Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 39 ผู้หญิงสามคนพูดคุยกัน

บทที่ 39 ผู้หญิงสามคนพูดคุยกัน

ลังเลอยู่สักพัก เฉินตงอัดอั้นความคิดที่อยากจะบอกกู้ชิงหยิ่งทันที

เขามองดูกู้ชิงหยิ่งที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ ยิ้มและพูด

“เสี่ยวหยิ่ง อีกสักช่วงเวลาหนึ่งผมมีอะไรเซอร์ไพรส์คุณ”

กู้ชิงหยิ่งเป็นเพื่อนของเขา เรื่องหลายๆอย่าง ควรจะบอกความจริงให้เขารู้

เขาไม่อยากให้สิ่งที่กำลังประสบอยู่ในเดือนนี้ ในตอนที่กู้ชิ่งหยิ่งเผชิญหน้ากับเขาแล้ว ทำให้เธอรู้สึกสงสาร

“เซอร์ไพรส์?”

กู้ชิงหยิ่งกระตุกคิ้ว ไม่ตามซักถาม แต่ยิ้มๆและพยักหน้า: “โอเค”

ขับรถเข้าไปในที่จอดรถของโรงพยาบาล

หลังจากลงจากรถแล้ว กู้ชิงหยิ่งให้เฉินตงช่วยถือของ

เปิดกระเป๋าเดินทางออกมา เฉินตงตกตะลึงจนหยุดชะงักกับที่

เต็มไปด้วยผลไม้และอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ยัดเต็มกระเป๋าทั้งใบ

“มาเยี่ยมคุณป้าครั้งแรก จะเสียมารยาทไม่ได้ แค่ซื้ออะไรมานิดหน่อย ไม่รู้คุณป้าชอบหรือเปล่า?” กู้ชิงหยิ่งยิ้มและพูดไปด้วย

หัวใจของเฉินตงกระตุกอย่างแรงทีหนึ่ง

คำพูดล้อเล่นคำเดียวของกู้ชิงหยิ่ง เหมือนเข็มเล็กๆทิ่มเข้าไปในใจของเขา

เขาเข้าใจแม่มาก ถึงแม้กู้ชิงหยิ่งจะมาด้วยมือเปล่า แม่ของเขาต้องดีใจอย่างแน่นอน

เมื่อเทียบความเคารพนับถือกับกู้ชิงหยิ่งแล้ว บางคน สามปีไม่เคยมาเยี่ยม ในปากยังคอยด่าว่า “ตาแก่ผีบ้า”

คนหนึ่งคือเพื่อน คนหนึ่งคืออดีตภรรยา ทั้งสองคน แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน

“เป็นอะไร?”

กู้ชิงหยิ่งถาม

“ไม่มีอะไร คุณซื้อมาเยอะเกินไปแล้ว!” เฉินตงพยายามยิ้มไว้ ถือของทั้งหมดเข้าไปในโรงพยาบาล

ส่วนกู้ชิงหยิ่งถือผลไม้ถึงเดียวและเดินตามอยู่ด้านหลัง รีบพูด: “เฉินตงคุณรอฉันด้วย ฉัน ฉันรู้สึกตื่นเต้น คุณเข้าไปพร้อมกับฉันนะ”

ในห้องผู้ป่วย

หลี่หลานกำลังพูดคุยกับฟ่านลู่อย่างมีความสุข

ตั้งแต่ที่ฟ่านลู่มาดูแล อาการป่วยของหลี่หลานดีขึ้นมาก สีหน้าก็อมชมพูขึ้นมาก

หลี่หลานชอบฟ่านลู่เหมือนลูกตัวเองเลย

ส่วนฟ่านลู่ก็รู้สึกถึงจุดนี้ ดังนั้นจึงตั้งใจดูแลหลี่หลานอย่างดี

เฉินตงผลักประตูเข้ามา เห็นทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างมีความสุขพอดี

“คุณเฉิน”

ฟ่านลู่รีบลุกขึ้นยืน รีบเข้ามาช่วยถือของบนมือของเฉินตง

“ตงเอ๋อ ทำไมซื้อของมาเยอะขนาดนี้ล่ะ?” หลี่หลานพูดด้วยความแปลกใจ

หลายปีมานี้ เธอมีชีวิตที่ลำบากมาตลอด ถึงแม้หลังจากที่เฉินตงรวยแล้ว เพราะเธอยังเจ็บป่วยอยู่ จึงไม่เคยได้รับอะไรดีๆเลย

เห็นเฉินตงซื้อของมาเยอะขนาดนี้ เธอรู้สึกสงสารเอ็นดู

นี่ต้องใช้เงินของลูกไปตั้งเท่าไหร่?

“เพื่อนของผมซื้อมาครับ”

เฉินตงยิ้มและหันกลับไปเรียกกู้ชิงหยิ่ง

กู้ชิงหยิ่งกลับค่อยๆเดินเข้าไปด้วยความเกร็งกลัว เหลือบตาไปมองหน้าเฉินตง

บอกให้คุณรอก่อนรอก่อน แต่ก็รีบร้อนเข้ามาเองก่อน ตอนนี้ทำให้เธอต้องตื่นเต้นขนาดนี้

แต่ว่า เธอก็ยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว: “คุณป้าสวัสดีค่ะ หนูเป็นเพื่อนของเฉินตงค่ะ ชื่อกู้ชิงหยิ่ง”

“สวัสดี สวัสดี”

หลี่หลานยิ้มแย้มอย่างอ่อนโยน แต่หันไปมองเฉินตง แล้วเปลี่ยนสีหน้าไปอีกแบบ: “เฉินตง ลูกยังไม่รีบไปช่วยเธอถือของอีก?”

ภาพนี้ ทำให้กู้ชิงหยิ่งหัวเราะออกมานิดๆ สีหน้าที่ตื่นเต้นโล่งใจขึ้นมามาก

เธอรีบยื่นผลไม้ไปบนมือของเฉินตง จากนั้นเดินเข้าไปตรงหน้าของหลี่หลานด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม: “มีแต่คุณป้าที่รู้จักเอ็นดูคนอื่น”

หลี่หลานยิ้ม มองดูหน้าตาของกู้ชิงหยิ่งแล้ว รู้สึกคุ้นๆ: “คุณกู้ ป้าเคยเห็นหนูที่ไหนรึเปล่า?”

เฉินตงวางผลไม้ลง กำลังจะอธิบาย

กู้ชิงหยิ่งรีบพูดขึ้นมากะทันหัน: “ไม่มีนี่คะ หนูก็เพิ่งเจอหน้าคุณป้าครั้งแรก”

เฉินตงมองหน้ากู้ชิงหยิ่งด้วยความแปลกใจ

ตอนที่เรียนมหาลัยสี่ปี กู้ชิงหยิ่งเคยเจอแม่อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งในงานแต่งเมื่อสามปีก่อน เธอยังเป็นเพื่อนเจ้าสาวอีกด้วย

เพราะสามปีไม่เคยได้เจอกัน คุณแม่อายุเยอะขึ้น จึงนึกไม่ค่อยออกในทันทีทันใด

กู้ชิงหยิ่งทำไมไม่ยอมรับล่ะ?

หลี่หลานยิ้มๆและพยักหน้า ไม่ซักถามอีกต่อไป

แต่หันไปพูดกับฟ่านลู่: “เสี่ยวลู่ รบกวนหนูไปรินน้ำแก้วหนึ่งให้คุณกู้หน่อยนะ”

“ได้ค่ะคุณป้า” ฟ่านลู่เริ่มยุ่งๆขึ้นมา ไม่เพียงแค่รินน้ำให้กู้ชิงหยิ่ง ยังหยิบผลไม้ออกมาบางส่วน เอาไปล้างน้ำด้านนอก เตรียมเอาไว้รับแขก

ทำโน่นทำนี่ เฉินตงดูแล้วรู้สึกพอใจมาก

อีกทั้งเขายังดูออก แม่พอใจฟ่านลู่มาก

แต่กู้ชิงหยิ่ง มองดูฟ่านลู่แล้ว อดใจไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

แต่ว่า ไม่นานนัก กู้ชิงหยิ่งก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิม จับมือหลี่หลานไว้และคุยกันอย่างสนิทสนมขึ้นมา

เฉินตงนั่งอยู่ข้างๆ มองดูกู้ชิงหยิ่งและหลี่หลานที่คุยกันอย่างมีความสุข จึงไม่รบกวนเขาสองคน

ไม่นานนัก ฟ่านลู่ถือผลไม้กลับมา

ผู้หญิงทั้งสามคน คุยกันอย่างมีความสุขมากกว่าปกติ

กู้ชิงหยิ่งก็ไม่ได้เล่นตัว แต่กลับเรียบง่ายเข้ากับคนได้ดี อีกทั้งยังรับแอปเปิ้ลจากมือฟ่านลู่มาปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้หลี่หลานกินเข้าปากง่ายๆ

ไม่นาน เวลาหนึ่งชั่วโมงผ่านไป

เพราะเวลาดึกมากแล้ว เฉินตงพูดก่อนว่าจะกลับแล้ว

กู้ชิงหยิ่งพยักหน้าและยิ้มพูดกับหลี่หลาน: “คุณป้าพักผ่อนเยอะๆนะคะ ต่อไปหนูจะมาเยี่ยมท่านบ่อยๆ”

“ดีดีดี”

หลี่หลานพยักหน้า แล้วพูดกับเฉินตง: “ตงเอ๋อ ฟ้ามืดแล้ว อย่าลืมส่งคุณกู้กลับบ้านด้วยล่ะ”

“รู้แล้วครับแม่”

เฉินตงพยักหน้า

เดินออกจากห้องผู้ป่วยแล้ว ในที่สุดเฉินตงก็อดใจไม่ไหวที่จะถาม: “จริงสิ เมื่อกี้ทำไมคุณไม่บอกแม่ผม คุณกับผมเป็นเพื่อนนักเรียนกัน ยังเคยเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ผมอีกด้วย”

“ผู้ชาย ทำอะไรคิดไม่รอบคอบเลย”

กู้ชิงหยิ่งเหล่ตามองเฉินตง: “อาการป่วยของคุณป้าในตอนนี้ กระทบกระเทือนจิตใจได้เหรอ? ถ้าฉันยอมรับว่าเคยเป็นเพื่อนนักเรียนยังเคยเป็นเพื่อนเจ้าสาวอีก จะทำให้เขานึกถึงแต่เรื่องเก่าๆนึกถึงเรื่องคุณกับหนันหนันรึไง?”

เฉินตงตกตะลึงไปสักพัก

ถ้าไม่ใช่เพราะกู้ชิงหยิ่งตักเตือน เขายังนึกไม่ถึงจุดนี้

ไม่รอให้เขาตื่น ข้างหูก็มีเสียงคำพูดแปลกๆของกู้ชิงหยิ่งดังขึ้น

“จริงสิ คุณยังไม่บอกฉันเลย ฟ่านลู่ที่ดูแลคุณป้าคนนั้น คือใครกัน?”

เฉินตงยักคิ้ว: “นางพยาบาลที่จ้างมาดูแลแม่ไงครับ”

“ใช่นางพยาบาลจริงๆเหรอ?” กู้ชิงหยิ่งรู้สึกมีลางสังหรณ์และบ่นไปด้วย: “งั้นทำไมฉันรู้สึกว่าคุณป้าดีกับเธอมากเลยล่ะ? เมื่อกี้ตอนที่พูดคุยกัน คุณป้าคุยกับเธอ ยังเยอะกว่าที่คุยกับฉันเลยนะ”

เฉินตงพูดอะไรไม่ออก กู้ชิงหยิ่งคิดมากเกินไปรึเปล่า?

แต่เขาก็ยังอธิบายว่า: “บางทีอาจจะเป็นเพราะฟ่านลู่ดูแลได้ดี อีกอย่างตัวเธอก็ดูน่าสงสารด้วย แม่ผมคงจะเป็นเพราะรู้เรื่องราวของเธอด้วย”

“เรื่องอะไร?” กู้ชิงหยิ่งถาม

เฉินตงส่ายหัว แต่ไม่เอ่ยปากพูด

ฟ่านลู่เป็นผู้หญิง ผู้หญิงรักสวยรักงามที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะความจำเป็น ก็ไม่ทำให้มือของตนเองด้านหนาขนาดนี้? นี่คือเรื่องส่วนตัวของฟ่านลู่ เขาควรจะต้องให้เกียรติเธอบ้าง

“ชิ…..ไม่พูดก็ไม่ต้องพูด”

กู้ชิงหยิ่งทำปากจู๋ “ในเมื่อเป็นแค่นางพยาบาลของคุณป้า งั้นก็ไม่เป็นไร”

“อะไรไม่เป็นไร?” เฉินตงถามด้วยความไม่เข้าใจ

กู้ชิงหยิ่งรีบหลบสายตา กำลังจะเปลี่ยนเรื่องพูด

ทันใดนั้น เสียงตะโกนเรียกก็ดังขึ้น

“ชิงหยิ่ง?!”

ทั้งสองคนตกใจทันที เงยหน้ามาดู

ที่ที่ไม่ไกลนัก หวางหนันหนันถือแก้วเก็บน้ำร้อน กำลังมองดูเขาสองคนอย่างประหลาดใจ

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset