เมื่อเย่หลิงหลงออกไปแล้ว
เฉินตงขยี้จมูกและทำหน้าไร้อารมณ์
ไม่คิดเลยว่าการที่เทียนอ้ายมาตามหาเขา จะทำให้หงหุ้ยต้องยกระดับการป้องกันขึ้นมาเช่นนี้
เฉินตงยิ้มอย่างขมขื่น ทว่าเขากลับไม่ยอมบอกความจริงกับเย่หยวนชิวและหยวนเทียนกาง
ข้อแรกเป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้เทียนอ้ายมาตามสืบที่สมาคมซานเหออีก
เวลานี้หากเทียนอ้ายหาเขาพบ และย้อนกลับไปที่ตระกูลกู้อีก มีแต่จะทำให้คนในตระกูลกู้ทั้งหมดต้องตกอยู่ในอันตราย
ข้อสองเขารู้สึกว่าการทำเช่นนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายมากนัก
ในเมื่อกลุ่มอำนาจนั้นยังไม่เคยทำสำเร็จเลยสักครั้ง และแม้แต่เทียนอ้ายเองยังสามารถสืบถึงความผิดปกติของหงหุ้ยได้ กลุ่มอำนาจนั้นก็คงจะระแคะระคายด้วยอย่างแน่นอน
การบุกมาลอบสังหารที่หงหุ้ยอีกเป็นครั้งที่สองจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น
เขาคว้ากางเกงที่อยู่บนขาของตัวเอง ความโกรธแค้นในใจของเขาพลันค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง เขาจะต้องจับตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารเขาออกมาให้ได้
ณ วิลล่าตระกูลกู้
ท่านหลงอ่านข้อมูลทุกอย่างจนจบ
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่เขายังคงฟังเทียนอ้ายเล่าเรื่องราวไปโดยเงียบๆ
เขาต้องการจับต้นชนปลายให้ถูก เขาจะไม่มีทางยอมพลาดเบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ไปอย่างแน่นอน
เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของคุณชาย
และเชื่อมโยงไปถึงวิธีการที่เขาต้องใช้ในการรับมือต่อจากนี้ด้วย
กู้โก๋ฮั๋วกับหลี่หวั่นชิงเองก็คอยประกบซ้ายขวาอยู่ข้างกายกู้ชิงหยิ่ง
กู้ชิงหยิ่งยังคงดูเหนื่อยล้าและซีดเซียวอยู่เช่นเคย แต่ดีขึ้นกว่าในตอนแรกค่อนข้างมาก
แววตาของเธอเริ่มปรากฏประกายระเรื่อขึ้นมาบ้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าใจความหมายของเรื่องราวในภาพรวมทั้งหมด
“เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้”
เมื่อเทียนอ้ายเล่าจบก็หยักไหล่ แล้วมองไปที่ท่านหลง
เรื่องที่เธอเล่า เหมือนกับเรื่องที่เธอเล่าให้กู้โก๋ฮั๋วฟังก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน
เรื่องที่หงหุ้ยเป็นคนยื่นมือเข้ามาช่วย ไม่ได้ถูกเล่าออกมา
หลังจากที่ฟังจบ ท่านหลงก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดเงียบๆ
ส่วนกู้ชิงหยิ่งและครอบครัวก็หันมามองท่านหลงอย่างมีความหวัง
ตอนนี้ตระกูลกู้ไร้หนทางแล้ว
ความสามารถของผู้ก่อตั้งตระกูลกู้ หรือแม้กระทั่งความสามารถของผู้ใหญ่และเครือญาติที่ยังมีความสัมพันธ์กันอยู่นั้น ล้วนไม่อาจสืบหาได้ว่าใครต้องการฆ่าเฉินตง แถมยังไม่รู้ด้วยว่าสถานการณ์ของเฉินตงในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“ท่านหลง……”
กู้ชิงหยิ่งเอ่ยเสียงทุ้มลึก
ท่านหลงเงยหน้าขึ้นมามองกู้ชิงหยิ่ง ใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเขาพยายามฝืนยิ้มออกมา
เขาคล้ายตัดสินใจบางอย่างได้แล้วจึงเอ่ยกับกู้ชิงหยิ่งว่า “คุณนาย เราออกไปคุยกันหน่อยดีไหม”
คนตระกูลกู้ทั้งสามสบตากัน สุดท้ายกู้โก๋ฮั๋วก็เข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับหลายอย่าง เขาเองก็พูดอะไรมากไม่ได้จึงยอมให้กู้ชิงหยิ่งออกไปคุยกับท่านหลงตามลำพัง
กู้ชิงหยิ่งรู้ดีว่าพ่อกับแม่ไม่มีทางหักหลังตน แต่เธอเองก็ต้องยอมรับในความระมัดระวังของท่านหลง เมื่อเดินมาถึงหน้าต่าง สีหน้าของท่านหลงก็ยิ่งขมุกขมัวมากขึ้น
กู้ชิงหยิ่งเอ่ยว่า “ท่านหลง มีอะไรอยากจะพูด……ใช่ไหม”
ท่านหลงพยักหน้า “คุณชายยังไม่ตาย”
กู้ชิงหยิ่งตัวแข็งทื่อ สายตาของเธอส่องประกายความดีใจออกมา
“แต่เรื่องนี้เป็นความลับ กระผมหวังว่าคุณนายจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด เพราะคุณชายมีแผนการบางอย่าง ในฐานะที่เป็นภรรยาก็ควรจะร่วมมือกับคุณชายนะครับ” ท่านหลงกล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด
กู้ชิงหยิ่งพยายามข่มกลั้นความดีใจของตน พร้อมทั้งเข้าใจดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ “ได้ค่ะ ฉันรับปาก ฉันจะต้องปกป้องลูกน้อย รอวันเขากลับมา!”
สายตาของเธอแน่วแน่เป็นประกาย ท่านหลงเห็นเช่นนี้ก็อดชื่นชมไม่ได้ คุณชายเลือกภรรยาได้ไม่เลวจริงๆ
การเผชิญเรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะต้องจัดการอย่างใจเย็น
……
ตอนดึกในคืนวันเดียวกันนั้น
เวลาเกือบสี่ทุ่ม
เฉินตงเหงื่อออกเต็มหน้าผาก เขานอนแผ่ลงบนเตียงด้วยอาการเหนื่อยหอบ
เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดออกมาแล้วไหลอาบลงมาตามแก้ม
แต่สายตาของเขายังคงแน่วแน่เช่นเดิม
“จะต้องกลับมายืนให้ได้ จะต้องลุกขึ้นให้ได้……”
เฉินตงพึมพำ มือทั้งสองข้างจับเตียงเอาไว้พยุงให้ตัวเองลุกขึ้นนั่ง เพื่อที่จะออกกำลังกายต่อไปได้
ตอนนี้ร่างกายของเขาสามารถออกกำลังกายแบบเบาๆ ได้แล้ว
การหมดสติไปหนึ่งอาทิตย์ ทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอไปมาก
แม้ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเขาจะสูญเสียความรู้สึกไป แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหย่อนยานกับตัวเอง
แอ๊ด……
เย่หลิงหลงผลักประตูเดินเข้ามา
เมื่อเห็นเฉินตง สายตาของเธอก็เปล่งประกายวิบไหวอย่างประหลาดและเหม่อมองเขา
ผู้ชายคนนี้……พยายามที่จะกลับมาอยู่ใช่ไหม
“ดึกขนาดนี้ ยังไม่นอนอีกหรอ”
เสียงของเฉินตงดึงเย่หลิงหลงให้กลับมาสู่ความเป็นจริง
“คุณเองก็เหมือนกัน ดึกขนาดนี้ยังออกกำลังอยู่อีกหรอคะ”
เย่หลิงหลงเลิกคิ้วแล้วเดินเข้ามาหาเฉินตงอย่างนุ่มนวล เธอหยิบกระดาษเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อบนหน้าผากให้เฉินตง “ตอนนี้คุณเพิ่งฟื้นได้ไม่นาน ร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก การออกกำลังกายหนักเกินไปคงจะไม่ส่งผลดีอะไรกับคุณ ต้องค่อยๆ ฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป”
“ผมรู้”
เฉินตงหยิบกระดาษมาจากมือของเย่หลิงหลงเงียบๆ แล้วเช็ดหน้าตัวเองพลางถามว่า “คุณเข้ามาทำอะไรตอนดึกดื่น”
เย่หลิงหลงชะงักไป
มือขวาที่ถูกเฉินตงชกกระดาษทิชชู่ไป ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศก่อนจะค่อยๆ ลดมือลง
เธอจ้องไปที่เฉินตงแล้วยิ้มอย่างแปลกประหลาด “ทำไม คุณคิดว่าฉันจะทำอะไรเกินเลยคุณหรือไง”
เฉินตง “……”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เย่หลิงหลงเป็นคนที่สวยมาก
เครื่องประดับใดๆ ก็ตามเมื่ออยู่บนร่างกายของเธอ ดูจะทำให้เกิดความคิดไม่ดีได้ทั้งสิ้น
สีหน้าดีใจหรือแสร้งแปลกใจของเธอ ก็มองได้เรื่อยๆ โดยไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ
“ตอนนี้คุณเดินไม่ได้ เลยกลัวว่าฉันจะทำอะไรคุณน่ะเหรอ เรื่องนี้ฉันพอเข้าใจได้”
สองมือของเย่หลิงหลงกอดอกเอาไว้ มือเรียวงามของเธอลูบคางแล้วยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เฉินตงวางกระดาษลง “ถ้าคุณเอาแต่พูดเรื่องนี้กับผม ผมจะตะโกนแล้วนะ หงกุ้นของหงหุ้ย หลานสาวของจู่เหลารุ่นหยวน เข้ามาในห้องผู้ชายกลางดึก วางแผนคิดจะทำเรื่องฉาวโฉ่ รับรองว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่”
“คุณ……” เย่หลิงหลงเริ่มร้อนใจ “คุณมันหน้าไม่อาย!”
“คุณเป็นฝ่ายเริ่มลงมือเองนะ” เฉินตงกล่าวอย่างสงบ
ตอนนั้นที่เย่หลิงหลงอารมณ์พุ่งปี๊ดขึ้นมา
หมอนี่พอเริ่มจะดีขึ้นมาหน่อย ก็กลับมายั่วโมโหอีกแล้ว
เย่หลิงหลงแอบโมโหอยู่เงียบๆ แต่ก็ยังเอ่ยออกมาว่า “ฉันนอนไม่หลับ รู้สึกเป็นห่วงคุณขึ้นมาเลยตั้งใจแวะมาดูคุณหน่อย ตอนนี้สมาคมซานเหอกำลังใช้กฎฉุกเฉินอยู่ วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่กลับมาแล้ว แปลกมาก”
เฉินตงเอือมระอา
ถ้ามีการเคลื่อนไหวต่างหากถึงจะแปลก ที่เทียนอ้ายปีนกำแพงเข้ามาเช่นนั้นก็เพื่อจะเข้ามาพบตน
เมื่อเห็นเฉินตงนิ่งไป เย่หลิงหลงจึงโบกมือ “ช่างเถอะ คุณพักผ่อนเยอะๆ และกัน อย่าออกกำลังหนักเกินไป ฉันขอตัวกลับห้องไปพักผ่อนก่อน ขืนอยู่ที่นี่นานๆ พี่เทียนกางจะต้องบ่นฉันเละแน่”
เมื่อเย่หลิงหลงออกไปแล้ว
เฉินตงจึงขมวดคิ้ว แล้วกลับลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง
จริงสิ ตั้งแต่หมดสติไปจนถึงตอนนี้เป็นเวลานานแค่ไหนแล้ว
คนพวกนั้นที่ต้องการจะฆ่าฉัน ป่านนี้คงลงมือแล้วล่ะมั้ง
แม้ว่าหงหุ้ยจะสามารถปิดบังต่อตระกูลผู้มีอิทธิพลในเมืองนี้ได้ แต่ก็คงจะปิดบังคนพวกนั้นไม่ได้
ฟิ้ว!
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ก็เกิดเสียงการเคลื่อนไหวผ่านลมดังเข้ามาจากด้านนอก
และในเวลาเดียวกัน
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นตามมาทันที
เย่หลิงหลง!
สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไป เขาลุกพรวดขึ้นนั่งแล้วรีบลากรถเข็นวีลแชร์เข้ามา
ทันใดนั้น เกิดเสียงร่างกายปะทะต่อสู้กันอย่างดุเดือดดังเข้ามาจากด้านนอก
มือสังหาร……มาแล้ว!