Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 45 ความอัปยศอดสู

บทที่ 45 ความอัปยศอดสู

เฉินตงกลับมาถึงห้องเช่าอย่างหดหู่ใจ

สิ่งที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลลี่จิงทำให้เขากระสับกระส่ายยากจะวางใจ

การปรากฏตัวของเฉินเทียนหย่างไม่ใช่บังเอิญอย่างเด็ดขาด

สิ่งที่เขาวิตกกังวลก่อนหน้านี้ คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้

แต่เขาไม่อนุญาตให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นเด็ดขาด

“คุณชายเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”คุนหลุนถามเฉินตงด้วยความสงสัย

เฉินตงมองดูเวลาก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า“คุนหลุนตอนนี้ออกไปช่วยผมฝึกฝนร่างกายหน่อย”

คุนหลุนขมวดคิ้ว“คุณชายครับ ดึกขนาดนี้แล้ว คุณก็ทำงานมาทั้งวันร่างกายคงรับไม่ไหวนะครับ?”

เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเฉินตงถึงเป็นเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่

“คุนหลุนที่นายเคยฝึกผมทุกวันยามเช้า ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จะชนะเฉินเทียนหย่าง?”เฉินตงถาม

คุนหลุนครุ่นคิดชั่วครู่“อย่างน้อยหนึ่งปี”

ตอนนี้เขาจัดตารางฝึกซ้อมให้เฉินตงฝึกทุกเช้า ซึ่งถือว่าถึงขีดสุดของร่างกายในการฝึกฝนแล้ว

แต่เฉินเทียนหย่างผ่านการฝึกฝนอย่างเคร่งครัดจากบ้านตระกูลเฉินมาก่อน สามารถทำให้เฉินตงสู้กับเฉินเทียนหย่างได้ภายในหนึ่งปี

มันเป็นเวลาที่เขาคาดการณ์เร็วที่สุดแล้ว

“แล้วถ้าผมอยากให้ภายในเวลาหนึ่งเดือน สามารถสู้กับเฉินเทียนหย่างได้อย่างไม่เป็นรองเขาล่ะ?”น้ำเสียงของเฉินตงแน่วแน่มากๆ

“คุณชาย……”คุนหลุนเข้าใจว่าทำไมเฉินตงถึงเป็นแบบนี้แล้ว

ความดุดันทะลักออกมาจากนัยน์ตาของเฉินตง“ภายในหนึ่งเดือนนะ ผมไม่สนว่าคุณจะฝึกผมยังไง ถึงแม้จะเพิ่มการฝึกเป็นสิบเท่าร้อยเท่า แต่หลังจากหนึ่งเดือนผมก็ต้องอัดเฉินเทียนหย่างให้คลานลงกับพื้น!”

น้ำเสียงหนักหน่วง ชวนให้คุนหลุนรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา

……

วันรุ่งขึ้น

บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ก็เกิดเสียงโต้เถียงอย่างอึกทึกขึ้นในยามเช้า

ด้านในห้องทำงานส่วนตัวของประธาน

จางเห้อหมิงโกรธจนหน้าแดงก่ำ ชี้ไปยังคอมพิวเตอร์ที่กำลังปรากฏเว็บไซต์ของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่อย่างโมโห “ประธานกู้ คุณบ้าแล้วเหรอ?แอบเปลี่ยนประกาศต่อต้านไท่ติ่งมาเป็นการสนับสนุนแทน คุณรู้ไหมว่าจะมีผลกระทบที่รุนแรงขนาดไหน?”

“รู้”กู้ชิงหยิ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเฉยเมย

“แล้วเปลี่ยนทำไมอีก?คุณอยากให้ผมรายงานเรื่องนี้ให้เจ้านายใหญ่ทราบเหรอ?”จางเห้อหมิงขู่ขึ้นมา

ทันใดนั้นหน้าสวยของกู้ชิงหยิ่งเคลือบความเย็นยะเยือกขึ้นมา เธอจ้องเขม็งจางเห้อหมิง “รายงานได้ นอกเสียจากคุณอยากเก็บกระเป๋าออกจากงาน!”

“คิก……”จางเห้อหมิงโกรธจนหัวเราะออกมา

แต่คำพูดประโยคหลังของกู้ชิงหยิ่งทำให้เขายิ้มแข็งค้าง

กู้ชิงหยิ่งค่อยๆพูดอย่างสงบนิ่งว่า“นอกเสียจากอยากให้คุณพ่อฉันรู้ว่าคุณแอบเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง!”

“คุณพูดซี้ซั้ว ผมอุทิศตนทำงานเพื่อยิงลี่ ประธานกู้ถึงคุณจะเป็นคุณหนูใหญ่ก็ไม่ควรใส่ร้ายกันอย่างนี้นะครับ”จางเห้อหมิงรู้สึกว้าวุ่นอยู่ไม่เป็นสุขขึ้นมาเล็กน้อย

กู้ชิงหยิ่งยิ่งสงบเงียบ หน้าสวยประดับรอยยิ้มขึ้นมา“ไม่ใช่สิ ไม่น่าจะเป็นแค่เก็บกระเป๋าออกจากบริษัทนะ น่าจะต้องเข้าคุกด้วย?”

จางเห้อหมิงหน้าแดงไม่อาจพูดอะไรได้

จากนั้น

กู้ชิงหยิ่งค่อยๆลุกขึ้นยืน สองมือวางไว้ที่โต๊ะ พูดด้วยท่าทางดุร้าย“เรื่องพวกนี้ของคุณ หากตรวจสอบขึ้นมาก็มีโทษทางกฎหมายนะ

คิดว่าฉันเป็นทายาทหน้าโง่อย่างนั้นเหรอ?”

“ฉันไม่เพียงแต่เปลี่ยนประกาศเท่านั้น ตอนนี้ฉันยังแจ้งบอกคุณให้ไปร่างสัญญาของไท่ติ่งใหม่แล้วดำเนินการตามเงื่อนไข!”

“ฟังให้ดี นี่คือการแจ้งบอก ไม่ใช่เจรจา!”

บรรยากาศกดดัน ไม่อาจโต้แย้งได้

ถึงจะเป็นจางเห้อหมิง ตอนนี้ราศีก็ถดถอยเป็นอย่างมาก

ลังเลได้สักพัก จางเห้อหมิงก้มหน้าพูดเสียงเบาว่า“ได้ครับ”

พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไป

กู้ชิงหยิ่งกลับไปนั่งที่เก้าอี้ ยิ้มอย่างลำพองใจ“มีฉันกับโจวเย่นชิวช่วยเหลือ คนบ้างานในไท่ติ่งก็คลายกังวลได้แล้ว คนบ้างานอยากจะเซอร์ไพรส์ฉัน หากถึงวันนั้นเขารู้ว่าฉันเป็นประธานบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่จะรู้สึกเซอร์ไพรส์บ้างไหมนะ?”

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

งานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่งดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนอย่างราบรื่น

ทำให้เฉินตงคาดไม่ถึงว่า จากเดิมบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่กลับคำ ตอนนี้รับปากจะขายให้กับไท่ติ่งใหม่อีกครั้งอย่างน่าประหลาดใจ อีกทั้งยังเซ็นสัญญาใหม่อีกครั้งด้วย

สำหรับเรื่องนี้ เฉินตงรู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร

วงการธุรกิจไม่มีศัตรูที่แน่นอน มีแต่ผลกำไรที่ยั่งยืน

ในเมื่อยิงลี่ให้การสนับสนุน เขาก็ต้องตอบรับด้วยความยินดีอยู่แล้ว

แน่นอนมีบทเรียนจากครั้งก่อน เขาไม่ได้ละทิ้งบริษัทวัสดุก่อสร้างที่โจวเย่นชิวช่วยหาให้

ถึงแม้หนึ่งในสามบริษัทที่เขาเลือกออกมายังคงเสนอราคาสูงกว่าท้องตลาดก็ตาม

แต่มีสองบริษัทคอยขายวัสดุก่อสร้างให้โอกาสเลี่ยงก็น้อยลงไปมาก

และที่สำคัญ ด้วยผลกำไรจากโครงการแปลงโฉมย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เขาไม่ใส่ใจกับราคาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นบางส่วนเลย

จากที่มีวัสดุก่อสร้างส่งเข้ามา จึงได้ดำเนินโครงการต่อไป

เรื่องนี้ทำให้เกิดคลื่นเล็กๆขึ้นในเมือง

บริษัทวัสดุก่อสร้างที่ร่วมมือกันต่อต้านไท่ติ่งต่างจ๋อยไปตามๆกัน

ผู้ที่สะทกสะท้านจนคลั่งที่สุดก็คือเฉินเทียนหย่างนั่นเอง

ปัง!

ภายในห้องวีไอพีที่โรงแรมไท่ซาน เฉินเทียนหย่างชกแจกันดอกไม้จนแตก

โทรทัศน์กำลังเสนอข่าวภาคค่ำในเนื้อหาโครงการแปลงโฉมที่เมืองตะวันตกอยู่

“สมควรตาย!สมควรตายจริงๆ!”

ดวงตาขุ่นเคืองใจของเฉินเทียนหย่างเบิกกว้าง มือซ้ายถูกเศษแจกันบาดจนเป็นแผล เลือดสดไหลรินลงมา แต่เขากลับไม่ใส่ใจเลย “เฉินตง ไอ้ลูกสวะ มึงถึงกับได้รับการช่วยเหลือจากโจวเย่นชิวเลยเหรอ ไอ้เฮียโจวเย่นชิว หากไม่เห็นแต่หน้าตระกูลเฉินของพวกกู

เขาคงไม่ช่วยไอ้สวะนี้แน่ๆ!”

เขาคาดไม่ถึงเลยว่ายังมีโจวเย่นชิวอยู่อีกคน

เดิมทีคิดว่าออกเงินเล็กน้อยก็จะทำให้เฉินตงฉิบหายอย่างง่ายดาย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเฉินตงจะมาไม้นี้

ตั้งแต่เล็กจนโต เฉินเทียนหย่างได้รับการศึกษาระดับพรีเมี่ยม

ตอนนี้กลับถูกคนที่เขาคิดว่าเป็น“ลูกสวะ”อย่างเฉินตงเอาชนะไปได้ สำหรับเขาแล้วเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งอัปยศอดสูอย่างยิ่ง!

ความอัปยศอดสู!

และในเวลาที่เฉินเทียนหย่างกำลังบันดาลโทสะอยู่นั้น

คุนหลุนได้พาเฉินตงมายังโรงยิมมวยใต้ดินของเมืองนี้

ภายในสนามมืดครึ้ม กลางเวทีแข่งขันมีไฟเปิดให้สว่างไสวและยังเต็มไปด้วยเสียงตะโกนเชียร์ที่หนวกหูมากมาย

ภาพพวกนี้ทำให้เฉินตงช็อกมาก

และกลางเวทีแข่งขันมีกรงเหล็กอยู่ ด้านในมีการสู้อย่างโหดเหี้ยมแบบเอาเป็นเอาตายกันอยู่

“คุนหลุนนายหาที่แบบนี้ได้ยังไง?”เฉินตงมองคุนหลุนอย่างประหลาดใจ

พูดตามความจริงหากไม่ใช่เพราะคุนหลุนพามา

วิถีการใช้ชีวิตของเขาคงไม่มีทางมีที่แบบนี้ได้หรอก

ร่างกายคุนหลุนมั่นคงไม่กระดุกกระดิกราวกับเป็นหอคอยเหล็กที่ตั้งตระหง่านไว้ก็ไม่ปาน อยู่ในที่อันมืดครึ้มเช่นนี้ทำให้รู้สึกถูกกดขี่อย่างไม่รู้ตัว

เขายิ้มบางๆ“คุณชาย ถึงแม้ผมจะเดินอยู่ในที่มืดอย่างนี้ แต่คุนหลุนอย่างผมก็ไม่ได้ชื่นชอบหรอก”

“แล้วนายพาผมมาทำไม?”เฉินตงไม่เข้าใจจุดประสงค์

ปัง!

สิ้นเสียงการต่อสู้อย่างดุเดือดก็ได้จบลง

หนึ่งในนั้นถูกคู่ต่อสู้ชกจนลอยไปชนกับกรงเหล็ก ใบหน้าแนบติดกรงเหล็กแล้วค่อยๆทรุดตัวลงมาอยู่กับพื้น โดยไม่รู้ว่าเสียชีวิตหรือยัง

โครม!

ทั้งสนามเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง

เฉินตงมองจนตาแข็งทื่อ

ทันใดนั้น

คุนหลุนผลักเฉินตงจากด้านหลังหนึ่งครั้ง“คุณชาย คุณแข่งยกต่อไป!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset