Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 52 คนโง่! มาเยี่ยม

บทที่52 คนโง่! มาเยี่ยม

เฉินตงลืมตาขึ้นช้าๆ

กลิ่นฉุนของน้ำยาฆ่าเชื้อโชยเข้ามาในจมูก

เขารู้สึกมึนงงเล็กน้อย “ฉันยังไม่ตาย?”

คุนหลุนที่สีหน้าเคร่งเครียดอยู่ข้างๆพลันโล่งอกขึ้นมาทันทีและยิ้มพูดว่า “คุณชายครับ มีดสั้นแทงไม่โดนจุดสำคัญ ตอนนั้นท่านแค่สลบเพราะเสียเลือดมากเกินไป โชคดีจริงๆครับที่ช่วยได้ทันเวลา”

เฉินตงยิ้มออกมา มันเป็นเรื่องที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน

สถานการณ์ในตอนนั้น เขาแค่อยากปกป้องกู้ชิงหยิ่ง ต่อให้จะถูกเฉินเทียนหย่างแทงตายขึ้นมาจริงๆ เขาก็ไม่เสียใจ

ขอแค่ยื้อเวลารอให้คุนหลุนมาช่วยกู้ชิงหยิ่งได้ทันเวลา เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว

มีดแทงไม่โดนจุดสำคัญ ทั้งหมดเป็นเพราะโชคช่วยจริงๆ

เฉินตงมองดูรอบๆห้อง และจู่ๆ สีหน้าก็จริงจังขึ้นมา “นี่คือโรงพยาบาลอะไร?”

ถ้าให้แม่รู้ว่าเขาบาดเจ็บ แม่ต้องรับไม่ไหวแน่ๆ

“คุณชาย วางใจได้เลยครับ”

คุนหลุนรีบปลอบ “ตอนที่ท่านหลงจากไปได้กำชับไว้แล้ว เพราะฉะนั้น ผมเลยส่งท่านมาที่โรงพยาบาลอีกแห่งครับ”

เฉินตงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและเปิดปากพูด “ชิงหยิ่งเป็นยังไงบ้าง?”

ตอนนั้นก่อนที่เขาจะสลบไม่ได้สติ เขาเห็นคุนหลุนหักขาของเฉินเทียนหย่างด้วยตาของตัวเอง กู้ชิงหยิ่งก็คงปลอดภัยแล้วแน่นอน

แต่ถูกจางเห้อหมิงวางยา เหตุการณ์เป็นมายังไงเขาเองก็ไม่รู้

“เธอก็ไม่เป็นไรครับ” คุนหลุนพูด “ตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืนนี้ คุณกู้ดูแลท่านเองเลยนะครับ”

หนึ่งวันหนึ่งคืน?

เฉินตงยิ้มออกมา “ยัยนี่ ก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ยังจะมาดูแลข้างๆอีก เธอเคยต้องมาลำบากแบบนี้ที่ไหนกัน?”

ถึงเขาจะไม่รู้พื้นฐานครอบครัวของกู้ชิงหยิ่งมากนัก แต่ก็รู้ว่าฐานะครอบครัวของกู้ชิงหยิ่งร่ำรวยมาก ให้ความรู้สึกว่าเธอคือลูกคนรวยกับเขาตั้งแต่ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว

ให้คุณหนูมาดูแลข้างเตียงทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ สำหรับกู้ชิงหยิ่งแล้วถือว่าไม่ใช่ภาระที่เบาๆเลย

เพิ่งพูดจบได้ไม่นาน

แอ๊ด……

ประตูห้องคนไข้ถูกผลักออก

กู้ชิงหยิ่งถือกระติกอาหารสูญญากาศเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

การดูแลตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืน ทำให้ร่างกายของเธอเหนื่อยล้ามาก แต่จากการคาดเดาของคุณหมอ เฉินตงก็คงใกล้ฟื้นแล้ว

เพราะฉะนั้น เธอจึงไม่สนใจกับความเหนื่อยล้า ออกจากห้องคนไข้กลับบ้านไปต้มซุปให้เฉินตง

เฉินตงบาดเจ็บหนักขนาดนี้ พอฟื้นแล้วก็ต้องบำรุงให้ดีๆ

พอสายตาของกู้ชิงหยิ่งกวาดมองไปบนเตียงคนไข้อย่างเหนื่อยล้า ร่างเล็กของเธอพลันสั่นไหวขึ้นมาชั่วขณะ

วินาทีต่อมา

ตาของเธอแดงขึ้นมาอย่างฉับพลัน รีบวิ่งไปที่เตียงอย่างดีใจสุดขีด แล้วกระโดดเข้าใส่อ้อมอกของเฉินตง “เฉินตง ในที่สุดนายก็ฟื้นแล้ว!”

“ซี๊ด……”

เฉินตงสีหน้าเปลี่ยนทันที ถูกกู้ชิงหยิ่งกดทับจนเจ็บแผลอย่างหนัก จึงรีบพูด “เสี่ยวหยิ่ง เจ็บ เจ็บครับ……”

กู้ชิงหยิ่งตกใจ รีบลุกขึ้นจับหน้าอกของเขาอย่างตื่นตระหนก “ขอ ขอโทษนะ ฉันตื่นเต้นเกินไปน่ะ ไม่คิดว่าจะโดนแผลของนาย”

“ไม่เป็นไรหรอก”

เฉินตงอดกลั้นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงนี้และฝืนยิ้มออกมา

มองกู้ชิงหยิ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เฉินตงจึงลูบหัวเธออย่างเห็นใจ “เธอโง่หรือเปล่า? ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ทำไมถึงยังทำให้ตัวเองเหนื่อยขนาดนี้อีก?”

“อะไรคือไม่เป็นอะไรแล้ว?”

ดวงตาสวยของกู้ชิงหยิ่งจ้องเขม็ง แต่ดวงตากลับน้ำตาคลอเบ้า “นายเพื่อที่จะช่วยฉันเลยบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ต่อให้ฉันต้องเหนื่อยแค่ไหนมันก็คุ้มค่า นายต่างหากที่โง่ โง่ที่สุดเลย!”

พูดจบ เธอก็ฟุบลงที่แขนของเฉินตง และร้องไห้ออกมาเสียงดัง

สถานการณ์เปลี่ยนไปกะทันหันแบบนี้ ทำให้เฉินตงตั้งรับไม่ทันกันเลยทีเดียว

มองดูกู้ชิงหยิ่งที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของเขา เขาก็ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา

คุนหลุนสีหน้าขรึมลง กระแอมออกมาหนึ่งทีแล้ว เดินออกห้องคนไข้โดยที่ไม่เหลียวหลังมองกลับ

“คนโง่ นายมันโง่ชัดๆ ใครขอให้นายมาช่วยกัน? นายรู้หรือเปล่าว่า มีดแทงเข้าไปในเนื้อมันเจ็บมากเลยนะ นายยังเลือดไหลออกมาเยอะด้วย นายมันคนโง่ชัดๆ”

กู้ชิงหยิ่งร้องไห้ไปพูดไป

เฉินตงหัวเราะ “เพราะว่าเธอคือแฟนของฉันไงล่ะ”

“แต่นายก็ยังเป็นคนโง่อยู่ดี” กู้ชิงหยิ่งพูดตำหนิ

เฉินตงอมยิ้มไม่พูดอะไรออกมา เพียงแต่ยกมือขึ้นตบหลังของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ

เขารู้ว่ากู้ชิงหยิ่งต้องตกใจมากแน่ๆ และก็สงสารเขามากด้วย ตอนนี้ร้องไห้ระบายออกมาก็ดีกับกู้ชิงหยิ่งเหมือนกัน

ไม่นาน เสียงร้องไห้ของกู้ชิงหยิ่งก็ค่อยๆเบาลง

ไม่หลับไม่นอนหนึ่งวันหนึ่งคืน ทำให้เธอเหนื่อยล้าถึงขีดสุด

บวกกับหลังจากร้องไห้ออกเมื่อกี้ จึงรู้สึกง่วงขึ้นมา

มองกู้ชิงหยิ่งที่กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมอกของเขา เฉินตงจึงตบหลังของเธอเบาๆอย่างเอ็นดูและพูดกระซิบเสียงเบาว่า “ยัยซื่อบื้อ เธอกล้าเอาทั้งชีวิตของตัวเองมาเดิมพันแล้ว แล้วฉันจะยอมให้เธอแพ้ได้ยังไง? ปกป้องเธอ คือสิ่งที่ฉันควรทำ”

……

หน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร หลินเสว่เอ๋อสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เธอยังไงก็คิดไม่ถึงว่า เมื่อคืนแต่งตัวอย่างดี รีบไปที่ “ท่าเรือตู้หยู” อย่างดีอกดีใจ แต่นอกจากจะไม่ได้เจอเฉินตงแล้ว กลับได้เจอหวางหนันหนันแทนซะงั้น

ฉากที่ทั้งสองเจอกันโดยบังเอิญ ตอนนี้คิดแล้วก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่เลย

ตั้งแต่ที่งานหมั้นล้มเหลว เธอก็ไม่ไปเจอหวางเห้าอีกเลยและยิ่งไม่ไปติดต่อกับคนตระกูลหวางด้วย

ยังไงซะเหตุการณ์ตอนนั้น ในสายตาของคนนอกก็คือความผิดของคนตระกูลหวางทั้งหมด

ส่วนที่เธอไม่ติดต่อไป ก็ทำให้เธอยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นอย่างที่คิดไว้

แต่สำหรับหวางหนันหนันแล้ว เธอยังไงก็รู้สึกผิดต่อเธออยู่ดี

ส่วนสายตาของหวางหนันหนันที่มองเธอ ก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นอย่างที่คิด

แต่เพราะว่าหวางเห้า พวกเธอจึงไม่ได้แตกหักกันอย่างสิ้นเชิง ยังนั่งฝืนหาเรื่องคุยกันอย่างราบรื่นได้ชั่วขณะ

หลังจากที่รอเฉินตงอยู่นานแต่เขาก็ไม่มา วีแชทก็ไม่ตอบกลับ โทรไปก็ไม่รับสาย หลินเสว่เอ๋อถึงลุกขึ้นเดินจากไป

“แกล้งฉันเล่นเหรอ?”

หลินเสว่เอ๋อเกาหัวอย่างหงุดหงิด ที่เธอเจอหวางหนันหนันที่ “ท่าเรือตู้หยู” ได้ พอคิดดูดีๆแล้ว ก็มีแต่เฉินตงเท่านั้นที่ควบคุมเรื่องทุกอย่างนี้ได้

ฟันขาวกัดริมฝีปากสีแดงแน่น หลินเสว่เอ๋อรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

เธอเคยคิดให้หวางเห้าเป็นตัวสำรอง แต่เธอก็ปล่อยเฉินตงไปไม่ได้จริงๆ

โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รับเงินห้าล้านจากเฉินตงมาแล้ว ความคิดที่ไม่อยากปล่อยไปก็ทวีมากขึ้น

แต่เฉินตงไม่สนใจเธอเลย นี่ทำให้เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย

หวางเห้าผู้ชายโง่คนนี้ ยังไงก็ต้องกำให้อยู่หมัดอยู่แล้ว!

หลังจากที่ตัดสินใจได้ หลินเสว่เอ๋อก็มองดูล็อบบี้ที่มีคนไม่มากนัก จึงลุกขึ้นไปขอลางานกับผู้จัดการ

ออกจากธนาคาร เธอก็ไปซื้อผลไม้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่แถวนี้ทันที วางแผนว่าจะไปเยี่ยมจางซิ่วจือ

พอใกล้จะไปจ่ายตังค์ เธอก็พลันนึกขึ้นได้ว่าแม่ของเฉินตงก็อยู่ที่โรงพยาบาลลี่จิงเหมือนกัน

ลังเลอยู่สักพัก หลินเสว่เอ๋อก็กลับไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอีกครั้ง ซื้ออาหารเสริมมาชุดใหญ่ ไปจ่ายตังค์เสร็จก็ไปโรงพยาบาลต่อ

พอถึงโรงพยาบาลลี่จิงแล้ว หลินเสว่เอ๋อไปฝากอาหารเสริมที่เคาน์เตอร์พยาบาลก่อน หลังจากนั้นค่อยหิ้วถุงผลไม้ไปห้องคนไข้ของจางซิ่วจือ

การมาของหลินเสว่เอ๋อทำให้จางซิ่วจือ หวางเต๋อและหวางเห้าดีใจกันเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะหวางเห้า ยิ่งไปล้อมตัวหลินเสว่เอ๋อ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ

แต่ว่านี่กลับทำให้หลินเสว่เอ๋อรู้สึกว่าหวางเห้าเป็นคนไร้ประโยชน์ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแสดงถึงความรังเกียจออกมา

เวลาเยี่ยมนั้นสั้นมาก อยู่แค่ไม่กี่นาทีหลินเสว่เอ๋อก็ขอลากลับแล้ว

หวางเต๋อและจางซิ่วจือรีบให้หวางเห้าเดินไปส่ง หวางเห้าก็รีบตามไปอย่างกระตือรือร้น

หลินเสว่เอ๋อคิ้วขมวดเล็กน้อย “หวางเห้า นายไปดูแลคุณน้าเถอะ ฉันยังมีเรื่องอื่นต้องทำ”

หลังจากที่เดินออกจากห้องคนไข้ หลินเสว่เอ๋อก็หายใจเข้าลึกๆ สีหน้าแต่เดิมที่ฉายแววเย็นชาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที

เธอรีบเดินไปที่เคาน์เตอร์พยาบาล เอาอาหารเสริมที่ฝากไว้หิ้วกลับมา แล้วรีบเดินไปที่ห้องคนไข้ของหลี่หลาน

และในตอนที่เธอเดินเข้าห้องคนไข้นั่นเอง

ทางเดินที่อยู่ไม่ไกลจากนี่ หวางเห้าที่หิ้วกระติกน้ำออกมาเติมน้ำร้อนให้จางซิ่วจือ ก็ยืนอึ้งอยู่กับที่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset