Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 40 เอากับผู้หญิงสำส่อน

บทที่ 40 เอากับผู้หญิงสำส่อน

อากาศ เหมือนหยุดชะงักไปในทันที

สีหน้ายิ้มแย้มของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนไปทันที เธอนึกไม่ถึงว่าจะเจอหวางหนันหนันในโรงพยาบาล

ส่วนเฉินตงสีหน้าเยือกเย็น แววตาเหลือบไปมองดูแก้วเก็บน้ำร้อนในมือของหวางหนันหนัน ในใจเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง

สามปีมานี้ ถึงแม้ว่าคุณแม่จะป่วยหนักขนาดไหน หวางหนันหนันไม่เคยเป็นห่วงเลยสักนิด ในวันนี้กลับดูแลแม่ของเธอเองอย่างดี

ยังไงก่อนจะหย่ากัน แม่ของเขาก็เคยเป็นแม่ของหวางหนันหนันเหมือนกัน

แต่ว่า เฉินตงก็ปล่อยวางได้แล้ว คนตระกูลหวางไม่เคยนับถือแม่ของเขาเป็นญาติเลย หวางหนันหนันเอาเงินก้อนสุดท้ายที่เหลือที่จะต้องนำมาช่วยชีวิตแม่ของเขาไปให้น้องชายของเขาซื้อบ้าน ไม่เคยเป็นห่วงแม่ของเขา เรื่องนี้ดูปกติเกินไปจริงๆ

หวางหนันหนันมองดูกู้ชิงหยิ่งอย่างตกตะลึง สมองรู้สึกมึนงง

ถ้าไม่ใช่เพราะเจอกันโดยบังเอิญในโรงพยาบาล เธอไม่รู้เลยสักนิดว่ากู้ชิงหยิ่งกลับมาแล้ว

สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้ก็คือ กู้ชิงหยิ่งอยู่ด้วยกันกับเฉินตง

เธอเดินเข้ามาตรงหน้าของเฉินตงและกู้ชิงหยิ่ง ถามว่า: “เธอ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมไม่บอกฉัน?”

“หนันหนัน ฉันเพิ่งกลับมาเมื่อวาน” กู้ชิงหยิ่งพูด

ทันใดนั้น หวางหนันหนันตาแดงขึ้นมาทันที ยกมือขึ้นมาชี้หน้าเฉินตง พูดกับกู้ชิงหยิ่ง: “แล้วทำไมเธออยู่ด้วยกันกับเขา?”

“หนันหนัน…..” หน้าตาของกู้ชิงหยิ่งหม่นหมองลง: “ฉันกับเธอ และเฉินตง ต่างก็เป็นเพื่อนกัน ฉันกลับมา แล้วมาเยี่ยมแม่ของเฉินตง มีอะไรที่ไม่ทำถูกเหรอ?”

“ไม่ถูกแน่นอน!”

หวานหนันหนันตาแดงก่ำ รู้สึกน้อยใจ ก็ยังดื้อดึงกัดฟันพูดและเงยหน้าขึ้นสูงๆ: “ฉันถึงจะเป็นเพื่อนเธอ เพราะฉัน เธอถึงได้รู้จักกับเฉินตง!”

ในใจของเธอ การกระทำเช่นนี้ของกู้ชิงหยิ่ง ก็คือการทรยศ!

แอบกลับมาเงียบๆ แล้วคบกับเฉินตง

มันคืออะไร?

“พูดพอรึยัง? พูดพอแล้ว เราไปกันเถอะ” เฉินตงทำหน้าเย็นชา ไม่อยากจะพูดกับหวางหนันหนันแม้แต่คำเดียว เสียเวลาเปล่าๆ

เขาดึงมือของกู้ชิงหยิ่ง แล้วเดินผ่านหวางหนันหนัน

ภาพนี้ ทำให้หวางหนันหนันโมโหจนระเบิด

ทำไม

ทำไมผู้ชายที่เลิกกับฉันแล้ว จะต้องมาคบกับเพื่อนสนิทของฉัน?

“ปล่อยมือออกเดี๋ยวนี้!”

หวางหนันหนันตบมือของเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งออก จากนั้นตบไปที่หน้าของเฉินตงหนึ่งที

เพี๊ยะ!

“หวางหนันหนัน คุณเป็นบ้าอะไร?”

กู้ชิงหยิ่งตกใจ เอามือไปจับหน้าของเฉินตงด้วยความสงสาร: “เราไปกันเถอะ เราอย่าไปทะเลาะกับเค้า”

แต่ หวางหนันหนันเหมือนเป็นบ้าอย่างนั้น ดึงมือของกู้ชิงหยิ่งไว้ไม่ยอมปล่อย

“เธอมาเยี่ยมแม่ของเขาไม่ใช่เหรอ? ฉันก็เป็นเพื่อนของเธอ แม่ฉันก็ป่วย เธอทำไมไม่มาเยี่ยมแม่ฉันด้วยล่ะ?”

พูดแล้ว เธอเหมือนเป็นบ้า ใช้แรงดึงตัวกู้ชิงหยิ่งไปทางห้องผู้ป่วยของจางซิ่วจือ

ปั้ง!

ประตูห้องถูกหวางหนันหนันดันออก

หวางเต๋อ จางซิ่วจือและหวางเห้าตกตะลึงกันทั้งหมด

เห็นหวางหนันหนันร้องไห้น้ำตาไหลนองเต็มหน้า ทั้งสามคนตกตะลึงทันที

แต่ตอนที่เห็นกู้ชิงหยิ่งที่ตามเข้ามาทีหลัง โดยเฉพาะตอนที่เฉินตงเข้ามา

หวางเห้าโมโหขึ้นมาทันที: “เฉินตง แกกล้ารังแกพี่สาวฉันเหรอ? วันนี้กูเอาแกตายแน่!”

“เสี่ยวเห้า เขารังแกพี่สาวแก ไล่ตีมันออกไป!” จางซิ่วจือทำหน้าโหดร้าย โครงหน้าก็บูดเบี้ยว

เห็นหวางเห้าพุ่งเข้ามา กู้ชิงหยิ่งตกใจอย่างมาก

ในเวลานี้ เฉินตงรีบก้าวเข้ามาขวางไว้ด้านหน้าของกู้ชิงหยิ่ง เผชิญหน้ากับหวางเห้าและตะโกนด่า

“ไอ้เด็กไม่เอาไหนอย่างแก กล้าสู้กับผมเหรอ?”

หวางเห้าหยุดอยู่กับที่โดยทันที เขาเตี้ยกว่าเฉินตงหนึ่งหัว ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเอาอกเอาใจ ไม่กล้าจะสู้กับเฉินตงจริงๆหรอก

เขาดึงตัวหวางหนันหนันไป และถาม: “พี่ ไอ้เลวนี่มันรังแกพี่ใช่ไหม?”

หวางหนันหนันทนไม่ไหวจนร้องไห้ตั้งนานแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มหน้า ร้องจนไม่มีเสียง

ภาพนี้หวางเต๋อและจางซิ่วจือกัดฟันแน่นๆและโมโหมาก

จางซิ่วจือหยิบหมอนแล้วขว้างใส่เฉินตง

“ไอ้เลว! เฉินตงแกมันเลวทราม รังแกลูกสาวฉัน ตระกูลหวางของฉันไปทำอะไรให้บรรพบุรุษพวกแก? ตอนที่หนันหนันลดตัวลงไปแต่งงานกับชายหงศ์อย่างแก ให้แกอาจเอื้อมตระกูลหวางของเรา แกตอบแทนเธออย่างนี้เหรอ?”

เฉินตงสีหน้าขมขื่น มองหน้าจางซิ่วจือที่กำลังบ้าคลั่งอย่างเยือกเย็น

ส่วนกู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้วและโมโห อยู่ด้านหลังของเขา

อาจเอื้อม?

ลดตัวลงไปแต่งงานด้วย?

กู้ชิงหยิ่งเป็นพยานคนสำคัญที่เห็นเฉินตงและหวางหนันหนันคบกันตั้งแต่ต้นจนแต่งงานและหย่ากัน การตะคอกด่าของจางซิ่วจือ ใส่ร้ายป้ายสีกันชัดๆ!

“แล้วก็เธอ กู้ชิงหยิ่ง! ฉันนึกไม่ถึงจริงๆเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ หนันหนันของฉันไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจเหรอ? ทำไมเธอต้องร่วมมือกับไอ้บ้านนอกอย่างเฉินตงมารังแกเค้า?”

น้ำเสียงที่แหลมคมของจางซิ่วจือ ตะโกนด่าอย่างร้อนแรง

หวางเต๋อที่อยู่ข้างๆสีหน้าเคร่งขรึม สายตาดุร้าย เหมือนจะกลืนกินเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งให้ได้อย่างนั้น

หึหึ!

เฉินตงหัวเราะออกมากะทันหัน

เขาจ้องมองจางซิ่วจือด้วยสายที่โหดร้าย: “จางซิ่วจือ คุณเกิดปีหมาหรือไง? เห่าใครกัดใคร? ใครรังแกใครกันแน่ ตาของคุณบอดหรือไง?”

“แก แกกำลังพูดกับ? แกกล้าพูดจากับฉันแบบนี้เหรอ?” จางซิ่วจือจ้างด้วยตาโตๆ ตะโกนพูดอย่างตกใจ

“ผมกำลังพูดกับคุณ!”

เฉินตงพูดอย่างเยือกเย็น

เมื่อก่อน เพราะหวางหนันหนัน เขายอมอดทนไม่โต้ไม่ตอบ ถอยหลังยอมให้ทุกอย่าง

แต่ตอนนี้หย่าก็หย่ากันแล้ว ทำไมต้องทนต่อไปอีก?

“เฉินตง! นายหุบปากเดี๋ยวนี้! เค้าเป็นแม่ฉันนะ!”

หวางหนันหนันกำลังร้องไห้และกระทืบขา: “นาย นายมันเลว! แล้วก็เธอ กู้ชิงหยิ่งแกมันแรด พวกแก พวกแกวางแผนไว้ตั้งแต่แรก!”

เธอโมโหมากขนาดนี้ ไม่เพียงเพราะว่าเธอกับกู้ชิงหยิ่งเป็นเพื่อนกัน กลับมาแล้วยังไม่บอกเธอด้วย แต่กลับอยู่ด้วยกันกับเฉินตง

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เธอรู้ว่าเฉินตงหย่ากับเธอแล้ว ตั้งใจวางแผนแน่ๆ!

ส่วนภาพในตอนนี้ ทำให้หวางหนันหนันยิ่งมั่นใจกับสิ่งที่ตนเองเดาไว้ในใจ

กู้ชิงหยิ่งที่อ่อนหวานสั่นไปทั้งตัว

ไฟแห่งความโกรธที่อัดอั้นไว้ในใจ ระเบิดออกมาทั้งหมด

เธอเดินออกมาจากด้านหลังของเฉินตง จ้องมองหวางหนันหนันอย่างโมโห: “หวางหนันหนัน ฉันไม่รู้ว่าเธอเอาความหยิ่งยโสมาจากไหน?”

“หยิ่งยโส? หึหึ ฉันหยิ่งยโสเหรอ”

หวางหนันหนันร้องไห้น้ำตาไหลไปด้วย เหมือนคนถูกรังแกคนหนึ่ง เงยหน้าขึ้นสูงๆอย่างดื้อรั้น ชี้นิ้วไปทางเฉินตง: “เขา คือไอ้สวะที่ไม่เอาไหน คือชายหงส์จนๆคนหนึ่ง คือขยะที่ฉันไม่เอาแล้วโยนทิ้ง ในเมื่อเธออยากจะเก็บขยะ งั้นก็เก็บไปเลย กูไม่เสียดายหรอก!”

เพี๊ยะ!

เสียงตบหน้าดังขึ้นอย่างชัดเจน

ในห้อง ทุกคนตะลึงกันหมด

ใบหน้าสวยๆอย่างกู้ชิงหยิ่งเต็มไปด้วยความเยือกเย็น จากการอบรมเลี้ยงดูของตระกูลแล้ว วินาทีนี้ก็ทนไม่ไหวที่จะยื่นมือออกมาตบตีคน

“ครั้งนี้ ฉันตบแทนเฉินตง!” กู้ชิงหยิ่งพูดอย่างเย็นชา

เฉินตงตะลึงจนทำตัวไม่ถูก หัวใจกระตุกอย่างแรงทีหนึ่ง

จากนั้น กู้ชิงหยิ่งมองหน้าหวางเต๋อจางซิ่วจือและหวางเห้า แล้วหัวเราะเสียงหนึ่ง: “ตระกูลหวางอย่างพวกคุณ เอาความเย่อหยิ่งทะนงตัวมาจากไหน? ก็เพราะมีเพียงทะเบียนบ้านที่เมืองนี้ใบเดียว? ก็รู้สึกว่าเฉินตงบังอาจเอื้อม?”

“คนเป็นพ่อแม่ลำเอียงอยากมีหน้ามีตา คนเป็นน้องเป็นแค่นักเลงขอกินขอใช้รอแต่ความตาย แล้วก็หวางหนันหนัน เธอมันปีศาจฝูตี้ พวกคุณมันไม่มีอะไรดีทั้งครอบครัว!”

เสียงหัวเราะที่โหดเหี้ยม ดังกังวานอยู่ในห้องผู้ป่วย

กู้ชิงหยิ่งรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเฉินตงและตระกูลหวาง และสงสารมาโดยตลอด ตอนที่เผชิญกับตระกูลหวางที่ไม่มีเหตุผล ถึงแม้เธอจะอดทนได้แค่ไหน ก็ไม่มีทางยอมให้เฉินตงถูกรังแกอีก

ในใจของเธอ เฉินตงถูกรังแกมากพอแล้ว

แม้แต่เงินช่วยชีวิตแม่ของตนเอง ก็ถูกตระกูลหวางเอาไปให้น้องชายซื้อบ้าน จะให้เฉินตงยอมแค่ไหนถึงจะพอ?

“เฉินตงไปทำอะไรให้ตระกูลหวางเหรอ? เขาสอบได้ที่หนึ่งทั้งสี่ปีตอนเรียนมหาลัย เงินรางวัลนักเรียนดีเด่นเยอะแยะ เขาเป็นแค่ขยะงั้นเหรอ?”

“เขาเรียนจบมาแค่สามปี ก็เป็นถึงรองประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ส่วนพวกคุณนอกจากทะเบียนบ้านใบเดียว ยังมีอะไรดี? ตกลงใครบังอาจเอื้อมใครกันแน่?”

“เขากับหวางหนันหนันแต่งงานกันมาสามปี คอยช่วยเหลือเรื่องเงินกับตระกูลหวางตลอด เงินที่ได้มาจากการทำงานมีเท่าไหร่ก็ให้หวางหนันหนันเอากลับบ้านพวกคุณหมด? แม้กระทั่งเงินที่เอาไว้ช่วยชีวิตแม่ของเขา สุดท้ายก็ถูกหวางหนันหนันเอามาให้หวางเห้าซื้อเรือนหอ นี่หรือชายหงส์ที่ยากจนในสายตาพวกคุณ?”

ซักถามเป็นชุดใหญ่ ทำให้หวางเต๋อจางซิ่วจือและหวางเห้าตะลึงจนตาค้าง

หวางหนันหนันสองมือจับหัว ตะโกนร้องไห้อย่างเสียอกเสียใจ: “พอแล้ว กู้ชิงหยิ่ง แกมันก็แค่คนที่เก็บรองเท้ามือสอง(เอากับผู้หญิงสำส่อน)!”

“เหอะเหอะ!”

กู้ชิงหยิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา: “พวกคุณรู้สึกว่าเฉินตงคือรองเท้ามือสองเหรอ? เป็นขยะ? ดี งั้นฉันเก็บไปจริงๆละกัน!”

เฉินตงมองหน้ากู้ชิงหยิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ

“คนตระกูลหวางก็คือปลิงที่คอยเกาะตัวและดูดเลือดของเฉินตงนั่นแหล่ะ หวังเงินฆ่าคนยังจะมาเย่อหยิ่งผยองไม่รู้จักยางอาย รู้สึกว่าตัวเองสูงส่งมาก?”

กู้ชิงหยิ่งและเฉินตงจับมือประสานกันทั้งสิบนิ้ว ยกขึ้นมาสูงๆ เหมือนกำลังประท้วงอย่างนั้น: “พวกคุณไม่เอา ฉันเอา! ฉันชอบเฉินตง ฉันจะคบกับเฉินตง อีกอย่างฉันจะบอกอะไรให้ ฉันมีความสามารถที่จะทำให้เขาไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งชีวิต แล้วเดินขึ้นไปที่สูงสุด!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset