Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 38 เกาะคนกินโดยไม่รู้ตัว

บทที่ 38 เกาะคนกินโดยไม่รู้ตัว

เวลาใกล้เที่ยง

เฉินตงกำลังจะออกจากบริษัท เพื่อไปเจรจาเรื่องสัญญา

ทันใดนั้น เสี่ยวหม่ารีบร้อนวิ่งเข้ามาที่ห้องทำงาน

“พี่ตงครับ แย่แล้ว!”

เฉินตงขมวดคิ้วและยกแก้วน้ำชาขึ้นมาจิบหนึ่งคำ: “เรื่องอะไร?”

“ประธานบริษัทลี่ยิงมาที่บริษัทเราด้วยตนเองแล้ว” เสี่ยวหม่าพูด

พู่!

น้ำชาในปากของเฉินตงพุ่งออกมาทันที สีหน้าตกตะลึง

ถึงว่าเสี่ยวหม่ารีบร้อนใจขนาดนี้

ลี่ยิงคือบริษัทวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ บริษัทอสังหาที่ร่วมมือกันก็มีแต่บริษัทที่อยู่สิบลำดับต้นๆ

บริษัทอย่างไท่ติ่ง ในสายตาลี่ยิง ก็แค่เนื้อมด

ถึงแม้จะมีสัญญาของโครงการปรับเปลี่ยนย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองอยู่ในมือ เรื่องเจรจาก็ควรจะเป็นพวกเขาที่จะเป็นฝ่ายเข้าไปหาบริษัทลี่ยิง

“ไปดูซิ”

เฉินตงลุกขึ้น เดินตามเสี่ยวหม่าออกไปด้านนอก

ในห้องประชุม

จางเห้อหมิงขมวดคิ้วแน่น ในมือถือสัญญาและในเสนอราคา แต่ในใจของเขากำลังหยดเลือด

แค่คำว่าต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ของกู้ชิงหยิ่ง ทำให้แผนการอันดีของเขาที่วางไว้ก่อนหน้านั้น ถูกฟันจนย่อยยับในพริบตา

ราคาบ้านในย่านเมืองตะวันตกที่พุ่งขึ้นตามลำดับ บริษัทอสังหาริมทรัพย์สิบลำดับต้นของเมืองเราต่างอิจฉากันจนตาแดงมาก

ส่วนตัวเขาก็รู้ดี ในนี้สามารถทำกำไรได้สูงขึ้นเยอะมาก

นี่คือเค้กก้อนใหญ่ ที่กำลังส่องประกายเป็นสีทองเลยทีเดียว

อีกทั้งยังเป็นที่แน่นอนว่ามีแต่บริษัทลี่ยิงเท่านั้นที่สามารถทำได้

ดังนั้นเขาถึงแกล้งทำเป็นยืดเยื้อกับไท่ติ่ง พยายามหาทางเอากำไรให้ได้มากที่สุด

แต่ว่า ลูกสาวคนเดียวของเจ้านายใหญ่กู้ชิงหยิ่ง ทำการตัดสินใจเช่นนี้ เขาไม่สามารถคัดค้านได้

ตอนที่เฉินตงและเสี่ยวหม่าเดินมาถึงห้องประชุม เห็นท่าทางของจางเห้อหมิงที่กำลังรู้สึกเจ็บอกเจ็บใจพอดี

เฉินตงทำท่านิ่งๆและยิ้มเล็กน้อย: “ท่านประธานจางมาเยือนถึงที่ ต้องขออภัยที่เสียมารยาทให้ท่านต้องรอ”

“ประธานเฉิน” จางเห้อหมิงยิ้มอย่างขมขื่น จับมือกับเฉินตง แล้วก็พูดว่า: “ครั้งนี้บริษัทไท่ติ่งของคุณกำลังจะบินไกลแล้วนะครับ”

คุณค่าของโครงการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ย่านสลัมภาคตะวันตกของเมือง เฉินตงเข้าใจดี

เขายังรู้อีกว่า เจ้าของบริษัทอสังหาทั้งหมดต่างก็อิจฉาตาร้อนจนจะกลายเป็นกระต่ายอยู่แล้ว

สำหรับคำพูดแบบนี้ เขาไม่ถอนตัว ยิ้มๆเล็กน้อย

เพี๊ยะ!

จางเห้อหมิงวางใบเสนอราคาวางลงบนโต๊ะ: “คุณดูก่อนนะครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเราสามารถเซ็นสัญญานี้ให้เรียบร้อยได้เลย”

เฉินตงตะลึง เสี่ยวหม่าที่ยืนอยู่ข้างๆก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

บริษัทลี่ยิงทำไมปล่อยวางอย่างกะทันหัน?

ท่านประธานจาง ยังวิ่งมาเซ็นสัญญาด้วยตนเองอีกด้วย?

เฉินตงหยิบสัญญาขึ้นมาเปิดดูด้วยความแปลกใจ

แค่ดูไปได้สองหน้า เขาก็ตกใจแล้ว: “ท่านประธานจาง คุณแน่ใจหรือเปล่าครับว่าไม่ได้หยิบสัญญามาผิด?”

“บนนั้นยังมีชื่อฝ่ายA/B จะผิดได้ยังไงครับ” จางเห้อหมิงเอามือนวดขมับ เขารู้สึกเจ็บกะโหลกนิดหน่อย

เฉินตงเปิดดูสัญญาอย่างรวดเร็ว แต่คิ้วขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

เขาไม่รู้ว่าจริงๆว่ามีปัญหาตรงไหน!

ราคาวัสดุที่เสนอมาทั้งหมด ต่ำกว่าก่อนหน้านั้นตั้งสามเปอร์เซ็นต์ แม้กระทั่งวิธีการชำระเงิน ยังเปลี่ยนเป็นจ่ายทีละไตรมาส ก่อนหน้านั้นต้องจ่ายทุกเดือนนะ!

จ่ายเงินเป็นไตรมาส นั่นคือวิธีการจ่ายเงินที่บริษัทลี่ยิงมั่นใจในความสามารถของคู่ค้าถึงจะสามารถทำได้

สัญญาฉบับนี้ สำหรับเขาและบริษัทไท่ติ่งแล้ว มันเหมือนทองตกลงมาจากฟ้าชัดๆ!

แม้กระทั่งตัวเขาเอง ยังตกใจจนเนื้อกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้

ดูสัญญาจนจบอย่างรวดเร็วแล้ว เฉินตงยื่นสัญญาให้เสี่ยวหม่า

เสี่ยวหม่าเปิดดูไปแค่หน้าเดียว ตกตะลึงทันที: “เชี่ย!”

ตกใจจนร้องเสียงดังออกมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที รีบหันไปขอโทษเฉินตงและจางเห้อหมิง

จากนั้น เสี่ยวหม่าก็ก้มหน้าดูสัญญา ยิ่งดูยิ่งตกตะลึง สีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก

“ไม่ต้องดูแล้ว สัญญาฉบับนี้ ทำให้ผมเจ็บใจ” จางเห้อหมิงดูอย่างอัดอั้นใจ

“เสี่ยวหม่า เอาปากกามา”

เฉินตงยิ้มเล็กน้อยและพูด

สัญญาฉบับนี้ เซ็นเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว

จับมือกันแล้ว จางเห้อหมิงกล่าว: “อีกอย่าง ตั้งแต่วันนี้ไป ผมคือรองประธานบริษัทลี่ยิงแล้ว สัญญาฉบับนี้ คุณต้องขอบคุณท่านประธานคนใหม่ของเรา”

เฉินตงส่งจางเห้อหมิงออกจากบริษัทด้วยความสงสัย

เสี่ยวหม่าอดกลั้นความตื่นเต้นในใจและพูดว่า: “พี่ตงครับ บริษัทลี่ยิงเปลี่ยนทัศนคติกับบริษัทเรามากเกินไปแล้ว คุณว่าท่านประธานคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่งที่บริษัทลี่ยิง เค้าเสียสติหรือเปล่า?”

อย่าว่าแต่เสี่ยวหม่าเลย แม้แต่ตัวเขาเองยังคิดเช่นนี้

ปรับราคาลงสามเปอร์เซ็นต์ เปลี่ยนเป็นชำระเงินทุกไตรมาส

นี่คือการช่วยเหลือไท่ติ่งชัดๆ!

“รีบทำงานเถอะ จางเห้อหมิงบริหารลี่ยิงมานานหลายปีขนาดนี้ ประธานคนใหม่ทำให้เขาต้องลดตำแหน่งลงไปเป็นรองประธาน ต้องมีฝีมือและความสามารถของเขา ถ้าเขาอยากช่วย บุญคุณครั้งนี้พวกเราและบริษัทไท่ติ่งต้องจดจำไว้แน่นอน”

เฉินตงตบๆไหล่ของเสี่ยวหม่า

ที่จริงเขาพอจะเดาออกเล็กน้อย

ตามที่เสี่ยวหม่าพูดเช่นนั้น บุญคุณที่ช่วยเหลือไท่ติ่งสามารถบินได้สูงขึ้นครั้งนี้ เขาไม่มีทางที่จะลืม

หลังจากที่โครงการภาคตะวันตกของเมืองเสร็จเรียบร้อย ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ไท่ติ่งมีฐานะเปลี่ยนไปมาก

หลังจากนี้การเจริญเติบโตของไท่ติ่ง ยังมีงานเยอะแยะมากมายที่ร่วมมือกัน

ถ้าจะให้พูดจริงๆล่ะก็ บางทีสายตาของท่านประธานคนใหม่กว้างไกลกว่าจางเห้อหมิง

แต่ว่า สัญญาช่วยเหลือฉบับนี้ ก็ยังทำให้เขารู้สึกฝืนความคิดของตนเองอยู่

แบ่งกำไรสามเปอร์เซ็น นี่เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยจริงๆ!

เฉินตงกลับไปนั่งในห้องทำงานด้วยความสงสัยและแปลกใจมาก

ปั้ง!

เสี่ยวหม่ารีบวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อนอีกครั้ง: “พี่ตง จาง ประธานจางกลับมาอีกแล้ว เขาอยากเปลี่ยน เปลี่ยนสัญญา!”

เฉินตงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที

เพิ่งจะเซ็นสัญญาเสร็จ ก็จะรีบกลับมาเปลี่ยน?

ทำเหมือนเด็กเล่นขายของรึไง?

ไม่รอให้เขาลุกขึ้น จางเห้อหมิงเดินเข้ามาที่ห้องทำงานทันที

สีหน้าของเขาในตอนนั้น ดำจนเหมือนถ่านอย่างนั้น

เขาไม่รู้ว่ากู้ชิงหยิ่งคิดยังไงจริงๆ

เพิ่งจะเดินออกจากไท่ติ่ง โทรมากริ๊งเดียวให้เขากลับมาอีกครั้ง อีกอย่างข้อมูลที่เปลี่ยนในสัญญา…..

“ท่านประธานจาง……” เฉินตงเอ่ยปากถาม

จางเห้อหมิงโบกมือ ขัดขวางคำพูดของเขา: “ไม่ต้องถามแล้ว เปลี่ยนข้อตกลงในสัญญาใหม่ วิธีชำระเงินเปลี่ยนเป็นจ่ายสิ้นปี!”

เปรี้ยง!

เฉินตงเหมือนถูกฟ้าผ่าอย่างนั้น สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เสี่ยวหม่ายิ่งตกใจพูดไม่ค่อยออก: “จริง จริงเหรอครับ?”

“ไม่ต้องพูดแล้ว เปลี่ยนเถอะ” จางเห้อหมิงหน้าบึ้ง นวดขมับอย่างแรง

“เสี่ยวหม่า รีบไป” เฉินตงพูดอย่างตกตื่นใจ

สัญญาที่ให้ความช่วยเหลือถึงขนาดนี้แล้ว เขาไม่รีบๆเซ็น งั้นก็โง่สิ?

ถึงแม้ไม่รู้ว่าประธานคนใหม่ของบริษัทลี่ยิงทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ แต่เขาไม่จำเป็นต้องโง่ไปสืบสาวให้ถึงที่สุด

ไม่ช้า สัญญาได้ถูกพิมพ์ขึ้นมาใหม่

จางเห้อหมิงไม่ดูก็เซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว

ที่จริงแล้ว ในใจของเขา สัญญาฉบับนี้มีข้อมูลอะไรยังไงบ้าง เขาไม่จำเป็นต้องดูแล้ว

กู้ชิงหยิ่งแก้สัญญาจนเป็นแบบนี้แล้ว ดูไปก็ไม่มีประโยชน์

เห็นจางเห้อหมิงจะเดินออกไป เฉินตงก็ยังอดใจไม่ไหวที่จะถามคำหนึ่งด้วยความดีใจ: “ท่านประธานจางครับ ประธานที่มาใหม่หมายความว่า…..”

“ไม่มีอะไร เธอไม่ได้หมายความว่าอะไรเลย”

จางเห้อหมิงโบกมือด้วยความหงุดหงิด แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

มันก็ไม่รู้เรื่องห่าอะไรเลยเหรอ!

ในเมื่อเจ้านายใหญ่รวย ลูกสาวอยากจะเผาผลาญทรัพย์สมบัติ ใครจะขัดขวางได้?

ตอนเย็น

เพื่อฉลองที่ได้เซ็น “สัญญาช่วยเหลือ”นี้สำเร็จ พนักงานบริษัทบ่นอยากจะฉลองสักหน่อย

เฉินตงยิ้มและหยิบเงินส่วนหนึ่งให้เสี่ยวหม่า ให้เขาพาพนักงานไปฉลอง

ส่วนเขา ยังต้องไปดูแลแม่ที่โรงพยาบาล

เมื่อวานตกลงกับกู้ชิงหยิ่งไว้แล้ว

ตอนที่เขาเดินออกจากบริษัท ก็มองเห็นรถปอร์เช่911จอดอยู่ข้างถนนอยู่ไกลๆ

นั่งขึ้นไปบนรถ หน้าตาของเฉินตงก็ยังนิ่งๆ ทำให้กู้ชิงหยิ่งตะลึงและแปลกใจ

“คนบ้างาน คุณทำไมสีหน้าไม่ค่อยดี?” กู้ชิงหยิ่งถาม ในใจคิดหรือว่าราคาที่เสนอไปยังสูงไปหน่อยรึเปล่า?

“ไม่มีอะไร ขับรถเถอะ” เฉินตงตอบ

“ชิ คุณไม่พอใจจริงๆนิ”

กู้ชิงหยิ่งสตาร์ทรถ ขับรถไปตามถนน: “พูดออกมาเร็วๆ ให้ฉันดีใจหน่อยซิ”

เฉินตงพยักหน้า เปิดปากยิ้ม: “บังเอิญว่า ผมก็รู้สึกดีใจจริงๆ วันนี้ได้เซ็นสัญญากับบริษัทวัสดุก่อสร้างลี่ยิงเรียบร้อยแล้ว อีกอย่างใบเสนอราคาวัสดุและวิธีการชำระเงิน ก็เข้าข้างทางบริษัทไท่ติ่งทั้งหมด อีกจางเห้อหมิงอดีตประธานลี่ยิงยังบอกว่า ประธานที่เพิ่งเข้ามาใหม่เป็นคนตัดสินใจ ผมกำลังแปลกใจเรื่องนี้แหล่ะ ดังนั้นจึงยิ้มไม่ออก”

“คริคริ……บางทีท่านประธานคนใหม่เค้าอาจจะชื่นชอบคุณไงล่ะ?”

กู้ชิงหยิ่งดีใจจนหัวเราะขึ้นมา

“พูดไปเรื่อย” เฉินตงเหล่ตามอง

กู้ชิงหยิ่งกระพริบกระพริบตาและตอบ: “เป็นยังไง? งานใหญ่สำเร็จแล้ว ท่านรองประธานอย่างคุณมีหน้ามีตาในบริษัทขึ้นมาบ้างป่าว? เจ้านายคุณชมคุณหรือเปล่า?”

เฉินตงทำสีหน้าหายใจไม่ออก

เขายังไม่ได้บอกกู้ชิงหยิ่งว่า ตอนนี้ตนเองก็คือเถ้าแก่ของบริษัทไท่ติ่ง

ตอนนี้……จะพูดดีไหม?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset