Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 448 ความทุกข์ใจของกู้ชิงหยิ่ง

ผ่านไปไม่กี่นาที

ท่านหลงก็พาทุกคนกลับมา

“คุณชาย มันหนีไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ปืนไรเฟิลกระบอกนี้” ท่านหลงยื่นกระบอกปืนไรเฟิลให้เฉินตง

เฉินตงไม่พอใจ “ถ้าคุนหลุนไม่บังเอิญตื่นขึ้นมาพอดี พวกเราคงจะกลายเป็นศพสามศพอยู่ที่ห้องผู้ป่วยแล้ว”

คุนหลุนนอนอยู่บนพื้น ยิ้มอย่างไร้อารมณ์

“คุณชายจะโทษบอดี้การ์ดพวกนี้ก็ไม่ได้นะครับ การที่มันจะลงมือคงจะวางแผนเส้นทางการหนีเอาไว้แล้ว ระยะห่างระหว่างตึกแค่นี้ จากเวลาที่ท่านหลงกับพวกตามไปก็น่าจะเพียงพอสำหรับการหลบหนีได้แล้ว”

ระหว่างที่เขาพูด เขาก็รับปืนไรเฟิลมาจากมือของเฉินตงแล้วพลิกดู

เฉินตงไม่ได้สนใจอะไร และเอาแต่สั่งการเรื่องที่ต้องจัดการต่อไปกับท่านหลง

เสียงปืนที่ดังขึ้นกลางดึก ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากผ่านเหตุการณ์ซุ่มยิงแล้ว ห้องนี้ก็ไม่ปลอดภัยอีกจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนห้องใหม่

ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังจัดการธุระกันอย่างวุ่นวายนั้น

ไม่มีใครสังเกตคุนหลุนที่กำลังพลิกปืนไรเฟิลอยู่ว่า แววตาของเขาที่เจือความแปลกประหลาดบางอย่างจ้องเขม็งไปที่ตำแหน่งปลายด้ามจับและหยุดมองอยู่สองวินาที

หลังจากที่เฉินตงจัดการธุระเสร็จแล้ว และหมอได้เข้ามาทำแผลให้คุนหลุนเรียบร้อยแล้ว

หลังจากเปลี่ยนห้องแล้ว เฉินตงกับท่านหลงก็ไม่รู้สึกง่วง

ส่วนคุนหลุนที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ก็คล้ายว่ากำลังครุ่นคิดบางอย่าง

ผ่านไปพักใหญ่

คุนหลุนจึงเอ่ยว่า “คุณชาย ท่านหลง พรุ่งนี้พวกเรากลับกันเถอะ”

“พรุ่งนี้?”

เฉินตงมองคุนหลุนอย่างประหลาดใจ “แผลของพี่ หมอกำชับไว้แล้วว่าอย่างน้อยต้องอยู่ในโรงพยาบาลหนึ่งอาทิตย์ ถึงจะออกได้”

เวลาหนึ่งสัปดาห์เป็นเพียงเวลาที่พ้นขีดอันตรายแล้วเท่านั้น ถ้าต้องการจะหายขาดคงต้องใช้เวลาอีกมาก

“พรุ่งนี้แหละครับ ผมทนได้”

คุนหลุนกล่าวยืนยัน “ตอนนี้ก็ได้พบนายท่านแล้ว เมื่อคืนก็มีมือปืนโผล่มาอีก ที่นี่ไม่ใช่พื้นที่ของพวกเรา ผมกังวลว่าจะเกิดเรื่องใหญ่กว่านี้ขึ้นอีก”

เกิดประกายขึ้นในดวงตาของท่านหลงก่อนจะเอ่ยว่า “คุณชาย เอาตามที่คุนหลุนว่าเถอะครับ นั่งเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไปคงจะไม่มีอันตรายอะไร กลับไปยังพื้นที่ของเรา จะได้ส่งตัวคุนหลุนไปโรงพยาบาลลี่จิงด้วย ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นพวกเราคงรับมือได้ดีกว่าอยู่ที่นี่”

เฉินตงพิจารณาอยู่สองสามวินาทีก่อนจะพยักหน้าอย่างไร้ทางเลือก

อยู่ที่นี่ค่อนข้างจะมีอุปสรรคจริงๆ แต่ด้วยฝีมือของตระกูลเจิ้งนั้น แน่นอนว่าย่อมใช้อิทธิพลที่มีปิดเรื่องนี้เป็นความลับได้

แต่ประเด็นที่สำคัญคือ ตระกูลเจิ้งกับจุนหลิน กรุ๊ปเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้เขา ถ้าไม่จนหนทางจริงๆ เขาก็ไม่อยากลากตระกูลเจิ้งมาใกล้ชิดกับเขามากนัก

เช้าวันรุ่งขึ้น

ท่านหลงจัดการขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยตั้งแต่เช้าตรู่

เจิ้งจุนหลินพาบอดี้การ์ดมาคุ้มกันด้วย ขบวนรถยิ่งใหญ่จึงมุ่งหน้าไปยังสนามบินที่อยู่ใกล้เมืองนี้มากที่สุด

โชคดีที่ตลอดทางจนถึงตอนที่เครื่องบินออกไม่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติขึ้น

เฉินตงถอนใจสายตาของเขาลึกล้ำ

ส่วนคุนหลุนนั้นท่าทางยกผู้เขาออกจากอก

เวลาหนึ่งทุ่มตรง

เครื่องบินลงจอดที่สนามบินชานเมือง

ฟ่านลู่กับกูหลังมารอที่สนามบินได้พักใหญ่แล้ว

หลังจากขึ้นรถแล้ว เฉินตงพาตัวคุนหลุนไปส่งที่โรงพยาบาลก่อน โดยมีฟ่านลู่คอยคุ้มกัน

หลังจากนั้นจึงกลับวิลล่าเขาเทียนซานพร้อมกับท่านหลงและกูหลัง

เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว เฉินตงยังคงไม่รู้สึกง่วง

เขาขึ้นไปนั่งตากลมยามราตรีอยู่บนดาดฟ้าอย่างหนักใจพลางดื่มเบียร์ไปด้วย

ท่านหลงเดินตามขึ้นมาพร้อมถือบะหมี่มาด้วยหนึ่งชาม

“คุณชาย เดินทางมาไกล กินอะไรหน่อยเถอะครับ”

“ไม่อยากกิน” สายตาของเฉินตงวับไหว เขายิ้มพลางวางเบียร์ในมือลง “ท่านหลงรู้สึกไหมว่าตั้งแต่เมื่อวานที่พวกเราโดนซุ่มยิง ท่าทางของคุนหลุนก็แปลกไป”

“ดูวุ่นวายใจใช่ไหม” ท่านหลงกล่าว

“สังเกตเหมือนกันหรอ”

เฉินตงใช้มือทั้งสองข้างเท้าหัวเอาไว้แล้วเอนตัวลงบนเก้าอี้ “เขาปิดบังไว้ได้ดี แต่ผมสัมผัสได้ว่าท่าทางการพูดการจาของเขาดูไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ ไม่เหมือนคุนหลุนคนเดิมที่เคยรู้จัก”

“บางทีเขาคงค้นพบอะไรบางอย่างเข้า” ท่านหลงยิ้ม “แต่ตอนนี้พวกเรากลับมาถึงที่นี่แล้ว หากเกิดอะไรขึ้นก็คงจะไม่เหมือนเมื่อคืนที่โต้ตอบอะไรไม่ได้เลย”

“ก็จริง ในเมื่อคุนหลุนไม่พูด แสดงว่าเขาคงมีเหตุผลของเขา อย่างที่พ่อเคยบอกเอาไว้ อะไรจะเกิดยังไงก็ต้องเกิด”

เฉินตงยิ้มด้วยสายตาที่ห่างไกลราวกับมีความคิดบางอย่าง

“คุณชาย วางแผนจะทำอะไรต่อครับ”

ท่านหลงบิดขี้เกียจก่อนจะพิงที่เก้าอี้ “บรรยากาศในบ้านมันเงียบเหงาอย่างไรก็ไม่รู้”

“ที่ถามหมายถึงเรื่องของเสี่ยวหยิ่งใช้ไหม”

เฉินตงรู้ทันและยิ้มออกมา “พรุ่งนี้ผมจะไปหาเธอ เรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นความผิด แต่ยังไงก็เป็นความผิดของผม”

“คุณชายทำอะไรผิด?”

ท่านหลงประหลาดใจ “กระผมแค่อยากจะเตือนให้คุณชายรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด แต่ไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกใครผิด”

“เสี่ยวหยิ่งร้องไห้คือความผิดของผม” เฉินตงหยักไหล่ แล้วตำหนิตัวเอง “ผมรับปากจะทำให้เธอมีความสุข แต่กลับมอบน้ำตาให้เธอ นี่ถือว่ายังผิดต่อเธอไม่มากพออีกหรือ”

ท่านหลงมองเฉินตงอย่างลึกซึ้ง

ครู่ใหญ่

เขาจึงค่อยๆ กล่าวออกมาว่า “กระผมจะดูแลทางนี้เอง งานทุกอย่างจะไม่บกพร่อง หวังว่าคราวนี้คุณชายจะประสบความสำเร็จ พาคุณนายน้อยกลับมาได้”

เฉินตงยิ้ม เขารอให้ท่านหลงเดินออกไป

ตอนนี้ อีกฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกที่เสี่ยวหยิ่งอยู่คงจะเป็นตอนกลางวัน?

เฉินตงหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วลองโทรหาเบอร์ของกู้ชิงหยิ่ง

ทว่าพอเสียงรอสายดังก็ถูกตัดสายไปทันที

เฉินตงไม่แปลกใจ และลองโทรอีกประมาณสิบกว่าครั้ง ทุกครั้งก็ลงเอยเหมือนกัน

เขาเลยส่งข้อความไปหากู้ชิงหยิ่ง “ที่รัก ผมผิดไปแล้ว”

เขารอคอยอยู่เป็นเวลานาน แต่ข้อความก็เปรียบเหมือนหินที่ตกลงสู่ก้นทะเล

เฉินตงไม่รู้สึกท้อถอย เขาเอามือทั้งสองเท้าศีรษะเอาไว้ แล้วเหม่อมองไปยังท้องฟ้า พลางบ่นพึมพำว่า “เสี่ยวหยิ่ง พรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณ”

อีกฝั่งหนึ่งของมหาสมุทร

ตอนนี้เป็นเวลาสายๆ

หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้วมองกู้ชิงหยิ่งแล้วเหลือบมองโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ กู้ชิงหยิ่ง

“เป็นสายกับข้อความของตงเอ๋อใช่ไหม”

กู้ชิงหยิ่งทำหน้าไม่ทุกข์ร้อน เธอเอ่ยด้วยสายตามืดมน “ไม่รับ ไม่ตอบ”

“แต่แม่คิดว่าพวกหนูควรคุยกันดีๆ”

หลี่หวั่นชิงเอ่ยเสียงราบเรียบและกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “เรื่องนี้ไม่ว่าใครถูกใครผิด ไม่ว่าสุดท้ายผลจะเป็นอย่างไร ลูกทั้งสองคนควรค่อยๆ คุยกัน ถ้าหากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป คงไม่ดีกับใครทั้งนั้น”

“แม่……”

กู้ชิงหยิ่งเริ่มร้อนใจ เมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่นี้ สีหน้าของเธอก็เริ่มร้อนรน

เธอลุกพรวดขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ พิงชักโครกเอาไว้ แล้วพยายามจะอาเจียน

หลี่หวั่นชิงรีบตามเข้าไป แล้วช่วยลูบหลังให้กู้ชิงหยิ่งอย่างเห็นใจ

หลังจากอาเจียนเรียบร้อย กู้ชิงหยิ่งก็หมดแรง เธอนั่งหน้าซีดอยู่บนพื้น ดวงตาของเธอแดงก่ำคลอไปด้วยน้ำตา

เธอก้มหน้าลงมองท้องที่เริ่มนูนออกมา แล้วร้องไห้โฮออกมา

“ลูกเข้มแข็งกว่านี้ไม่ได้หรอ ตอนนี้แม้แต่ลูกก็ทำให้แม่ต้องทรมานอีกหรอ”

“เสี่ยวหยิ่ง พูดเหลวไหลอะไร”

หลี่หวั่นชิงสีหน้าจริงจัง “การแพ้ท้องเป็นเรื่องธรรมดามาก ทำไม้ต้องโทษเด็กด้วย”

เมื่อกลับมาอยู่ที่นี่ กู้ชิงหยิ่งก็เริ่มแพ้ท้อง ความรู้สึกทรมานแบบนี้ ต้องเป็นคนที่เคยผ่านมาด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะเข้าใจ

และเป็นเพราะเห็นเหตุการณ์อยู่ตลอด หลี่หวั่นชิงจึงรู้สึกสงสารลูกสาวมาก

ด้านหนึ่งก็ต้องเสียใจจากเรื่องของเฉินตง ส่วนอีกด้านก็ต้องทรมานกับอาการแพ้ท้อง ความกดดันทั้งทางร่างกายและจิตใจเช่นนี้เองที่ทำให้หลี่หวั่นชิงอยากให้กู้ชิงหยิ่งคุยกับเฉินตงดีๆ

เธอคงไม่ปล่อยให้เรื่องราวทั้งหมด ทำให้ลูกสาวของเธอต้องลำบากอย่างนี้

“แม่คะ หนูทรมานจัง”

กู้ชิงหยิ่งพุ่งเข้าไปซบตรงอกของหลี่หวั่นชิงแล้วร้องไห้ “หากเป็นเฉินตงคนก่อน ป่านนี้เขาคงมาหาหนูตั้งนานแล้ว”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset