Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 42 เอาให้ถึงตาย

บทที่ 42 เอาให้ถึงตาย

ประโยคสุดท้ายที่กู้ชิงหยิ่งตอบ

ทำให้เฉินตงไม่เข้าใจความหมายเสียเลย

กลับมาถึงห้องเช่า ภายในห้องรับแขกยังมีไฟเปิดสว่างอยู่

คุนหลุนนั่งหลับตาอยู่บนโซฟา

เฉินตงยิ้ม“คุนหลุนยังไม่พักผ่อนอีกเหรอ?”

“คุณชายครับ ท่านหลงได้โทรศัพท์มาครับ”

คุนหลุนลืมตาขึ้น พูดอย่างมีความเคร่งขรึมเล็กน้อย“ท่านหลงออกจากบ้านกลางดึก ส่วนเฉินเทียนหย่างไม่ได้ไปจากเมืองนี้”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เฉินตงถาม

ท่านหลงคือคุณพ่อผู้ซึ่งไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนส่งมาช่วยเหลือตน ตอนนี้เร่งรัดกลับบ้าน คงต้องเกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่

ยิ่งไปกว่านั้น น่าจะเกี่ยวข้องกับเฉินเทียนหย่างด้วย ไม่เช่นนั้นคุนหลุนไม่เอาสองเรื่องมาพูดรวมกันหรอก

“ตอนนี้ยังไม่รู้ครับ”คุนหลุนส่ายหัว“แต่ตอนที่ท่านหลงคุยทางโทรศัพท์เหมือนจะเกี่ยวข้องกับเฉินเทียนหย่างครับ”

ทันใดนั้นเฉินตงรู้สึกตลกสิ้นดี

คุณพ่อที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนบอกให้เขากลับไปสายงานของตระกูลต่อ แต่เฉินเทียนหย่างคนเดียวก็สามารถทำให้ผู้ช่วยของพ่ออย่างท่านหลงต้องกลับไปตอนกลางดึก

ราวกับว่า……คุณพ่อคนนั้นไม่ค่อยมีอิทธิพลความสามารถในตระกูลสักเท่าไหร่?

คล้ายกับรู้ความคิดของเฉินตง คุนหลุนจึงอธิบายว่า“คุณชายครับ ตระกูลเฉินไม่ธรรมดาเลยครับ และอำนาจภายในก็ไม่สมดุลกันอย่างรุนแรงครับ ดังนั้นคุณท่านก็อาจมีเรื่องติดขัดอยู่เป็นบางครั้ง”

“ช่างเขาเถอะ”

เฉินตงโบกมือไม่ได้ใส่ใจอะไร

ตอนที่โครงการเปลี่ยนโฉมย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองคืบหน้าไปอย่างราบรื่น บททดสอบครั้งนี้เกือบได้คะแนนเต็มแล้ว ซึ่งเพียงพอให้คุณพ่อภาคภูมิใจได้เลยทีเดียว

ถึงแม้ท่านหลงจะไม่อยู่ข้างกาย และยังมีเฉินเทียนหย่างอยู่ในเมืองอีก แต่เขาก็รู้สึกว่าคงไม่เกิดปัญหาใหญ่อะไรขึ้นมาทันทีหรอก

ตระกูลเฉินถึงจะมีบารมีค้ำฟ้า

แต่จะมาถึงในเมืองนี้ได้เชียวเหรอ?

ถึงแม้เฉินเทียนหย่างจะเป็นมังกรแกร่งกล้า แต่ก็ไม่อาจเอาชนะเขาที่เป็นงูเจ้าถิ่นในเมืองนี้ได้หรอกมั้ง?(คือสำนวน)

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น

เฉินตงตื่นเช้าตรู่เฉกเช่นปกติ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายและฝึกวิชาการต่อสู้มือเปล่ากับคุนหลุน จากนั้นก็เดินทางไปที่บริษัท

อสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

ระหว่างทางเขาได้โทรหาฟ่านลู่ กำชับเธอว่าห้ามคนอื่นเข้าใกล้ เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่ออาการป่วยของคุณแม่

เมื่อวานพบหวางหนันหนันที่โรงพยาบาลโดยบังเอิญ ด้วยนิสัยของตระกูลหวางคงไม่ยอมเลิกรากันง่ายๆหรอก

ยุ่งงานจนถึงเที่ยง จู่ๆเสี่ยวหม่าก็พุ่งเข้ามาในห้องทำงาน

“ไม่ดีแล้วพี่ตง ธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างทั่วทั้งเมืองประกาศไม่ยอมขายให้กับไท่ติ่งของเรา รวมทั้งบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ด้วยครับ”

สีหน้าเฉินตงมืดครึ้มขึ้นมากะทันหัน

แม้แต่เขาก็ตกตะลึงกับคำพูดของเสี่ยวหม่า

ไท่ติ่งรับทำโครงการปรับโฉมย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองมา ตอนนี้นับว่ามีหน้ามีตาในเมืองแห่งนี้ไม่น้อย หากกลุ่มธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างไม่มีน้ำเข้าสมอง คงไม่ตัดสินใจกระทำเช่นนี้เด็ดขาด

อีกทั้งเมื่อวานเพิ่งจะเซ็นสัญญารับซื้อวัสดุก่อสร้างกับบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่หมาดๆนี่!

เสี่ยวหม่าร้อนรนจนเหงื่อเต็มหน้าผาก“พี่ตงครับ เรื่องนี้ใหญ่มากนะครับ ผมได้ติดต่อกับประธานจางของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่แล้วครับ เขาแจ้งมาว่ายินดีชดใช้ค่าผิดสัญญาครับ ถ้าหากบริษัทของพวกเราถูกทุกบริษัทในเมืองต่อต้านเช่นนี้ โครงการแปลงโฉมก็ต้องชะลอตัวออกไป งานก่อสร้างก็ต้องหยุดดำเนินการจนกว่าจะหาบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างจากแหล่งนอกเมืองมาได้……”

“ผมรู้”เฉินตงตัดบทเสี่ยวหม่า หากเริ่มดำเนินการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เมื่อใด ทุกวินทีก็จะมีความหมาย ซึ่งต้องใช้เงินด้วยกันทั้งสิ้น ระหว่างที่รอหาบริษัทวัสดุก่อสร้างใหม่มาได้ ช่วงนี้ก็เพียงพอให้ไท่ติ่งของพวกเขาขาดทุนอย่างย่อยยับได้เลย!

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จู่ๆเฉินตงก็พูดเสียงเบาว่า“เป็น……คุณหรือเปล่าครับ?”

เวลาเดียวกัน

บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่

ปัง!

กู้ชิงหยิ่งโยนเอกสารลงบนโต๊ะด้วยความโมโห ใบหน้าสวยงามกำลังมีเพลิงโกรธอยู่ จ้องเขม็งจางเห้อหมิง “ประธานจาง คุณทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง?เมื่อวานเพิ่งเซ็นขายวัสดุให้แก่ไท่ติ่ง วันนี้ทำไมบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ของพวกเราก็ร่วมประกาศต่อต้านขึ้นมาด้วย?”

เธอก็เพิ่งจะรู้เรื่องเมื่อสักครู่นี้

ส่วนเธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการต่อต้านไท่ติ่งเสียเลย

จางเห้อหมิงเป็นตัวแทนบริษัทและเป็นตัวแทนเธอเซ็นหนังสือประกาศฉบับนี้เอง!

“อันนี้เป็นกฎของธุรกิจครับ ไท่ติ่งทำให้ทุกบริษัทโกรธเสียแล้ว”

จางเห้อหมิงแสร้งทำเป็นลำบากใจ พลางเอ่ยขึ้นมาว่า“ถ้าบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ไม่ทำเช่นนี้ จะถูกธุรกิจในเครือเดียวกันกดขี่ได้นะครับ ถึงแม้บริษัทของพวกเราจะเป็นอันดับหนึ่งในเมืองนี้ แต่ก็รับอะไรอย่างนี้ไม่ได้นะครับ”

หยุดชะงักได้สักพัก จางเห้อหมิงกดเสียงเบาลงราวกับเป็นการบ่นพึมพำ“ยิ่งไปกว่านั้น สัญญาร่วมงานกับไท่ติ่งของเราก็ออกราคาต่ำสุด ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักกับกลุ่มธุรกิจเดียวกัน พวกเราก็ถือโอกาสนี้ทำลายสัญญานั้นทิ้งเสียเลยครับ”

“คุณคิดว่าฉันเป็นเด็กอายุสามขวบหรือไง?”

กู้ชิงหยิ่งโมโหจะบ้าคลั่งอยู่แล้ว นิ้วชี้เรียวสวยชี้ไปยังแฟ้มเอกสาร“เซ็นสัญญาแล้ว คุณเพิ่งจะบอกฉันตอนนี้?ถึงบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่จะขาดทุนให้กับไท่ติ่งแล้วจะทำไม?ไท่ติ่งเป็นบริษัททำเงินที่ดีขนาดนี้ ตอนนี้ทุกบริษัทต่างร่วมมือกันต่อต้าน ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่?”

ประโยคสุดท้ายกู้ชิงหยิ่งเกือบจะเบียดเสียงออกมาทางฟัน

เธอไม่ใช่ทายาทโง่งมเสียหน่อย เธอผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว แม้กระทั่งตอนใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ เธอก็ไม่เคยหยุดนิ่ง พากเพียรพยายามเสมอมา

เรื่องง่ายๆแค่นี้ จางเห้อหมิงหลอกเธอไม่ได้หรอก

เธอกลับเข้าประเทศก็เพื่อช่วยเหลือเฉินตง ถึงแม้ต้องแลกมาด้วยราคาแพง แต่เธอก็รับได้ทั้งนั้น

แต่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น

สีหน้าจางเห้อหมิงซีดเซียว กัดกระพุ้งแก้มแน่น

จากนั้น กู้ชิงหยิ่งพูดอีกว่า“ไม่ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ฉันก็ไม่สนว่าคุณรับผลประโยชน์มาเท่าไหร่ ตอนนี้รีบไปขอโทษกับไท่ติ่งเดี๋ยวนี้

และต้องทำตามกฎระเบียบสัญญาฉบับนี้ด้วย ไม่เช่นนั้น คุณ……ออกไปจากบริษัทได้เลย!”

“เสี่ยวหยิ่ง!”นัยน์ตาจางเห้อหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนจะระเบิดออกมาแล้ว“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?คุณรู้บ้างไหมว่าถ้าทำเช่นนี้บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่จะขาดทุนเท่าไหร่?”

“ฉันไม่สน!”ท่าทีของกู้ชิงหยิ่งแน่วแน่มาก

จางเห้อหมิงพูดเสียงเย็นยะเยือก“เจ้านายใหญ่เป็นคนจ้างผมมา มีเพียงเจ้านายใหญ่ถึงจะมีคุณสมบัติไล่ผมออก คุณไม่มีสิทธิ์!”

พูดจบหันหลังเดินออกไป

กู้ชิงหยิ่งโมโหจนใบหน้าแดงระเรื่อไปหมด นั่งตะลึงค้างอยู่บนเก้าอี้

ชั่วขณะนั้นคำพูดของจางเห้อหมิงทำให้เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี

เพราะเธอไม่ได้บอกเป้าหมายที่แท้จริงที่กลับประเทศให้พ่อแม่ทราบ

ถ้าหากเรื่องนี้เข้าหูพ่อแม่เมื่อไหร่ก็จะปิดไม่ได้อีกต่อไป

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กู้ชิงหยิ่งลุกขึ้นเดินไปด้านนอก

เรื่องนี้เธอจำเป็นต้องอธิบายให้เฉินตงเข้าใจ

ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ต้องข้ามจางเห้อหมิงไป เธอก็จะขายวัสดุก่อสร้างให้กับเฉินตงเป็นแน่

ไม่เช่นนั้นไม่เพียงแต่กระทบถึงผลกำไรของไท่ติ่งเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่ออนาคตของเฉินตงอีกด้วย!

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง

บรรยากาศอันตึงเครียดปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ

พนักงานทุกคนต่างกังวลใจ นั่งไม่เป็นสุข

ถูกบริษัทการค้าต่อต้านราวกับจะฆ่ากันให้ตายไปเลยเสียอย่างนั้น เพราะมันประดุจดั่งมีเฉือนเข้าที่ลำคอก็ไม่ปาน

ปัง!

เฉินตงเดินออกมาจากห้องทำงาน

ทันใดนั้นทุกคนต่างมองมาอย่างพร้อมเพรียง

เฉินตงยิ้มพลันกล่าวว่า“ทำไมไม่ทำงานแล้วหละ?โครงการเปลี่ยนโฉมฝั่งตะวันตกของเมืองมีผลกระทบกับบริษัทพวกเรามากเลยนะ ห้ามทุกคนขี้เกียจ”

ประโยคที่พูดไปเชิงล้อเล่น แต่ไม่อาจทำให้พนักงานหัวเราะได้เลย

เสี่ยวหม่าสนิทกับเฉินตงที่สุด บัดนี้ยืนขึ้นมาพูด“พี่ตง……”

“พอแล้ว เรื่องเล็กๆเอง”

เฉินตงโบกมือตัดบทของเสี่ยวหม่า“ผมออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง เรื่องวัสดุน่าจะจัดการได้ในวันนี้”

โครม!

พนักงานทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆกัน

บริษัทค้าวัสดุก่อสร้างทั่วทั้งเมืองนี้ร่วมมือกันต่อต้านไท่ติ่ง ถึงแม้จะไปหานอกเมืองก็ไม่อาจจัดการแล้วเสร็จได้ภายในครึ่งวันหรอก!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset