Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 459 เฉินตง คุณอยู่ที่ไหนกันแน่ ?

ไม่นะ !

ไม่ได้ !

หยุดเดี๋ยวนี้ !

เฉินตงตะโกนขึ้นในใจ ตอนนี้เขารู้สึกเสียสติจนถึงขีดสุด

แต่เขากลับไม่มีโอกาสที่จะหยุดเรื่องทุกอย่างได้เลย

มีเสียงกรอบแกรบดังขึ้น

สัมผัสที่เย็นฉ่ำ ทำให้เฉินตงรู้สึกพังทลาย

ร่างกายส่วนล่าง……ไม่จำเป็นต้องเช็ดจริงๆ นะ

เย่หลิงหลง เธอเป็นผู้หญิง ชายหญิงจะแตะเนื้อต้องตัวกันไม่ได้ เธอยังเป็นคนอยู่อีกไหม ?

เฉินตงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า มือทั้งสองข้างของเย่หลิงหลงกำลังเลื่อนต่ำลงไปด้านล่าง ความรู้สึกที่ถูกปลายเล็บชื้นๆ สัมผัสเข้าที่ผิวหนัง เป็นความรู้สึกที่ชัดเจนมาก

ราวกับถูกไฟช็อต

ในที่สุด เฉินตงก็รู้สึกเย็นฉ่ำ

“เฮ้อ~”

เสียงถอนหายใจของเย่หลิงหลงดังขึ้นข้างๆ หูในเวลาเดียวกัน

จบแล้ว……

เฉินตงรู้สึกสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด

ตอนนี้เขาเป็นเหมือนปลาที่อยู่บนเขียง ทำได้เพียงแค่รอให้เย่หลิงหลง “เชือด” ก็เท่านั้น

จากนั้น

“เย่หลิงหลง ไม่เป็นไรนะ หากใจบริสุทธิ์ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา เห็นมาเจ็ดวันเต็มๆ แล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรหนักหนาสักหน่อย เห็นทุกสิ่งเป็นความว่างเปล่าก็พอ”

จู่ๆ เสียงสูดหายใจเข้าของเย่หลิงหลงก็ดังขึ้นข้างๆ หู

จากนั้น จู่ๆ เฉินตงก็ได้ยินหญิงสาวคนนี้ท่องบทสวดในพระคัมภีร์อย่างจริงจัง

“พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ณ ยามปฏิบัติลึกซึ้งซึ่งปราชญาปารมิตา เห็นแจ้งว่าขันธ์ห้าล้วนว่างเปล่า จึงข้ามความขมขื่นยากแค้นทั้งหลาย……”

เมื่อได้ยินบทสวดที่ดังขึ้นข้างๆ หู เขาก็รู้สึกได้ถึงความเย็นฉ่ำของผ้าขนหนูตรงบริเวณต้นขาของเขา

เฉินตงรู้สึกราวกับร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

แต่เขาก็รู้สึกได้ว่า ตอนนี้เย่หลิงหลงกำลังช่วยเขาเช็ดตัวอย่างระมัดระวังนั้น ก็พยายามข่มใจเอาไว้อย่างถึงที่สุดแล้ว

บางที่ที่ไม่ควรเช็ด ก็ไม่ได้เช็ด

สิ่งนี้ทำให้เฉินตงที่กำลังรู้สึกเหมือนทุกอย่างพังทลาย กลับใจชื้นขึ้นอีกครั้ง

แต่การเช็ดตัวที่เดิมทีแล้วทำให้คนรู้สึกสบาย เมื่อเกิดขึ้นกับเฉินตงที่ได้สติในตอนนี้แล้ว กลับเป็นความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานอย่างหนึ่ง

ความรู้สึกผิด จนใจ สิ้นหวัง โทษตัวเองผสมปนเปเข้าด้วยกัน

ราวกับมีมีดคมๆ ค่อยๆ แล่เนื้อออกมา

เวลาดำเนินไปเกือบสิบนาที

ในที่สุด

“เรียบร้อยแล้ว ภารกิจเสร็จสมบูรณ์ !”

เสียงของเย่หลิงหลง เป็นเหมือนเสียงจากสวรรค์สำหรับเฉินตง

ตอนนี้ เฉินตงรู้ลึกโล่งใจขึ้นมาอีกครั้ง

ในที่สุด……ก็จบสิ้นเสียที

มีเสียงเย่หลิงหลงกำลังบิดน้ำออกจากผ้าขนหนู ดังก้องขึ้นในหู

ไม่ช้า ก็ได้ยินเสียงของฝีเท้าดังขึ้น

เย่หลิงหลงไปแล้ว

เฉินตงนอนอยู่บนเตียง บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด

ตอนนี้ทุกอย่างเงียบสงบลง ความคิดของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวขึ้นอีกครั้ง

นักฆ่าในคืนนั้น ใครเป็นคนส่งมากันแน่ ?

สามารถปิดถนนทั้งสายได้ มิหนำซ้ำยังส่งนักฆ่ามาอีก เห็นได้ชัดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา

แต่ในอีกซีกโลกหนึ่งนี้ ฉันมีศัตรูที่ไหนด้วยหรือ ?

ความคิดของเขาผุดขึ้นมา แต่กลับเป็นความคิดที่สับสนยุ่งเหยิงราวกับก้อนสำลีที่เน่าเสีย

เฉินตงคิดไม่ออกจริงๆ ในอีกซีกโลกหนึ่งนี้ ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาไม่มีศัตรูที่ไหน

ความมุ่งมั่นของเขาทั้งหมดอยู่ที่กางแข่งขันเพื่อช่วงชิงตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเฉิน

ศัตรูที่ปรากฏตัวขึ้น ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งเจ้าบ้านทั้งสิ้น หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับคนสนิท

แต่ตอนนี้ ศัตรูเหล่านั้นล้วนถูกเขาเหยียบย่ำจนจมดินไปหมดแล้ว

อีกทั้งตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินตงก็ไม่เคยยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของซีกโลกนี้เลย

ไม่แม้แต่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว แล้วจะมีศัตรูได้อย่างไร ?

คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ทำให้ความอ่อนล้าถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ

“ร่างกายอ่อนแอเกินไปแล้ว แค่ใช้ความคิด ก็ยังยากที่เกินจะรับไหว”

เฉินตงคร่ำครวญอยู่ในใจ เหมือนที่เย่หยวนชิวพูดเอาไว้ สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ ก็นับว่าโชคดีแล้ว

สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ตอนนี้เฉินตงก็ไม่กล้าคาดหวังที่จะให้ตนเองสามารถลุกยืนขึ้นได้ทันที

ดังนั้นเขาจึงระงับความสงสัยในใจเอาไว้

ไม่ฝืนต่อความเหนื่อยล้าอีกต่อไป จากนั้นก็นอนหลับสนิท

……

คฤหาสน์ตระกูลกู้

ด้านข้างสระน้ำในสวนดอกไม้

สายน้ำไหลริน มีน้ำพุพลุ่งพล่าน

กู้ชิงหยิ่งนั่งลงริมสระน้ำด้วยท่าทีหดหู่ ท่าทางของเธอเศร้าสร้อย แววตาดูว่างเปล่า

ค่อยๆ หยิบอาหารปลาที่อยู่ในมือ โยนลงไปในสระน้ำ

ดวงตาของเธอแดงก่ำและบวมเล็กน้อย ใบหน้าของเธอไม่หลงเหลือเค้าเดิม มีเพียงแต่ความซีดเซียวและอ่อนล้า

เมื่อมองฝูงปลาที่รวมตัวกันอยู่ในสระน้ำ กู้ชิงหยิ่งก็โยนอาหารปลาที่อยู่ในมือลงไปในสระจนหมด

ด้วยความเคยชิน ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาเฉินตง

แต่ผลลัพธ์ยังคงปิดเครื่องอยู่

เจ็ดวันเต็มๆ แล้ว !

แววตาของกู้ชิงหยิ่งสั่นคลอน ริมฝีปากแดงระเรื่อขยับเล็กน้อย และพึมพำออกมาด้วยความโศกเศร้า : “เฉินตง คุณหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ? คุณอยู่ที่ไหนกันแน่ ? อุตส่าห์เดินทางมาตั้งไกล บอกว่าจะมาขอโทษ แต่จู่ๆ กลับหายตัวไปแบบนี้หรือ ?”

เธอยังไม่ได้ให้อภัยเฉินตง อันที่จริงแล้ว เรื่องทรยศหักหลังด้วยการนอกใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนเลือกที่จะให้อภัยทั้งนั้น

นอกเสียจากว่า ไม่ได้รักอีกฝ่าย หรือว่าเห็นความรักเป็นเรื่องที่ต้อยต่ำเกินไป

ทว่ากู้ชิงหยิ่งไม่ใช่ทั้งสองอย่าง

ตั้งแต่ที่รู้ความจริงจากปากของเทียนอ้าย เฉินตงเพื่อที่จะมาขอโทษเธอ แม้แต่เกียรติยศชื่อเสียงอันใหญ่หลวงก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย

เธอรู้สึกหวั่นไหว อยากฟังคำอธิบายจากปากของเฉินตง

ไม่ว่าการอธิบายได้จะอธิบายได้กระจ่างชัดหรือไม่ เธอก็ต้องการการพูดคุยต่อหน้าในครั้งนี้

ทว่า จู่ๆ กลับกดตัดสายโทรศัพท์ของเธอ แล้วหายตัวไปเจ็ดวันเต็มๆ

สิ่งนี้ทำให้กู้ชิงหยิ่งรู้สึกเหมือนถูกควักหัวใจออกมาทันที

ความรู้สึกที่ซับซ้อนภายในใจ ทำให้ตลอดระยะเวลาเจ็ดวันมานี้ เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนกระทั่งร่างกายซูบผอมไปมาก

ชั้นสองของคฤหาสน์

กู้โก๋ฮั๋วและหลี่หวั่นชิง มองดูกูชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ริมสระด้วยความเป็นห่วง

“คุณกู้ คุณหาเฉินตงเจอหรือยังคะ ?”

หลี่หวั่นชิงรู้สึกร้อนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำเสียงของเธอไม่อ่อนโยนอย่างเช่นปกติอีกต่อไปแล้ว

เฉินตงมาสำนึกผิด พวกเขาจึงรู้สึกว่าควรจะพบหน้ากันสักครั้ง

นั่นเป็นเพราะ ไม่ว่าจะดีหรือเลว ก็ควรจะให้เฉินตงและกู้ชิงหยิ่งทั้งสองคน ได้พูดคุยกันให้กระจ่าง แล้วหาข้อสรุปออกมาให้ได้

ตอนนี้เฉินตงหายตัวไป ความรู้สึกรวมถึงความกดดันทั้งหมด จึงมาตกอยู่ที่ลูกสาวของตนเอง

ในฐานะที่เป็นพ่อแม่ ไม่มีใครยินดีที่จะเห็นลูกสาวสุดที่รักของตนเองต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้

“หาแล้ว กำลังตามหาอยู่ หน่วยข่าวกรองทั้งหมดของบริษัทชิงหยิ่งถูกส่งออกไปหมดแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ ผมยังให้พี่เทียนกับพันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มนึง ช่วยกันตามหาอีกด้วย”

ใบหน้าของกู้โก๋ฮั๋วแสดงท่าทีจนใจ : “แต่ก็ยังหาไม่เจอ แล้วผมจะทำอะไรได้ ?”

หลี่หวั่นชิงเห็นสีหน้าจนใจของกู๋โก๋ฮั๋ว ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที

แต่สติก็ทำให้เธอรู้ชัดว่า หากโมโหในตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

“หรือให้เทียนอ้ายมาอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวหยิ่งดีไหม ? จะได้ถามข่าวๆ เรื่องการสืบหาจากทางด้านของเธอด้วย”

มีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นในตาคู่สวยของหลี่หวั่นชิง เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ : “ตอนนี้ลูกสาวมีสภาพเช่นนี้ ฉันเห็นแล้ว ก็รุ้สึกเจ็บปวดเหมือนมีมีดมากรีดที่หัวใจ”

“ผมจะไปโทรศัพท์หาเทียนอ้าย”

กู้โก๋ฮั๋วถอนหายใจ จากนั้นจึงเดินออกจากริมหน้าต่างไป เดินไปพลางก็บ่นพึมพำไปพลาง : “เฉินตง นายอยู่ที่ไหนกันแน่ ?”

สองชั่วโมงผ่านไป

ประตูใหญ่ของคฤหาสน์เปิดออก มีรถลัมโบร์กีนีขับเข้ามา

หลังจากเทียนอ้ายลงจากรถ เห็นกู้ชิงหยิ่งที่ยังคงนั่งอยู่ตรงริมสระน้ำที่เดิม ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แล้วแสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจออกมา

“เสี่ยวหยิ่ง”

เธอเดินเข้าไปหากู้ชิงหยิ่ง

“ได้ข่าวเฉินตงบ้างหรือยัง ?” กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นเงียบๆ แล้วเช็ดน้ำตาตรงหางตา จากนั้นจึงฝืนยิ้มแล้วหันไปมองเทียนอ้าย

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่พ่อเท่านั้นที่ออกตามหาอย่างสุดกำลัง

เทียนอ้ายเองก็ใช้อำนาจของตำรวจสากลเช่นกัน

เทียนอ้ายเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารจับใจ

แต่ก็ยังคงส่ายหัว : “ไม่มีเบาะแสเลย แต่จากการสืบสวนของเรา คาดว่าเขาน่าจะเกิดเรื่องขึ้นแล้ว”

เปรี้ยง !

กู้ชิงหยิ่งรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า สั่นเทาไปทั้งตัว

ทันใดนั้น ก็แสดงท่าทีตื่นตระหนกออกมา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา ?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset