Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 44 ข่มขู่

บทที่ 44 ข่มขู่

เลื่อนตำแหน่งแล้วเหรอ?

ดวงตากู้ชิงหยิ่งแวววาว จากนั้นบ่นขึ้นมาเล็กน้อย

เฉินตงนี่นะเลื่อนตำแหน่งก็ไม่บอกสักคำ

พยักหน้า กู้ชิงหยิ่งเอ่ยว่า“ถ้าขอพบประธานเฉินค่ะ”

ตอนที่เธอดูข้อมูลของไท่ติ่ง รู้ว่าไท่ติ่งเป็นเพียงหนึ่งในบริษัทเล็กๆของเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังเท่านั้น

เฉินตงเลื่อนตำแหน่งมาเป็นประธานไท่ติ่ง แต่ก็ยังคงต้องเชื่อคำสั่งจากเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังอยู่ดี ฉะนั้นเธอต้องช่วยเฉินตงอธิบาย

“ขออภัยค่ะคุณผู้หญิง ประธานเฉินของพวกเราไม่อยู่ในบริษัทค่ะ”พนักงานเคาน์เตอร์เอ่ยด้วยความขอโทษ

หัวใจกู้ชิงหยิ่งเต้นตึกรัก หรือว่าจะถูกเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังเรียกตัวไปพบ?

โครงการแปลงโฉมย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองถือเป็นการออกไข่ทองเชียวนะ ตอนนี้ไท่ติ่งถูกบริษัทค้าขายวัสดุก่อสร้างต่อต้านเช่นนี้ เฉินตงผู้เป็นประธานของบริษัทจึงยากที่จะบอกปัดความรับผิดชอบได้

นึกมาถึงตรงนี้ ใบหน้ากู้ชิงหยิ่งก็ซีดขาวขึ้นมาทันควัน

เธออยากจะช่วยเฉินตง แต่คาดไม่ถึงว่าเพิ่งกลับเข้าประเทศมา ผลงานเรื่องแรกจะเป็นเช่นนี้

หากไม่ใช่เป็นเพราะจางเห้อหมิงแอบตัดสินแทนลับหลังเช่นนี้ เรื่องนี้ก็คงไม่ย่ำแย่ถึงเพียงนี้!

ติ๊ง!

ลิฟต์ด้านหลังดังขึ้น

เฉินตงเดินเข้ามาเห็นว่ากู้ชิงหยิ่งอยู่ที่นี่ จึงรู้สึกประหลาดใจ“เสี่ยวหยิ่ง ทำไมถึงมาที่บริษัทล่ะ?”

เวลาเดียวกันเขามองพนักงานเคาน์เตอร์ด้วยความเบื่อหน่าย ตอนนี้กู้ชิงหยิ่งน่าจะรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของไท่ติ่งแล้วสินะ

เดิมทียังคิดว่าให้ผ่านไปสักพักหนึ่งก่อน แล้วจะเซอร์ไพรส์ให้เธอ ตอนนี้เห็นทีปิดเธอไม่ได้อีกแล้ว

กู้ชิงหยิ่งเงยหน้ามองเฉินตง รีบเข้าไปต้อนรับ พลางพูดด้วยความเป็นห่วงว่า“ฉัน ฉันกำลังจะมาอธิบายกับคุณ บริษัทพวกคุณถูกผู้ค้าวัสดุก่อสร้างต่อต้านแล้วใช่ไหม?”

“คุณรู้ได้ยังไง?”เฉินตงรู้สึกประหลาดใจ

“ฉันรู้อยู่แล้ว!”

นัยน์ตาคู่งามของกู้ชิงหยิ่งเปล่งประกายระยิบระยับ ดึงเฉินตงมาด้านข้างอย่างกังวลใจ พูดเสียงเบาว่า “คุณถูกเจ้านายเรียกตัวไปด่ามาใช่ไหม?”

เจ้านาย?

เฉินตงมองกู้ชิงหยิ่งอย่างประหลาดใจ เธอยังไม่รู้เหรอ?

เห็นเฉินตงหยุดชะงัก กู้ชิงหยิ่งร้อนใจเป็นที่สุด“คุณเลื่อนตำแหน่งจากรองประธานเป็นประธาน คือผู้ดูแลไท่ติ่ง เกิดเรื่องใหญ่กับโครงการก่อสร้างย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองเช่นนี้ เจ้านายไท่ติ่งคงต้องโมโหใส่คุณใช่ไหม”

ฮ่าๆๆ!

ทันใดนั้นเฉินตงก็หัวเราะออกมา

การตอบสนองของกู้ชิงหยิ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่รู้ว่าไท่ติ่งเป็นของใครเลย

ที่แท้เข้าใจผิดแล้ว

เมื่อครุ่นคิดจนละเอียด เฉินตงก็เข้าใจได้แล้ว

กู้ชิงหยิ่งรู้ชาติกำเนิดและฐานะของตนดี หากไม่เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมา เขาก็ไม่อาจเป็นเจ้าของไท่ติ่งได้เลย

ส่วนความคิดของกู้ชิงหยิ่งคือ การคาดเดาปกติเมื่อรู้สถานะของเขาก่อนหน้านี้

“คุณยังมีอารมณ์หัวเราะอีก?”กู้ชิงหยิ่งทำตาขาวใส่เฉินตง

“ไม่เป็นไร คลายปัญหาได้แล้ว”เฉินตงโบกมือ

ในเมื่อกู้ชิงหยิ่งยังไม่รู้ความจริง เขาจึงคิดจะปกปิดต่อไป รอให้ย้ายเข้าวิลล่าเขาเทียนซานก่อน แล้วค่อยบอกกู้ชิงหยิ่ง เพื่อเซอร์ไพรส์ให้เธอจะดีกว่า

“อะไรนะ?แก้ไขได้แล้ว?”

ใบหน้ากู้ชิงหยิ่งเผยความตกตะลึงขึ้นมา บริษัทค้าขายวัสดุก่อสร้างต่างร่วมมือกับทั้งเมือง เพื่อต่อต้านไท่ติ่ง เป็นไปได้ยังไงที่เฉินตงสามารถคลี่คลายปัญหาในเวลาอันสั้นนี้?

ถึงแม้ไปหาวัสดุมาจากที่อื่นก็ไม่ใช่จะจัดการได้ในเวลาครึ่งวันอย่างนี้นี่นา

หรือ……เขากลัวฉันจะเป็นห่วง จึงปลอบใจฉัน?

ทันใดนั้นกู้ชิงหยิ่งเข้าใจเสียที ใบหน้าของเธอมองเฉินตงอย่างจริงจัง พูดอย่างตั้งใจกับเขาว่า “เฉินตง ฉันไม่อนุญาตให้คุณปิดบังฉันนะ คุณวางใจได้ ฉันจะหาวิธีช่วยเหลือคุณแน่นอน”

เฉินตงขำกับท่าทีตั้งอกตั้งใจของกู้ชิงหยิ่ง ยักไหล่ พลางเอ่ยว่า“จัดการได้แล้วจริงๆ ผมมีเบื้องบนคอยช่วยเหลือ”

ท่ามกลางความแปลกใจของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงพูดเสียงเบาว่า“คุณรู้จักโจวเย่นชิวไหม?”

กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้วมีอารมณ์ตกตะลึงปนสงสัยสลับกันไป

ไปต่างประเทศมาสามปี ทำให้เธอไม่รู้เรื่องของบ้านเมืองเลย และตอนที่ไปต่างประเทศก็เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ยังไม่มีประสบการณ์อะไร ดังนั้นเธอไม่รู้จักคนที่ชื่อโจวเย่นชิวเลย

“เฉินตง ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร คุณต้องบอกฉันนะ เรื่องนี้ฉันเป็นคนผิดต่อคน”

กู้ชิงหยิ่งทิ้งประโยคพิสดารไว้หนึ่งประโยค จากนั้นก็ก้มหน้าจากไป

ในเมื่อเฉินตงแก้ไขปัญหาได้แล้ว ถ้าเช่นนั้นเธอก็ควรกลับเข้าบริษัทหาวิธีจัดการจางเห้อหมิงจะดีกว่า

มองแผ่นหลังของกู้ชิงหยิ่ง เฉินตงก็นวดจมูกขึ้นมา“ทำไมยัยนี้ถือผิดต่อผมกันนะ?”

ส่ายหัว เฉินตงหันหลังเดินเข้าบริษัท

เห็นบรรดาพนักงานส่งแววตาตั้งความหวังมา เฉินตงยิ้มหวาน“แก้ไขได้แล้ว”

เย้!

ดีใจกันยกใหญ่

พนักงานทุกคนต่างรู้สึกร่าเริงกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา

“พี่ตงเก่งมาก ฉันรู้ว่าพี่ตงแก้ไขปัญหาได้อยู่แล้ว”

“ติดตามพี่ตงแล้วรู้สึกปลอดภัยมาก ตอนนี้ไม่รู้สึกกระวนกระวายใจแล้ว”

“ไปทำงานกันเถอะ ทุกคนเริ่มทำงานกัน เร็วๆๆ พี่ตงเก่งอย่างนี้พวกเราจะอู้งานไม่ได้นะ”

……

เห็นห้องทำงานคึกคัก เฉินตงก็หัวเราะขึ้นมา เข้าไปห้องทำงานส่วนตัวแล้วเริ่มยุ่งงานต่อ

พอร์เชอ911เปล่งเสียงดั่งสัตว์ร้ายขับเข้ามายังลานจอดรถของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่

กู้ชิงหยิ่งกลับเข้าห้องทำงาน ไม่ได้รีบร้อนจัดการจางเห้อหมิงทันที

เรื่องนี้ทำให้เธอลำบากใจมาก

คุณพ่อเลือกจางเห้อหมิงให้มาเป็นประธานบริษัทวัสดุยิงลี่กับมือ ถึงแม้เธอมาบริหาร แต่จางเห้อหมิงก็มีบารมีมากในบริษัทอยู่ดี

เธอไม่ได้บอกสาเหตุที่กลับมาประเทศให้คุณพ่อคุณแม่ทราบ หากบีบคั้นจางเห้อหมิงมากเกินไป เรื่องก็จะแดงไปถึงทางคุณพ่อคุณแม่ ถ้าเช่นนั้นเธอก็ไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้อีกต่อไป

เธอไม่มั่นใจว่าตอนนี้เฉินตงจะเป็นที่ชื่นชอบคุณพ่อคุณแม่หรือเปล่า ถึงแม้ในใจของเธอเฉินตงนั้นดีเลิศมากแล้ว แต่เธอไม่อาจคาดเดาความคิดของคุณพ่อคุณแม่ได้เลย

ดังนั้นเธอจึงแอบกลับมาโดยอยากใช้ความสามารถของตน เพื่อให้เฉินตงยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ยอดเยี่ยมถึงขั้นทำให้คุณพ่อคุณแม่ยอมรับในตัวเขาได้

เป็นเพราะเหตุนี้ ทำให้เธอระแวงหน้าระแวงหลังไปหมด เข้าทำนองที่ว่า หยิกเนื้อก็กลัวเจ็บเล็ก ปวดหัวกับการหาวิธีจัดการจางเห้อหมิงเหลือเกิน

ลังเลได้สักพัก กู้ชิงหยิ่งเก็บความคิดนี้ลงไปชั่วครู่ จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์พิมพ์ชื่อโจวเย่นชิวค้นหาข้อมูล

หากเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองนี้จริงๆก็น่าจะค้นเจอข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้

หลังจากกู้ชิงหยิ่งเห็นข้อมูลของโจวเย่นชิวทางอินเทอร์เน็ตก็ต้องตกตะลึงตาค้าง

โจวเย่นชิวคือเจ้าของกิจการไท่ติ่งเหรอ?

เมื่อดูข้อมูลของโจวเย่นชิวอย่างละเอียดแล้ว เธอจึงกระจ่างขึ้นมา “มิน่าล่ะไอ้คนบ้างานยังมีสีหน้าเรียบเฉย ที่เจ้าของกิจการแซ่โจวผู้นี้มีอำนาจในเมืองนี้มาก หากคิดจะฟื้นฟูไท่ติ่งแค่เพียงเอ่ยปากสักหนึ่งประโยคก็ได้แล้ว?”

ปิดคอมพิวเตอร์เสร็จ ความกังวลใจของกู้ชิงหยิ่งก็มลายหายไป

เธอกรอกนัยน์ตา จู่ๆก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เปิดเว็บไซต์ของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ขึ้นมา

……

หลังเลิกงานตอนกลางคืน เฉินตงไปเยี่ยมเยียนคุณแม่ที่โรงพยาบาล

เมื่อเขาเดินออกมาที่ประตูโรงพยาบาลลี่จิงก็มีเงาร่างหนึ่งขวางทางเขาไว้

“ที่แท้ แม่ของคุณก็พักอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้นี่เอง?”

เสียงหัวเราะเย็นเชิงตลกดุจเข็มทิ่มหู

สีหน้าเฉินตงเย็นยะเยือกกะทันหัน อารมณ์ขุ่นเคือง

“เฉินเทียนหย่าง หมายความว่ายังไง?”

มองรอยยิ้มชั่วร้ายของเฉินเทียนหย่าง เฉินตงรู้สึกจุกอยู่บริเวณลำคอ เวลาเดียวกันก็รู้สึกกระวนกระวายใจ

ตอนเจอหน้าเฉินเทียนหย่างครั้งก่อน หากคุนหลุนไม่มา คาดว่าเฉินเทียนหย่างคงคิดจะฆ่าฟันเป็นแน่

สำหรับความคิดอย่างเฉินเทียนหย่าง ชีวิตคนก็ไม่ต่างไปจากมดเลย

“คิกคิก……”

เฉินเทียนหย่างหัวเราะเสียงเย็น“แม่นายไม่ใช่ควรจะตายแล้วเหรอ?”

ประโยคเดียวราวกับคมมีดเสียบอยู่กลางหัวใจของเฉินตงแรงๆ

คุณแม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ส่วนเขาได้ฟังคำพูดของเฉินเทียนหย่างก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความข่มขู่ที่แฝงอยู่

วินาทีต่อมา

เฉินตงเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อของเฉินเทียนหย่างไว้“มึงกล้าลงมือกับแม่กู แม่ง กูจะสู้กับมึงสุดชีวิตเลย!”

ปัง!

เฉินเทียนหย่างปัดมือของเฉินตงออก ยิ้มอย่างดูแคลน“นายมีคุณสมบัติมาสู้กับกูด้วยเหรอ?แม่ง สะสางเรื่องวัสดุก่อสร้างของไท่ติ่งให้ได้ก่อนเถอะ”

“ไอ้ลูกสวะอย่างมึง กูออกเงินนิดหน่อยก็ทำให้มึงไม่ได้ไปผุดไปเกิดชั่วนิรันดร์แล้ว”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset