หลังจากเลิกงานแล้ว
เฉินตงรีบตรงไปยังบ้านของกู้ชิงหยิ่งทันที
โอกาสเช่นนี้ไม่ได้มีง่ายๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ทั้งสองคนก็เกือบจะแต่งงานกันแล้ว จะทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ?
บ้านของกู้ชิงหยิ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์ห้องหนึ่ง ไม่ได้หรูหรา แต่กลับเป็นบ้านที่ดูอบอุ่น อีกทั้งยังเหมาะแก่การอยู่คนเดียวของกู้ชิงหยิ่ง
ขณะที่เฉินตงกำลังเคาะประตูห้องของกู้ชิงหยิ่งอยู่
กู้ชิงหยิ่งก็ยืนมองเขาจากทางด้านหลังอยู่สักครู่ แล้วพูดว่า : “คุนหลุนล่ะคะ ?”
ทำเรื่องนี้ จะพากว้างขวางคอมาได้อย่างไร ?
เฉินตงยิ้ม : “วันนี้ไม่ได้ให้คุนหลุนคอยรับส่ง ผมขับรถมาเอง”
“ก็ดีค่ะ”
กู้ชิงหยิ่งยิ้มหวาน : “รีบเข้ามาสิคะ อาหารทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในห้องครัวยังเหลือซุปอีกหนึ่งอย่าง ประเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
เฉินตงเดินเข้าไปในห้องด้วยรอยยิ้ม เขาเห็นอาหารอันโอชะที่มีกลิ่นหอมยั่วยวนและสีสันชวนรับประทานวางอยู่บนโต๊ะ เขารู้สึกน้ำลายไหลทันที
แต่ทว่า เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย
“เสี่ยวหยิ่ง คุณทำอาหารรสเลิศเช่นนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”เฉินตงเอ่ยถาม
กู้ชิงหยิ่งหยิบตำราอาหารเล่มหนึ่งยื่นให้เฉินตง : “นี่ ทำตามสูตรในนี้ก็ใช้ได้แล้ว ฉันไม่ได้ต้นน้ำเป็นแค่อย่างเดียวสักหน่อย คนโง่ !”
เฉินตงมองดูก็รู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่ากู้ชิงหยิ่งจะมีฝีมือในการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ !
เขายังจำตอนที่กู้ชิงหยิ่งอยู่บ้านเขาเมื่อก่อนได้ดี ฉากที่เธอบากหน้าเข้าไปช่วยฟ่านลู่ต้มน้ำร้อน
เผลอแป๊บเดียว ก็สามารถทำอาหารอันโอชะตามสูตรในตำราออกมาวางเต็มโต๊ะได้แล้ว !”
“เลิกมองได้แล้ว รีบไปล้างมือเร็วเข้า วันนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าครัวอย่างเป็นทางการ พ่อกับแม่ฉันยังไม่เคยมีโอกาสได้ทานเลย เพราะฉะนั้นคุณต้องตั้งใจช่วยฉันชิมนะ” กู้ชิงหยิ่งพูดเร่งรัด
“ไม่มีปัญหา”
เฉินตงยิ้มแล้วเดินเข้าไปในครัว หลังจากล้างมือเรียบร้อยแล้ว กู้ชิงหยิ่งก็หยิบซุปมะเขือเทศขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ
หลังจากนั่งประจำที่แล้ว
กู้ชิงหยิ่งก็เร่งเร้าเฉินตงให้รีบชิมอาหาร
เฉินตงคีบซี่โครงใส่เข้าปากหนึ่งชิ้น แล้วจู่ๆ ก็นิ่งไป
กู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ มือทั้งสองข้างของเธอจับกันแน่นด้วยความประหม่า : “เป็นอย่างไรบ้าง รีบวิจารณ์มาเร็ว !”
“อร่อย !”
เฉินตงกลืนซี่โครงลงไป แล้วชูนิ้วโป้งให้
กู้ชิงหยิ่งยิ้มออกมาอย่างเบิกบานใจในทันที เธอตบหน้าอกของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจแล้วพูดว่า : “ฉันเก่งใช่ไหมล่ะ แค่ครั้งแรกก็ทำสำเร็จแล้ว !”
เฉินตงยิ้มพร้อมพยักหน้า : “ยัยโง่ของผมเก่งที่สุด !”
ทันทีที่พูดจบ
กู้ชิงหยิ่งก็ผงะไป เธอหันมองเฉินตงทันที : “คนโง่ เมื่อกี้คุณกินซี่โครงเข้าไป”
เฉินตงพยักหน้าด้วยความสงสัย
“ก็ซี่โครงนะสิ ?” กู้ชิงหยิ่งถาม “คุณกลืนเข้าไปแล้ว ?”
ซวยแล้ว !
เฉินตงรู้สึกตกใจในทันที เมื่อครู่เขารีบกลืนเข้าไป เพราะต้องการที่จะเอ่ยชมกู้ชิงหยิ่ง จึงลืมเรื่องกระดูกซี่โครงไปเลย !
“ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่กระดูกซี่โครงชิ้นเดียว เพราะยัยโง่อย่างคุณทำอาหารอร่อยเกินไป ทำให้ผมตื่นเต้นจนลืมไปเสียสนิทเลย !” เฉินตงหัวเราะพลางอธิบาย
“ฮ่าฮ่า……ฉันจะลองชิมดู”
กู้ชิงหยิ่งเองก็ไม่รีรอ รีบหยิบตะเกียบแล้วคีบซี่โครงขึ้นมาหนึ่งชิ้น จากนั้นจึงใส่เข้าปากไป
มุมปากของเฉินตงกระตุก แววตาของเขาดูแปลกประหลาด
ทันใดนั้น
“ถุย……”
ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนไปทันที เธอคายกระดูกซี่โครงออกมา แล้วพูดอย่างอารมณ์เสียว่า : “อะไรเนี่ย เค็มขนาดนี้ ทำไมคุณถึงบอกว่าอร่อย ?”
เฉินตงหัวเราะแล้วหันมองกู้ชิงหยิ่งด้วยแววตาที่อบอุ่น : “อาหารที่ภรรยาของผมทำ ผมต้องรู้สึกว่าอร่อยเป็นธรรมดา”
ตอนที่เขาใช้ชีวิตคู่ร่วมกับหวางหนันหนัน อาหารทั้งสามมื้อในทุกๆ วัน เขาจะเป็นคนทำให้หวางหนันหนันกิน ต่อให้เขาจะเหนื่อยขาดไหน ก็ต้องทำเช่นนี้
แต่ทว่า ตอนนี้ กู้ชิงหยิ่งซึ่งเป็นซึ่งเป็นถึงลูกสาวของผู้รากมากดี แต่กลับไม่สนใจอดีตของเขา มิหนำซ้ำยังเต็มใจที่จะสวมผ้ากันเปื้อนเข้าครัวเพื่อทำอาหารให้เขากิน
อย่าว่าแต่เค็มเลย ต่อให้เขาต้องกินเกลือเปล่าๆ ขาก็ยังรู้สึกว่าอร่อยอยู่ดี
“เฮ้อ……ช่างเถอะช่างเถอะ พวกเราออกไปทานข้างนอกกันเถอะค่ะ ครั้งนี้ไม่อร่อย ครั้งหน้าจะต้องอร่อยแน่นอน” รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชิงหยิ่งจางหายไปทันที แล้วโบกมือด้วยความเสียใจ
“ไม่ต้องหรอก ก็อร่อยดีนี่ กินที่บ้านนี่แหละ” เฉินตงห้ามกู้ชิงหยิ่งเอาไว้ จากนั้นจึงยกถ้วยข้าวและตะเกียบขึ้นมา แล้วรีบกลืนอย่างรวดเร็ว
กู้ชิงหยิ่งนั่งมองภาพที่เห็นตรงหน้าแล้วนิ่งไป ความเสียใจที่เกิดขึ้นตรงหน้า ค่อยๆ แปลเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาแทน
กู้ชิงหยิ่งรู้สึกโล่งใจ เธอหยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วพูดอย่างจริงจังว่า : “คุณต้องการที่จะกินเองนะ ต้องกินให้เกลี้ยงด้วยล่ะ”
“ไม่มีปัญหา ! ขอแค่คุณไม่กลัวว่าผมจะดื่มน้ำบ้านคุณจนหมดก็พอแล้ว” เฉินตงกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แล้วพูดพึมพำออกมา
อาหารที่ไม่ได้ถือว่าเลิศรสสักเท่าไหร่ แต่ทั้งสองกลับกินด้วยกันอย่างมีความสุขและมีแต่รอยยิ้ม
หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ก็ช่วยกันล้างจาน
ถึงแม้เฉินตงจะนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟา แต่ความคิดของเขากลับลอยออกไปไกลตั้งนานแล้ว
รอมานานขนาดนี้แล้ว…… พอกินดีอยู่ดี ก็มีความปรารถนาทางเพศ ในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว !
เมื่อนึกถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ใจของเขาก็เต้นเร็วจนควบคุมไม่อยู่
ส่วนกู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ มือทั้งสองก็พันกันเป็นระวิง เอาแต่แอบชำเลืองมองเฉินตงอยู่ตลอดเวลา บนใบหน้าที่งดงามเริ่มมีสีแดงจางๆ ปรากฏขึ้น
ภายใต้แสงส่องสว่างของโคมไฟ ไม่ว่าจะมีรายการอะไรฉายอยู่ในโทศทัศน์ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป
อันที่จริงแล้ว ความคิดของทั้งสองไม่ได้จดจ่ออยู่ที่โทรทัศน์อีกต่อไป
บรรยากาศเป็นใจ
แต่ก็เงียบจนน่าประหลาดใจ
ในที่สุด
เฉินตงก็รวบรวมความกล้าทำลายความเงียบลง : “เสี่ยวหยิ่ง……อยากดูของล้ำค่าชิ้นใหญ่ไหม ?”
“หา ? !” กู้ชิงหยิ่งตัวสั่นและอุทานออกมา
เธอพูดออกมาด้วยความโกรธและตื่นตระหนก : “คุณ คุณพูดอะไรของคุณเนี่ย ?”
ยังทำเป็นไม่เข้าใจอีก ?
เฉินตงผงะไปชั่วครู่ แต่ก็ตั้งสติได้ทันที ผู้หญิงนี่นา ต้องรู้สึกอายเป็นธรรมดา
ทันใดนั้น ร่างกายของเข้าก็พุ่งเข้าหากู้ชิงหยิ่งทันที กู้ชิงหยิ่งตกใจจนกรีดร้องออกมา เดิมทีคิดจะหลบ แต่กลับถูกมือทั้งสองข้างของเฉินตงโอบกอดเอาไว้
ทันใดนั้นเอง ตาทั้งสองคู่ประสานกัน
เฉินตงถึงขั้นสัมผัสได้ถึงความสั่นเทาของคนที่อยู่ในอ้อมกอด
ใบหน้าของกู้ชิงหยิ่งแดงก่ำ ทำให้ใบหน้าอันงดงามของเธอยิ่งดูมีเสน่ห์
“ฉัน ฉัน……”
กู้ชิงหยิ่งรู้สึกใจเต้นจนแทบจะหลุดออกมาจากอก รู้สึกเขินอายจนค่อยๆ ก้มหน้าก้มตาลงและพูดไม่ออก
แต่ทว่า
เฉินตงใช้นิ้วชี้ด้านซ้ายของเขาช้อนคางของกู้ชิงหยิ่งขึ้นมา จากนั้นจึงค่อยๆ ยกหัวของเธอให้เงยขึ้น
แววตาของเขาอบอุ่น ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่นุ่มนวล จ้องมองกู้ชิงหยิ่งนิ่ง
จากนั้น จึงค่อยๆ เขยิบตัวเข้าไปใกล้
ร่างกายบอบบางของกู้ชิงหยิ่งยิ่งสั่นเทามากขึ้น แววตามีฉาบไปด้วยความรู้สึกตื่นตระหนก
เวลานี้ เธอรู้สึกเหมือนสมองว่างเปล่า ทั้งตัวรุ่มร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผา
เธอรู้สึกได้ถึงกลิ่นกายของเฉินตงที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ถึงขั้นที่ว่า เธอสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่หอบสดชื่นและอบอุ่นที่ลอยออกมาจากปากของเฉินตง
ทันใดนั้นเอง
ขณะที่ริมฝีปากกำลังเลื่อนเข้ามาใกล้เพื่อที่จะบรรจงจูบ
“เฉินตง !”
กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นมาขวางเฉินตงทันที ไม่ใช้เขาเข้ามาใกล้ได้อีกแม้เพียงก้าวเดียว
ภาพตรงหน้าที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เฉินตงผงไป
“เป็นอะไรไป ?”
“ฉัน ฉัน ฉันยังไม่พร้อมค่ะ” กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายและตื่นตระหนก มือทั้งสองข้างออกแรงกดอยู่บนไหล่ของเฉินตง
ทันใดนั้น เฉินตงก็เกิดความสงสัยขึ้นมา หรือว่านี่จะเป็นการเข้าใจผิด ?
เขาเอ่ยปากถามว่า : “ไม่ใช่ว่าคุณเรียบผมมาทานอาหารเย็นหรอกหรือ ?”
“ก็ทานอาหารไงคะ” กู้ชิงหยิ่งตอบ
หา !
มุมปากของเฉินตงกระตุก คงจะเข้าใจผิดแล้วจริงๆ !
ร่างกายอันบอบบางของกู้ชิงหยิ่งสั่นเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “ฉัน ฉันจะดูว่าคุณเตรียมตัวจะกลับบ้านเมื่อไหร่”
เฉินตง : “……”