“ความลับอะไร”
เฉินตงใจเต้น
ต้องเป็นเรื่องที่มีคนรู้น้อยเท่านั้น ถึงจะเป็นข้อมูลที่เขาอยากได้ที่สุด
ท่านหลงหักข้อมือ แล้วเริ่มเล่าอย่างจริงจัง
“อันที่จริงแล้วคุณนายใหญ่ไม่ได้แต่งเข้ามาในตระกูลเฉินอย่างมีหน้ามีตาอะไร”
เฉินตงทำปากจู๋ “นี่หรอที่บอกว่าเป็นความลับที่ท่านหลงกับพ่อผมรู้กันอยู่สองคน พ่อรวมทั้งคนรุ่นเดียวกับพ่อมีอีกตั้งหลายคน ถ้าไม่ได้แต่งเข้ามาอย่างมีหน้ามีตาก็คงจะไม่ได้มีแต่พวกคุณสองคนที่รู้หรอก”
“แน่นอนว่าเรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปิดบังทุกคนได้ แต่สาเหตุของการแต่งงานเป็นเรื่องที่สามารถปกปิดได้”
ท่านหลงยิ้มแปลกประหลาด “นายท่านเคยบอกว่า คุณนายใหญ่เป็นลูกคุณหนูของผู้ดีตระกูลหนึ่ง แต่ตอนที่ไปร่วมงานเลี้ยงงานหนึ่งก็ได้ไปเริ่มทำความรู้จักกับสามีของเธอเข้า ซึ่งคนคนนั้นก็คือคนวงนอกตระกูลเฉินผู้นั้น”
เมื่อเล่าถึงตอนนี้ รอยยิ้มของท่านหลงก็ยิ่งแปลกประหลาดมากยิ่งขึ้น
เขาตั้งใจลดเสียงต่ำลงจนเหลือเพียงเฉินตงคนเดียวที่จะได้ยิน
“และก็เป็นเพราะงานเลี้ยงครั้งนั้น คนวงนอกตระกูลเฉินคนนั้นได้กินเหล้าเข้าไปจนข่มขืนคุณนายใหญ่ ตระกูลของคุณนายใหญ่กลัวเสียหน้าเลยบังคับให้คุณนายใหญ่แต่งงานเข้าตระกูลเฉิน”
เปรี้ยง!
เฉินตงตัวแข็งทื่อเป็นหุ่น
“ฮู้ว!”
เขาอดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเย็นเข้าไปลึกๆ ใจเขาเริ่มเต้นแรงขึ้น “เรื่องนี้ถือเป็นความลับสุดยอดจริงๆ”
หากป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไป ด้วยฐานะของตระกูลเฉินแล้ว จะต้องสร้างความตกตะลึงให้กับคนทั้งโลกอย่างแน่นอน
การรักษาหน้าตาของตระกูลร่ำรวยถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
การก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นในครั้งนั้นเป็นเหตุให้เกิดการแต่งงาน ถ้ามีคนนอกรู้เรื่องนี้เข้า นับว่าเพียงพอต่อการทำให้ตระกูลเฉินตกบัลลังก์ได้
เรื่องราวของพ่อฉินเย่เรื่องนั้นเพียงเรื่องเดียวก็ทำให้พอเดาเรื่องราวทุกอย่างได้
แต่ผิดที่พ่อของฉินเย่เอง ดังนั้นตอนนั้นเรื่องที่ฉินเย่ฆ่าพ่อจึงยังมีโอกาสให้รอดชีวิตไปได้อีกครั้ง
คนนอกต่างรู้ว่าฉินเย่ฆ่าพ่อของตนเอง แต่ไม่เคยมีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงต้องฆ่าพ่อตัวเอง
เรื่องของคุณนายใหญ่ตระกูลเฉิน ก็นับว่าเป็นเรื่องราวที่มีเหตุผลคล้ายคลึงกัน
“และเพราะเรื่องนี้ที่ทำให้เกิดการแต่งงานขึ้น ดังนั้นหลังจากแต่งงานคุณนายใหญ่ก็ไม่ได้หลับนอนกับรุ่นพี่คนนั้นอีก แถมกระผมยังเคยได้ยินนายท่านเล่าว่าการทำผิดพลาดเพียงครั้งเดียวครั้งนั้น ยังทำให้คุณนายใหญ่ตั้งท้อง แต่คุณนายใหญ่ที่มีแต่ความอับอายและเกลียดชังจึงแอบเอาเด็กออก”
ท่านหลงค่อยๆ เล่า “และคุณนายใหญ่ก็ไม่มีทายาทสืบสกุลอีกต่อไปด้วยสาเหตุนี้”
“จะว่าไป เธอก็เด็ดเดี่ยวอยู่เหมือนกันนะ”
เฉินตงยิ้มอย่างมีความหมาย “คนยิ่งใหญ่โตเท่าไหร่ สุดท้ายก็กลายเป็นเพียงเครื่องเซ่นไหว้ของตระกูลร่ำรวยเท่านั้น”
“ใช่ครับ เรื่องนี้หลังจากที่คนรุ่นเดียวกับคุณนายใหญ่เสียชีวิตกันไปหมดแล้ว ก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องลึกลับมากขึ้นทุกที ในบ้านตระกูลเฉิน คนที่รู้เรื่องนี้ก็มีเพียงนายท่านกับกระผมเท่านั้น”
ท่านหลงส่งเสียงออกมาอย่างเยาะเย้ย “กระผมยังโชคดีที่นายท่านเชื่อใจ คอยดูแลอาหารการกินและชีวิตประจำวันของนายท่าน เลยเคยได้ยินเรื่องนี้”
หยุดไปครู่หนึ่ง ท่านหลงจึงถามว่า “ทำไมคุณชายถึงถามเรื่องนี้หรือ”
“ไม่มีอะไร ก็แค่อยากรู้”
เฉินตงส่ายหน้าและตอบไปส่งๆ
เขาแค่อยากสืบให้รู้ว่าเพราะอะไรที่พ่อถึงเตือนให้เขาระวังคุณนายใหญ่ตระกูลเฉิน
แต่ความลับที่ท่านหลงเล่าให้ฟังนี้ ก็ไม่ทำให้ค้นเขาหาสาเหตุเจอ
เพราะเป็นได้แค่เพียงเรื่องซุบซิบนินทาเท่านั้น
คนที่ต้องตกเป็นเครื่องเซ่นไหว้เพื่อรักษาหน้าตาของตระกูลร่ำรวยอย่างคุณนายใหญ่ ถ้าไม่มีความโกรธแค้นต่างหากถึงจะเป็นเรื่องแปลก
หรือจะกล่าวอย่างไม่ให้เกียรติได้อีกอย่างหนึ่งว่า รุ่นพี่ตระกูลเฉินผู้นั้นหากเขามีหน้าตาในตระกูลเฉินสักหน่อย บางทีคุณนายใหญ่อาจจะลดความคับแค้นใจลงได้บ้าง
แต่การโดนข่มขืน ถูกบังคับแต่งงานและการเป็นคนวงนอกของตระกูลเฉิน เมื่อหลายๆ อย่างเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันแล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณนายใหญ่จะไม่มีทายาท
……
การรอคอยที่ยาวนานได้สิ้นสุดลงเมื่อไฟในห้องฉุกเฉินดับลงตอนค่ำ
คุนหลุนถูกส่งตัวออกมาอยู่ห้องผู้ป่วยธรรมดา เฉินตงจึงคลายความกังวลลงได้มาก
หลังจากให้หมอและพยาบาลรักษาบาดแผลของตนเองแล้ว เฉินตงกับท่านหลงไม่ยอมไปไหนเพื่ออยู่เฝ้าคุนหลุนในห้องผู้ป่วยด้วยกัน
เจิ้งจุนหลินได้จัดบอดี้การ์ดมากว่าสามสิบคน เฝ้าบริเวณรอบๆ ห้องผู้ป่วยแน่นขนัด
นี่ทำให้เฉินตงเบาใจลงไม่น้อย
การเปิดเผยตัวในงานเลี้ยงตระกูลเจิ้งครั้งนี้ นำมาซึ่งความอันตรายถึงชีวิต
แม้ว่าปลายมีดจะหันไปที่พ่อ แต่เขาจะไม่ป้องกันตัวเองเลยก็ไม่ได้
เมื่อผ่านเหตุการณ์ที่เป็นตายเท่ากันมาแล้ว เฉินตงจึงเหนื่อยล้าอย่างมาก
การเฝ้าอยู่ในห้องคนป่วย ทำให้ความง่วงอย่างรุนแรงโจมตี
เขาหลับไปบนโซฟา
แก๊กๆ……
ในระหว่างที่สติสัมปชัญญะเลือนราง เฉินตงรู้สึกว่ามีสิ่งของเล็กๆ หล่นมากระทบใบหน้าของตนแล้วตกลงไปบนพื้น
เขาลืมตาขึ้นช้าๆ จึงเห็นว่าคุนหลุนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยได้สติกลับมาแล้ว
บรรยากาศด้านนอกหน้าต่างมืดสนิท มีเพียงแสงจากโคมไฟในห้องผู้ป่วย
เวลานี้คงดึกมากแล้ว เพราะแม้แต่ท่านหลงเองก็ผล็อยหลับไปแล้ว
แต่ภายใต้แสงไฟสลัวนี้ สีหน้าของคุนหลุนดูจะซีดไปสักหน่อย และจ้องเขม็งมาที่เฉินตง คิ้วของเขาขมวดจนเกิดริ้วรอย
ความดีใจของเฉินตงกลับกลายเป็นคนพรั่นพรึงขึ้นมาในทันที
เขาเตรียมจะลุกขึ้น
แต่กลับเห็นสายตาจ้องเขม็งของคุนหลุน
เกิดเรื่องแล้ว!
หัวใจของเฉินตงกระตุกวูบในทันที เขาจึงรีบบังคับให้ตัวเองไม่ลุกขึ้นมาแล้วนอนกลับลงไปยังโซฟา สายตาจ้องมองไปที่คุนหลุน
และจริงอย่างที่คาด
สายตาของคุนหลุนเคลื่อนไหวส่งสัญญาณไปที่ด้านนอกหน้าต่าง
เฉินตงเบนสายตาไปทางด้านนอกหน้าต่าง ในความมืดมิดยามค่ำคืน เขาเห็นเพียงแสงไฟจากโรงพยาบาลเท่านั้น
อย่างอื่นนอกจากนี้ ดูปกติไร้เรื่องราว
แต่เมื่อเขาดึงสายตากลับมา เขาพลันเห็นด้านบนตึกของตึกตรงกันข้ามสะท้อนแสงริบหรี่ออกมา
เขาเพ่งมอง แสงริบหรี่นั้น แล้วพบว่ามันหายไปแล้ว
แต่นี่ก็เพียงพอแล้ว
จากความรู้ของเฉินตง สิ่งที่สามารถสะท้อนแสงริบหรี่อ่อนๆ แบบนั้นมีแค่…เลเซอร์ของปืนไรเฟิลเท่านั้น
ภายในเวลาชั่วพริบตา
เฉินตงลุกพรวดขึ้น และถลาตัวไปยังผ้าม่าน หลังจากกลิ้งตัวไปรอบหนึ่งแล้วก็ดึงผ้าม่านให้เปิดออก
ในเวลาเดียวกัน
คุนหลุนที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยก็ลุกพรวดขึ้นนั่ง เขาพลิกตัวและผลักท่านหลงที่นอนหลับอยู่ข้างเตียงกลิ้งไปกับพื้น พร้อมกับออกแรงถีบเตียงผู้ป่วยให้ล้มลง
ปั้ง!
เสียงปืนดังขึ้นระเบิดความเงียบยามค่ำคืน
กระสุนทะลุผ่านกระจกเข้ามา เจาะทะลุเตียงไม้และกระแทกลงบนพื้นดัง “ปั้ง”
“คุนหลุน ท่านหลง!”
เฉินตงที่ซ่อนตัวอยู่ตรงขอบหน้าต่างสีหน้าแปรเปลี่ยน
“ไม่เป็นไร ยิงพลาด”
คุนหลุนกล่าวตอบ ตอนนั้นเฉินตงจึงถอนหายใจเฮือก
ต่อจากนั้นในทันที เฉินตงจึงเห็นท่านหลงปีนออกมาจากด้านหลังเตียงไม้ด้วยความตื่นตระหนก
“ผมจะให้บอดี้การ์ดตามไป”
ท่านหลงล้มลุกคลุกคลานวิ่งออกไปจากห้องผู้ป่วย
ในเวลาอันรวดเร็ว เฉินตงพลันได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคนดังมาจากทางด้านนอก
ตอนนั้นประตูห้องที่แง้มอยู่ก็ถูกเปิดออก บอดี้การ์ดสิบกว่าคนวิ่งเข้ามา
เฉินตงตั้งสติ แล้วรีบก้มตัวเดินไปยังเตียงผู้ป่วย
เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ หลังของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อชุ่ม
หากระหว่างที่เขาหลับสนิท คุนหลุนไม่ได้ปลุกเขาขึ้นมา กระสุนปืนเมื่อครู่นี้ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะฝังอยู่ในร่างใคร
ทว่าเมื่อเห็นบาดแผลของคุนหลุนแล้ว สีหน้าของเฉินตงพลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง
เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรงเมื่อครู่นี้ บาดแผลของคุนหลุนที่ถูกยิงกลับมีรอยเลือดซึมดวงใหญ่ออกมาแล้วลามไปทั่วทั้งครึ่งตัวล่างของเขา
“คุณชาย ผมไม่เป็นไร” คุนหลุนพยายามข่มกลั้นความเจ็บปวดแล้วฝืนยิ้มออกมา
“แม่งเอ๊ย!”
เฉินตงสบถออกมา ก่อนจะหันหน้าไปทางบอดี้การ์ดด้านในห้องสิบกว่าคนแล้วแผดเสียงลั่นออกไป “ออกไปตามจับมือปืนมาให้ได้ จับเป็นต้องเห็นตัว จับตายต้องได้เห็นศพ!”