนใจ เพื่อหลบเลี่ยงประเด็นสำคัญต่างหาก

เห็นได้ชัดว่าพ่อไม่ได้ต้องการจะปิดบังเขา แต่เป็นเพราะสถานะของเขาในตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะรู้

“พ่อกำลังสงสัยใครอยู่กันแน่” เฉินตงถามคำถามที่ตนสงสัยมากที่สุดออกไป

ตั้งแต่เหตุการณ์ลอบฆ่าจนถึงการหายตัวไปของพ่อ การที่พยายามจะบอกว่าปกป้องใคร ไม่สู้พูดออกมาว่าสงสัยใคร

“ความลับ”

เฉินเต้าหลินยิ้มอย่างยากคาดเดา เขาหันไปมองเฉินตง “สิ่งที่ลูกต้องรู้คือ จุนหลิน กรุ๊ปเป็นไผ่ใบสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้ลูก ไผ่ใบนี้ไม่เพียงช่วยลูกชิงตำแหน่งเจ้าบ้านมาได้เท่านั้น แต่ในอนาคตหากลูกต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก นี่จะเป็นทุนที่ช่วยให้ลูกกลับสู่อำนาจได้อีกครั้ง”

“พ่อปิดเรื่องนี้มาได้ตั้งหลายปี ไม่ควรเปิดเผยเรื่องนี้ในเหตุการณ์ของลูกชายตระกูลฉินเลย แต่การที่พ่อหายตัวไป ทำให้ตระกูลเฉินไม่สามารถใช้อำนาจได้ชั่วคราว จึงทำได้เพียงปล่อยให้เรื่องมันปรากฏออกมา”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เฉินเต้าหลินก็มองเฉินตงอย่างลึกซึ้งและยิ้มอย่างประหลาดใจ “ลูกฉลาดมากที่สามารถตามสืบจากร่องรอยจนตามหาพ่อเจอ แต่ลูกต้องจำเอาไว้ ไผ่ใบสุดท้ายอย่างจุนหลิน กรุ๊ปของตระกูลเจิ้ง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปห้ามเปิดเผยให้ใครรู้ ถ้าลูกหงายไพ่ใบสุดท้ายออกไปแล้ว งั้นการเดิมพันทั้งหมดก็ไม่สนุกอีกต่อไป”

เฉินตงพยักหน้า

เขาไม่ใช่คนโง่ จุนหลิน กรุ๊ปของตระกูลเจิ้งแอบปกปิดบุคคลใหญ่โตเช่นนี้เอาไว้มันหมายความว่าอย่างไร เขาเข้าใจดี

นี่เทียบเท่าได้กับระเบิดที่มีอาณุภาพร้ายแรง ที่สามารถทำลายโลกให้บิดเบี้ยวได้ในช่วงเวลาที่สำคัญ

ยิ่งซ่อนไว้ลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะมีประโยชน์กับเขามากเท่านั้น!

แต่เหตุการณ์วิกฤตของฉินเย่ครั้งนี้ คงทำอะไรไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่เผยไพ่ใบสุดท้ายออกมา

เฉินตงขยี้จมูกก่อนจะเอ่ยอย่างรู้สึกละอาย “ขอโทษครับ ผมมาที่นี่เลยทำให้พ่อต้องเจอเหตุการณ์อย่างเมื่อกี้นี้”

“เด็กโง่ อะไรที่จะต้องเกิด ช้าเร็วก็ต้องเกิด”

เฉินเต้าหลินตบไหล่เฉินตง “ลูกจำไว้ รักษาไพ่ใบสุดท้ายอย่างตระกูลเจิ้งนี้ไว้ให้ดี วันหนึ่งหากลูกจำเป็นต้องใช้ เจ้าบ้านเจิ้งจะต้องช่วยลูกอย่างสุดกำลัง ตอนแรกพ่อยังกังวลเรื่องเจ้าบ้านเจิ้งคนต่อไปอาจจะไม่มีความภักดีอย่างเดิม แต่พรหมลิขิตของลูกที่ตระกูลเจิ้งครั้งนี้ทำให้พ่อหายห่วงแล้ว”

เจิ้งจุนหลิน?

รอยยิ้มของเฉินตงหายไปพร้อมๆ กับคำพูดของเขา

นับว่าเป็นพรหมลิขิตอย่างแท้จริง

การช่วยเจิ้งจุนหลิน เดิมทีเป็นเพียงความเห็นใจเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันเท่านั้น

ตอนนี้เจิ้งจุนหลินกลายเป็นเพื่อนของเขา ในอนาคตตระกูลเจิ้งจะยังคงไม่ต่างอะไรจากปัจจุบัน นั่นคือภักดีต่อเขาอย่างหมดใจ

“พ่อวางแผนจะทำอะไรต่อไป” เฉินตงขมวดคิ้วแล้วชี้ไปยังทะเลเพลิง

การบุกโจมตีของเฮลิคอปเตอร์สามลำ การหายตัวไปของพ่อถูกเปิดเผย

เหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่ว่าใครก็คงคาดเดาไม่ถูก

“ลูกวางใจ คนที่คิดจะฆ่าพ่อ ไม่ได้ทำได้ง่ายขนาดนั้น”

เฉินเต้าหลินหยักไหล่แล้วเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ “ขอแค่ซ่อนตระกูลเจิ้งกับจุนหลิน กรุ๊ปเอาไว้ได้ก็พอ พ่อคิดว่าจะยังคงหายตัวต่อไปอีก ฝีมือของพวกมันตามหาตัวพ่อไม่เจอแน่”

เมื่อกล่าวจบ

เฉินเต้าหลินหันไปมองคุนหลุนที่สีหน้าเริ่มซีด “ผ่านมานานแล้ว ลูกรีบไปหาคนมาช่วยเถอะ คุนหลุนคงทนได้อีกไม่นานนัก”

เฉินตงมองเฉินเต้าหลิน แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เดิมทีคิดว่าการหาตัวพ่อเจอ จะทำความข้องใจทั้งหมดหายไปและจัดการเรื่องราวต่อไปได้ไม่ยาก

แต่ตอนนี้ สิ่งที่เขารู้มีเพียงคำพูดที่เป็นปริศนาเท่านั้น

พ่อพยายามเล่าเรื่องโดยหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญ ยิ่งทำให้ความสงสัยของเขามากขึ้น

แต่เมื่อเห็นสภาพของคุนหลุนตอนนี้ เฉินตงจำเป็นต้องข่มความสงสัยของตัวเองเอาไว้

เพราะคุนหลุนน่าจะทนต่อไปได้อีกไม่นานแล้ว

แผลจากการถูกยิงและแรงกระแทก อาจไม่ถึงขั้นทำให้ตายคาที่ แต่การเสียเลือดมากเกินไปนั้นอันตรายถึงชีวิต

“รอผมอยู่ที่นี่ก่อน ผมจะพยายามตามหาที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ แล้วติดต่อท่านหลงให้มาช่วย”

เฉินตงฝืนยกร่างกายที่อ่อนล้าและเจ็บระบมเดินห่างออกไป

การไล่ฆ่าเพิ่งจะจบสิ้นไป ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่มีทางกลับเข้าไปในเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือได้

ทำได้เพียงหาที่ใดสักที่ที่มีสัญญาณมือถือ

สถานการณ์ของคุนหลุนตอนนี้ไม่สู้ดีนัก พ่อเองก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

หากไม่มีคนคอยคุ้มกัน ถ้ามีการโจมตีขึ้นมาอีกครั้ง คงจะเกิดการเข่นฆ่ากันขึ้นมาอีก

ทว่า

ขณะที่เฉินตงเดินไปได้ไม่ไกลนัก เสียงของเฉินเต้าหลินก็ตะโกนดังขึ้นด้านหลัง

“ตงเอ๋อ ระวังคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน และก็คนในตระกูลเฉินไว้ด้วย!”

เฉินตงชะงัก ปลายหางตาของเขาปรากฏเส้นเลือดเต้นตุบๆ อย่างข้องใจ

ที่ผ่านมาเขาก็ระวังคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินและคนในตระกูลเฉินมาตลอดอยู่แล้ว ทำไมพ่อจะต้องกำชับแบบนี้อีกครั้งด้วย?

“เข้าใจแล้วครับ” เฉินตงไม่ได้ถามอะไรต่อ

แล้วรีบก้าวอาดๆ จากไป

“นายท่าน คุณชายโตขึ้นเร็วมาก”

คุนหลุนยิ้มพลางกล่าวออกมา “เกินความคาดหมายของพวกเราทุกคน”

“จริงด้วย ความสามารถด้านการต่อสู้ของเขา ขนาดฉันยังมองไม่ออก” เฉินเต้าหลินยิ้มอย่างประหลาดใจ “แกเคยถามเขาเรื่องชีวิตในวัยเด็กบ้างไหม”

“เคยถามครับ คุณชายก็ไม่รู้เหมือนกัน”

คุนหลุนส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างหม่นหมอง เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาอีกว่า “ผมไม่รู้ว่านายท่านกำลังสงสัยใคร แต่ผมรู้จักนิสัยของนายท่านดี ผมคิดว่าการที่นายท่านพยายามปิดบังคุณชายไปตลอดแบบนี้คงไม่ดีต่อคุณชายเท่าไหร่ ทำแบบนี้จะยิ่งทำให้นายท่านลำบากมากยิ่งขึ้นด้วย สถานการณ์จะยิ่งไม่ดีต่อนายท่านมากขึ้น”

“เห๊อะ!”

เฉินเต้าหลินตัวสั่นก่อนจะหัวเราะเยาะ “คนเป็นพ่ออย่างฉัน แต่ไม่เคยอยู่ข้างกายเขาเลยตลอดยี่สิบกว่าปี ไม่เคยมอบความสุขความอุ่นใจให้เขาในวัยเด็ก ตอนนี้หลานเอ๋อจากไปแล้ว ถ้าฉันยังลากตงเอ๋อเข้ามาอยู่ในความยากลำบากเช่นนี้อีก ฉันจะยังสมควรถูกเรียกว่าพ่ออยู่อีกหรอ”

ระหว่างที่พูด สีหน้ายิ้มแย้มของเฉินเต้าหลินก็เริ่มซีดขาว

เลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลทะลักออกมาจากปากของเขา

เลือดที่หยดลงบนพื้นได้ก่อให้เกิดหลุมเล็กๆ บนทะเลทรายที่มีเลือดเอ่อล้น……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset