Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 464 เฉินตงพิการแล้ว

เปรี้ยง !

คำพูดของเฉินตงเหมือนฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ

เย่หลิงหลงอึ้งไปทันที ใบหน้าที่งดงามของเธอซีดเผือด

ดวงตาคู่สวยของเธอจ้องเขม็งไปที่ขาขอเฉินตงอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ขาของฉัน ขาของฉัน……”

เฉินตงนอนอยู่บนเตียง แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาจนใบหน้าบูดเบี้ยว และคร่ำครวญออกมาอย่างสิ้นหวัง : “ทำไมถึงไม่มีความรู้สึก ? ทำไมขอของฉันถึงขยับไม่ได้ ?”

ในขณะที่กำลังหวาดกลัว เฉินตงก็พยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต

ตอนนี้ไม่ได้ออกแรงอย่างเช่นเมื่อครู่ แต่เป็นท่าทางการบิดร่างกายไปมาด้วยความบ้าคลั่ง

แต่ไม่ว่าจะบิดไปมาอย่างไร ขาทั้งสองข้างก็ยังคงไม่ขยับแม้แต่น้อย !

ในดวงตาที่แดงก่ำเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มีน้ำตาเอ่อล้นออกมา

เย่หลิงหลงตั้งสติขึ้นมาได้ทันใด

เธอรีบกดตัวเฉินตงที่กำลังพยายามดิ้นรนเอาไว้ : “เฉินตง คุณใจเย็นก่อน คุณอดทนหน่อย ไม่เป็นไรหรอก ต้องไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแน่นอน ตอนนี้ร่างกายของคุณยังฟื้นฟูกลับมาไม่สมบูรณ์ คุณออกแรงเช่นนี้ ก็จะยิ่งเป็นการทำร้ายตัวคุณเองนะ !”

“แต่ขาของฉันไม่มีความรู้สึกแล้ว”

น้ำตาไหลรินออกมาจากหางตาของเฉินตง เขากำลังดิ้นรนด้วยความหวาดกลัว และไม่สนใจคำปลอบใจของเย่หลิงหลงเลยแม้แต่น้อย

ขาทั้งสองข้างไร้ความรู้สึก นั่นหมายความว่าจะต้องพิการ !

ไม่ได้หมายความถึงเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นตลอดไปเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาต้องสูญเสียตำแหน่งผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉินไปอีกด้วย

หนึ่งปีหลังจากนี้ เป็นเวลาที่ตระกูลเฉินจะเลือกเจ้าบ้านคนต่อไป

แต่ตระกูลเฉินที่สูงส่ง ไม่มีทางที่จะเลือกคนพิการมาเป็นเจ้าบ้านคนต่อไปอย่างแน่นอน !

“ไม่เป็นไรนะ เชื่อฉันสิว่าจะต้องไม่เป็นไร คุณนอนมาเป็นเวลานานขนาดนี้ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ย่อมจะต้องมีผลต่อร่างกายอย่างแน่นอน ตอนนี้ขาทั้งสองข้างไร้ความรู้สึก จะต้องเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ขอแค่ค่อยๆ ขยับ ขาทั้งสองข้างจะต้องฟื้นฟูเป็นปกติอย่างแน่นอน”

ใบหน้าอันงดงามของเย่หลิงหลงซีดเผือด ในขณะที่เธอพยายามกอดเฉินตงเอาไว้อย่างสุดแรง ก็มีน้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่งามของเธอ

“เธอโกหกฉัน !”

เฉินตงดูราวกับสัตว์ร้าย เขาหันไปตะคอกเย่หลิงหลง

เสียงคำรามนี้ทำให้เย่หลิงหลงอึ้งไป

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับดวงตาแดงก่ำของเฉินตง เย่หลิงหลงก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเนมาก่อน

รู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัวราวกับเป็นสัญชาตญาณ

“จบแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว !”

ขณะที่เฉินตงกำลังดิ้นรน เขาก็ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด มือทั้งสองข้างจับเตียงเอาไว้ แล้วพยายามออกแรงเพื่อลุกขึ้นนั่ง

แต่หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง ก็หล่นลงไปบนเตียงอย่างแรงทุกครั้ง

เสียงกระแทก ทำให้เย่หลิงหลงตั้งสติขึ้นมาได้

เธอระงับความกลัวในจิตใจ และยกมือขึ้นปาดน้ำตา

“ไม่เป็นไรนะ มีฉันอยู่ มีฉันอยู่ไม่ต้องกลัว”

เธอโน้มตัวลงไป ประคองเฉินตง ช่วยให้เฉินตงลุกขึ้นมานั่ง

เฉินตงมองไปที่ขาทั้งสองข้างของเขาอย่างบ้าคลั่ง แล้วใช้มือทั้งสองข้างทุบลงไปอย่างแรง

ภาพนี้ ทำให้เย่หลิงหลงตกใจมาก

จากนั้น เฉินตงก็มองเย่หลิงหลงด้วยท่าทีสิ้นหวัง น้ำตาไหลอาบไปทั่วใบหน้า : “ไม่มีความรู้สึกแล้วจริงๆ……”

เมื่อเห็นเฉินตงที่น้ำตาไหลอาบไปทั่วใบหน้า

เย่หลิงหลงก็รู้สึกหวาดกลัวและสงสารในเวลาเดียวกัน ราวกับหัวใจจะแตกสลาย

เธอเคยเห็นเฉินตงอยู่ในท่าทีที่สง่างามสูงส่ง

แต่บัดนี้ ผู้ชายที่เคยทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว กลับร้องไห้ต่อหน้าเธอเหมือนกับเด็ก

ผู้ชายไม่หลั่งน้ำตาง่ายๆ นั่นเป็นเพราะยังไม่ถึงเวลาที่เจ็บปวดใจจริงๆ

ตอนนี้เฉินตงต้องรู้สึกสิ้นหวังและเจ็บปวดแค่ไหนกัน ?

วินาทีถัดมา

จู่ๆ เฉินตงก็พึมพำขึ้นมาราวกับคนเสียสติ : “กลับบ้าน ใช่ กลับบ้าน ภรรยาและลูกกำลังรอฉันอยู่ พวกเขากำลังรอฉันกลับไปขอโทษ ฉัน ฉันต้องกลับไป เสี่ยวหยิ่งกำลังให้คนออกตามหาฉัน เธอจะต้องเป็นห่วงฉันมากแน่ๆ……”

ทำราวกับมองไม่เห็นเย่หลิงหลงที่อยู่ข้างๆ

เฉินตงพยายามพยุงตัวเอง และคลานลงจากเตียง

ตุ้บ !

มือทั้งสองข้างของเขาว่างเปล่า แล้วเฉินตงก็ร่วงลงไปบนพื้น

ตอนนี้ เฉินตงดูน่าเวทนาราวกับสุนัขที่ตายแล้ว

เขาพยายามดิ้นรน ร้องไห้ และกัดฟัน ตอนนี้ในดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา เผยให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างบ้าคลั่ง

เฉินตงออกแรงทั้งหมดที่มี ใช้มือทั้งสองข้างดันพื้น แล้วค่อยๆ คลานออกไปด้านนอกประตู

“กลับบ้าน ฉันจะกลับบ้าน……ภรรยากับลูก กำลังรอฉันอยู่……”

เย่หลิงหลงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสิ้นหวัง เธอมองดูเฉินตงที่พยายามดิ้นรนเคลื่อนตัวไปด้านหน้าราวกับสุนัขที่ตายแล้ว

ริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอขยับแต่ไร้เสียง น้ำตาสองสายไหลรินออกมาจากหางตาของเธอ

“เฉินตง ! นี่มันเวลาไหนกันแล้ว คุณยังคิดถึงภรรยากับลูกของคุณอีกหรือ ?”

เย่หลิงหลงร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง

“เพราะพวกเขาคือภรรยาและลูกของฉัน !”

เฉินตงไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง เขาอ่อนแรงจนเสียงเบาราวกับยุง แต่กลับแสดงความมุ่งมั่นออกมาอย่างถึงที่สุด เสียงนี้ดังก้องชัดเจนอยู่ภายในห้อง

“ฉันเป็นสามี และเป็นพ่อ……”

เย่หลิงหลงตัวสั่นเทา ตอนนี้ น้ำตาของเธอไหลรินลงมาราวกับน้ำที่ไหลทะลักจากแม่น้ำ ไม่สามารถควบคุมได้

เธอยกมือขวาขึ้นมาปิดปาก แล้วมองดูเฉินตงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร

คุณปู่พูดถูก พรหมลิขิตมาช้าหรือเร็วไปเพียงเล็กน้อย ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง

มีเพียงแค่ความพอดีเท่านั้นที่ถูกต้อง…….

เย่หลิงหลงลุกยืนขึ้น แล้วเดินเข้าไปหาเฉินตงด้วยความสิ้นหวัง

“ฉันไม่อนุญาตให้คุณทำร้ายตัวเอง คุณจะกลับบ้าน ก็ต้องรอให้คุณหายดีเสียก่อน !”

“ฉันยังมีเวลาให้รักษาได้อีกหรือไง ?”

เฉินตงหยุดนิ่ง ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้น แล้วหันมองเย่หลิงหลง : “ฉันไร้ประโยชน์แล้ว ฉันพิการแล้ว ! ขอร้องเธออย่าได้สงสารฉัน ให้ฉันคลานออกไปจากที่นี่ ต่อให้ต้องเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง หามุมสักมุมที่ไร้ผู้คน และนอนตายอยู่ตรงนั้นก็คงจะดี !”

“ตาย ? !”

แววตาของเย่หลิงหลงสั่นไหว จู่ๆ ความสงสารและเจ็บปวด ก็กลับแปรเปลี่ยนเป็นความสงบนิ่งในทันที

เธอกัดฟันขาวของเธอแน่น แล้วหัวเราะเยาะออกมา : “คุณอยากตาย ? ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก มีฉันอยู่ที่นี่ คุณตายไม่ได้แน่นอน !”

พูดจบ เธอก็โน้มตัวลงไป แล้วลากเฉินตงกลับไปที่เตียงด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง

“ปล่อยฉัน เธอปล่อยฉันนะ”

เฉินตงพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ตอนนี้ขาทั้งสองข้างไร้ความรู้สึก ทำให้ไม่อาจขัดขืนเย่หลิงหลงได้

ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของเขาก็อ่อนแอเป็นอย่างมาก

ที่ทำให้การดิ้นรนของเขานั้นไร้ความหมาย

เย่หลิงหลงออกแรงประคองเฉินตงขึ้นมา แล้วโยนเขากลับลงไปบนเตียง

“คุณนอนให้ดีๆ เมื่อเจ็บป่วยก็ต้องรักษา ต่อให้ต้องพิการ แต่หงหุ้ยของเราจะต้องหาหมอที่เก่งที่สุดในโลกเพื่อมาช่วยรักษาคุณให้ได้ !”

เฉินตงนอนอยู่บนเตียง จ้องมองเพดานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

น้ำตาไหลรินออกมาพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา

“รออยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันจะไปตามคุณปู่มา”

เย่หลิงหลงมีท่าทีสงบนิ่ง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

ตอนที่เธอเดินไปถึงประตู จู่ๆ ก็หยุดฝีเท้าลง

“คุณอยากตายก็ได้ แต่คุณลองคิดดูนะว่า ภรรยาและลูกของคุณ ถ้าหากคุณตายไป ภรรยาของคุณก็ต้องเป็นม่าย ลูกของคุณก็ต้องเป็นเด็กกำพร้า”

พูดจบ เธอก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนเฉินตงที่นอนอยู่บนเตียง ดวงตาทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ในที่สุดเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ ก็เปล่งประกายขึ้นมา

มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น

เย่หลิงหลงข่มอารมณ์เดินออกมาจากห้อง ทันทีที่ก้าวออกจากประตู เธอก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด

ใบหน้าที่งดงาม เปียกปอนไปด้วยหยาดน้ำตา

เธอกัดแขนขาวนวลของเธอเอาไว้แน่น ด้วยแรงอย่างมหาศาล ทำให้มีเลือดซึมออกมาระหว่างซี่ฟันของเธอ

ทำเช่นนี้ ก็เพื่อบังคับไม่ให้ตนเองส่งเสียงร้องออกมา

เธอรีบวิ่งไปยังที่พักของคุณปู่อย่างรวดเร็ว

แอ๊ด !

เย่หลิงหลงผลักประตูให้เปิดออก

ในห้อง เย่หยวนชิวกำลังนั่งอ่านหนังสือ เมื่อเห็นท่าทางของเย่หลิงหลง สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที

ยังไม่ทันจะพูด

ในที่สุดเย่หลิงหลงก็เลิกกัดแขนของตัวเอง และไม่พยายามที่จะระงับเสียงร้องของเธออีกต่อไป และพุ่งตรงเข้าไปในอ้อมแขนของเย่หยวนชิว

“คุณปู่คะ เฉินตงพิการแล้ว……

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset