ในสนาม
แสงเย็นเยียบคมปลาบ
เงาดำกวัดแกว่งมีดดาบคู่สั้นยาวจนส่งเสียงหอนในอากาศ ราวกับพายุห่าฝนกระหน่ำที่สาดซัดลงบนร่างของเย่หลิงหลง
เย่หลิงหลงตัวเปล่าไร้อาวุธ เบี่ยงหลบด้วยความตระหนก
ทว่าขาด้านขวากลับปรากฏเลือดแดงสดซึมออกมา
เธอคาดไม่ถึงว่า เมื่อครู่นี้ขณะเธอยังกังวลเรื่องที่นักฆ่าไม่มีการเคลื่อนไหว จู่ๆ นักฆ่ากลับได้แอบย่องเข้ามาอย่างเงียบเชียบเสียแล้ว
แถมยังเป็นฝ่ายซุ่มโจมตีเธอก่อนอีกด้วย
หากไม่ใช่เพราะความว่องไวของเธอ ตอนนี้วิญญาณเธอคงหลุดลอยไปพร้อมกับมีดของนักฆ่าผู้นี้แล้ว
ฟิ้ว!
แสงเย็นเยียบเคลื่อนผ่าน
ร่างของเย่หลิงหลงสั่นสะท้าน ดวงตาของเธอหรี่เล็กลง
สายตาของเธอมองเห็น มีดดาบยาวพุ่งตรงเข้ามายังคอของเธอ
ในขณะที่กระโดดเบี่ยงตัวหลบอยู่นั้น เย่หลิงหลงก็ยกมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาขวางรับใบมีดเอาไว้
แต่เป็นเพราะขาขวาของเธอบาดเจ็บเพราะลูกดอก ความเจ็บปวดจึงแล่นพล่านขึ้นมา
เย่หลิงหลงเจ็บจนขมวดคิ้วแน่น ร่างของเธอโซซัดโซเซ
ไม่รีรอให้เธอทันยกมือขึ้นมาขวางมีดดาบเอาไว้
ตุ้บ!
เงาดำยกเท้าขึ้นถีบเข้าที่หน้าอกของเธอ
หลังจากเย่หลิงหลงกระเด็นลงไปกระแทกพื้นแล้ว ใบหน้างดงามได้รูปของเธอพลันเปลี่ยนเป็นขาวซีด
เธอกุมท้องของตัวเอง ตัวแข็งทื่อไม่อาจลุกขึ้นยืนได้ ราวกับอวัยวะภายในของเธอบิดรวมเข้าด้วยกัน
“ตายซะ!”
น้ำเสียงเย็นชาดังก้องในหู
เย่หลิงหลงเงยหน้าขึ้นจึงเห็นมือทั้งสองของเงาดำที่กำมีดดาบคู่เอาไว้กำลังพุ่งลงมาที่ตน
มีดยาวที่อยู่ในมือถูกง้างขึ้นเหนือศีรษะแล้วฟาดฟันลงมาในทันที
“ฉันกำลังจะตายแล้วใช่ไหม”
เย่หลิงหลงรู้สึกสิ้นหวัง
ปั้ง!
ในเสี้ยววินาทีอันตรายนั้น
แก้วน้ำใบหนึ่งปลิวเข้ามาชนที่ใบมีดของเงาดำอย่างแรง จนส่งเสียงแล้วแตกออกเป็นเสี่ยง
ในเวลาเดียวกันนั้น แรงกระแทกอย่างแรงที่พุ่งโจมตี ทำให้เงาดำไม่ทันระวังทำมีดเบี่ยงไปอีกทาง
เงามีดที่สะท้อนเย็นเฉียบเฉียดตัวเย่หลิงหลงแล้วหล่นลงบนพื้น ฟันผมดำขลับของเธอขาดไปช่อหนึ่ง
บรรยากาศในสนามเงียบสงัดลง
ความแค้นเคืองอย่างรุนแรงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอีก
เย่หลิงหลงเหม่อลอยไปพักหนึ่ง
เงาดำปรากฏตัวมาอย่างกะทันหันและลงมืออย่างดุเดือดหวังเอาชีวิต
เธอเองก็เตรียมตัวรอรับความตายอยู่แล้ว
แต่กลับยังคงมีชีวิตรอด!
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เย่หลิงหลงมองไปยังทิศทางที่แก้วน้ำลอยมา
เขา……ช่วยฉันหรอ
ในช่วงเวลาเพียงชั่วครู่ เย่หลิงหลงยังคงมึนงง หัวใจของเธอรู้สึกราวกับถูกสิ่งของบางอย่างกระแทกเข้าอย่างรุนแรง
เฉินตงนั่งอยู่บนรถเข็นวีลแชร์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เขาหรี่ตาด้วยความอาฆาตและโกรธแค้น
เขาจ้องมองมาที่เงาดำราวกับสัตว์ดุร้าย
“ที่ฉันต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ต้องขอบคุณแกเลยนะ นี่แกยังอุตส่าห์มารนหาที่ตายถึงนี่อีก”
ความเคียดแค้นชิงชังอบอวบอยู่ในสนาม
เงาดำไม่สนใจเย่หลิงหลงอีก มันค่อยๆ หมุนตัวกลับมาช้าๆ แล้วเล็งมีดไปทางเฉินตง
“ฉันมาเพื่อฆ่าแกต่างหาก ไม่ได้มารนหาที่ตาย”
สายตาของเฉินตงเบิกกว้าง ดวงตาเปล่งประกายน่าพรั่นพรึง “แกคิดว่าที่ฉันตกต่ำถึงขั้นต้องนั่งรถเข็น จะทำให้ฉันฆ่าแกไม่ได้งั้นหรอ”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้เงาดำเกิดความระแวดระวังตัวมากขึ้น ฝีเท้าของเขาชะงักลง
ฟิ้ว!
วินาทีต่อจากนั้น
เงาดำได้เขวี้ยงลูกดอกออกไปอีกลูกหนึ่ง
ฟึ้บ!
ลูกดอกพุ่งเข้าเสียบที่ขาขวาของเฉินตง เลือดแดงสดไหลทะลักออกมา
“เฉินตง!”
เย่หลิงหลงหน้าถอดสี เธอกระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน แล้ววิ่งโซซัดโซเซไปยังเฉินตง
ทว่าก้าวเท้าไปเพียงสองก้าว
เงาดำหันขวับกลับมา แล้วยกเท้าถีบเข้าไปที่ท้องของเธอดังตุ้บ ทำเอาเธอกระเด็นกลับไปอยู่ที่เดิม
เมื่อล่วงลงบนพื้นอีกครั้ง เย่หลิงหลงรู้สึกปวดสะท้านเข้าไปถึงข้างในจนร่างกายบิดงอ
ความเจ็บปวดจากอวัยวะภายในที่บิดตัว ทำเอาร่างบอบบางของเธอสั่นสะท้าน
ส่วนเงาดำนั้น กลับขมวดคิ้วหันกลับไปจ้องเฉินตงอีก
แววตามืดดำราวดวงตาของงูพิษ
ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ เฉินตงไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดออกมาเลยแม้แต่น้อย
ตอกย้ำให้เห็นชัดเจนว่าขาทั้งสองของเขาได้สูญเสียความรู้สึกไปสิ้นแล้ว
คนธรรมดาทั่วไปจะอดกลั้นได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาเช่นนี้ได้อย่างไร
ต่อให้พยายามฝืนกลั้นแค่ไหน ก็ไม่สามารถข่มความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้อย่างแนบเนียนขนาดนี้ได้
คิ้วของเงาดำคลายตัว
แล้วหัวเราะเย้ยหยัน
“ดูท่าแกจะกลายเป็นคนพิการไปจริงๆ แล้วสินะ ก็ดี ฉันจะช่วยส่งแกไปตายเอง”
กริ๊ง!
กริ๊ง!
มีดดาบยาวในมือทั้งสองแกว่งไกวอยู่กลางอากาศส่องประกายเย็นเยียบ
ความอาฆาตแค้นหมายเอาชีวิต
“เฉินตง ถอยไป รีบหนีไป!”
เย่หลิงหลงหน้าถอดสี ตอนนั้นดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดง
แต่ภาพที่เธอเห็น เฉินตงยังคงนั่งเฉยอยู่บนรถเข็นไม่ขยับเขยื้อน
ทันใดนั้นเสียงเย็นเฉียบแผดก้องขึ้น
“ถ้าฉันหนี เธอก็ตายน่ะสิ!”
ร่างของเย่หลิงหลงสะท้าน สมองของเธอเกิดเสียงดังก้องราวฟ้าผ่า
เมื่อเห็นเงาดำพุ่งตรงเข้าใส่เฉินตง เธอก็ไม่ใส่ใจความเจ็บปวดบนร่างกายตนเอง เธอแผดเสียงลั่นแล้วพุ่งเข้าใส่เงาดำอย่างบ้าคลั่ง
“ตายซะ!”
เงาดำที่วิ่งเข้าใส่เฉินตงตะโกน
มันหันขวับกลับไป มีดยาวในมือแหวกอากาศส่งเสียงหอนพุ่งตรงเข้าไปที่เย่หลิงหลง
เมื่อเผชิญหน้ากับมีดดาบยาว เย่หลิงหลงกลับไม่รู้สึกกลัว ใบหน้าสวยสง่าของเธอพร้อมรับความตาย
ขอแค่ยื้อเวลาไว้ได้สักวินาทีก็เพียงพอ……
เฉินตงตวาดลั่น “หยวนเทียนกาง ยังไม่ลงมืออีกรึ”
ครืน!
เสียงประตูห้องเปิดออก ดังลอยมาจากทิศทางไม่ไกลนัก
มีดยาวเล่มหนึ่งทะยานผ่านอากาศส่งเสียงแหลมยาวพุ่งตรงมาที่เงาดำ
ความเร็วราวกับกระแสไฟ
มีดยาวพุ่งมาที่เงาดำภายในชั่วพริบตา
“ฝีมือเยี่ยม!”
เงาดำส่งเสียงอย่างตระหนก พลางจ้องเขม็ง
ในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีนั้น มันจำเป็นต้องตัดสินใจ
ล้มเลิกการโจมตีเย่หลิงหลง พลันกระโดดเบี่ยงตัวถอยหลบ
แก๊ก!
มีดยาวที่จ่อตรงไปที่เย่หลิงหลง ลอยขึ้นรับการโจมตีจากมีดยาวที่พุ่งลงมา เกิดแสงไฟสว่างวาบ
มีดยาวหล่นลงบนพื้น
เงาดำกระเด็นกระแทกพื้น ประกายตามืดหม่นปรากฏความตื่นกลัวและระแวดระวัง มันมองตรงไปยังประตูห้องที่ถูกเปิด
ในความมืดสลัวนั้นจึงเห็นเงาของคนผู้หนึ่ง
“พี่ใหญ่!”
เย่หลิงหลงดีใจจนแทบคลุ้มคลั่ง
“เด็กบ้า เวลาคลุ้มคลั่งทีไร ไม่เคยห่วงชีวิตตัวเองเลย”
หยวนเทียนกางก้าวออกมาจากความมืดสลัว ด้วยสีหน้าตำหนิติติง
เย่หลิงหลงยิ้มกว้างอย่างดีใจ สายตาของเธอเหลือบไปมองเฉินตงที่นั่งอยู่บนรถเข็นอย่างไม่รู้สึกเสียใจ
เมื่อหยวนเทียนกางเดินออกมาจากความมืด
สายตาแตกตื่นระแวดระวังของเงาดำ แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว
“ยมราชหยวนเทียนกาง เป็นถึงหลงโถว แต่กลับมาเฝ้าเขาเองเลยหรือ”
วินาทีนั้น ใบหน้าของหยวนเทียนกางเปรียบเหมือนสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่เงาดำอย่างแรง
มันรู้ดีว่าตอนนี้กฎฉุกเฉินของสมาคมซานเหอถูกยกระดับขึ้นสูงสุด
แต่มันคิดไม่ถึงว่า แค่เฉินตงคนเดียว……จะทำให้หลงโถวของหงหุ้ยต้องมาเฝ้าด้วยตนเอง
เรื่องใหญ่แล้ว!
ในขณะที่หัวใจของเงาดำเต้นระส่ำ มันก็ถอยหลังไป มือทั้งสองยังคงกำมีดดาบเอาไว้แน่น
หยวนเทียนกางเดินเข้ามาพลางหันไปมองเฉินตง
“ขอบคุณที่ช่วยหลิงหลงเอาไว้”
“เธอต่างหากที่ช่วยผม” เฉินตงส่ายศีรษะ “คุณต่างหากที่ยังนั่งนิ่งอยู่ได้”
หยวนเทียนกางส่ายหน้าอย่างเหลืออด “ก็แค่หมาดำที่แอบย่องเข้ามาตัวหนึ่ง จะให้นั่งไม่ติดได้ยังไง”
ระหว่างที่พูด เขาก็ก้มตัวลงไปเก็บมีดยาวขึ้นมา
ท่าทางของเขาตั้งแต่เริ่มต้นจนจบดำเนินไปอย่างเพิกเฉยไม่ใส่ใจ ราวกับไม่เห็นเงาดำอยู่ในสายตา
ส่วนเงาดำเมื่อได้ยินว่าหยวนเทียนกางว่าตนเป็นหมาดำ หางตาของเขาก็เริ่มกระตุก
แต่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ สายตาของเขาจ้องเขม็งไปที่เฉินตง
ทว่า
“ไม่ต้องมองหรอก แกไม่มีทางฆ่าเขาได้”
หยวนเทียนกางกล่าวอย่างเรียบเฉย “แกใช้ลูกดอกทำร้ายน้องสาวฉันครั้งหนึ่งและทำร้ายเฉินตงครั้งหนึ่ง คนอย่างฉันเป็นคนมีเหตุมีผล และไม่กลั่นแกล้งใคร หนึ่งทีเอาคืนหนึ่งครั้ง เพื่อชดใช้รอยแผลทั้งสองนี้ ฉันขอใช้มีดหนึ่งคารวะแกหนึ่งครั้ง”