Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 454 นี่มันเรื่องอะไรกัน ?

สีหน้าของกู้โก๋ฮั๋วเปลี่ยนไป

กำลังจะเอ่ยเตือน

กลับถูกพ่อของเทียนอ้ายห้ามเอาไว้ : “น้องกู้ คนประเภทนี้ต้องสั่งสอนสักหน่อย วางใจเถอะ เทียนอ้ายรู้จักความพอดี”

กู้โก๋ฮั๋วเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกมา เมื่อเห็นท่าทางที่กู้ชิงหยิ่งร้องไห้อย่างหนัก เขาก็รู้สึกเหมือนมีมีดมากรีดที่หัวใจ จึงได้ข่มอารมณ์เอาไว้

หลี่หวั่นชิงเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ต้องได้รับการแก้ไข

หากยื้อต่อไป พวกเขาไม่รู้ว่าเฉินตงจะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับลูกสาวสุดที่รักของพวกเขาแล้ว ต้องถือเป็นความเจ็บปวดครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

ตอนนี้ ในเมื่อเฉินตงมาแล้ว เทียนอ้ายเองก็กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้ !

“หนูไม่อยากเจอเขา”

กู้ชิงหยิ่งส่ายหัวทั้งน้ำตา

เทียนอ้ายเลิกคิ้ว : “ครั้งนี้ไปเพื่อแก้แค้น ไม่ถือว่าเป็นการไปพบเขา !”

ขณะที่พูด เธอไม่ได้สนใจว่ากู้ชิงหยิ่งจะรับปากหรือไม่ แต่กลับลากกู้ชิงหยิ่งเดินออกไปด้านนอกทันที

“กล้ามาทำร้ายเพื่อนของฉันแบบนี้ วันนี้ฉันจะต่อยเขาให้ฟันร่วงหมดปากเลยคอยดู !”

ถึงแม้จะไม่ได้เจอกู้ชิงหยิ่งมาหลายปี แต่ความเป็นเพื่อนสนิทยังคงอยู่ ทั้งสองตระกูลเองก็สนิทสนมกัน ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องแบบนี้ หากเกิดกับผู้หญิงคนอื่น ก็คงทนไม่ได้เช่นกัน

ภรรยากำลังตั้งท้องอยู่ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือถูกสามีนอกใจ ?

ผู้ชายเลวๆ เช่นนี้ อย่าว่าแต่เกิดเรื่องกับกู้ชิงหยิ่งเลย ต่อให้เกิดเรื่องขึ้นกับคนแปลกหน้าคนอื่นๆ เทียนอ้ายก็ไม่อาจทนนั่งดูอย่างเฉยเมยได้แน่นอน

ผ่านไปห้านาที รถลัมโบร์กีนีก็ขับออกไปจากคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว

และหลังจากผ่านไปอีกสองนาที ก็มีรถโรลส์-รอยซ์ขับตามออกไปจากคฤหาสน์เช่นเดียวกัน

บนรถโรลส์-รอยซ์

กู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยารู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก แต่ใบหน้าของพ่อแม่เทียนอ้ายนั้น กลับเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

“น้องกู้ นายเป็นห่วงมากเกินไปหรือเปล่า ? เทียนอ้ายก็แค่ไปสั่งสอนคนคนหนึ่ง พวกเราต้องตามไปมากมายขนาดนี้เลยหรือ ?” พ่อของเทียนอ้ายรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“ผมไม่ค่อยวางใจคนหนุ่มสาวนัก ผู้ใหญ่อย่างพวกเราควรจะไปแอบสังเกตการณ์ดูสักหน่อย”

กู้โก๋ฮั๋วยิ้มเยาะออกมา

เขารู้ฐานะของเฉินตงดี และยิ่งรู้ดีว่าทักษะในการต่อสู้ของเฉินตงนั้นน่ากลัวขนาดไหน

ที่ตามไปก็เพราะเป็นห่วงกู้ชิงหยิ่งและเทียนอ้าย

ท้ายที่สุดแล้วใครจะสั่งสอนใครก็ยังไม่แน่

แต่สิ่งนี้ เขาก็ไม่กล้าพอที่จะพูดออกไป อย่างไรเสียที่เทียนอ้ายทำไปทั้งหมด ก็เพื่อช่วยระบายความแค้นให้กับกู้ชิงหยิ่ง

“ถือว่าคืนนี้จะมีทางออกที่ดี และทำให้เสี่ยวหยิ่งมีความสุขขึ้นมาได้สักเล็กน้อย” หลี่หวั่นชิงถอนหายใจด้วยความสงสาร

แม่ของเทียนอ้ายเองก็ถอนหายใจตามไปด้วย : “เด็กคนนี้ เอาแต่เก็บกดความรู้สึกของตนเองเอาไว้เช่นนี้ มิหนำซ้ำยังตั้งท้องอยู่ด้วย หากไม่ระบายอารมณ์ออกมาบ้าง จะต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่นอน”

อีกทางด้านหนึ่ง

ลัมโบร์กีนีซึ่งกำลังแล่นอยู่อย่างรวดเร็วบนถนน

กู้ชิงหยิ่งกำลังนั่งเหม่อลอย มือทั้งสองข้างกำโทรศัพท์เอาไว้แน่น

เทียนอ้ายซึ่งกำลังขับรถอยู่นั้น เต็มไปด้วยความโกรธ ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความแค้น

“เสี่ยวหยิ่ง ตอนนี้ไอ้หมอนั่นอยู่ที่ไหน ?”

กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว : “ฉันไม่รู้ หรือว่าพวกเราจะกลับกันก่อน ฉันไม่ยากพบหน้าเขาจริงๆ”

“ไม่ได้ไปพบหน้าเขาสักหน่อย แต่ไปสั่งสอนเขาต่างหาก !” เทียนอ้ายทุบกำปั้นด้วยความโกรธ “ไม่ต้องคิดอะไรมาก พอเจอเขาก็ต่อยเขาสักหมัดเพื่อระบายความแค้นให้เธอก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

“แต่ว่า……” แววตาของกู้ชิงหยิ่งดูเป็นกังวล

ยังไม่ทันพูดจบ เสียงของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

เมื่อเห็นเลขหมายที่โทรเข้ามา ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งก็เปลี่ยนไปทันที

เกิดความลังเลใจขึ้นมา

เมื่อเห็นภาพนี้ เทียนอ้ายก็รู้สึกประหลาดใจ : “ใครโทรมา ?”

กู้ชิงหยิ่งที่เพิ่งจะหยุดร้องไปไม่นาน กลับร้องห่มร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง

“เขาหรือ ?”

เทียนอ้ายเลิกคิ้ว จู่ๆ เธอก็แย่งโทรศัพท์มาจากกู้ชิงหยิ่งและกดรับสาย

เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “คุณอยู่ที่ไหน ?”

เฉินตงที่อยู่ในสายรู้สึกประหลายใจเล็กน้อย : “คุณคือใคร ?”

“ไม่ต้องสนใจว่าฉันเป็นใคร ตอนนี้ฉันกำลังพาเสี่ยวหยิ่งไปหาคุณ”

เฉินตงที่อยู่ในสาย นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

จากนั้นจึงบอกที่อยู่ออกมาด้วยความยินดี เป็นโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของกู้ชิงหยิ่งมากนัก

ตู๊ด !

หลังจากวางสายโทรศัพท์

เทียนอ้ายยื่นโทรศัพท์คืนให้กู้ชิงหยิ่ง จากนั้นจึงถือโอกาสตบไหล่กู้ชิงหยิ่ง : “พอได้แล้ว อีกเดี๋ยวฉันจะช่วยสั่งสอนเขาแทนเธอเอง”มองดูเทียนอ้ายที่กำลังโมโห และใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ในใจของกู้ชิงหยิ่งก็รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เหมือนมีหลากหลายอารมณ์ผสมปนเปและพัวพันกันอยู่

ต้องไป……พบเขาจริงๆ หรือ?

อีกทางด้านหนึ่ง หลังจากเฉินตงวางสายโทรศัพท์แล้ว ก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง จนไม่หลงเหลือร่องรอยของความทุกข์ก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย

เสียงของหญิงแปลกหน้าในสายโทรศัพท์ ทำให้เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน

แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

เขาไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ ตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจก็คือ ผู้หญิงคนนั้นกำลังพาเสี่ยวหยิ่งเดินทางมาหาเขา

นี่……ถือเป็นการช่วยเหลือครั้งใหญ่จริงๆ!

เฉินตงเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วอาบน้ำและแต่งตัวใหม่อีกครั้ง

จากนั้นก็เป็นการรอคอยที่ยาวนาน

เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง สายที่โทรเขามาปรากฏขึ้นเป็นชื่อ “ภรรยา” สองคำ ทำให้เฉินเติงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เขารีบรับโทรศัพท์ ปลายสายยังคงเป็นเสียงที่ฟังดูหยาบคายเมื่อครู่

“ออกมาที่ลานจอดรถของโรงแรม ! ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ !”

ตู้ด !

วางสายโทรศัพท์

เฉินตงผงะไปครู่หนึ่ง ทำไมเสียงนี้ ยิ่งฟังยิ่งคุ้น ?

เคยเจอ……ที่ไหนกันแน่ ?

เขาส่ายหัวแล้วรีบเดินออกจากห้องไป และเดินลงไปชั้นล่างของโรงแรม

ในลานจอดรถของโรงแรม กู้ชิงหยิ่งและเทียนอ้ายนั่งอยู่ในรถลัมโบร์กีนี

มือทั้งสองข้างของกู้ชิงหยิ่งประสานกันแน่น อยู่ในอารมณ์สับสนจนถึงขีดสุด

ทั้งเครียด ทั้งกังวล และมีอารมณ์ที่ยากจะใช้คำพูดอธิบายออกมาได้

เทียนอ้ายวางโทรศัพท์ แล้วหันมองกู้ชิงหยิ่ง : “ชิงหยิ่ง เดี๋ยวเธอก็นั่งดูอยู่ในรถนี่ล่ะ ฉันจะสั่งสอนเขาให้ฟันร่วงหมดปากเลย”

ขณะที่พูด เธอยังทำท่าสะบัดคอและมือ พร้อมทั้งส่งเสียงแสดงความพร้อมที่จะต่อสู้

ท่าทีเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและดุดัน

กู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ด้านข้างนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

ทำเพียงแค่เหลือบมองโรงแรมเป็นระยะๆ

ในที่สุด ร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นสู่สายตา

“อ้ายอ้าย เขามาแล้ว”

จู่ๆ กู้ชิงหยิ่งก็พูดขึ้นมา

“คอยดูฉันนะ !”

เทียนอ้ายเปิดประตูรถด้วยความโกรธ แล้วปิดอย่างแรงจนดังปัง จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเฉินตงซึ่งยืนอยู่ในที่ไกลๆ อย่างรวดเร็ว

เป็นเพราะระยะห่าง บวกกับท่าทีที่เฉินตงกำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อหากู้ชิงหยิ่งหลังจากที่เข้ามาในลานจอดรถ ทำให้เทียนอ้ายเห็นหน้าตาของเฉินตงได้ไม่ชัดเจน

ส่วนภายในรถโรลส์-รอยซ์ที่จอดอยู่ตรงมุมอีกด้านหนึ่ง

สองสามีภรรยากู้โก๋ฮั๋วและพ่อแม่ของเทียนอ้าย ก็กำลังจ้องมองเฉินตงที่เดินเข้าไปในลานจอดรถอย่างเคร่งขรึม

เมื่อเห็นเทียนอ้ายลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปหาเฉินตงด้วยความโมโห

พ่อแม่ของเทียนอ้ายก็รู้สึกขำทันที

พ่อของเทียนอ้ายหันไปตบไหล่ของกู้โก๋ฮั๋ว : “น้องกู้ คอยดูให้ดีนะ หลายปีมานี้ลูกสาวสุดที่รักของเราไม่ได้ฝึกมาเสียแรงเปล่า เธอจะต้องช่วยสั่งสอนเจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่ให้รู้สำนึกสักครั้งได้อย่างแน่นอน”

ในเวลาเดียวกันนี้

เทียนอ้ายที่กำลังเดินตรงเข้าไปหาเฉินตง ค่อยๆ ขมวดคิ้ว

ความโกรธบนใบหน้าค่อยๆ จางหายไป

เมื่อมองดูคนที่กำลังมองซ้ายมองขวาคนนั้นอยู่ และระยะห่างที่ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ

“ทำไมยิ่งมองยิ่งคุ้น ?”

เทียนอ้ายที่กำลังนึกสงสัยขึ้นมา ยังคงเดินต่อไปไม่หยุด

อีกทั้งยังตะโกนใส่เฉินตงด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม : “เฮ้ คุณคือสามีของชิงหยิ่งใช่ไหม ?”

เมื่อได้ยินเสียงตะโกน

เฉินตงที่กำลังมองซ้ายมองขวา รีบหันหาเสียงทันที

เมื่อเห็นเทียนอ้าย เขาก็ผงะไป

ส่วนเทียนอ้ายเองก็หยุดเดินอย่างกะทันหัน และมองเฉินตงด้วยความประหลาดใจ

ใบหน้าหล่อเหลาและเย็นชาที่ดูคุ้นเคยนั้น จู่ๆก็เป็นเหมือนค้อนที่ทุกเข้ามาที่ตาของเธออย่างแรง

“คุณนั่นเอง ?”

“คุณนั่นเอง ?”

เฉินตงและเทียนอ้ายพูดออกมาด้วยความประหลาดใจแทบจะพร้อมกัน

“ภรรยาขอผมล่ะ ?” เฉินตงรีบเอ่ยถามขึ้น

“คุณคือสามีของชิงหยิ่งจริงๆ หรือ ?”

ใบหน้าอันงดงามของเทียนอ้ายแดงก่ำ อยู่ในท่าทีเขินอายอย่างมากและตื่นตระหนก

นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ?

สามีของกู้ชิงหยิ่ง คือผู้ช่วยให้รอด ?

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset