Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 465 มังกรตกเหว

เย่หยวนชิวตัวสั่นเล็กน้อย

ใบหน้าเต็มใบด้วยความตกใจ

ในที่สุด เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“หมอพูดถูกแล้ว”

เย่หลิงหลงที่โผเข้าไปในอ้อมแขนของเย่หยวนชิวเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาของเธอ จ้องมองไปที่เย่หยวนชิวอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ปู่ รู้นานแล้วหรือคะ ?”

เย่หยวนชิวพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

“ได้รับบาดเจ็บ ถูกพิษ กระโดดทะเล เขายังสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ก็นับว่าเป็นโชคดีนักหนาแล้ว ตอนที่หมอช่วยชีวิตเขา พิษได้แล่นเข้าสู่กระแสเลือดแล้ว ถึงขนาดที่หมอก็จนปัญญาที่จะรักษาแล้ว แต่เพราะเห็นแก่หน้าของหงหุ้ยและฐานะที่อาวุโสของเขา จึงได้พยายามรักษาจนถึงที่สุด”

ใบหน้าของเย่หยวนชิวเต็มไปด้วยความจนใจ เขาเบ้ปาก : “ผลสุดท้ายก็สามารถช่วยชีวิตของเฉินตงเอาไว้ได้ เพียงแต่ตอนนั้นหมอเคยบอกไว้ว่า หากพิษเข้าสู่กระแสเลือด ต่อให้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่ระบบภายในร่างกายก็ถูกทำลายไปบางส่วน หากต้องกลายเป็นคนพิการก็ถือเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งยังถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่มีโอกาสจะเป็นไปได้อย่างมากอีกด้วย”

เมื่อเห็นเย่หลิงหลงมีแววตาที่ตื่นตะลึง เย่หยวนชิวก็ยิ้มออกมาอย่างโศกเศร้า แล้วลูบหัวของเย่หลิงหลงเบาๆ

“ปู่รู้ถึงความรู้สึกที่หลานมีต่อเฉินตงดี ดังนั้นปู่จึงไม่ได้บอกหลานกับท่านหลง เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฉินตงจะรู้เร็วขนาดนี้……เขาสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ถือว่าเหนือความคาดหมายของพวกเราทุกคนแล้ว ยังจะมัวเป็นห่วงเรื่องพิการหรือไม่พิการอีกหรือ”

เย่หลิงหลงตกตะลึงไปในทันที

ตอนนี้ น้ำตาของเธอค่อยๆ ไหลรินลงมา

เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนหินทับอยู่เต็มอก จนเธอรู้สึกหายใจไม่ออก

ภาพที่เฉินตงทุกข์ทรมานด้วยความสิ้นหวังเมื่อครู่ ยังติดอยู่ในตาของเธอ

ราวกับมีดแหลมคมที่เสียดแทงเข้ามาในใจของเธอ

เธอถามขึ้นอย่างไม่เต็มใจนัก : “แล้วจะให้หนูบอกเขาว่าอย่างไร ? เขาไม่มีทางรับได้แน่นอน ไม่มีวิธีอะไรแล้วจริงๆ หรือคะคุณปู่ ?”

“ไม่มี”

เย่หยวนชิวส่ายหัว

ขณะที่พูด เขาก็ยกมือที่เหี่ยวย่นของเขาขึ้นมา แล้วค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้กับเย่หลิงหลง

“หลิงหลงเอ๋ย หลานเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ผู้ใหญ่ก็ควรวางตัวแบบผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ต้องกล้าเผชิญหน้ากับความจริงที่ตัวเองไม่อาจทำใจยอมรับได้”

เย่หลิงหลงขยับริมฝาก เธอยังคงรู้สึกไม่เต็มใจ

ผู้ชายคนนั้น ก่อนหน้านี้ทั้งสง่างามและสูงส่ง

ทำไมสวรรค์ถึงไม่ยุติธรรมเช่นนี้ ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนพิการ ?

เพียงแต่ เธอยังไม่ทันจะอ้าปากพูด

เย่หยวนชิวก็ค่อยๆ ลุกขึ้น : “ไปเถอะ พาปู่หาเฉินตง และตามหมอมาด้วย ต้องให้เฉินตงยอมรับความจริงให้ได้”

……

ผ่านไปสิบนาที

เย่หยวนชิวพาเย่หลิงหลงและหมออีกห้าคนเข้าไปในห้องของเฉินตง

เฉินตงนอนอยู่บนเตียง จ้องมองเพดานด้วยแววตาที่ว่างเปล่า และไม่ขยับเขยื้อน

ดูราวกับวิญญาณออกจากร่าง เหลือทิ้งเอาไว้เพียงร่างกายเท่านั้น

“เฉินตง……”

เย่หลิงหลงเรียกเบาๆ : “ฉันพาคุณปู่กับหมอมาแล้ว”

เฉินตงไม่ตอบโต้ ยังคงนิ่งเงียบ หางตามีน้ำตาไหลรินลงมาอีกครั้ง

ภาพนี้ เมื่อเย่หลิงหลงได้เห็นก็อยากจะร้องไห้

เธอเอามือปิดปาก ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงหันหลังและเดินออกจากห้องไป

เย่หยวนชิวส่ายหัวอย่างจนใจ แล้วเดินก้าวไปข้างหน้า และพูดว่า : “เฉินตง หมอทั้งห้าท่านนี้เป็นหมอที่เก่งที่สุด ผมพาพวกเขามารักษาขาให้คุณ”

ดวงตาของเฉินตงเป็นประกายขึ้นมา

เขามองหมอทั้งห้าคนด้วยความคาดหวัง และในที่สุด สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่เย่หยวนชิว

“ยังรักษาได้……จริงๆ หรือ?”

คำพูดที่แผ่วเบา แต่กลับเต็มไปด้วยความหวัง

ราวกับคนที่กำลังจะจมน้ำตาย แล้วสามารถคว้าท่อนไม้ท่อนสุดท้ายเอาไว้ได้

เย่หยวนชิวรู้ผลลัพธ์นานแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าที่จะยอมรับ

และพูดขึ้นว่า : “หากไม่ลองดูจะรู้ได้อย่างไร ?”

หมอทั้งห้าคนก้าวเข้าไปพร้อมกัน และเริ่มทำการวินิจฉัยเฉินตง

เป็นเพราะหมดสติมาเป็นเวลาเจ็ดวัน ห้องพักจึงถูกเย่หยวนชิวปรับปรุงจนกลายเป็น “ห้องฉุกเฉิน” เรียบร้อยแล้ว มีอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายอย่างอยู่ภายในห้อง

ส่วนด้านนอกห้อง เย่หลิงหลงกำลังกัดแขนของตนเอง เพื่อข่มเสียงร้องเอาไว้ และปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมา

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้นของเฉินตง ก็รู้สึกราวกับมีมีดร้อนๆ ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของเธอ แล้วค่อยๆ เฉือนหัวใจของเธอออกทีละนิดๆ

ยังมีเรื่องอะไรอีก ที่จะสามารถทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกสิ้นหวังได้มากกว่าการยอมรับความจริงที่สิ้นหวัง ?

เฉินตงเมื่อก่อนหน้านี้ เป็นมังกรที่ผงาดอยู่บนท้องฟ้าท่ามกลางผู้คน

ถึงแม้เย่หลิงหลงจะมีนิสัยหยิ่งยโสและชอบเอาชนะ แต่ในใจของเธอก็ยามรับว่าเฉินตงนั้นยอดเยี่ยม

ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังของตระกูลเฉิน หรือจะเป็นความเก่งกาจเฉพาะตัวของเฉินตงเอง

มิเช่นนั้น ก็คงไม่อาจทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวได้

ทำให้เธอซึ่งรู้ว่าเฉินตงนั้นแต่งงานแล้ว แต่ก็ยังคงรู้สึกหลงใหล และไม่อาจควบคุมความรู้สึกที่มีต่อเฉินตงได้

เพียงแต่ตอนนี้……มังกรตกเหวเสียแล้ว

ภายในห้องเงียบสงัด

เย่หยวนชิวยืนดูอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ และมองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้น

หมอทั้งห้าคนตรวจวินิจฉัยให้เฉินตงอย่างตั้งใจ

ส่วนเฉินตง ตั้งแต่ต้นจนจบ แววตาของเขาก็ยังคงเป็นประกาย และมองหมอทั้งห้าคนด้วยความหวังอย่างแรงกล้า

เขาอยากจะคาดเดาความจริงจากสายจาของหมอทั้งห้าคน

แต่ท่าทีของหมอทั้งห้าคนกลับเรียบเฉยตั้งแต่ต้นจนจบ

การวินิจฉัยทั้งหมดจบสิ้นลง

เฉินตงรีบเอ่ยถามด้วยความหวัง : “คุณหมอครับ ผมยังมีโอกาสกลับเป็นเหมือนเดิมไหมครับ ?”

“คุณชายรอก่อน ยังมีอีกหลายอย่างต้องวินิจฉัย ต้องใช้เวลาเพื่อรอฟังผล”

มีหมอคนหนึ่งชี้ไปที่เครื่องมือแพทย์หลายชิ้นที่วางอยู่ตรงมุม

เฉินตงพยักหน้า แล้วหายใจเร็วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว หลายใจเข้าออกอยู่หลายครั้งก็ยังไม่อาจสงบลงได้

“หวังว่า นี่จะเป็นความหวังสุดท้ายที่ฉันเหลืออยู่……”

เขาพึมพำ มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น และร่างกายก็สั่นเทา

ภาพนี้ ทำให้เย่หยวนชิวอดไม่อาจเก็บซ่อนความผิดหวังในสายตาของเขาเอาไว้ได้

มังกรที่แท้จริงเช่นนี้……ต้องร่วงลงมาอยู่ในจุดนี้ สวรรค์ช่างตาบอดเสียจริงๆ !

ด้วยความสามารถของหงหุ้ย สามารถตรวจสอบทุกอย่างของเฉินตงออกมาได้อย่างง่ายดาย

เฉพาะด้านของความสามารถ ก็ทำให้เย่หยวนชิวรู้สึกประหลาดใจได้แล้ว

จ่อให้ไม่มีภูมิหลังอย่างตระกูลเฉิน ด้วยความสามารถของเฉินตง ขอแค่ต้องอาศัยความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย ก็สามารถกระโดดและพุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้น นิสัยของเฉินตง ต่อให้เขาจะเป็นถึงจู่เหลารุ่นหยวนของหงหุ้ย ก็ต้องรู้สึกตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

เวลาค่อยๆ ผ่านไป

ผลการวินิจฉัยก็ค่อยๆ ออกมาทีละรายการ

มองดูหมอทั้งห้าคนที่กำลังยืนล้อมวงปรึกษากัน

แววตาของเฉินตงก็ยังคงเต็มไปด้วยความหวังอยู่ตลอดเวลา

ตอนนี้ เวลาทุกวินาทีผ่านไปช้ามาก

ในที่สุด

หมอทั้งห้าคนก็ส่งสายตาให้กัน แล้วเดินเข้าไปหาเฉินตง

มีแพทย์หนึ่งคนหันไปส่งสัญญาณให้เย่หยวนชิวเดินเข้ามา

จากนั้น เขาก็ค่อยๆ พูดขึ้น

“ผลการวินิจฉัยแต่ละอย่างออกมาไม่แตกต่างกัน แต่ก็เหมือนที่มีการวินิจฉัยเอาไว้ในขณะที่ช่วยชีวิต คุณชายท่านนี้สามารถมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ ส่วนขาทั้งสองข้างที่ไร้ความรู้สึกในตอนนี้ และไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ คงเป็นเพราะผลสืบเนื่องมาจากการที่พิษแล่นเข้าสู่กระแสเลือด”

“ถ้าอย่างนั้นผม……สามารถกลับมาเป็นปกติได้ไหม ?” เฉินตงถามด้วยความหวัง

หมอเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัว

“พวกเราทั้งห้าคนปรึกษากันแล้ว ความพิการของคุณชายในตอนนี้ ไม่สามารถตรวจพบข้อบ่งชี้ใดๆ และไม่สามารถรักษาให้หายได้ ไม่แน่ว่า……อาจต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ไปตลอดชีวิต”

น้ำเสียงที่ราบเรียบ ได้กล่าวความจริงที่สิ้นหวังที่สุดออกมา

เย่หยวนชิวสังเกตท่าทีของเฉินตงเงียบๆ

และหลังจากที่เฉินตงได้ยินคำพูดของหมอ ร่างกายของเขาก็สั่นอย่างรุนแรง

ประกายของความหวังในดวงตา ดับสูญลงไปในทันที

เหลืออยู่เพียงแค่ความมืดมนอย่างถึงที่สุด

ภายในห้องเงียบสงัดลงทันที

ด้านนอกห้อง ในที่สุดเย่หลิงหลงก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เธอชะโงกหน้าเข้ามาดูเฉินตงอย่างเงียบๆ

วินาทีถัดมา เฉินตงยิ้มออกมาอย่างโศกเศร้า ทำให้หัวใจของเย่หลิงหลงเต้นระส่ำ

เฉินตงหัวเราะแล้วมองดูขาทั้งสองข้างของตนเอง แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความสิ้นหวัง

“ไร้ประโยชน์แล้ว ไร้ประโยชน์แล้วจริงๆ ฉัน……จบเห่แล้ว ความพยายามทั้งหมด ต้องพ่ายแพ้ให้กับขาคู่นี้แล้ว……”

หลังจากพูดจบ จู่ๆ เฉินตงก็ใบหน้าซีดเผือด และกระอักเลือดออกมา

สีแดงฉาน

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset